เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
มิถุนายน 28, 2025, 06:36:17 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 58 59 60 [61] 62 63 64
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คลายเครียดกับข้อความดีๆ กินใจ หรือฮาๆ เอามาแบ่งกัน  (อ่าน 141873 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
JarengkaBOW
Dog in Thailand
Hero Member
*****

คะแนน 18
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6150

By physically, the object couldn't lit by itself.


เว็บไซต์
« ตอบ #900 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2005, 12:55:10 PM »



อ่านตัวหนังสือไม่ออกอะ มันเล็กมาก
บันทึกการเข้า

I am dying... -*-


nuchy
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 16


« ตอบ #901 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2005, 01:11:33 PM »

 Wink Wink
บันทึกการเข้า
บาร์ท รักในหลวง
หิวดินปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 249
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6306


Mountain Man


« ตอบ #902 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2005, 01:17:40 PM »



อ่านตัวหนังสือไม่ออกอะ มันเล็กมาก
แหะๆ มันต้องย่อถึงจะโพสท์ได้อ่ะครับ ไม่งั้นใหญ่ไป หัวเราะร่าน้ำตาริน  ผมจะลองเอาลิงค์ให้ดู มันก็หลายไปซะละ  เว็บเดี้ยง หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

Iamshootinghere
Sr. Member
****

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 552


« ตอบ #903 เมื่อ: มิถุนายน 20, 2005, 02:54:52 PM »

เรื่อง: ช้อน

ผมเคยไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ผมสังเกตเห็นว่าบริกรที่มารับออร์เดอร์มีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อ
พอผมมองไปทั่วๆ 
จึงเห็นว่าบริกรในร้านมีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อกันทุกคน
ด้วยความสงสัยผมจึงถามเขาดู

"ขอถามหน่อยเถอะ  ช้อนนี่มีไว้ทำไมเนี่ย เห็นมีกันทุกคนเลย"
"ช้อนนี่หรือครับ" เขาตอบ
"เจ้าของร้านเขาจ้างบริษัทที่ปรึกษา
มาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานน่ะครับ
เขาเก็บข้อมูลอยู่หลายเดือนแล้วก็บอกว่า
ลูกค้าจะทำช้อนตกมากว่าอย่างอื่นถึง ๗๓.๘๔%
ซึ่งตกประมาณ ๓ ครั้งต่อโต๊ะต่อชั่วโมง
ซึ่งถ้าพนักงานเราเตรียมการไว้ก่อน
ก็จะสามารถลดจำนวนครั้งที่จะต้องเดินกลับไปที่ครัว
และก็สามารถลดพนักงานที่ใช้ลงได้ ๑ คนต่อกะ"

พอเขาพูดเสร็จผมก็ได้ยินเสียงช้อนหล่นอยู่หลังผม
บริกรที่คุยอยู่กับผมก็หยิบช้อนในกระเป๋าเสื้อส่งให้ใหม่แล้วบอกว่า
"ผมจะหยิบอันใหม่เมื่อผมกลับไปที่ครัว
แทนที่จะรีบเข้าไปหยิบในครัวเดี๋ยวนี้"

ผมรู้สึกประทับใจมาก
และเมื่อผมมองดูรอบๆ  อีกครั้ง
ผมก็สังเกตเห็นด้ายเส้นเล็กๆ 
ห้อยออกมาจากช่องซิปกางเกงของบริกรทุกคน
ด้วยความสงสัยผมจึงถามบริกรคนเดิมอีกครั้ง

"รบกวนอีกทีเถอะ ทำไมถึงต้องมีด้ายห้อยออกมาจากตรงนั้นด้วย"
"โอ้โฮเฮะ" เขาดูตื่นเต้นมากมีด้าย
"ผมไม่เคยเจอใครช่างสังเกตอย่างคุณเลยนะครับ
จริงๆ  แล้วไอ้นี่ก็เป็นผลงานของบริษัทที่ปรึกษาเจ้าเดิมนั่นแหละ
เขาบอกว่ามันทำให้เราสามารถประหยัดเวลาที่ใช้ตอนเข้าห้องน้ำได้"
"ประหยัดได้ไง" ผมสงสัย
"ก็..." เขาอธิบาย"เราผูกด้ายนี่เข้ากับปลายไอ้นั่น
คุณคงเข้าใจนะครับ แล้วพอจะฉี่เราก็แค่ดึงด้ายนี่ออกมา
มือก็ไม่เลอะ มันก็ประหยัดเวลาที่ต้องล้างมือไปได้
เขาว่ามันทำให้ประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในห้องน้ำลงไปตั้ง ๗๖.๓๙%
แน่ะ"
"อืม...ร้ายจริงๆ" ผมรู้สึกทึ่ง
"ว่าแต่ว่าไอ้ด้ายนั่นช่วยตอนเอาออกมา
แล้วตอนเก็บเข้าไปล่ะจะทำไง?"
"เอ่อ..." เขากระซิบ่น
"ผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำกันยังไง  แต่ผมน่ะ...ใช้ช้อน"
*******************************************************
บันทึกการเข้า

"You not the only one who makes mistakes, but they're the only thing that you can truly call you own"
Billy Joel
redblack1111
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #904 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2005, 10:48:08 PM »


>1. นึกไว้เสมอว่าการโกรธ1นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับคุณ 3ชั่วโมง

>2. ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเค้าต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้งแน่

>3. ลองปลูกต้นไม้เองสักต้น การเติบโตของมันจะบ่งบอกตัวตนของคุณได้

>4. หลับตานิ่งๆสักสามนาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรที่อยู่ตรงหนามันช่างยากเหลือเกิน

>5. ระหว่างแปรงฟันฮัมเพลงด้วยจนจบ จะทำให้ฟันสะอาดขึ้นสองเท่า แฮะๆ

>6. เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง จากที่รสชาติธรรมดาก้อจะอร่อยขึ้นเยอะเลย

>7. ไม่ว่าผมจะสั้นหรือยาวแค่ไหน ก้อต้องการให้หวีอย่างทะนุถนอมเหมือนกันหมด

>8. การขึ้นลงบันไดสูงๆ แบบไม่ให้เมื่อย คือการไม่นับว่ากำลังยืนอยู่บันไดขั้นที่เท่าไร

>9. คนตาบอดจะเห็นว่าคุณสวยมากๆ ทันทีที่คุณถามเค้าว่า "ช่วยพาข้ามถนนไหมคะ?"

