ถ้ารู้เห็นแล้วปล่อยวางเฉย มันก็ไม่สมควรครับ
ทางเลือกอื่น อย่างบัตรสนเท่ห์ ส่งเรื่องไปหนังสือพิมพ์
และอื่น ๆ ที่จะมีการปัดแข้งปัดขากัน
เขาจะเข้าไปตรวจสอบได้เอง
ขอให้มีข่าว เถอะ...........
กระบวนการปล่อยข่าว มันมีหลากหลายวิธีครับ........
อันนี้เขาเรียกวิชามารครับ....เคยใช้อยู่เหมือนกัน กินปูนร้อนท้องกันไปทั่ว

อีกวิธีที่ผมใช้คือ ถ้ารู้ว่างานนี้ปิดจะให้แต่พวกของตนได้ ผมก็จะกระซิบผ่านช่องทางการสื่อสารไปยังผู้รับเหมาฝั่งตรงข้าม ให้เข้ามาฟัน...ผลคือผู้ต้องส่งสัยคืออีกคน เพราะในทางปฏิบัติผมไม่น่าจะรู้ได้..

อีกวิธีก็คือคนพวกนี้ชอบมีกิ๊ก.......เล่นพอขำ ๆ ก็แค่โทรไปบอกเมียในฐานะผู้หวั่งดีว่า มีกิ๊ก แต่จะไม่บอกว่ากิ๊กชื่ออะไร หรือไปไหนตอนนี้ ยังไม่ถึงขนาดจะต้องฆ่ากันให้ตายครับ

จะใช้วิธีพวกนี้ต้องศาตร์และศิลป ครับ ทำไงให้ไม่รู้ว่าเป็นเรา ทำไงไม่ให้ถี่จนเกินไป ทำไงให้ไม่เสียพวกพ้อง ฯลฯ
อีกวิธีที่ใช้คือเล่นลูกขู่ แต่ไม่ขู่ตรง ๆ ขู่ผ่านพรรคพวกของนักการเมืองที่สนิทกับเรา วันดีคืนร้ายผมก็ยืมปืน BB พวก AK47 M16 ของพวกเด็ก ๆยัดไว้ท้ายรถ แล้วเรียกให้พรรคพวกเขามาดู บอกว่ายืมทหารมายิงเล่น......ไปยิงด้วยกันมั๊ย........

วันดีคืนร้าย พวกก็เอาเสื้อเกราะมาให้ดู ผมก็ขู่เล่นไปว่า ตัวนี้มันกันปืนพกนะครับ กัน M16 AK47 ไม่ได้นะครับ

วันดีคืนดีก็ขู่ด้วยการเอากระสุน(ทั้งหัวทั้งปลอก) ไปให้ บอกว่าขาดเหลือขนาดไหนอะไรก็บอก ผมมีแยะ

บางที่ก็ช่วยหาปืนให้กับพรรคพวกที่สนิทกัน แล้วผมก็ปล่อยข่าวว่า ผมค้าอาวุธ
เคยมีข่าวว่าร่ำ ๆ จะเล่นผมครับ แต่ไม่มีใครกล้าเพราะลูกขู่ที่เล่นต่อเนื่องแบบเป็นพัก ๆ (3 ปีกว่า ๆ ติดต่อกัน)....
ไม่แนะนำให้ทำตามนะครับ แต่ลองดูเป็นแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเอง

สารพัดสารพันที่จะนึกได้ครับ แต่สุดท้ายก็ต้องย้ายตัวเองออกจากความขัดแย้งเพราะ ความขัดแย้งทวีความรุ่นแรงขึ้น ทางเลือกมีอยู่ 2 ทางคือชนกันให้พังไปข้างหรือเรายอมถอย เซฟตัวเราเอง ผมเลือกถอย เพราะมันมีทางเลือกให้ผมถอย
