เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
มิถุนายน 25, 2025, 05:29:49 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ผมอ่านเจอมาวันนี้  (อ่าน 3316 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
suttinun05
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22


คนรักปืน


« เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2010, 06:17:27 PM »

ผมได้อ่านคอลัมน์นี้แล้วผมว่าไม่ดีเลย ทำให้สังคมคนทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับปืนเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ผมอ่านแล้วมันเคืองๆในความรู้สึกนะครับ
(http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=337&contentID=64330)
วันเสาร์ ที่ 08 พฤษภาคม 2553 เวลา 0:00 น
   เนื้อหาข่าว

ปืนกับพระเครื่องว่ากันว่ามีแต่ราคามูลค่าที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
   
ดีกว่าหุ้น ดีกว่าทองคำ
   
พระเครื่องยิ่งเก่ายิ่งมีราคา อาวุธปืนยิ่งมีราคาแพงขึ้นตลอดเวลา
   
ปืนแพงเพราะทางการควบคุมจำนวนอย่างเคร่งครัด จำกัดโควตา  ขอมีปืนสักกระบอกกับนายทะเบียนสมัยนี้ยากเย็นแสนเข็ญยิ่งกว่าขออนุญาตมีเมียสองคนพร้อมกัน
   
หลบเลี่ยงไปซื้อปืนสวัสดิการของมหาดไทยบ้าง ตำรวจบ้าง ก็เจอเงื่อนไขสารพัด
     
ปืนพกสั้นราคาสองสามหมื่นเมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อน วันนี้ห้าหมื่น อัพ ของเก่าก็ประมาณนั้น
   
ไปขอใบอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนสมัยนี้ท่านก็แสนจู้จี้จุกจิกยังกะคนแก่วัยเลือดจะไปลมจะมา
   
แต่ก็นั่นแหละพูดถึงนักเลงพระเครื่อง นักเลงปืน แพงและยากยังไงก็ต้องหามาสะสมให้ได้
   
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ บัญญัติหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนว่าให้ออกแก่บุคคลสำหรับใช้ในการป้องกันตัวหรือทรัพย์สิน หรือในกีฬาหรือยิงสัตว์
   
ส่วนจะมีสักกี่กระบอกมี หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๕๐๑/ว ๘๘๖ ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๒๑ กำหนดว่าบุคคลควรมีอาวุธปืนได้เพียงคนละ ๒ กระบอก   
ท่านนายอำเภอกำลังดูกฎหมายและระเบียบดังกล่าวอย่างหนักเนื่องจากเจ้าหน้าที่ยื่นเรื่องคำร้องขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืนขนาด .๔๐ นิ้วของผู้ยื่นคำขอรายหนึ่ง
   
ต้องเปิดตำรากฎหมายกันพัลวันเพราะนอกจากเป็นปืนรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว  ผู้ขอรายนี้ยังมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองถึง ๑๕ กระบอก
   
ปกติจะพิจารณาอนุญาตให้บุคคลทั่วไปมีปืนยาว ๑ กระบอก ปืนสั้น ๑ กระบอกเท่านั้น
   
และจะพิจารณาให้เฉพาะผู้ที่มีเหตุผลและความจำเป็นไม่เกินขนาด .๓๘ นิ้ว
   
อันนี้เล่นขนาด .๔๐ นิ้วเชียวเรอะ 
   
จึงสั่งไม่อนุญาตตามคำร้องดังกล่าว
   
แหม แค่อีกกระบอกเดียวสิริรวมแล้วสิบหกกระบอกเท่านั้นเอง  คิดเล็กคิดน้อยไปได้ท่าน ผู้ยื่นคำขอจึงอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งไม่อนุญาต ว่าปืนรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการกีฬาและการแข่งขันโดยเฉพาะเท่านั้น
   
ก็คนมันรักปืนนะ จะเข้าใจบ้างมั้ยนี่
   
ท่านนายอำเภอยังไงก็ไม่อนุญาต รุ่นน้องที่โรงเรียนนายอำเภอกำลังพัลวันพัลเกอยู่กับ ป.ป.ช.เห็น ๆ
   