>10. เมื่อจะหยิบเศษเงินให้ขอทาน ไม่จำเป็นต้องนับก่อนที่จะหย่อนลงกระป๋องหรอก

>11. ควรหัดพูดคำว่า "ไม่เป็นไร" ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า "จะเอายังไง"

>12. ลองตั้งนาฬิกาให้เร็วขึ้น15นาที รับรองว่าจะไม่ค่อยไปสายเหมือนเมื่อก่อน

>13. สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความรับเก่ง เรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้จึงเล่าให้มันฟัง

>14. อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกทีเผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด

>15. เขียนชื่อคนที่เกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้ง ความเกลียดจะเบาบางลงไปเรื่อยๆ

>16. ให้ปล่อยน้ำตาไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้งจะดูแทบไม่ออกว่าเพิ่งร้องไห้

>17. ตุ๊กตาและของเล่นเก่าๆ จะทำให้เรายิ้มออกเสมอเมื่อไปหยิบมาเล่นอีกครั้ง

>18. ก่อนจะชื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมันทำให้ได้อย่างน้อนสามข้อก่อน

>19. ถึงเสื้อกางเกง ในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าใส่สลับกันไปเรื่อยๆก้อจะดูเหมือนมีเยอะขึ้น

>20. ซาลาเปา 1 ลูกกินได้ 2 คน ลูกชิ้นปิ้ง 1 ไม้ กินได้ 4 คนถ้าคุณคิดจะแบ่งเท่านั้นเอง

>21. เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ดีกว่า ให้คนที่ได้เยอะจนจำชื่อคนให้ได้ไม่หมด

>22. ในวันที่รู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ เดินไปชื้อดอกไม้ให้ตัวเองสักดอกก็จะดีขึ้น

>23. แอบรักใครสักคน ยังไงก็ยังดีกว่าไม่เคยรู้ว่าความรู้สึกรักมันเป็นอย่างไร

>24. ถึงจะไม่ออกไปไหน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นิ

>25. ฝึกโรแมนติกง่ายๆ คนเดียวบ้าง ด้วยการนั่งนับดาวให้ครบ 100 ดวงก่อนนอน

>26. ถ้าคุณเช็ดกระจกที่ขุ่นมัวที่สุดจนสดใสได้ ทำไมคุณจะเรียนดีกว่านี้ไม่ได้

>27. พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่ม มันอาจจะไม่สนุกแต่ก็มีประโยชน์แฝงอยู่

>28. วันที่ตื่นเช้าๆ ให้บิดขี้เกียจนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ถ้าขี้เกียจออกกำลังกาย

>29. แค่เอาข้าวที่กินไม่หมดไปให้หมาที่เดินผ่านก็เป็นการทำบุญที่ไม่ต้องลงทุนแล้ว

>30. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นในบ้าน แม่จะได้มีค่าขนมให้คุณเพิ่มขึ้นอีกหลายบาท

เอามาจากFw Mail อ่ะ ใครอ่านแล้วก็อ่านแล้วอ่ะนะ ^_^
ความจิงเพิ่มข้อ31ก็ได้นะ
31. แค่อ่านครบ30ข้อก็ทำให้ยิ้มได้อีกหน่อย Smiley

บันทึกการเข้า
ThaiLoei
KU 53 /EE
Sr. Member
****

คะแนน 43
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 708


อันตรายที่สุด คือ ความคาดหวัง


เว็บไซต์
« ตอบ #905 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2005, 02:25:07 AM »

