เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
มิถุนายน 16, 2025, 04:13:56 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข่าวยิงลูกติดยา แบบนี้ ถือว่าป้องกันตัวเอง รึป่าว ครับ  (อ่าน 2530 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Marcuechio
Full Member
***

คะแนน 23
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 419



« เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 08:50:39 AM »

พ่อสุดทน คว้าปืนลูกซองยาว ยิงลูกชายติดยา ดับคาบ้าน ขณะเข้ามาข่มขู่ และจะทำร้ายร่างกาย หลังไม่ยอมให้เงินไปเล่นยา

         
 พ.ต.ท. กษิดิษฐ์ เพียงศรีบุญ สารวัตรสอบสวน สภ.คลองสิบสอง ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย ภายในบ้านเลขที่ 28 หมู่ 10 ซอยหลังโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ถนนสายธัญบุรี-ลำลูกกา คลองสิบสอง ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ใต้ถุนโล่ พบผู้เสียชีวิต คือ นายบุญนาก คำฝึกฝน อายุ 31 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง เข้าที่บริเวณลำตัว นอนหงายอยู่กับพื้นปูนใต้ถุนบ้าน ห่างจากผู้ตายเพียง 3 เมตร พบปืนลูกซองยาว 1 กระบอก วางอยู่บนเตียงนั่งเล่น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนมือปืนผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ นายฉิม คำฝึกฝน อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นบิดาของผู้ตายและเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

          จากการสอบปากคำ นายฉิม คำฝึกฝน บิดาของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายติดยาบ้างอย่างหนัก งานการไม่ทำ แม้แต่จะช่วยพ่อแม่ ทำนา ก็ไม่เคยช่วย และขอเงินอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็พูดจาข่มขู่ ซึ่งตนเองก็ให้ทุกครั้ง โดยให้ไปเบิกเงินเองที่ธนาคาร บางครั้งก็เบิกเกินกว่าที่ขอ เช่น ขอหมื่นบาท แต่เบิกออกมาห้าหมื่น ด้วยความรักลูกทั้ง ๆ ที่รู้ว่าลูกนำเงินไปทำอะไร มาวันนี้ก็ขออีกตนเอง ไม่ให้ก็มีปากเสียงกัน และขู่จะทำร้ายตน จึงเอาปืนลูกซอง มาถือไว้บอกว่า ถ้าเข้ามาจะยิง แต่ลูกชายไม่ฟังเดินปรี่เข้ามา ปัดกระบอกปืน ปืนจึงลั่นใส่ 1 นัด ล้มลงขาดใจตายคาที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายฉิม คำฝึกฝน ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้เป็น บิดาจะโดนข้อหาอะไรครับ เหตุการอย่างนี่ถือว่าเป็นการป้องกันโดยสมควรแก่เหตุรึป่าวครับ
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 08:58:48 AM »

พ่อสุดทน คว้าปืนลูกซองยาว ยิงลูกชายติดยา ดับคาบ้าน ขณะเข้ามาข่มขู่ และจะทำร้ายร่างกาย หลังไม่ยอมให้เงินไปเล่นยา

         
 พ.ต.ท. กษิดิษฐ์ เพียงศรีบุญ สารวัตรสอบสวน สภ.คลองสิบสอง ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย ภายในบ้านเลขที่ 28 หมู่ 10 ซอยหลังโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ถนนสายธัญบุรี-ลำลูกกา คลองสิบสอง ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ใต้ถุนโล่ พบผู้เสียชีวิต คือ นายบุญนาก คำฝึกฝน อายุ 31 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง เข้าที่บริเวณลำตัว นอนหงายอยู่กับพื้นปูนใต้ถุนบ้าน ห่างจากผู้ตายเพียง 3 เมตร พบปืนลูกซองยาว 1 กระบอก วางอยู่บนเตียงนั่งเล่น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนมือปืนผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ นายฉิม คำฝึกฝน อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นบิดาของผู้ตายและเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

