...พยายามหลีกเลี่ยงการวิวาทบนท้องถนนครับ มีคนเสียสติหลังพวงมาลัยแยะเหลือเกิน

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ คนเราเดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นอะไรกัน เร็ว ๆ นี้ ผมเองก็เจอมาเหมือนกันครับ 2 วันซ้อน ๆ กลางกรุงเลย
- บนทางด่วนขั้นที่ 1 มุ่งหน้าบางนา ผมเป็นคนขับรถไม่เร็วมาก เราก็วิ่งเลนซ้ายสุด ถือคติ "ซ้ายช้า..ขวาเร็ว" จู่ ๆ พวกพรวดมาข้างหลัง
จากใหนไม่รู้ มาถึงทั้งแตร ทั้งไฟสูง เราก็นึกในใจ รีบก็แซงไปสิพ่อคู๊ณ..พอพวกเปลี่ยนเข้าเลนกลางได้เท่านั้นแหละ ก็ปาดเข้าซะเกือบ
ซัดหน้ารถเรา แล้วก็มาวิ่งนำไกล้ ๆ ขวาง ๆ อยู่หน้าเราไม่ยักกะไปใหน ตกลงมันรีบจริงหรือปล่าววะเนี่ย..

- บนสะพานพระราม 9 ประมาณ 3 ทุ่มได้ ช่วงลงสะพาน ผมอยู่เลนกลาง ซ้ายขวาก็มีรถวิ่งกันพอควร จู่ๆ ก็มาอีกแระ ไฟสูงมาแต่ไกล
ผมเองก็ไม่ได้หลบ ก็เลนขวา มันก็พอจะว่างนี่นา พวกก็แซงไปแบบไม่ลดไฟเลย พอผ่านผมไปผมก็ไฟสูงตามไปมั่ง กะให้รู้สึกว่า
เราก็ไม่ได้เป็นทองไม่รู้ร้อนนะ ได้เรื่องครับ พวกจอดขวางกลางสะพานแขวนเลย ขวางหน้าเอาดื้อ ๆ ผมก็เบรคและก็ปล่อยไหลไปต่อเค้า
ทิ้งระยะห่างสัก 10 ม.ได้ เผื่อว่าถ้ามีอะไรจะได้หนีทัน เป็นรถยี่ห้อหรูๆ สีดำ ทะเบียนสวย ๆ จอดคุมเชิงกันแป๊บนึงพอคันหลังบีบแตรไล่
เค้าก็ออกรถไป สงสัยว่าคงมีอะไรดีๆ ในรถถึงกล้าบ้าบิ่นแบบนี้
เคยอ่านเจอเพื่อน ๆ เขียนไว้แถว ๆ นี้ ว่า " หนี..ดีกว่าสู้ สู้..ดีกว่าเจ็บ เจ็บ..ดีกว่าติดคุก ติดคุก..ดีกว่าตาย" ก็เลยได้คิดครับ ไม่รู้ว่าจะสมัครใจจอดรถลงไปวิวาทกันทำไม ยังมีอะไรๆ ในชีวิตที่ต้องทำอีกเยอะ อีกอย่าง...ผมก็ใจไม่ถึงขนาดพกปืนติดรถครับ ทั้งที่ก็ไม่เคยโดยตรวจค้น
และก็ไม่ค่อยได้ไปใหนครับ เลยหาเหตุเร่งด่วนขนาดนำพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะไม่ได้ซักที