 สำหรับคนที่เกิดวันอาทิตย์
>>
>> ช่วงนี้ดวงอาทิตย์ยังคงร้อนอยู่ ดังนั้นไม่ควรเดินกลางแดดนานๆ
>> เพราะจะทำให้เหงื่อออก ไม่ควรดูโทรทัศน์ใกล้ๆเพราะจะแสบตาและบังคนข้างหลัง
>> และไม่ควรขากเสลดบนทางเท้าโชคไม่ดีอาจถูกปรับ ถ้าท้องผูกควรดื่มน้ำมากๆ
>> เวลาปวดให้รีบเข้าห้องส้วมให้รีบร้อย และ ควรถอดกางเกงออกก่อน
>> เวลาอาบน้ำห้ามสวมเสื้อผ้าไม่ควรดื่ม ลิโพเกินวันละ 2 ขวด
>> โปรดสังเกตุคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มแต่ไม่ต้องปฏิบัติตาม
>> เด็กเกิดวันนี้ ถ้าเป็นคนจะไม่มีหาง จะมีหน้ามีตาตั้งแต่ยังเล็ก
>> นอกจากนี้จะยังมีหูจมูก และ คางอีกด้วย ขณะเป็นทารก หรือ ทาริกาจะตัวเล็ก
>> ในช่วงนี้ถ้าเด็กขี้แตกให้รีบเปลี่ยนผ้าอ้อมทันที
>> และเด็กจะตัวใหญ่ขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
>> เมื่อเติบใหญ่เด็กจะกลายเป็นผู้ใหญ่ได้เอง
>> ถ้าทิ้งไว้ต่อไปก็จะแก่ลงโดยอัตโนมัติ
>> ถ้าไม่มีลูกหลานจะมีบุญได้ไปอยู่บ้านพักคนชรา
>>
>> +++++++++++++++
>>
>>
>> สำหรับคนที่เกิดวันจันทร์
>>
>> ระยะนี้ดวงจันทร์เลื่อนที่ตัดหน้าดาวโจรที่รังสิต
>> ถ้าไม่ระวังของมีค่าอาจหายได้
>> ถ้าเดินไม่ระวังอาจหกล้มเจ็บตัวเป็นที่อับอายเสื่อมเสีย
>> ถ้าเจอหมาบ้าไม่ควรเข้าใกล้เป็นอันขาดเพราะอาจถูกกัดได้
>> เมื่อหิวก็ควรหาอะไรกินเป็นการแก้เคล็ด
>> เด็กเกิดวันนี้ถ้าเป็นผู้ชายจะไม่เป็นหญิง
>> โตขึ้นมาอีกหน่อยจะสามารถใส่เสื้อผ้าเองได้
>> เมื่อเติบใหญ่ต้องได้ไปทำบัตรประชาชนแน่นอน
>> ในเรื่องความรัก
>> หากมีแฟนอยู่แล้วก็จะเป็นคนที่เห็นหน้ากันก่อนที่จะเป็นแฟน
>> หากยังไม่มีแฟนก็จะเป็นเพราะยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
>> ก็ให้แก้เคล็ดโดยการพยายามต่อไป
>>
>> ++++++++++++++
>>
>>
>> สำหรับคนที่เกิดวันอังคาร
>>
>> วันนี้หากใช้เงินมากเกินตัวอาจจะต้องไปxxx้หนี้ยืมสินเขาได้
>> ไปตลาดถ้าต่อราคามากๆ อาจถูกแม่ค้าด่า ดาวประจำตัวยังโคจรรอบคลองเตย
>> ให้รีบไปทำงานแต่เช้า ถ้าไปสายจะถูกเจ้านายเขม่น ถ้าปวดหัวก็ให้นอนพักผ่อน
>> อย่ากินแอสไพรินตอนท้องว่าง และอย่ากินกาแฟก่อนนอนเพราะจะทำให้นอนไม่หลับ
>> เด็กเกิดวันนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายควรรีบทำสูติบัตร
>> เมื่อถึงวัยเรียนก็ควรพาไปเข้าเรียน
>> ถ้าเลี้ยงไม่ดีจะกลายเป็นโจรหรือติดยาบ้า
>> ถ้าเลี้ยงดีอาจได้เรียนมหาวิทยาลัย ช่วง 5-7 ขวบควรพาเด็กเที่ยวเขาดิน
>> เรื่องของความรักตอนนี้ถ้าปิ้งใครอยู่ก็ให้รีบเข้าไปคุย
>> ไม่งั้นเขาไม่รู้ว่าเรากำลังจีบเขาอยู่
>>
>> +++++++++++++++
>>
>> สำหรับคนที่เกิดวันพุธ
>>
>> วันนี้พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์
>> ดาวพลูโตอยู่ห่างสุด
>> ตื่นขึ้นมาควรแก้เคล็ดด้วยการบิดขี้เกียจ และล้างหน้าแปรงฟันแก้ปากเหม็น
>> ถ้าฝนตกไม่ควรออกไปเล่นน้ำฝนเป็นอันขาดเพราะจะเป็นหวัดได้
>> ขึ้นรถเมล์ระวังกระเป๋า รถเมล์จะเข้ามาเก็บตังค์
>> เดินทางไกลจะเจอแต่คนแปลกหน้า
>> ในวันนี้ถ้าเจอพระตอนบ่ายสามห้ามใส่บาตรเด็ดขาด เจอเพื่อนจงทักทายดีๆ
>> แต่ถ้าเจอเจ้าหนี้ควรหลบหนีไกลๆ
>> เด็กเกิดวันนี้ถ้าเป็นชายโตขึ้นอาจจะเป็นตุ๊ดได้
>> เมื่อเติบใหญ่ควรพาไปเกณฑ์ทหาร
>> และไม่ควรทำ สด 43 ปลอมเพราะจะถูกจับ ถ้าเป็นหญิงเมื่ออายุ 20
>> จะบรรลุนิติภาวะได้เอง
>> ในช่วงอายุนี้บิดามารดาไม่ควรอนุญาติให้ลูกสาวบวชเป็นอันขาด
>> ในเรื่องของความรักคนที่มีแฟนอยู่อาจเลิกกันได้
>> คนที่ยังไม่มีแฟนอาจจะมีคนมาปิ๊งก็ได้
>>
>> +++++++++++++++
>>
>> สำหรับคนที่เกิดวันพฤหัส
>>
>> วันนี้ถ้าเหยียบขี้หมาให้รีบเอารองเท้าขูดกับฟุตบาทโดยเร็ว
>> มิฉะนั้นจะเหม็น
>> ขึ้นรถเมล์ควรเกาะราวให้แน่นโดยเฉพาะทางโค้ง
>> และไม่ควรตดบนรถเมล์เป็นอันขาด
>> ถ้าอากาศร้อนไม่ควรใส่เสื้อหนาว ถ้าอากาศเย็นไม่ควรดื่มน้ำแข็ง
>> เมื่อเห็นพัดลมกำลังหมุนอย่าเอามือเข้าไปแหย่มิฉะนั้นเลือดจะออกได้
>> เด็กเกิดวันนี้เมื่อเกิดใหม่ๆ ฟันจะยังไม่ขึ้นควรรอไปเรื่อยๆ
>> ฟันจะขึ้นเองอย่าพาเด็กไปใส่ฟันปลอมเพราะจะมีฟันเกิน
>> ไม่ควรเลี้ยงเด็กทารกด้วยนมข้นหวานจะทำให้ขาดสารอาหารได้
>> ให้เลี้ยงด้วยนมแม่ไปก่อนจนกว่าจะมีอายุครบ 2 ขวบ
>> เมื่อโตขึ้นผู้ปกครองควรสอนให้เด็กล้างก้นเองมิฉะนั้นจะเป็นภาระในอนาคตได้
>> ในเรื่องของความรักหากยังเป็นแฟนกันจะยังไม่มีทะเบียนสมรส
>> หากตัดสินใจจดทะเบียนก็จะต้องไปจดที่อำเภอหรือเขตแน่นอน
>>
>> +++++++++++++++
>>
>> สำหรับคนที่เกิดวันศุกร์
>>
>>
>> วันนี้ห้ามทิ้งแฟนเป็นอันขาดเพราะแฟนอาจจะเสียใจได้ และห้ามกินของมันๆ
>> ระวังจะอ้วน ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยๆ 3 เดือนต่อ 1 อันกำลังเหมาะ
>> และไม่ควรลงเล่นน้ำคลองในใจกลางกรุงเทพฯเป็นอันขาด
>> วันนี้ดาวพระศุกร์โคจรมาพบกับดาวพระเสาร์ดังนั้นถ้าวันนี้เป็นวันศุกร์พรุ่งนี้ก็ควร
>> จะเป็นวันเสาร์ และวันต่อไปจะเป็นวันอาทิตย์
>> เด็กเกิดวันนี้เป็นผู้มีบุญญา วาสนาส่ง เมื่อแบเบาะจะยังพูดไม่ได้
>> ควรสอนไปเรื่อยๆเด็กจะพูดได้เอง ยกเว้นถ้าเด็กเป็นใบ้ ในระยะ 6-8
>> ขวบควรสอนให้เด็กเข้าบ้านทางประตู
>> ไม่ควรสอนให้เด็กเข้าบ้านทางหน้าต่างเด็ดขาด
>>
>> ++++++++++++++
>>
>> สำหรับคนที่เกิดวันเสาร์
>>
>> วันนี้ถ้าเดินผ่านกองขยะควรเอามือปิดจมูก และรีบเดินผ่านโดยเร็ว
>> หลังกินข้าวถ้ามีเศษอาหารติดฟันไม่ควรเอาตะเกียบแคะฟันเป็นอันขาด
>> ควรใช้ไม้จิ้มฟันดีที่สุด
>> ถ้าเล็บยาวควรตัดให้สั้นแต่ถ้าสั้นควรรอให้ยาวก่อน
>> คืนนี้ไม่ควรนอนดึกเพราะพรุ่งนี้จะตื่นสาย
>> เวลาอาบน้ำควรถูสบู่ให้เกลี้ยงเกลา
>> เวลาไปวัดควรสวมเสื้อผ้าไปด้วยและ ไม่ควรแคะขี้มูกต่อหน้าพระสงฆ์
>> ถ้าคันจมูกควรจามให้เรียบร้อยก่อนเข้าวัด
>> แต่ถ้าไปสวน *** ห้ามยื่นมือเข้ากรงเสือเป็นอันขาด
>> ถ้าขับรถไม่เป็นก็ไม่ควรขับ
>> จะเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน ให้แก้เคล็ดโดยการนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่จะดีกว่า
>> เด็กที่เกิดวันนี้เมื่อยังเล็กถ้าหิวจะร้องให้
>> ควรป้อนนมเสียเด็กก็จะหยุดร้องเอง
>> และเมื่อป้อนนมเสร็จแล้วเด็กอิ่มไม่ควรเข้าไปเล่นกับเด็กทันที
>> เด็กอาจจะอ้วกใส่หน้าได้ ควรทำให้เด็กเรอเสียก่อน
>> เมื่อโตขึ้นมาหน่อยควรเลี้ยงด้วย
>> อะแล็คต้าเอ็นเอฟหนองโพและสเปย์รอยัลตามลำดับ
บันทึกการเข้า