          จากการสอบปากคำ นายฉิม คำฝึกฝน บิดาของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายติดยาบ้างอย่างหนัก งานการไม่ทำ แม้แต่จะช่วยพ่อแม่ ทำนา ก็ไม่เคยช่วย และขอเงินอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็พูดจาข่มขู่ ซึ่งตนเองก็ให้ทุกครั้ง โดยให้ไปเบิกเงินเองที่ธนาคาร บางครั้งก็เบิกเกินกว่าที่ขอ เช่น ขอหมื่นบาท แต่เบิกออกมาห้าหมื่น ด้วยความรักลูกทั้ง ๆ ที่รู้ว่าลูกนำเงินไปทำอะไร มาวันนี้ก็ขออีกตนเอง ไม่ให้ก็มีปากเสียงกัน และขู่จะทำร้ายตน จึงเอาปืนลูกซอง มาถือไว้บอกว่า ถ้าเข้ามาจะยิง แต่ลูกชายไม่ฟังเดินปรี่เข้ามา ปัดกระบอกปืน ปืนจึงลั่นใส่ 1 นัด ล้มลงขาดใจตายคาที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายฉิม คำฝึกฝน ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้เป็น บิดาจะโดนข้อหาอะไรครับ เหตุการอย่างนี่ถือว่าเป็นการป้องกันโดยสมควรแก่เหตุรึป่าวครับ


กรณีนี้ไม่ใช่ กรณี ป้องกันตัวครับ..  น่าเห็นใจ  บิดา มากครับ    หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

over60
Full Member
***

คะแนน 58
ออฟไลน์

กระทู้: 205


« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 09:19:40 AM »

สมมุติเล่นๆว่าถ้าผมเป็นร้อยเวร  และข้อเท็จจริงเป็นไปตามเนื้อข่าวทั้งหมด  คดีนี้เป็นอุบัติเหตุครับ  ทั้งหมดนี้ผมสมมุติขึ้นมานะครับว่า
๑.ถ้าผมเป็นร้อยเวร....๒.ถ้าเนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นจริงครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
Peerapat - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 178
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1690


จะรบเป็นชาติพลี มอบวิญญาณ ดวงนี้ เพื่อผืนดินไทย


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 10:24:47 AM »

เห็นใจคนเป็นพ่อครับ ต้องฆ่าลูกตัวเองทั้งๆที่ใจไม่อยากจะทำ

 เศร้า
บันทึกการเข้า

boilerman
Sr. Member
****

คะแนน 28
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 573


« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 10:38:40 AM »

ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ติดคุกเช่นกัน มีกรณีคล้ายๆกัน แต่ไม่เหมือนกัน ที่ศาลรอลงอาญาก็มี
แต่ถ้าบิดามีเงิน บิดาควรจบคดีตั้งแต่ชั้นอัยการ
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 10:40:43 AM »

...อายุตั้งสามสิบกว่าปีแล้ว... ยังไม่รูจักผิดชอบชั่วดี... สมควรที่จะหยุดหายใจแล้วครับ... แต่คดีจะลงเอยยังไง... อยู๋นอกเหนือความคาดเดาครับ...

*************


แถวบ้านผม... เคยมีกรณีหลานติดยา... มาขอเงินยายอายุ ๗๐ ปี... เมื่อไม่ให้ก็จะเข้ามาทำร้าย... ยายเลยหวดด้วยด้ามจอบ... ตายคาที่ครับ... คดีนี้ถ้าจำไม่ผิด... สิ้นสุดที่เป็นการป้องกันตัวครับ... ไหว้


บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 12:38:00 PM »

กรณีนี้ จำต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อนว่าความตาย เกิดขึ้นจากการกระทำโดยเจตนาของผู้เป็นบิดาหรือไม่
เพราะเหตุป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จะมีได้ก็ต่อเมื่อ ความตายหรือความเสียหาย เกิดขึ้นจากการกระทำโดยเจตนาเท่านั้น ก็คือ บิดาต้องตั้งใจยิงผู้ตายนั้นเอง
ซึ่งหากความตายเกิดขึ้นจากการกระทำโดยประมาท (ไม่มีเจตนา) อย่างกรณีนี้คือปืนลั่น ผู้กระทำโดยประมาท ไม่สามารถยกเหตุป้องกันขึ้นเพื่อยกเว้นหรือลดความรับผิดได้

จากข่าว การที่ลูกชายเดินปรี่เข้ามาแล้วปัดกระบอกปืน ทำให้ปืนเกิดลั่นใส่ผู้ตาย ๑ นัด
จึงต้องดูว่าความตายที่เกิดขึ้น บิดามีเจตนาที่จะยิงลูกของตนหรือไม่
หากไม่มีเจตนาที่จะยิง ต้องพิจารณาต่อไปว่าความตายเกิดขึ้นจากความประมาทหรือไม่

