ในขั้นแรกเลยก็คงถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาก่อนละครับ ถ้าคนร้ายไม่ตาย ก็ฐานพยายามฆ่าครับ

ส่วนจะมีความผิดหรือไม่นั้น ก็ต้องว่ากันเรื่องหลักการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ว่าพอสมควรแก่เหตุหรือไม่ และเป็นการป้องกันตามกฎหมายหรือไม่
๑. ถ้าข้อเท็จจริงยุติว่า เป็นการป้องกัน
และ ถือว่าพอสมควรแก่เหตุ ก็ไม่มีความผิดฐานเจตนาฆ่า หรือพยายามฆ่าแล้วแต่กรณี ตามมาตรา ๖๘ แห่งประมวลกฎหมายอาญาครับ
๒. ถ้าข้อเท็จจริงยุติว่า เป็นการป้องกัน
แต่ ถือว่าเกินสมควรแก่เหตุ คราวนี้มีความผิดฐานเจตนาฆ่า หรือพยายามฆ่าครับแล้วแต่กรณี แต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ ตามมาตรา ๖๙ แห่งประมวลกฎหมายอาญาครับ
๓. ถ้าข้อเท็จจริงยุติว่า ไม่เป็นการป้องกันคราวนี้ผู้กระทำต้องรับผิดเต็มฐานเจตนาฆ่า หรือพยายามฆ่า แล้วแต่กรณีตามอัตราโทษที่กฎหมายกำหนดครับ
ส่วนข้อเท็จจริงจะยุติอย่างไร ก็ขึ้นกับพฤติการณ์ พยานที่เห็นเหตุการณ์ หลักฐานแวดล้อม และคำให้การในเรื่องนี้ครับ