แผ่นดิน...มันยังไหว......กรู.......ก็ต้องไหวสิว่ะ......สู้โว้ย...T_T
โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #906 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2005, 03:45:50 PM »

คุณเคยเจอ คุณลุงคนนี้ มั้ย

1. รู้มั้ยว่าทำไม คุณลุง ถึงพาเพื่อนแห่กันไปดูหนังทีละ 18 คน...
ก็เพราะโรงเขาประกาศไว้ว่า ต่ำกว่า 18 ห้ามเข้า น่ะสิ(!!)

2. คุณลุงไปร้านขายทีวี ถามคนขายว่า "ไม่ทราบว่าที่นี่มีทีวีสีขายรึเปล่า"
คนขายตอบว่า "มี" คุณลุงเลยบอกว่า "งั้นเอาสีเขียวมาเครื่องนึง" (!!)

3. คุณลุงเข้าไปเดินดูของในร้านจีฉ่อย เห็นกระติกน้ำทำจากโลหะอันหนึ่งวางอยู
่แล้วถามอาอึ้มว่า "อึ้ม ไอ้ที่วอบแวบสีเงินๆ นั่นอะไร"
อึ้มตอบว่า "กระติกน้ำไง" "แล้วมันทำอะไรได้มั่ง"
"ก็ใส่ของร้อนก็ร้อนนาน ใส่ของเย็นก็เย็นนาน"
คุณลุงเห็นว่าน่าสนใจ เลยตกลงซื้อมาอันนึง
วันรุ่งขึ้น คุณลุงก็เอากระติกน้ำที่พิ่งซื้อมาไปที่ทำงาน
ตั้งอวดบนโต๊ะอย่างภาคภูมิ
หัวหน้าคุณลุงเห็นเข้าเลยถามขึ้น "อะไรนั่นน่ะ"
"กระติกน้ำครับ" "แล้วมันมีอะไรพิเศษรึ"
"ก็ใส่ของร้อน ก็เก็บความร้อนได้ หรือใส่ของเย็น ก็เก็บความเย็นได้"
หัวหน้าเลยถามว่า "แล้วใส่อะไรมาล่ะ" คุณลุงยืดก่อนจะตอบว่า
"กาแฟร้อน 2 แก้ว กับไอติม 1 ถ้วยครับ" (!!)

4. ทุกครั้งหลังถ่ายเอกสารเสร็จ คุณลุงจะเอาฉบับก๊อปปี้มาตรวจทานเทียบกับต้นฉบับ
เพื่อเช็คดูว่ามีคำไหนสะกดผิดรึเปล่า (!!)

5. คุณลุงจะยิ้มทุกครั้งที่ฟ้าผ่า เพราะนึกว่ามีคนกำลังถ่ายรูปเขาอยู่ (!!)