ต้องฟ้องต่อศาลปกครองขอให้นายอำเภอออกใบอนุญาตซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคคล (ป.๓) มาให้เสียโดยดี 
   
ไม่ได้ขอพี่เอ็ม ๗๙ ที่กำลังนิยมสักหน่อยทำเป็นหวงไปได้
   
ศาลปกครองชั้นต้นเห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีคำสั่งปฏิเสธไม่ออกใบอนุญาต ให้มีและใช้อาวุธปืนให้แก่ผู้ฟ้องคดี เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษายกฟ้อง
   
ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า ดุลพินิจในการจำกัดจำนวนอาวุธปืนของนายทะเบียนทั้งที่ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ไม่ได้กำหนดจำนวนอาวุธปืนที่ประชาชนครอบครองได้ไว้จึงขัดต่อมาตรา ๓๐ แห่ง รัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ (ขณะนั้น)
   
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ฝ่ายปกครองกระทำการใด ๆ ที่อาจมีผลกระทบสิทธิเสรีภาพ หรือประโยชน์อันชอบธรรมของเอกชนได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อำนาจและจะต้องกระทำการดังกล่าวในกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
   
ผู้ถูกฟ้องคดีเป็นนายทะเบียนท้องที่ประจำอำเภอมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาเพื่อออกใบอนุญาตให้บุคคลมีและใช้อาวุธปืน ตามมาตรา ๗  แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ
   
อีกทั้งมาตรา ๙ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติเดียวกันกำหนด  ให้ออกแก่บุคคลสำหรับใช้ป้องกันตัวหรือทรัพย์สินหรือในการกีฬาหรือ  ยิงสัตว์
   
เมื่อผู้ฟ้องคดียื่นคำขอมีและใช้อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ .๔๐ นิ้วโดยแจ้งว่าเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินและเพื่อใช้สำหรับการกีฬา ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่าผู้ฟ้องคดีมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองแล้ว ๑๕ กระบอก จึงน่าจะเพียงพอแล้วตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวจึงมีคำสั่งไม่อนุญาต
   
หนังสือกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ออกโดยหน่วยงานที่กำกับดูแล เป็นการวางแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติเป็นแบบเดียวกันทุกจังหวัด  จึงมิได้เป็นการเลือกปฏิบัติ
   
อีกทั้ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่งประกอบกับมาตรา ๑๓ กำหนดให้บุคคลมีและใช้อาวุธได้เท่าที่จำเป็น การที่ผู้ฟ้องคดีมีอาวุธปืนรวมอยู่แล้ว ๑๕ กระบอกในขณะที่ยื่นคำร้องเห็นว่าเพียงพอกับกรณีแห่งความจำเป็นในการป้องกันตัวหรือทรัพย์สิน หรือในการกีฬาหรือยิงสัตว์
   
หนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้นเป็น กฎมีผลบังคับเป็นการทั่วไปเพื่อให้นายทะเบียนยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการพิจารณา ไม่ได้วางหลักเกณฑ์เพื่อมาจำกัดสิทธิบุคคล จึงไม่ขัดกับมาตรา ๓๐ แห่งรัฐธรรมนูญดังกล่าว 
   
พิพากษายืน (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.๑๑๖/๒๕๕๐)
   
ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนรุ่นใหม่จำพวก อุจจาระ ปลาร้า ปลาแดก ไข่ไก่ แก้ขัดไปก่อน.

พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์
praepim@yahoo.com


     

 
บันทึกการเข้า

ใจเดียวกันแต่มันส์ส่วนตัว
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2010, 07:52:41 PM »

เนื้อหากระทู้น่าสนใจ แต่ จขกท. ตั้งชื่อกระทู้ไม่น่าสนใจเลย เพราะไม่รู้ว่าในกระทู้มีอะไรเลยครับ...

