โผล่อีกรายกระสุนปริศนา ที่กรุงเก่า ด.ช. 4 ขวบหวิดดับสยอง หลังกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.เฉี่ยวหัวชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดขณะแม่นั่งป้อนข้าวอยู่หลังบ้าน แม่หนูน้อยเผย
นั่งป้อนข้าวลูกอยู่ดีๆ ได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะกระแทกโต๊ะก่อนจะแฉลบมาโดนแขนซ้ายตนเอง แล้วกระเด็นตกใกล้ๆ ไปดูพบเป็นหัวกระสุน ลูกชายรอดตายชนิดฉิวเฉียด ส่วนราย
ด.ญ. 11 ขวบที่บางเขน พ่อเด็กระบุหากคดีไม่ชัดเจนจะบุกร้องสนง.ตำรวจแห่งชาติ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกระสุนปริศนาตกใส่บ้านเลขที่ 48/1 ม.1 ริมถนนสายอยุธยา-ป่าโมก ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา
จ.พระ นครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ น.ส.ธารารัตน์ บุญมี อายุ 34 ปี อุ้มลูกน้อย อยู่หน้าร้านซ่อมรถจยย. กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนั่งป้อนข้าว
ด.ช. ธนวัฒน์ บุญมี หรือน้องอาร์ม อายุ 4 ปี บุตรชายอยู่ที่โต๊ะไม้หลังบ้านได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะ และจู่ๆ ก็มีกระสุนปืนปริศนาตกลงที่โต๊ะ กระแทกโต๊ะไม้และแฉลบกระแทกที่แขน
ซ้ายของตนเองเป็นแผลคล้ายรอยข่วนยาว กระสุนกระเด็นไปตกอยู่ที่พื้นใกล้กับที่ล้างจาน ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งไปหาเพื่อนบ้านเพื่อเล่าเหตุ การณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น
"ระหว่างที่กระสุนตกนั้น เป็นช่วงเดียวกับที่ตนกำลังป้อนข้าวน้องอาร์ม ระหว่างนั้นน้องอาร์มไม่ยอมก้มศีรษะมากินข้าวคำที่ตนเองป้อน จึงทำให้กระสุนปืนผ่านศีรษะไปอย่างเฉียด
ฉิว หากจังหวะนั้นน้องอาร์มก้มลงมากินข้าวที่ตนกำลังป้อน ต้องถูกกระสุนเจาะศีรษะอย่างแน่นอน" น.ศ.ธารัตน์กล่าว และว่า หลังเกิดเหตุแจ้งความกับ ร.ต.ต.พรชัย เฮงเจริญ ร้อย
เวรสภ.พระนครศรีอยุธยา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บหัวกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.เป็นหลักฐาน
น.ส.ธารารัตน์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาบริเวณดังกล่าวมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นประจำ เพราะมีกลุ่มคนชอบยิงปืน แต่กระสุนปืนที่ตกลงหลังคาบ้านตนเองครั้งนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นกลุ่ม
เดียวกันหรือไม่ เพราะมีอยู่คนหนึ่งที่อยู่ฝั่ง ตรงข้ามบ้านชอบนำปืนออกมายิงในบ้านร้างเป็นประจำ แต่ก็ยังไม่มีตำรวจมาตรวจสอบ
ร.ต.ต.พรชัยกล่าวว่า ได้เก็บหัวกระสุนที่ตกในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ และอยู่ระหว่าง การเรียกพยานใกล้ที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ ว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีใครชอบโชว์ปืน หรือ
ชอบยิงปืนหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคดีในลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการยิงปืนขึ้นฟ้าและตกใส่บ้านเรือนประชาชน เช่นที่ ต.บ่อโพง อ.นครหลวง มีกระสุนปืน
ปริศนาตกใส่บ้านชาวบ้านเกือบทำให้เจ้าของบ้านเสียชีวิต เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ นอกจากนี้ยังมีคดีคนร้ายยิงปืนใส่รถทัวร์
