
ด้วยความเคารพครับพี่ๆ ทุกท่านพออ่านมาจนถึงเรื่องขออนุญาติซื้อเสื้อเกราะเนี้ยงานเข้าในทันทีครับ เพราะว่าผมก็มีเสื้อเกราะไว้ในครอบครอง 1 ตัวเหมือนกันด้วยไม่รู้มาก่อนครับว่า ประชาชนธรรมดาไม่มีสิทธิครอบครอง ซื้อมาช่วงปี 2549 หรือ2550 ไม่แน่ใจครับ เพราะว่ามีบ้านอยู่ที่จังหวัดปัตตานีอยู่ในพื้นที่สีแดง แล้วตัวผมเองในขณะนั้นทำงานเป็นลูกจ้างของรัฐครับ เป็นเป้าหมายในการก่อการร้ายครับ แล้วต้องขับมอเตอร์ไซไปทำงานก็เลยหาเสื้อเกราะมาใช้ มีข้าราชการครูท่านหนึ่งแกขายมาให้ครับ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ในพื้นที่ครับ เสื้อเกราะอยู่ที่บ้านที่ปัตตานี ที่บ้านมีแม่อยู่คนเดียว ควรทำไงดีกับเสื้อเกราะตัวนั้นครับ แล้วหากเก็บไว้ต่อไปจะมีความผิดสถานใดบ้างครับ ชักเริ่มกลัว แล้วมีชาวบ้านใน 3 จังหวัดที่มีเสื้อเกราะลักษณะเดียวกันอีกหลายท่านครับ

พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
ยุทธภัณฑ์ หมายความว่า อาวุธ เครื่องอุปกรณ์ของอาวุธ สารเคมี สารชีวะ สารรังสี หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่อาจนำไป
ใช้ในการรบหรือการสงครามได้ ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามมาตรา 7 ( ซึ่งเสื้อเกราะกันกระ
สุน และที่เก็บเสียง จัดเป็นยุทธภัณฑ์เพราะรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วครับ แต่เป็นประกาศฉบับผมจำไม่ได้แล้วครับ )
มาตรา 15 ห้ามมิให้ผู้ใดสั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต หรือมีซึ่งยุทธภัณฑ์เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากปลัดกระทรวง
กลาโหม
การอนุญาตตามวรรคหนึ่ง จะกำหนดเงื่อนไขไว้ในใบอนุญาตก็ได้
การขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 42 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 15 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือ
ทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 43 ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในใบอนุญาตตามมาตรา 15 วรรคสอง ต้อง
ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถามว่าประชาชนธรรมดาถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็มีความผิดตามบทกฎหมายข้างต้นนั่นแหละครับ ในส่วนของคุณ jomcz
นั้น ผมว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็คงเข้าใจความจำเป็นของประชาชนในพื้นที่ คงไม่เข้มงวดกวดขันมากนัก แต่ถ้าหากพลาดพลั้ง
ถูกจับกุมดำเนินคดีขึ้นมาจริง ๆ เชื่อว่าศาลก็คงให้ความยุติธรรมโดยลงโทษในสถานเบา อาจจะเพียงแค่ปรับเท่านั้น เพราะเชื่อ
ว่าผู้พิพากษาที่อยู่ในพื้นที่ก็คงจะเข้าใจสถานการณ์และความจำเป็นของประชาชนผู้สุจริตเช่นเดียวกัน
ส่วนตัวผมก็เคยไปรับราชการอยู่ที่จังหวัดปัตตานีเช่นเดียวกัน ( ผมไม่ใช่ทั้งทหารและตำรวจ ) ก็มีทั้งเสื้อเกราะ
หมวกแก๊ปกันกระสุน หมอนกันกระสุน กระเป๋ากันกระสุนใช้ แต่ถ้าถามถึงที่มาที่ไป และได้รับอนุญาตหรือไม่ ผมก็ตอบ
ไม่ได้เหมือนกัน ( รู้แต่ว่าผิดค่อนข้างจะแน่นอน

) แถมเวลาอยู่ในพื้นที่ก็พกปืนตลอด โดยไม่เคยได้ ป.12
ถ้าเรามีความจำเป็นต้องใช้ก็อย่าไปกังวลมากเลยครับ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ก็คงเข้าใจสุจริตชนในพื้นที่ในระดับหนึ่ง
