คำว่า "ดุลยพินิจ" ของนายทะเบียนแต่ละท่านไม่เหมือนและไม่เท่ากันครับ
ส่วนว่าจะอนุญาตหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้ดุลยพินิจครับ
คำนี้คล้ายกับคำว่าเหมาะสม ครับใช้กันอยู่บ่อยๆในวงการราชการ โดยเฉพาะเวลาจะโยกย้าย
หรือเวลาจะพิจารณาความดีความชอบครับ
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันถ้ามันมีปัญหามากนักทำไมไม่ทำเป็นระเบียบให้ชัดเจน เช่น ไม่เคยต้องโทษจำคุก ไม่เคยถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดในคดีอาญา เป็นต้น
การใช้ดุลพินิจออกคำสั่งทางปกครองมีกรอบของกฎหมายกำกับอยู่ ไม่ได้ขึ้นกับความพอใจ
ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙
มาตรา ๓๗ คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือและการยืนยันคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย และเหตุผลนั้นอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
(๑) ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ
(๒) ข้อกฎหมายที่อ้างอิง
(๓) ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ ...................
ท่านจขกท.เองก็ยังไม่ได้เห็นหนังสือปฏิเสธฯของนายทะเบียนฯเลยว่ามีเหตุผลอย่างไร
ขออภัยหากใช้คำไม่เหมาะสม แต่เป็นเพราะเห็นใจพี่น้องและเคยประสบกับตัวมาก่อน
หลายท่านคงจะเคยประสบพบเจอคำพูดแบบนี้มาแน่นอน "สั้นหนึ่งยาวหนึ่่งน้อง ถ้าเกินจากนั้นนายไม่ให้ไม่ต้องขอ"
ทั้งที่มันไม่ได้เป็นกฏหมาย หรือระเบียบตายตัว แล้วเรื่องที่ต้องรอจนคนที่ไปยื่นเรื่องไว้เกือบลืม(แต่ลืมไม่ได้เพราะร้านปืนโทรตาม)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงมีนายทะเบียนหลายท่านที่เป็นคนดีและใช้ดุลยพินิจได้อย่างถูกต้อง
คำพูดบางคำของผมอาจกระทบกระเทือนจิตใจต้องขออภัยอีกครั้งครับ
