ขอยืมข้อมูลจากเว็บข่าวมาลงหน่อยนะครับ ...........
ใครจะตอบได้มั่ง....................

1. ตอนแรกพบศพแก่อน 1 วัน และพบศพเด็กวันถัดมาระยะเวลาน่าจะห่างกัน 12-24 ชม. แต่ผลการชันสูตรระบุว่าตอนพบศพเด็กพี่งตายมาประมาณ 4 ชม. เพราะยังสดและไม่มีกลิ่นเหม็น
2. คราบเขม่าและวิถีกระสุน ศพแม่เป็นการจ่อยิงกดจากด้านบนพบเขม่าตรงหน้าอก ศพเด็กก็เป็นการจ่อยิงเช่นกันและพบเขม่าปืนเต็มปาก
3. ตรวจกระเพาะอาหารเด็กผลตรวจแสดงว่าเด็กไม่ได้กินอาหารเลยมา ประมาณ 24 ชม.นั่นบ่งบอกว่าเด็กไม่ได้กินข้าวมาประมาณ 1 วันก่อนตาย ซึ่งคงไม่มีแม่ที่ไหนให้ลูกอดข้าวนอกจาdว่าแม่ไปก่อน
4.มือเด็กหายไป บอกว่าแยกใส่ถุงก๊อบแก๊บของร้านสะดวกซื้อต่างหาก อาจหล่นตอนมีคนย้ายขยะ แยกทำไม? มือเด็กเล็กนิดเดียวใส่รวมไปกับถุงดำใหญ่ก็น่าจะได้ นอกเสียจากว่า จัดส่งให้ใคร เพื่อยืนยันผลงาน? เพื่อข่มขู่ใครอีกคน?
สรุปเราเชื่อผลทางนิติวิทย์ฯมากกว่าคำพูดของฆาตกร
บอกว่ามอบตัวเพราะกลัวตร.หลงทาง เกรงว่าตร.จะไปถูกทางหรือเปล่าเลยรีบตัดตอน
ปล. ตรวจดีเอ็นเอน้องมิ้นด้วยก็ดีนะว่าเป็นลูกของศพแม่จริงหรือเปล่า
ผมว่าคดีนี้รู้สึกแปลกๆครับ ผมว่าจะต้องมีเบื้องลึก และ เบื้องหลังอะไรบางอย่างครับ เหตุเพราะการมอบตัวของผู้ต้องหาดูจะง่ายเกินครับ
คนที่รู้ตัวว่ากระทำ ความผิด และ โทษถึงประหารชีวิต จะเข้ามามอบตัวง่ายๆอย่างงี้เหรอครับ การให้สัมภาษณ์ของผู้ต้องหาดูจะเรียบง่าย และ ไม่เกรงกลัวโทษที่จะได้รับ
ถูกของคุณ ครับ ผมว่าผู้ต้องหาคนนี้ต้องมีอะไรที่ปิดบังอยู่ เพราะจากศพของเด็ก เป็นไปได้หรือครับที่ยิงมั่วแล้วกระสุนถูกตรงแขนซ้าย/ขวา และยิงหลังทะลุท้อง แถมนัดสุดท้ายยิงกรอกปาก ถ้าเป็นไปตามที่ผู้ต้องหาพูด วิถีกระสุนต้องสะเปะสะปะ ไม่เป็นวิถีกระสุนทีเหมือนจ่อยิงอย่างที่เห็นครับ และอีกอย่างคำให้การเหมือนกับเตรียมมาแล้ว แต่พลาดไปอย่างหนึ่ง คือ มันขัดแย้งในตัวมันเองครับ อาจเป็นว่าผู้ต้องหาเป็นคนหนึ่งที่ร่วมก่อคดี และยังมีคนอื่นๆร่วมด้วย แต่คนอื่นให้ผู้ต้องหาคนนี้รับแทนและมีผลตอบแทนให้ (ผมวิเคราะห์อย่างนี้น่ะครับ ใครไม่เห็นด้วยช่วยแย้งหน่อย)
เอาแค่นี้ก่อน ............. รักตำรวจนะ 