6. รู้ป่าวว่า ทำไมคุณลุงถึง กดโทรศัพท์เบอร์ฉุกเฉิน(911)ไม่ได้
ก็เพราะเขาหาเบอร์ 11 (สิบเอ็ด) บนแป้นไม่เจอน่ะสิ (!!)

7.คุณลุงเพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์มาใหม่เครื่องหนึ่ง เล่นไปซักพักก็เจอปัญหา
คุณลุงเลยลองกดที่ HELP บนแป้น F1 ผ่านไปพักใหญ่ คุณลุงหงุดหงิดมาก
เลยโทรไปต่อว่าร้านที่เขาซื้อคอมมา "ผมกด F1 ตามที่เครื่องบอก
เวลาที่มีปัญหา แล้วก็รออยู่เป็นชั่วโมง ยังไม่เห็นมีใครมาช่วยเลย"

8. คุณลุงไปหาหมอในสภาพหูบวมแดงน่ากลัว หมอถามว่าไปโดนอะไรมา
คุณลุงตอบว่า "ผมกำลังรีดผ้าอยู่ แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แต่แทนที่จะหยิบโทรศัพท์มาพูด
ผมดันเผลอ เอาเตารีดขึ้นมาแนบหูน่ะสิ"
"โอ้ว เดียร์" หมออุทานเป็นภาษาฝรั่งด้วยความเวทนา
"แล้วหูอีกข้างทำไมถึงแดงเหมือนกันล่ะ" หมอถามต่อ
"ก็ไอ้บ้านั่นเสือ_ โทรกลับมาอีกรอบอ่ะดิหมอ" (!!)

9. หลังจากใช้ความพยายาม ต่อจิ๊กซอว์อยู่นานในที่สุดคุณลุงก็ต่อเสร็จ
เขาเอาไปอวดเพื่อนด้วยความภูมิใจ "เป็นไง เนี่ยฉันใช้เวลาต่อแค่ 5 เดือนเองนะโว้ย"
เพื่อนคุณลุงงงที่เขากล้าอวด " 5 เดือนเหรอ ! แถวบ้านฉันเรียกว่าโคตรนานเลยนะนั่น"
"แกนี่ไม่รู้อะไร" คุณลุงไม่ยอมลดละ "ดูที่กล่องนี่ เห็นมั้ย มันบอกว่า
'สำหรับ 4 - 7 ปี 'แต่ฉันใช้เวลาแค่ 5 เดือนเอง"
#( For 4-7 years) หมายถึงสำหรับเด็กอายุ 4 ถึง 7 ปีย่ะ

บันทึกการเข้า

บางโพ 5
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #907 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2005, 07:34:25 PM »

ผมรักแม่นะครับ.......แต่ผมทำได้แค่นี้

มีครอบครัวหนึ่งอยู่กันมาอย่างรักใคร่กันเป็นที่สุด ซึ่ง
เพื่อนบ้านต่างอิจฉากับความรักใคร่กันของครอบครัวนี้

ครอบครัวนี้มีด้วยกัน 4 คน มีแม่ และลูกชายอีก 3 คน

วันหนึ่งผู้เป็นแม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยร้ายแรง นั่นก็คือโรคหัวใจ

รุรแรงขนาดจำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจโดยด่วน ลูกชายทั้ง 3 คน

เป็นห่วงแม่มากและรู้ว่าตนเองนั้นต้องทำอะไรซักอย่างให้แม่บังเกิดเกล้าของพวกเค้า

คนโตเป็นนักธุรกิจพันล้านมีธุรกิจใหญ่โต

ได้รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในทุกๆด้านโดยยอมสละเวลาในการเซ็นสัญญา

เพื่อมาคอยเฝ้าไข้แม่ของเค้า คนรองเป็นนายแพทย์ชั้นนำของโลก

รับผิดชอบในการรักษาแม่และทำการเรียกประชุมสมาคมแพทย์ทั่ว

โลก เพื่อหาวิธีรักษาแม่ของเค้า

.....คนเล็กยั...ไม่มีงานทำ เนื่องจาก

ตนนั้นมิได้เฉลียวฉลาดเหมือนกับพวกพี่ๆของเค้า และสำนึกตัว

อยู่ตลอดว่าตนเองนั้นคงไม่มีกำลังพอที่จะช่วยแม่ได้อย่างที่พี่ๆทั้ง 2

ทำได้ แต่เค้ารู้ว่าตนเองต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อแม่ของเค้า

....................หนึ่งอาทิตย์ต่อมา............

การผ่าตัดหัวใจเป็นไปได้ด้วยดี และแม่ได้พบหน้า

ลูกทั้ง 2 คนคือคนโตและรอง แต่กลับไม่ได้พบลูกคนเล็ก

...แม่จึงถามว่า "น้องไปไหนหล่ะลูก ?"

แต่คนโตกลับบ่ายเบี่ยงไปว่าแม่พึ่งฟื้น

ให้ทานอาหารก่อนแล้วคนโตก็ออกไปนำอาหารมาให้แม่

แม่ถามคนรองเหมือนอย่างเก่า "แล้วน้องเค้าไปไหนหล่ะลูก ?"

แต่คนรองก็บอกกับแม่ว่า "ผมต้องไปเอายามาให้แม่ทานหลังอาหารก่อนนะครับ"

แล้วก้อเดินออกจากห้องไป แม่สงสัยมาก เพราะ อาการของลูกทั้ง 2

ไม่เหมือนปกติเลย เมื่อทุกคนอยู่พร้อมกันแม่จึงถามขึ้นอีกครั้ง

"ตกลงน้องเค้าไปไหนหล่ะลูก ? ? ? ? ?"

..... ทั้ง 2 อํ้าอึ้ง และไม่มีใครที่อยากจะตอบคำถามนั้น

แม่ยํ้าอีกครั้ง "บอกมานะน้องเค้าไปไหน"

คนโตหันหน้าไปมองแม่ด้วยนํ้าตาอาบแก้ม

......."น้องอยู่ในหัวใจแม่ครับ"........