สายกรุง เทพฯ-น่าน บนถนนสายเอเชีย ต.บ่อโพง อ. นครหลวง ทำให้มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ก่อนจะมาเกิด
เหตุขึ้นอีกครั้งดังกล่าว
ส่วนกรณีด.ญ.ผกาพรรณ โตทรัพย์ หรือน้องมายด์ อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้นป. 5 ร.ร. วัดราษฎร์นิยมธรรม ถูกกระสุนปริศนาบริเวณศีรษะ ขณะยืนดูโคมลอยอยู่ที่ระเบียงห้อง
ชั้น 3 อาคาร 8 นิวพอร์ตคอนโดมิเนียม ซ.พหล โยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. ในคืนลอยกระทงวันที่ 2 พ.ย. กระสุนทะลุศีรษะอาการสาหัส นอนรักษาอยู่ที่ห้อง
ไอซียู ร.พ.ภูมิพล แต่หลังเหตุการณ์มานาน 5 วัน คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีพยานจำนวนมากยืนยันว่ากระสุนปืนปริศนาดังกล่าวมาจากวงเหล้าอาคารข้างเคียงกัน นอกจากนั้น
ยังพบความผิดปกติ เมื่อพนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันคดีดังกล่าวในวันที่ 4 พ.ย. หลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 2 วัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 พ.ย. พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ฟูสินไพบูลย์ รองผกก.สส. สน.บางเขน เผยความคืบหน้าว่า หลังเกิดเหตุได้ประสานเจ้าหน้าที่พฐ.ดำเนินการตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เพื่อหาร่องรอยวิถีกระสุน พร้อมส่งหัวกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบที่กองพฐ. เรียบร้อยแล้ว ส่วนฝ่ายสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่หาข่าวในคอนโดฯ ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นจุดที่ยิง
ปืนออกมา โดยผู้ต้องสงสัยกลุ่มแรกที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำตัวมาสอบสวนนั้น เบื้องต้นมีพยานชี้ยืนยันว่าใครเป็นผู้ยิงปืน ส่วนจากการตรวจค้นห้องพักไม่พบอาวุธปืน จึง
ปล่อยตัวไปชั่วคราว คาดว่าจะต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานสักระยะเชื่อว่าน่าจะพบพยานหลักฐานที่สามารถระบุตัวคนยิงได้
นายศุภลักษ์ณ์ จันโพพันธุ์ อายุ 30 ปี พ่อน้องมายด์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าไปเยี่ยมน้องมายด์ที่ร.พ.ภูมิพล สามารถลืมตาและกรอกลูกนัยน์ตาไปมาได้ แต่ยังไม่รับรู้ว่าพ่อแม่มา
เยี่ยม รู้สึกว่าอาการดีขึ้นกว่าวันก่อน แต่ทางแพทย์บอกว่ายังไม่พ้นขีดอันตราย ส่วนทางด้านคดี ยังไม่ได้รับแจ้งความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด นายศุภลักษ์ณ์ กล่าวต่อว่า
หลังจากเจ้าหน้าที่พฐ.มาตรวจสอบวิถีกระสุนแล้วพบว่า วิถีกระสุนไม่ได้ยิงขึ้นฟ้าตรงๆ แต่เป็นการยิงเฉียง 45 อาศา ขึ้นมา ซึ่งคนที่ยิงน่าจะต้องรู้ว่ามุมที่ยิงมีโอกาสที่ลูกกระสุนจะ
มาถูกคอน โดฯ ที่ตนพักอยู่ หรือถูกคนที่อยู่บริเวณระเบียงหลังห้องพัก แต่ไม่ได้ใส่ใจ ก่อนที่น้องมายด์จะโดนยิงก็ยังหันมาบอกกับพี่สาวว่าเห็นอะไรไม่รู้ สีดำๆ พุ่งเฉียดศีรษะไป คิด
ว่าน่าจะเป็นหัวกระสุนนัดแรกที่เฉียดไป ก่อนที่หัวกระสุนนัดที่ 2 จะมาถูกที่ศีรษะน้องมายด์จนล้มลง โดยหากวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.นี้ คดียังไม่มีคืบหน้าชัดเจน จะนำหลักฐานร้องเรียน
ที่สตช.เพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป
ทีมาhttp://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOVEE1TVRFMU1nPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09TMHhNUzB3T1E9PQ==