นายสมชายเสนอว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อกระทู้เป็น "คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เรื่องหนึ่งสั้นหนึ่งยาว" นะครับ...
บันทึกการเข้า
Ultraman Taro #รักในหลวง#
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 195
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1624



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2010, 08:09:10 PM »

ช่วยสรุปข่าวนี้ให้เด็กอย่างผมฟังรู้เรื่องหน่อยครับ  ไหว้ ฟังพวกคำเกี่ยวกฎกับหมายแล้วงงมาก
แล้วข่างนี้ ทาง+ หรือทาง-
บันทึกการเข้า

"อย่าแก่เพราะกินข้าว อย่าเฒ่าเพราะอยู่นาน" 
โบราณว่า อย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมา ใจเย็นเข้าไว้
RTCO
Full Member
***

คะแนน 50
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 286


Military Technical Training School


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2010, 08:18:24 PM »


   
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ฝ่ายปกครองกระทำการใด ๆ ที่อาจมีผลกระทบสิทธิเสรีภาพ หรือประโยชน์อันชอบธรรมของเอกชนได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อำนาจและจะต้องกระทำการดังกล่าวในกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
   
ผู้ถูกฟ้องคดีเป็นนายทะเบียนท้องที่ประจำอำเภอมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาเพื่อออกใบอนุญาตให้บุคคลมีและใช้อาวุธปืน ตามมาตรา ๗  แห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ
   
อีกทั้งมาตรา ๙ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติเดียวกันกำหนด  ให้ออกแก่บุคคลสำหรับใช้ป้องกันตัวหรือทรัพย์สินหรือในการกีฬาหรือ  ยิงสัตว์
   
เมื่อผู้ฟ้องคดียื่นคำขอมีและใช้อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ .๔๐ นิ้วโดยแจ้งว่าเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินและเพื่อใช้สำหรับการกีฬา ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่าผู้ฟ้องคดีมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองแล้ว ๑๕ กระบอก จึงน่าจะเพียงพอแล้วตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวจึงมีคำสั่งไม่อนุญาต
   
หนังสือกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ออกโดยหน่วยงานที่กำกับดูแล เป็นการวางแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติเป็นแบบเดียวกันทุกจังหวัด  จึงมิได้เป็นการเลือกปฏิบัติ
   
อีกทั้ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่งประกอบกับมาตรา ๑๓ กำหนดให้บุคคลมีและใช้อาวุธได้เท่าที่จำเป็น การที่ผู้ฟ้องคดีมีอาวุธปืนรวมอยู่แล้ว ๑๕ กระบอกในขณะที่ยื่นคำร้องเห็นว่าเพียงพอกับกรณีแห่งความจำเป็นในการป้องกันตัวหรือทรัพย์สิน หรือในการกีฬาหรือยิงสัตว์
   
หนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้นเป็น กฎมีผลบังคับเป็นการทั่วไปเพื่อให้นายทะเบียนยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการพิจารณา ไม่ได้วางหลักเกณฑ์เพื่อมาจำกัดสิทธิบุคคล จึงไม่ขัดกับมาตรา ๓๐ แห่งรัฐธรรมนูญดังกล่าว 
   
พิพากษายืน (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.๑๑๖/๒๕๕๐)
   
 

ดูจากท่อนนี้แล้วน่าจะเป็นทางลบกับผู้ชอบสะสมปืน
บันทึกการเข้า

"สุ จิ ปุ ลิ วินิมุตโต กถัง โส ปํณฑิโต ภเว"
ผู้ปราศจาก สุ จิ ปุ ลิ จะเป็นบัณฑิตได้อย่างไร
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2010, 08:37:56 PM »

คำพิพากษาศาลอุทรณ์

ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า ดุลพินิจในการจำกัดจำนวนอาวุธปืนของนายทะเบียนทั้งที่ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ไม่ได้กำหนดจำนวนอาวุธปืนที่ประชาชนครอบครองได้ไว้จึงขัดต่อมาตรา ๓๐ แห่ง รัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ (ขณะนั้น)
 
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด

ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ฝ่ายปกครองกระทำการใด ๆ ที่อาจมีผลกระทบสิทธิเสรีภาพ หรือประโยชน์อันชอบ
ธรรมของเอกชนได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อำนาจและจะต้องกระทำการดังกล่าวในกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น

หนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้น  " เป็นกฎ" มีผลบังคับเป็นการทั่วไปเพื่อให้นายทะเบียนยึดถือเป็น
แนวทางปฏิบัติในการพิจารณา ไม่ได้วางหลักเกณฑ์เพื่อมาจำกัดสิทธิบุคคล จึงไม่ขัดกับมาตรา ๓๐ แห่งรัฐธรรมนูญ
ดังกล่าว 

พิพากษายืน

*********************************************************************************

         ผมเข้าใจแบบชาวบ้าน (นอก) ความรู้น้อยนะครับว่า ฝ่ายปกครองเป็นผู้ชนะ เพราะคำสั่งมหาดไทยศาลถือเป็นกฏ
ซึ่งคงหมายถึงเป็นกฏหมายแล้ว  ดังนั้นผู้ฟ้องเป็นผู้แพ้คดีไป

         แต่ที่สับสนไม่เข้าใจและได้ยินบ่อยๆคือคำว่า "พิพากษายืน" ..... อันนี้แปลว่าอะไรครับ

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

         ท่านผู้รู้ด้านกฎหมายช่วยชี้แจงแนะนำด้วยครับ  บอกตรงๆว่าภาษากฎหมายเข้าใจยากมาก ต้องแปลไทยเป็นไทย

บันทึกการเข้า

                
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2010, 09:11:27 PM »

อิ อิ ผมไม่รู้เรื่องกฎหมาย
แต่เห็นว่าการจับประเด็นที่ศาลวินิจฉัย คงต้องดูรายละเอียดคำพิพากษาทั้งฉบับครับลุงปู  Grin

ส่วนที่ศาลสูง"พิพากษายืน" ก็คือว่าตามศาลชั้นต้นครับ
บันทึกการเข้า
sada
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2010, 09:29:13 PM »

รอฟัง ครับ  น่าสนใจ ครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2010, 09:55:05 PM »


                        คิก คิก         ขอบคุณครับลุงธำรง          เยี่ยม เยี่ยม

บันทึกการเข้า

                
rithikorn
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 93


ํํัYou Will Never Walk Alone


« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2010, 09:18:38 AM »

ตอนนี้ผมก็เลยสะสมทั้งสองอย่างครับ  ปืนและพระเครื่อง  พระเครื่องเก็บสะสมมาประมาณ 6 ปี ได้ทั้งพระกรุ พระเกจิ รูปหล่อลอยองค์ ดูแล้วมีคุณค่าทางจิตใจครับ ไม่ได้คิดเรื่องราคา ปืนก็มีไว้จับยิงซ้อมมือ สรุปทุกวันนี้ออกจากบ้านคอห้อยพระเครื่อง กระเป๋าใส่ปืนพก แค่นี้ก็อุ่นใจในการเดินทางและทำงานครับ  ส่วนเรื่องกฎหมายต่างๆที่กล่าวว่าและเรื่องนายทะเบียน ล้วนนานาจิตตัง บางที่ก็ขอกันได้อยู่ที่ดุลพินิจ แต่ทุกท่านก็ยึดระเบียบ สั้น1 ยาว 1 เป็นเกณฑ์ครับ
บันทึกการเข้า
วายุ - รักในหลวง
เย็นศิระ เพราะพระบริบาล
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9149


พระเจ้าสร้างมนุษย์ แต่โคลท์ทำให้มนุษย์เท่าเทียมกัน


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2010, 09:55:24 AM »

อ้าว... แล้วกัน  ตกใจ

วันก่อนเพิ่งบอกนายทะเบียนไปว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ใช่กฎ ... ใช้บังคับกับเอกชนไม่ได้ แต่ไหงข่าวของนายพิสิษฐ์ เป็นหยั่งงั้นล่ะครับ แบบนี้ชาวปืนก็แย่ล่ะสิ  อ๋อย
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป...
Iron
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2010, 10:12:08 AM »

