..โทรถามเพื่อนแล้วครับเมื่อคืน ได้ความเหมือนเดิมคือ จนท ตำหนวดยังคงยืนยันจะเอาเรื่องพ่อของมัน(ที่ฌาปณกิจไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่21กันยายน53)โดยจะกล่าวหาพ่อมันว่าไม่เคารพกฎหมายบ้านเมืองกรณีที่พกพาอาวุธปืนไปในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตอันควรและมีอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาติจากนายทะเบียน โดยจะส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดของพ่อมันให้เอาผิดวินัย(กับคนที่ตายแล้ว เอาเข้าไป)เพื่อให้มีผลต่อเงินสงเคราะห์ทั้งหลายทั้งปวงอย่างที่เล่ามาข้างต้น สงสัยงานนี้มันจะได้ล่อซื้ออย่างที่ผมแนะนำแล้วมั้ง บอกมันให้ไปกู้ฉุกเฉินสหกรณ์สัก4-5หมื่นแล้วถ่ายสำเนาไว้ทุกฉบับ เอาแบบที่พวกมันเคยล่อซื้อยาบ้าอะไรนั้น เฮ้อ อนาถ..

ด้วยความเคารพ
หากเขายืนยัน ก็ให้เขาทำไป
ปัญหาอยู่ที่เงื่อนไข ในการรับผลประโยชน์ครับ
หากเงื่อนไขในการรับประโยชน์ มิได้ถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้น (มีปืนเถื่อนไว้ในครอบครอง)
ทายาทของผู้ตาย ย่อมได้รับสิทธิในเงินตามที่ผู้ตายได้ทำไว้ ตามระเบียบครับ
กล่าวคือ เมื่อเงื่อนไขหรือข้อตกลง ในการรับประโยชน์ มิได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าหากผู้ตายกระทำผิดอาญา ถือว่าหมดสิทธิรับประโยชน์แล้ว
เมื่อไม่มี กฎหมาย รวมทั้งข้อสัญญายกเว้นไว้ ย่อมทำให้ทายาทได้รับประโยชน์ สามารถรับสิทธิในเงินที่ผู้ตายทำไว้ดังกล่าวอยู่แล้ว
ดังนั้น หากพนักงานสอบสวนที่จะทำ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยากจะส่งเรื่องโดยจะส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดของผู้ตาย ให้เอาผิดวินัย
แต่ถามหน่อยว่า พนักงานสอบสวนมีอำนาจที่จะเอาผิด
ทางวินัยกับผู้ตายหรือ.......
และเอาอำนาจจากอะไร ที่จะมีสิทธิสั่งเบรกเงิน ที่ทายาทจะได้รับ จากสัญญาทั้งหลาย ที่ผู้ตายทำไว้
ยกเว้นไว้คนเดียว คือเจ้าหนี้ของผู้ตายตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ส่วนตรงนี้
สงสัยงานนี้มันจะได้ล่อซื้ออย่างที่ผมแนะนำแล้วมั้ง บอกมันให้ไปกู้ฉุกเฉินสหกรณ์สัก4-5หมื่นแล้วถ่ายสำเนาไว้ทุกฉบับ เอาแบบที่พวกมันเคยล่อซื้อยาบ้าอะไรนั้น เฮ้อ อนาถ.
ผมบอกไว้เลยนะครับ อย่าทำ
เพราะทำไปทำมา หากพลาด เราเองจะกลายเป็นผู้ก่อให้เกิดการกระทำความผิด (รับผิดเท่ากับผู้กระทำ) ซะเปล่าๆครับ
