ขอคำแนะนำจากพี่ๆ เพื่อนสมาชิก ที่มีและใช้เครื่องช่วยเล็งแบบ Red Dot Scopes หรือ Holographic Sights
-เกี่ยวกับข้อดี-ข้อเสีย ของแต่ละแบบ
-ความคงทนของแต่ละแบบ
-ความคมชัดของภาพ
-การใช้งานในสภาพมืด (พอมีแสงบ้างนิดหน่อย ไม่ถึงกับมืดสนิท)
-อายุการใช้งาน
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อ สำหรับสมาชิกด้วยครับ

ศูนย์จุดแสงสำหรับรบระยะประชิด CCO (Close Combat Optic) ทั้งแบบ Red Dot Scopes หรือ Holographic Sights ก้เหมือนกันครับ
ต่างกันที่ ระบบฉายแสงที่แบบนึง (Aimpoint, C-More) ใช้แสงธรรมดาฉายภาพจุดแดง และ อีกแบบ EOtech ใช้แสงเลเซอร์ ฉายภาพ
ข้อดีก็คือทั้งคู่ขนาดเล็ก ข้อเสียก็คือ ใช้กำลำงไฟฟ้า หากไม่มีถ่านก็จบ

ความทนทาน
ก็พอใช้ได้เพราะส่วนใหญ่เป็นระบบปิดผนึกตายตัว ไม่มีอะไรมาให้ปรับแต่งมากนัก
และก็เป็นข้อเสียอีกเช่นกัน เพราะหากเสียหรือผิดพลาดมาจากโรงงาน ก็โยนทิ้งอย่างเดียว ซ่อมหรือปรับแต่งไม่ได้
หรือโดนคลื่นแม่เหล็กแรงสูงแบบ EMP ก็เดี้ยงอีกเช่นกัน แก้ไขอะไรไม่ได้
ดังนั้นหากข้างๆบ้าน หรือ เพื่อนบ้านมีระเบิด EMP ก็อาจจะต้องหาศูนย์เหล็กมาติดใช้สำรองด้วยครับ
แต่หากสำหรับติดปืนทั่วๆไป ก็คงใช้ได้นานหลายปีครับ (ที่บ้านยังมี Aimpoint I ใช้งานได้อยู่เลย)
ดังนั้นจึงให้ Aimpoint ได้เปรียบอยู่หน่อยครับ
ความคมชัดของภาพ
คิดว่าพอๆกัน มีหลายคนไม่ชอบ EOtech เพราะภาพที่ฉายจากแสงเลเซอร์ มักจะไม่ค่อยคมชัด สู้จุดแดงไม่ได้
แต่กล้องจุดแดงก็เสียเปรียบที่เห็นสีแดง หรือ สีอื่นๆไม่ได้ชัดเจน งง ไหมครับ
คือว่าอย่างนี้ หากท่านมองที่ด้านหน้าของกล้องจุดแดงทุกยี่ห้อ จะเป็นภาพเงา เหมือนติดฟิลม์กระจกสะท้อนออกมา

ที่ต้องทำแบบนี้เพราะ เลนส์กระจกด้านหน้าต้องกรองตัดลดแสงสีแดงในภาพออกให้หมด
พอเรายกกล้องขึ้นส่องดู เราจึงเห็นภาพในกล้อง ออกสีฟ้าๆเขียวๆ ไม่ค่อยเป็นสีธรรมชาติเท่าไหร่
เวลาที่กล้องฉายภาพจุดเล็งสีแดงซ้อนทับไปที่บนภาพภายในกล้อง จะได้เห็นจุดเล็งสีแดงโดดเด่นขึ้นมาจากภาพที่เป็นเหมือนฉากหลัง (ที่โดนตัดสีแดงไปแล้ว)
พูดแบบไฮเทคก็คือ กล้องจุดแดงจึงไม่ให้ภาพที่เป็นสีธรรมชาตินัก เพราะโดนกรองแสงสีแดงที่ความยาวคลื่น 600-700 นาโนเมตรออกไปหมดแล้ว
ดังนั้นหากใช้ในพื้นที่ที่ๆมีแสงสีแดงมากๆ ก็อาจจะมองไม่เห็นภาพชัดนัก หรือ เห็นจุดแดงไม่ชัดครับ
ผิดกับ EOTech ที่ฉายแสงเลเซอร์ซ้อนไปที่บนภาพได้เลย จึงไม่ต้องง้อกระจกกรองแสงสีแดงมากนักครับ
การใช้งาน
ทั้งคู่เป็นระบบฉายภาพ ไม่มีพาราแลกซ์ จึงใช้ได้เกือบทุกระยะยิง โดยไม่ต้องพะวงกับความสูงของขากล้อง
ความไกล้ไกลของเป้า หรือ ระยะห่าง หรือ ตำแหน่ง ดวงตาที่สัมพันธ์กับกล้องครับ
ตามคู่มือ FM3-22.9 (23-9) การติดตั้งใช้ศูนย์รบระยะประชิด แนะนำให้ติดตั้งให้ไกลสุดเท่าที่สายตาผู้ใช้พึงมองเห็นจุดแดงได้ชัดเจนที่สุดครับ

ศูนย์จุดแดงจะมีข้อดีตอนที่ทำ dynamic entry บุกเข้าไป จากที่สว่างมากกว่าเข้าไปในห้องที่มืดกว่า
เลยเห็นจุดแดงได้ชัดกว่า เนื่องจากมีฉากหลังที่มืดกว่าตังจุดแดงเอง
แต่หากทำ exit ยิงออกมาจากที่มืด (จากในบ้านออกไปที่เป้าข้างนอก) จะเห็นจุดแดงได้ยากกว่า เพราะฉากหลังสว่างกว่าจุดแดงครับ
รวมทั้งขอบเขตการมองเห็น EOTech ก็มีมากกว่า ทำให้ตรวจรับทราบสภาพสถานการณ์ได้ดีกว่าครับ

แต่ทั้ง กล้องจุดแดง และ EOtech ไม่มีกำลังขยาย ดังนั้นต้องหาตัวเพิ่มกำลังขยาย ทำให้เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มซับซ้อนไปอีกครับ
อายุการใช้งาน
ข้อดีก็คือทนทาน แต่ก็กินไฟฟ้า จึงจะสร้างจุดแดงได้ และเพื่อไม่ให้เปลืองไฟ (กินถ่าน)
ดังนั้นจึงต้องชดเชยโดยการออกแบบให้ไฟจุดแดงเล็กลง กินไฟน้อยลง (และมีถ่านหรือ ศูนย์เหล็กสำรอง)
T-1 หรือ H-1 นี่ 1 หมื่น ชั่วโมง ส่วนแสงเลเซอร์ EOtech ก็ราวๆ 1-2 พันชั่่วโมงครับ
และมีระบบปิดตัวเองอัตโนมัติครับ
หากจะเปรียบเทียบกัน ก็น่าจะเปรียบเทียบกล้องแบบใช้เส้นเล็งเรืองแสง ทั้งจากใยแก้วนำแสง
หรือ สารรังสี ตริเตี่ยม หรือ ไฟฟ้า พวก ACOG, Prismatic, ELCAN ครับ
ซึ่งจะมีข้อได้เปรียบ เสียเปรียบไปอีกแบบครับ