    เท่าทีดูๆมาหลายสิบปี ปืนขึ้นราคาเรื่อยๆจริงและแนวโน้มที่ปืนราคาเพิ่มแบบก้าวกระโดดมาจากการที่ความต้องการปืนทางภาคใต้เพิ่มขึ้น

เพื่อการป้องกันตัว แต่ตลาดกลุ่มนี้ก็อิ่มตัวแล้วแต่ราคาที่ปั่นเอาๆขึ้นแล้วไม่ยอมลงง่ายๆ โดยราคาที่ขึ้นเอาๆก็ส่งผลให้ปืนสวัสดิการขายง่ายขึ้น

เพราะเมื่อเทียบราคาปืนตลาดกับราคาสวัสดิการต่างกันถึงสองเท่า ทำให้ผู้ซื้อปืนสวัสดิการเห็นส่วนต่างของราคาสูงบางส่วนก็เลยซื้อมาเพื่อ

เก็งกำไร ทั้งที่ราคาปืนสวัสดิการจริงๆแล้วคือราคาที่ควรขายในตลาดแล้วยังมีกำไรอีกเป็นหลักหมื่น ถามว่ากำไรส่วนนี้ไปไหน


    เมื่อก่อนผมซื้อปืนเรื่อยๆตามงบประมาณที่พอจะเจียดมาซื้อได้ แต่เมื่อราคาปืนและกระสุนขึ้นแบบบ้าเลือดก็หันไปเล่นปืนอัดลม ซึ่งตอนนี้

ราคาลูกปืนอัดลมก็เริ่มขึ้นอีก ทั้งที่เมื่อก่อนคนเล่นกันน้อยๆราคายังไม่แพง ก็เลยมานั่งคิดดูก็ได้ความคิดว่า เอาเงินที่ต้องลงไปกับปืนมา

ทำประโยชน์อย่างอื่นน่าจะดีกว่า เช่น ปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ซื้อทองไว้สะสม(มีแต่ขึ้นทุกปี เก็บง่าย) ซื้อที่ดิน หรือเก็บตังไว้ซื้อบ้าน ก็น่าจะดี


    ตอนนี้ราคาปืนเห็นมีบางร้านราคาจองเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ผมก็ยังไม่สนใจครับเบื่อแล้ว เพราะยังไงราคาก็ยังแพงกว่าที่ควรจะเป็นอยู่อีก

เป็นสามหมื่นอยู่ดี  ถ้าจะซื้อต่อไปคงมีกำลังซื้อแค่พวกลูกซองราคาถูกหรือลูกกรด ส่วนปืนอัดลมคิดว่ากระบอกเดียวน่าจะพอแล้ว
บันทึกการเข้า
วายุ - รักในหลวง
เย็นศิระ เพราะพระบริบาล
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9149


พระเจ้าสร้างมนุษย์ แต่โคลท์ทำให้มนุษย์เท่าเทียมกัน


« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2010, 10:42:47 AM »

คิดถึงสมัยทักษิณเป็นนายก แล้วบอกว่าอีก 5 ปี จะทำให้ปืนหมดไปจากประเทศไทย ทำเอาร้านปืนหลั่งน้ำตา ซบเซา จนจะต้องหันไปขายก๋วยเตี๋ยว... แต่เดี๋ยวนี้สิครับ โอโห... ขายกันเพลิน
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป...
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2010, 11:35:06 AM »

แล้วคำวินิจฉัยอื่นๆ ที่ผู้ฟ้องคดีเป็นฝ่ายชนะล่ะครับ

เอามาโต้แย้งคำตัดสินนี้ ได้หรือไม่

และเห็นด้วยกับพี่สมชายครับ ... น่าจะเปลี่ยนชื่อหัวข้อกระทู้ น่าจะมีผู้ให้ความเห็นมากกว่านี้
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
โอ_อุดร - รักในหลวง
อยากสูงให้เขย่ง อยากเก่งให้ขยัน
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 826


มีปืน ต้องมีสติ


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2010, 03:10:39 PM »