แม่งงกับคำตอบของลูกคนโตมาก จึงหันหน้าไปถามลูกคนรองซึ่งกำ

ลังร้องไห้อยู่เหมือนกัน แม่ทำสีหน้าตกใจแล้วถามไปว่า "หมายความว่ายังไงลูก"

ดวงตาเอ่อล้นด้วยหยดนํ้าที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน

และลูกคนรองกล่าวด้วยเสียงอันสั่นคลอน "พวกเรา 3 คน พอรู้เรื่อง

ในอาการของแม่ ก็กระวนกระวายใจ ผมและพี่ได้ทำในสิ่งที่ตนเอง

ทำได้และควรกระทำแล้ว และน้องได้ทำในสิ่งที่พวกผมไม่มีความ

กล้าพอที่จะทำให้แม่ โดยที่พวกผมจะมาเปลี่ยนเวรกันในตอนเช้า

6 โมง เมื่อผมเข้ามาถึงกลับไม่เห็นน้องอยู่ในห้องของแม่ แต่มีโน๊ต

เขียนไว้ตรงเตียงแม่ว่า "พี่รอง ผมอยู่ในห้องนํ้านะและไม่ต้องตกใจ

กับสิ่งใดที่จะเห็นทั้งสิ้น" ผมเดินไปที่ห้องนํ้าและผมก็ได้เห็นภาพ

ที่ผมต้องทรุดตัวลงไปกับพื้น น้องได้ทำการฆ่าตัวตายโดยใช้มีดที่

นำมาปอกผลไม้ กรีดลงไปที่ข้อมือตัวเองในอ่างนํ้าโดยให้เลือดไหล

ช้าๆ......เพื่อที่หัวใจจะยังสามารถทำงานและสามารถนำมาช่วยแม่ได้

น้องเขียนจดหมายในห้องนํ้าไว้ว่า "นำหัวใจของผมไปรักษาแม่เถอะ

ครับ ผมรักแม่ แต่ผมทำได้แค่นี้ ลาก่อนครับ ผมรักพี่มากฝากดูแลแม่

ด้วยนะครับ"

"น้องตายแล้วเพราะเลือดไหลมากเกินไป และผมก็ได้

นำหัวใจของน้องมาช่วยแม่ครับ" คนรองพูดจบในขณะที่ยังร้องไห้ไม่หยุด

"มันไม่จริงใช่มั้ยลูก ? มันไม่จิงใช่มั้ย น้องแค่ออกไปหางาน

ทำใช่มั้ย อย่ามาล้อเล่นกะแม่แบบนี้นะ" แม่พูดออกมาด้วยเสียงตื่น

ตระหนก ลูกคนโตเข้าไปปลอบแม่ที่ยังปฎิเสธเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งนํ้าตา "

แม่ครับพวกผม 2 คนให้แม่ยังไม่ได้ครึ่งของน้องเลย เรา 3

คนรักแม่มากและผมก็เข้าใจน้องดี แม่ต้องทำใจนะครับ" ลูกคนโต

ปลอบไปในขณะที่ยังร้องไห้ไม่หยุด

"พวกเรายังอยู่ด้วยกัน 4 คน เหมือนเดิมนะครับ

ไม่มีวันใดที่เราจะจากกันหรอกครับ..."

แม่สะอื้นทั้งนํ้าตา "แม่รักลูกทุกคนมากนะลูก และลูกทุกคนจะอยู่ใน

ใจของแม่ตลอดไป"

Credit : หนังสือคำสอน รร.เซนต์ฟรัง

บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #908 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2005, 09:30:05 AM »

เฮฮาภาษาแสลง

คุยกับเมกันเรื่องแสลงครับ ผมบอกว่าแสลงอังกฤษเรียกบุหรี่ว่า "แฟก" (Fag) เมกันร้องเจี๊ยก บอกว่าแสลงเมกันแปลว่า "เกย์" ดังนั้นถ้าท่านจะพูดประโยคต่อไปนี้ต้องเลือกทวีปหน่อยนะครับ

"For pleasure of life, I normally take 1 or 2 fags after dinner"
 
"เพื่อชีวีที่สุขี ปรกติผมเลยเล่น "แฟก" ซักตัวสองตัวหลังอาหารเย็น"
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
nuchy
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 16


« ตอบ #909 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2005, 12:16:04 PM »

จุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายของชีวิต
แตกต่างหรือไม่เปลี่ยนไปเลย
ขึ้นอยู่กับว่าเราดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างไร
ทุกครั้งที่พบว่าตัวเองเปลี่ยนไป...จง "ดีใจ"
เพราะอย่างน้อยเราก็รู้ว่าไม่ได้ย่ำอยู่กับที่
ทุกครั้งที่ก้าวไปข้างหน้า...หรือรั้งท้ายอยู่ข้างหลัง
ทุกครั้งที่ต้องเล่นบทเป็นผู้ตามหรือผู้นำ
จงเล่นบทน้นให้เต็มที่
ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของชีวิตของเรา คือตัวเราเอง

ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตเรา คือความอวดดี

ความเขลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตเราคือ การเชื่อคนง่าย

ความเศร้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตเราคือ ความอิจฉา

ความผิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การทอดทิ้งตัวเอง

บาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การหลอกตัวเอง

อารมณ์ที่น่าสงสารที่สุดคือ การทำตนให้ต่ำลง

ชีวิตที่น่าสรรเสริญทีสุดคือ การเลือกทางแห่งความก้าวหน้า

การล้มละลายของการดำเนินชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ความท้อแท้ใจ

สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการดำเนินชีวิตคือ การมีสุขภาพดี

