พอดีวันนี้ลองยิงปืนแบบออโต กับลูกโม่เลยสงสัยว่า เจ้าปืนพกแบบแม็กกาซีนนี้มันถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัยใด

แล้วใครเป็นคนคิดค้นขึ้นมาคนแรกครับ หน้าตาของปืนเป็นแบบไหน อยากทราบประวัติศาสตร์อะครับ มีปืนอยู่ในการดูแลแต่ไม่รู้ถึงความเป็นมาเลย

ใครทราบช่วยตอบทีครับลงรูปด้วยยิ่งดีครับ

ผมมีแต่นิยายปรัมปรา มาเล่าให้ฟัง ก็ลองฟังไปเล่นๆ ก็แล้วกันนะครับ เอาแบบน้ำท่วม กทม.สไตล์ เต่า บางเขน ไปเลยครับ ผิดถูกคลาดเคลื่อนอย่างไร เดี๋ยวมีพี่ๆ เข้ามาซ่อมเสริมให้
ปืนพกที่มายิงกันทุกวันนี้ เริ่มมาพัฒนากันเป็นเรื่องเป็นราวๆ ก็เมื่อประมาณ 200 กว่าปีมานี่เองแหละ เล่าให้ฟังรวมๆ เลยแล้วกัน
ปืนออโต้ ก็ต่อยอดมาจากปืนลูกโม่นั่นแหละ ต่อยอดยังไงล่ะ งง
ต่อยอดเรื่องแนวคิดในการฆ่าแกง และประหัต ประหารกันไงครับ
ในปี 1836 โคลท์ สามารถทำให้คนที่พกปืน 1 คน สามารถยิงคนให้บาดเจ็บและถึงตายได้ 6 คน แต่ก็ยังช้า เพราะพอกระสุนดินดำ 6 นัดหมดโม่ ก็ต้องเขวี้ยงปืนทิ้ง (เพราะบรรจุไม่ทัน ต้องหยอดดินทางหน้าลูกโม่ ) ชักดาบออกมาฟันกันต่อ
ต่อมาประมาณ 10-15 ปี ผมไม่แน่ใจ กะผิดพลาด ขออภัย ได้ออกแบบปลอกกระสุนที่เป็นโลหะได้ เหมือนในปัจจุบันนี้ จึงทำให้ปืนลูกโม่ 6 นัด เมื่อยิงหมด 6 นัดแล้ว สามารถใส่กระสุนจากทางท้ายลูกโม่ได้ ถ้าเป้าหมายหรือข้าศึกยังวิ่งมาไม่ถึง ก็ยังมีโอกาสยัดลูกใหม่ทัน แต่ก็ทุลักทุเล พอควร เช่นปืนโคลท์ ต้องหยอดใส่ ช่องเล็กๆ ก็ปืนโคลท์ คาวบอยไงครับ เอส เอ เอ ไปหารูปดู แต่อย่าลืมว่า ปืนลูกโม่สมัยนั้น จะยิงที ต้องง้างนกที
ต่อมา ปี 1877 โคลท์ คิดระบบดับเบิ้ลแอ็คชั่น คือ ชักออกมาไม่ต้องง้างนก เหนี่ยวไกปืน ปืนลั่นได้เลย
เป็นการพัฒนาการฆ่าคนที่ถึงจุดสุดยอดแล้ว คือชักออกมา ฆ่าได้เลย แต่ว่า ก็ยังใส่ลูกช้าอยู่อีกแหละ
ต่อมาประมาณ ปี 1892 โคลท์ ได้คิดวิธีใส่ลูกใหม่ คือ แทนที่จะใส่ลูกในลูกโม่ที่ติดยึดอยู่ ในตัวปืน
โคลท์ ทำบานพับให้เปิดออกมาด้านข้างได้ ก็เป็นพัฒนาขั้นสุดยอดในการใส่ลูกให้กับปืนพกลูกโม่ แล้วเป็นต้นแบบมาถึงทุกวันนี้
สงครามนั่นแหละ เป็นตัวกระตุ้นให้มีการพัฒนาปืนพกให้ยิงได้เยอะ ใส่ลูกได้เร็ว ใส่ลูกได้มากๆ ใส่ลูกได้ง่ายๆ
ช่วงปี 1892 สหรัฐ ก็เริ่มเดินทางมาร่วมสงครามในภูมิภาคเอเซียแล้วนะครับ ช่วงสงครามสมัย ซูสีไทเฮา มะกัน ก็มาจีนกับเขาด้วยนะครับ
ในห้วงก่อนปี 1900 ห้วงนั้น มีการพัฒนากันทุกทุกด้าน ด้านอาวุธก็เช่นกัน
ปืนออโต้ ตัวที่เห็นชัดเจนที่สุด ก่อนปี 1900 (เอาที่เห็นในโลกอาวุธปืนเหอะนะ อย่างอื่นหาดูยาก )
ตัวที่เห็นเป็นตัวอย่างการพัฒนาปืนออโต้ ที่เป็นรากฐาน ของปืนออโต้ในทุกวันนี้ ก็ เมาเซอร์ 1896 ด้ามไม้กวาดนั่นแหละ ในกระทู้นี้ มีคนเอามาลงให้แล้ว ยกตัวอย่างกระบอกนี้ เพราะว่า ถ้าท่านรักจริงละก็ ยังพอมีตัวเป็นๆ ให้ศึกษากันในเมืองไทยนี่แหละ