เหอะ ๆ ๆ นี่และครับ กฎหมายไทย อ่านแล้วดูเหมือนดีนะครับ แต่ถ้าเขามีปัญญาซื้อ และ ไม่เคยก่อเหตุ เกี่ยวกับ อาวุธปืนที่ครอบครองอยู่ ไม่น่าที่จะไม่อนุญาตครับ
เพราะไอ้คนเลวที่มีปืน ทั้ง M79 , ไรเฟิล , .45 ACP , .357 , .40 S&W ไม่เห็นต้องขออนุญาตจากนายทะเบียน เพื่อมีและใช้เลย แต่พอเวลาประชาชนขอ อ้างนั่น อ้างนี่
ทั้งที่ก็แสดงเจตนาบริสุทธิ์ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ขำครับ สั้น 1 ยาว 1 ให้ได้ไม่เกิน 9 mm. กับ .22 LR หรือ ลูกซองเบอร์ 12 
แต่ก็อย่างว่าละครับ " คนเลว " เมื่อคิดไม่ดี มันก็คือไม่ดี ผิดกฎหมายนั่นแหละครับ คนดี อยู่ภายใต้กฎหมาย ครับ จึงเรียกว่า คนดี
เพราะพวกเราอยากเป็นคนดีแหละครับ เลยต้อง เคารพกฎหมาย ไม่ใช่ใช้กฎหมู่ ครับ  ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

จงเชื่อในสิ่งที่ทำ      และจงทำในสิ่งที่เชื่อ

คนชั่วได้พบกับชัยชนะ    ก็เพราะคนดีนิ่งเฉย
rambo1th
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1349


« ตอบ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2010, 04:34:53 PM »

อิ อิ ผมไม่รู้เรื่องกฎหมาย
แต่เห็นว่าการจับประเด็นที่ศาลวินิจฉัย คงต้องดูรายละเอียดคำพิพากษาทั้งฉบับครับลุงปู  Grin

ส่วนที่ศาลสูง"พิพากษายืน" ก็คือว่าตามศาลชั้นต้นครับ



   เหอๆๆๆๆๆ ท่าน ธำรง ไม่รู้กฎหมาย สงสัยผมคงต้องกลับไปเรียน คำว่า เจตนาทุจริต ตาม ปอ. ใหม่แล้วว่า นิยามหมายความว่าอย่างไร ผมอ่านแล้วยังงี้ ผมว่านะสุจริตชนคงไม่มีผลหรอกว่าจะมีได้กี่กระบอกนะ เพราะ ยังไงก็ดุลพินิจกำหนดอยู่แล้วว่า จะมีได้คนละกี่กระบอก แต่ตามคำพากษา มี อยู่ 15 กระบอก แล้ว จะขอกระบอกที่ 16 ไม่ให้ ศาลให้เหตุผลไปแล้ว แต่ผมติดใจตรงนี้นะ "หนังสือกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ออกโดยหน่วยงานที่กำกับดูแล เป็นการวางแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติเป็นแบบเดียวกันทุกจังหวัด  จึงมิได้เป็นการเลือกปฏิบัติ
   
อีกทั้ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่งประกอบกับมาตรา ๑๓ กำหนดให้บุคคลมีและใช้อาวุธได้เท่าที่จำเป็น การที่ผู้ฟ้องคดีมีอาวุธปืนรวมอยู่แล้ว ๑๕ กระบอกในขณะที่ยื่นคำร้องเห็นว่าเพียงพอกับกรณีแห่งความจำเป็นในการป้องกันตัวหรือทรัพย์สิน หรือในการกีฬาหรือยิงสัตว์
   
หนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้นเป็น กฎมีผลบังคับเป็นการทั่วไปเพื่อให้นายทะเบียนยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการพิจารณา ไม่ได้วางหลักเกณฑ์เพื่อมาจำกัดสิทธิบุคคล จึงไม่ขัดกับมาตรา ๓๐ แห่งรัฐธรรมนูญดังกล่าว  "

   แนวทางมหาดไทย ใช้กับทุกจังหวัด แต่ๆๆๆๆๆ แต่ละ จังหวัดกลับใช้ดุลพินิจไม่เหมือนกัน นายทะเบียนต่างคน ต่างใจกัน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 20 คำสั่ง