หนี้แห่งการดำเนินชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ

หนี้ของความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การให้อภัย

ความไม่สมบูรณ์ที่สุดของการดำเนินชีวิต คือ การไม่รู้จริง

ความพอใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการดำเนินชีวิตคือ การให้ทาน
คนส่วนใหญ่มักจะกลัวการเริ่มต้นใหม่จึงมักจะรีรอ และคอย คอย คอย ต่อไป รอให้โชคชะตาหล่นทับให้หัวแบน หรือไม่ พอทำอะไรผิดพลาดแล้วก็ร้องห่มร้องไห้ แต่ไม่เคยคิดแก้ปัญหา หรือทำสิ่งนั้นให้ดีขึ้น อย่ามัวเสียใจ-เสียดายในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ ชีวิตคนเราบางครั้งไม่มีอะไรที่มันสูญเปล่ามันจะย้อนกลับมาหาเราพร้อมกับสิ่งดี ๆ ที่เราคาดไม่ถึง Wink







บันทึกการเข้า
nuchy
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 16


« ตอบ #910 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2005, 10:39:57 PM »

เรื่องเมืองคนโง่
ในโลกนี้ถ้าหากไม่มีคนโง่แล้ว คนฉลาดก็ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาได้ เพราะคนฉลาดกับคนโง่เป็นของคู่กัน การอยู่ร่วมกันกับคนโง่ อาจเป็นอันตรายได้ง่าย เช่น อาจถูกจับกุม ทำร้ายในเรื่องเล็กน้อย หรือแม้ไม่มีความผิดเลย ก็อาจถูกจับกุมลงโทษอย่างหนักด้วย เพราะเหตุนี้การที่จะเข้าไปอยู่กับหมู่คนโง่ จึงต้องระวังภัยที่จะพึงมีมาถึงตัวเสมอ

คนโง่พระพุทธเจ้าสอนว่าเป็นคนพาล เพราะคำว่า พาล หมายถึง คนเขลา หรือ อ่อนต่อการศึกษาอบรม แล้วมรนิสัยใจคอเป็นไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะในทางที่ร้าย คนพาลถนัดมาก การอยู่ร่วมกับคนพาลพระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นทุกข์เสมอไป เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรู ดังคำสุภาสิตดังนักประพันธ์ได้กล่าวไว้ว่า

" ถ้าอยู่ร่วมกับพวกพาลพาผลาญสุข นำความทุกข์มาให้ใจตกต่ำ เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรูหมู่อธรรม ความ+++ก็จะมาคบหาเรา "

ผู้อยู่ร่วมกับคนพาล หรือคนโง่รอดตายอย่างหวุดหวิดมาแล้วในอดีต ดังตัวอย่างเหตุการณ์นี้

ชาย 2 คน มีอาชีพต่างกันคนหนึ่งเป็นช่างตัดผม อีกคนหนึ่งเป็นบัณฑิตเขาทั้งสองพากันเข้าไปในเมืองๆ หนึ่ง ด้วยความประสงค์จะหางานทำ คนทั้งสองเห็นชาวเมืองทำอะไรแปลกๆ โง่ๆ เช่น ขายสินค้าขายอาหารทุกอย่างในราคาเท่ากันหมด โดยไม่คำนึงถึงว่าเป็นของดีหรือเลว เขาจับได้ว่า ทั้งราชาและราษฎรในเมืองนั้นล้วนเป็นคนโง่ๆ ด้วยกันทั้งนั้น คนที่เป็นบัณฑิตจึงบอกกับเพื่อนว่า

" เพื่อนเอ๋ย!! เราอย่าอยู่ในเมืองนี้เลย เพระเราจะต้องได้รับภัยและเดือดร้อนในภายหลัง ไปอยู่ในเมืองอื่นเถอะจะดีกว่า "

ช่างตัดผมไม่ยินยอม กลับเถียงว่า " อยู่กับคนโง่สิดี จะเดือดร้อนอย่างไรนะ เอาละผมตกลงจะตั้งร้านตัดผมอยู่ที่นี่แหละ เข้าใจว่าต้องรวยในเร็ววันนี้ "

บัณฑิตรู้สึกอัดอั้นตันใจเต็มที จึงบอกกับเพื่อนว่า " เอาละ ถ้าอย่างนั้นผมตกลงตามใจคุณ แต่ผมจะต้องกลับไปอยู่บ้านของผม หากคุณมีเรื่องเดือดร้อน และต้องการให้ผมช่วย ก็โปรดส่งข่าวให้ผมทราบบ้าง "

แล้วเขาก็เดินทางกลับบ้านเมืองของตน เมื่อเวลาผ่านไปได้ 1 ปี เขาก็ได้รับข่าวร้ายจากช่างตัดผมว่า จะต้องถูกเผาไฟทั้งเป็นโดยไม่ได้ทำความผิดอะไรสักหน่อย ช่างตัดผมเล่าในจดหมายว่า วันหนึ่งเขาไปดูนักโทษที่จะถูกเผาไฟทั้งเป็นพร้อมกับชาวเมืองเป็นอันมาก พวกชาวเมืองได้ตะโกนบอกพระราชาว่า

" นักโทษตัวเล็กนิดเดียว เอาขึ้นเผาไฟไม่น่าดูแน่ ควรหาคนที่มีรูปร่างหนาใหญ่เอาไปเผารวมกับนักโทษด้วย จะได้ดูสนุกสนานยิ่งขึ้น "

ช่างตัดผมเล่าต่อไปว่า เผอิญตัวเขาเป็นคนอ้วนใหญ่กว่าทุกคนในจำนวนที่ไปในที่นั้น พระราชาจึงออกคำสั่งให้จับเขาเอาไปเผาไฟทั้งเป็น ตามความเห็นของประชาราษฎร์ เขาอ้อนวอนขอยืดเวลา 3 วัน เพื่อจัดการกับทรัพย์สินให้เรียบร้อยก่อน พระราชาอนุยาตให้ตามประสงค์ ตอนท้ายเขาอ้อนวอนให้บัณฑิตช่วยเอาชีวิตเขาไว้บ้าง โดยบอกว่าถ้าช่วยได้สำเร็จจะไม่ลืมบุญคุณ

ฝ่ายบัณฑิตเมื่ออ่านจดหมายจบลงแล้ว ก็รู้สึกสงสารเพื่อนเป็นอันมาก จึงซื้อผ้าขาวสำหรับนุ่งห่ม 1 สำรับ พร้อมด้วยดอกไม้ธูปเทียนและดอกไม้สำหรับบูชาเทวดา แล้วรีบขึ้นมาช่วยเพื่อน