ปืนเมาเซอร์เป็นอย่างไร ปืนเมาเซอร์ เป็นปืนออโต้ ที่ลำกล้องกับแนวลูกเลื่อนเป็นแนวเดียวกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาจะยิง หรือเวลาสลัดปลอก
การหน่วงเวลาในการถอยของสไลด์เวลายิง ก็มีระบบหน่วงเวลาแบบ งง ผมถอดทีไร ก็ยัง งง อยู่นั่นแหละ ก็น่าเชื่อว่า ปืนเมาเซอร์ คือการพัฒนาปืนออโต้ในฝั่งยุโรป เพราะเป็นเยอรมัน...ประมาณนั้น การวางสปริงโยนลำ ก็จะวางอยู่ในกลไกของลูกเลื่อน
ที่ผมเขียนอย่างนี้ เพราะว่าในสมัยนั้น เรือเดินสมุทร สามารถเดินข้ามแอตแลนติค ระหว่าง อเมริกา และยุโรปได้สะดวกแล้ว
ดังนั้น ถ้าศึกษาลึกๆ บางครั้งปืนยุโรป ชื่ออยู่ยุโรปก็จริงอยู่ แต่ประทานโทษ คนออกแบบดันเป็นอเมริกัน ก็มี ผมจำได้ไม่หมด จำได้แต่ คุณทวดบราวน์นิงนั่งแหละเป็นกรณีศึกษาถึงเรื่องที่ผมกล่าวอ้างได้
มาในฝั่งอเมริกาบ้างเป็นไง ในห้วงประมาณ ปี 1900 บราวนิง ที่อยู่ฝั่งนี้ (ยูเอสเอ) ก็พัฒนาเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนฝั่งยุโรป เป็นแนวคิดที่แตกต่างจากยุโรป แต่แนวคิดของบราวนิง ยังเป็นแนวคิดที่นิยมมาถึงทุกวันนี้ คือ
1.การขัดกลอน เป็นการขัดกลอนด้วยลำกล้อง กระดก ขึ้นลง มีตัวอย่างให้เห็น คือ เอ็ม 1903 โคลท์
แต่ตอนนั้น มีห่วงโตงเตง ทั้งหน้าลำกล้องและท้ายลำกล้อง ซึ่งทุกวันนี้ ปืนออโต้ ลูกกระสุนใหญ่ๆ ขนาด .38 .45 ก็ยังใช้การขัดกลอนลำกล้องกระดกอยู่ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกัน นั่นเอง (ท่านอาจารย์สุพินท์เคยถอดให้ดูในอวป. เป็นความรู้ไว้)
2.ตำแหน่งการวางสปริงโยนลำ ของยุโรป วางไว้ในกลไกลูกเลื่อน เช่น เมาเซอร์ 1896 หรือ วางอยู่ในโครงปืน เช่น พาราเบลลั่ม พี 08
แต่ของจอห์นฯ บราวนิง วางสปริงโยนลำไว้ที่ด้านใต้ลำกล้อง ซึ่งยังเป็นแนวทางที่นิยมใช้กันมาถึงทุกวันนี้แล....
3.การใส่กระสุน อันนี้ แม็กกาซีน แบบแยกตัวออกจากตัวปืน เป็นปืนโคลท์ เอ็ม 1900 หรือปืน เบอร์ชาต์ท มีให้ดูในกระทู้นี้แหละ ซึ่งก็เป็นแบบของปืนในทุกวันนี้ ก็ใช้แม็กกาซีนที่แยกออกจากตัวปืน
4.ตำแหน่งการใส่กระสุน ก็ใช้แม็กกาซีนเสียบเข้าไปในด้ามปืน ในสมัยนั้น ด้ามปืน ก็คือ ด้ามปืนจริงๆ เหมือนด้ามไม้กวาด ที่ไม่มีประโยชน์อะไรนอกจาก เอาไว้ถือยิง เหมือนปืนลูกโม่ ไม่มีใครคิดเอาแม็กกาซีนไปใส่ในด้ามปืน
ถ้าท่านดูวิวัฒนาการของ เมาเซอร์ 1896 ด้ามไม้กวาดจะเห็นได้ว่า จุดของรังเพลิงจุดของการบรรจุกระสุน ไปอยู่ทางด้านหน้าของปืน ทำให้ปืนยาว มากๆ เป็นปืนพกที่ยาวมากๆ แต่เมื่อ คิดย้ายแม็กกาซีนมาเสียบอยู่ในด้ามปืน ก็ทำให้รังเพลิง และปฏิบัติการบรรจุ มาอยู่ในมือคนยิงพอดี
ทำให้ปืนออโต้ สั้นลงมาหน่อยแหละ
ซึ่งแม็กกาซีน เสียบในด้าม และปฏิบัติการบรรจุ ยังเป็นต้นแบบให้กับปืนทุกวันนี้ แม้แต่ ปืนพลาสติกทั้งหลายก็เหอะ .......
น้ำท่วม แล้วจ้า.......