ถ้ากทม. จะต้องตั้งผู้จัดการมรดกถึงจะโอนได้ครับ

ทุกท้องที่ละครับ ต้องตั้งผู้จัดการมรดกเป็น ผู้ดำเนินการแทนเจ้าของปืนผู้ตาย เพื่อโอนให้แก่ทายาทหรือผู้รับโอนคนอื่นโดยความยินยอมของทายาททั้งปวง
ไม่จำเป็นต้องมีผู้จัดการมรดกครับ
กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือสั่งการที่ มท ๐๕๑๕ ลงวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๑๒ ให้นายทะเบียนถือปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๗) สรุปความว่า ทายาทหรือผู้จัดการมรดก สามารถที่จะโอนอาวุธปืนจากกองมรดก ไปให้กับบุคคลอื่นได้โดยไม่ต้องออกใบอนุญาตเป็นของตนก่อน
นอกจากนั้น พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา ๖๔ วรรคสาม ก็ยังใช้ถ้อยคำว่า "ผู้จัดการมรดกหรือทายาทในกรณีที่ไม่มีผู้จัดการมรดก"
มาตรา ๖๔ ถ้าผู้ได้รับใบอนุญาตตาย ให้ผู้ซึ่งมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด หรือใบอนุญาตของผู้ตายตกอยู่ในความครอบครองแจ้งการตายต่อนายทะเบียนท้องที่ซึ่งตนอยู่ หรือนายทะเบียนท้องที่ที่ออกใบอนุญาต หรือนายทะเบียนท้องที่ที่ผู้รับใบอนุญาตตายภายในกำหนดสามสิบวัน นับแต่วันที่ทราบการตายของผู้รับใบอนุญาต
นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้เก็บรักษาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดของผู้รับใบอนุญาตที่ตายไว้อย่างไร และ ณ ที่ใดก็ได้ตามควรแก่กรณี และถ้ามีข้อโต้เถียงถึงเรื่องสิทธิของทายาท ก็ให้เก็บรักษาไว้จนกว่าข้อโต้เถียงนั้นถึงที่สุด
ภายในกำหนดหกเดือนนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย หรือถ้ามีข้อโต้เถียงถึงเรื่องสิทธิของทายาทนับแต่วันที่ข้อโต้เถียงนั้นถึงที่สุด ผู้จัดการมรดกหรือทายาทในกรณีที่ไม่มีผู้จัดการมรดกอาจขอใบอนุญาตใหม่ได้ เมื่อนายทะเบียนได้ออกใบอนุญาตให้แล้ว ให้มอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดนั้นแก่ผู้รับใบอนุญาตใหม่ ถ้าไม่ออกใบอนุญาตให้ใหม่ก็ให้แจ้งความให้ผู้ขอทราบ และสั่งให้จัดการจำหน่ายสิ่งเหล่านั้นภายในกำหนดหกเดือนนับแต่วันรับคำสั่ง มิฉะนั้นให้นายทะเบียนท้องที่มีอำนาจจัดการขายทอดตลาดสิ่งเหล่านั้น ได้เงินจำนวนสุทธิเท่าใดให้ส่งมอบแก่ผู้มีสิทธิ
ต้องแจ้งแก่นายทะเบียนภายใน30วัน ตอนนี้ผมก้มีปัญหาคล้ายๆกันกำลังกลุ้มใจอยู่
คือคุณพ่อผมเสียไปเมื่อเกือบ 20ปีที่แล้ว ไม่มีผู้จัดการมรดก คุณแม่ยังอยู่ คุณแม่เลยมอบปืนให้ผมโดยเสน่หามาครอบครอง
แต่ถ้าจะทำให้ถูกต้องกระบวนความผมตรวจสอบกับวังชัยยามาว่า
1.ต้องนำปืนไปตรวจสอบ
2.ต้องไปทำเรื่องขอ ป3 โดยที่เขียนใบคำร้องว่าปืนรับมาโดยมรดกตกทอด
3.เมื่อมีทายาทคนอื่นอยู่ด้วยต้องได้รับความยินยอมจากทายาทในระดับเเดยวกันทั้งหมดก่อนอันสุดท้ายเนี่ยเดือดร้อนเพราะผมมีพี่สาวคนนึงเกลียดกันเข้าไส้ ไม่มองหน้ากันเลยก้ว่าได้เรื่องดีๆของผมไม่ต้องไปบอกเค้าเลย
พาลแต่จะมีเรื่องกันยิ่งไปให้ช่วยขอลายเซ็นต์หมดสิทธิครับ ฉะนั้นปืนกระบอกนั้นจึงคงยังคาอยู่แบบนั้นมาเป้นเวลาสิบกว่าปีแล้ว
โดยยังไม่ได้โอนไปเป็นชื่อผม ก็คงต้องรอให้พี่สาวคนดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้วนั่นละผมคงได้ครอบครองสมบูรณ์สักที
ในกรณีมีพินัยกรรม ต้องปฏิบัติตามข้อ3 ด้วยรึเปล่าครับเนี่ย คิดแล้วเหนื่อย