เขาไปถึงที่เผานักโทษ ก่อนกำหนดประหารชีวิตเพียงเล็กน้อย รอจนพระราชาเสด็จออกประทับแล้ว จึงควบม้าไปเฝ้า เขาทูลพระราชาว่า

" วันนี้ข้าพเจ้าเป็นพราหมณ์บัณฑิตได้ตรวจดู คัมภีร์ว่าด้วยฤกษ์มรณะแล้ว คัมภีร์บอกว่า ผู้ที่เผาตัวตายในวันนี้เวลา 14.15 น. จะได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นเดียวกับพระอิศวร และจะมีนางฟ้าเป็นบริวารมากมาย ดังนั้นข้าพเจ้าจึงใคร่อ้อนวอนขอให้พระองค์ เอาข้าพเจ้าไปเผาแทนนักโทษทั้ง 2 คนนั้นเถิด พระพุทธเจ้าข้า !! "

พระราชาได้ฟังคำบัณฑิต แล้วเห็นเป็นโอกาสอันดีในการที่พระองค์จะได้เกิดในสวรรค์ชั้นเดียวกับพระอิศวร จึงพูดว่า

" อย่าๆ เลย ถ้าเป็นอย่างว่า ฉันจะยอมตามคำขอร้องของท่านไม่ได้เป็นอันขาด ฉันจะเผาตัวฉันเองจะเข้าท่ากว่า ฉันอยากไปเกิดบนสวรรค์ชั้นเดียวกับพระอิศวร...."

พระชนนีของพระราชาได้ฟังอยู่ด้วย รู้สึกเป็นปีติยิ่งนัก ในการที่จะได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นเดียวกับพระอิศวร จึงบอกกับพระราชาว่า

" ลูกเอ๋ย ขอให้แม่ได้รับเกียรติเผาตัวเองสักครั้งเถอะ แม่แก่แล้วแม่อยากจะไปอยู่สวรรค์ชั้นเดียวกับพระอิศวร " พระราชาไม่กล้าที่จะขัดใจพระมารดาผู้บังเกิดเกล้า จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่แก้นักโทษและช่างตัดผมออก แล้วเชิยพระมารดาขึ้นนั่งบนกองฟืน จัดการส่งพระนางขึ้นบนสวรรค์ตามที่ขอ เมื่อช่างตัดผมถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว บัณฑิตก็รีบขึ้นมาหาเขา ขึ้นม้าออกจากเมืองคนโง่ไปโดยเร็วพร้อมกับต่อว่าช่างตัดผมว่า " นั่นไหมล่ะ...ผมบอกแล้วคุณไม่ยักเชื่อ นี่เคราะห์คุณยังดีได้ผมมาช่วยไว้ทัน ไม่ก็ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว "

คติจากเรื่องนี้ : การอยู่ร่วมกับคนโง่นำภัยมาให้ ผู้ฉลาดควรหลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกับคนโง่



บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #911 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2005, 02:05:50 PM »

01489 Never lie to your mother
>> Brian Hester invited his mother over for dinner.
>>
>> During the course of the meal, Brian's mother couldn't help but
>> keep noticing how beautiful Brian's roommate, Stephanie, was.
>>
>> Mrs. Hester had long been suspicious of a relationship between
>> Brian and Stephanie, and this had only made her more curious.
>>
>> Over the course of the evening, while watching the two react,
>> Mrs. Hester started to wonder if there was more between Brian
>> and Stephanie than met the eye.
>>
>> Reading his mom's thoughts, Brian volunteered, "I know what you
>> must be thinking, but I assure you Stephanie and I are just
>> roommates."
>>
>> About a week later, Stephanie came to Brian saying, "Ever
>> since your mother came to dinner, I've been unable to find
>> the beautiful silver gravy ladle. You don't suppose she took
>> it, do you?"
>>
>> Brian said, "Well, I doubt it, but I'll send her an e-mail
>> just to be sure." So he sat down and wrote:
>>
>> Dear Mother:
>>
>> I'm not saying that you "did" take the gravy ladle from
>> the house,
>>
>> I'm not saying that you "did not" take the gravy ladle.
>>
>> But the fact remains that one has been missing ever since you
>> were here for dinner.
>>
>> Love,
>>
>> Brian
>>
>> Several days later, Brian received a letter from his mother
>> that read:
>>
>> Dear Son:
>>
>> I'm not saying that you "do" sleep with Stephanie,
>>
>> and I'm not saying that you "do not" sleep with Stephanie.
>>
>> But the fact remain that if she was sleeping in her own bed,
>>
>> she would have found the gravy ladle by now.
>>
>> Love,
>>
>> Mom
>>
>> LESSON OF THE DAY... NEVER LIE TO YOUR MOTHER
 
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #912 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2005, 04:27:30 PM »

 Shocked Shocked Shocked
คำเตือน  ผู้ที่ หน้าท้องไม่แข็งแรง  เพิ่งผ่าตัดบริเวณท้องมาแผลยังไม่สนิท ปวดฉี่จนสุดกลั่น ท้องร่วงอย่างยุนแยง  ไม่ควรอ่านกระทู้นี้ นะคร๊าบ
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
HanumanA
ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน
Full Member
***

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 125

หะ นุ มา นะ


« ตอบ #913 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2005, 04:33:26 PM »

หวัดดีพี่ๆทุกท่าน
คำถามสิบข้อ ผมตอบไม่ได้สักข้อนึง แฮะๆ
สรุปว่าผมเป็นคนน่าคบอย่างยิ่งใช่ไหมครับ? คริๆ
บันทึกการเข้า

Life is Freedom's seed well grown under the sun.
โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #914 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2005, 09:13:04 AM »

 Grin
บันทึกการเข้า

บางโพ 5
หน้า: 1 ... 58 59 60 [61] 62 63 64
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.107 วินาที กับ 21 คำสั่ง