มุมมองของผม จากข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้ ทิศทางความรับผิดของบิดานั้น
เมื่อบิดาไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย (ไม่ได้ตั้งใจยิง) ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจึงตกไป ( และไม่สามารถอ้างเหตุป้องกันได้ไปในตัวเพราะมิใช่ยิงโดยเจตนา )
จึงยังเหลือความผิดที่สามารถนำมาพิจารณาได้ คือฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เมื่อกระสุนปืนถูกบริเวณลำตัวผู้ตาย ย่อมแสดงว่าบิดาต้องถือปืนหันไปหาผู้ตาย
ดังนั้น การที่บิดาถืออาวุธปืนซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงและหัวปากกระบอกปืนไปทางผู้ตาย
ต่อมา ผู้ตายได้เข้ามาปัดปืนและทำให้เกิดลั่น ทิศทางของความผิดมีน้ำหนักไปในทาง ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ึความตายมากกว่า

แต่หากข้อเท็จจริงเปลี่ยนไปว่า ขณะที่บุตรเดินเข้าปรี่มาหา บิดาจึงเล็งแล้วยิงผู้ตาย ๑ นัด เต็มๆ ไม่มีการยื้อแย่ง
ตรงนี้ ถือว่าบิดามีความผิดฐานเจตนาฆ่าผู้ตายแน่นอน เมื่อความตายเกิดขึ้นจากการตั้งใจยิงของบิดาแล้ว
จึงค่อยมาพิจารณาว่าการยิงของพ่อนั้นเป็นการป้องกันหรือไม่ต่อไปครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 27, 2010, 12:41:14 PM โดย นายสิงห์กลิ้ง » บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 12:44:53 PM »

 Grin
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 01:07:01 PM »

นึกถึงลูกไอ้เหลิมเลย....  เยาะเย้ย
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
Yoshiki_Silencer - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 278
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 597


ลูกศิษย์ครูหมู (ด้วยอีกคน)


« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 02:37:49 PM »

กรณีนี้ จำต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อนว่าความตาย เกิดขึ้นจากการกระทำโดยเจตนาของผู้เป็นบิดาหรือไม่
เพราะเหตุป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จะมีได้ก็ต่อเมื่อ ความตายหรือความเสียหาย เกิดขึ้นจากการกระทำโดยเจตนาเท่านั้น ก็คือ บิดาต้องตั้งใจยิงผู้ตายนั้นเอง
ซึ่งหากความตายเกิดขึ้นจากการกระทำโดยประมาท (ไม่มีเจตนา) อย่างกรณีนี้คือปืนลั่น ผู้กระทำโดยประมาท ไม่สามารถยกเหตุป้องกันขึ้นเพื่อยกเว้นหรือลดความรับผิดได้

จากข่าว การที่ลูกชายเดินปรี่เข้ามาแล้วปัดกระบอกปืน ทำให้ปืนเกิดลั่นใส่ผู้ตาย ๑ นัด
จึงต้องดูว่าความตายที่เกิดขึ้น บิดามีเจตนาที่จะยิงลูกของตนหรือไม่
หากไม่มีเจตนาที่จะยิง ต้องพิจารณาต่อไปว่าความตายเกิดขึ้นจากความประมาทหรือไม่

มุมมองของผม จากข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้ ทิศทางความรับผิดของบิดานั้น
เมื่อบิดาไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย (ไม่ได้ตั้งใจยิง) ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจึงตกไป ( และไม่สามารถอ้างเหตุป้องกันได้ไปในตัวเพราะมิใช่ยิงโดยเจตนา )
จึงยังเหลือความผิดที่สามารถนำมาพิจารณาได้ คือฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เมื่อกระสุนปืนถูกบริเวณลำตัวผู้ตาย ย่อมแสดงว่าบิดาต้องถือปืนหันไปหาผู้ตาย
ดังนั้น การที่บิดาถืออาวุธปืนซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงและหัวปากกระบอกปืนไปทางผู้ตาย
ต่อมา ผู้ตายได้เข้ามาปัดปืนและทำให้เกิดลั่น ทิศทางของความผิดมีน้ำหนักไปในทาง ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ึความตายมากกว่า

แต่หากข้อเท็จจริงเปลี่ยนไปว่า ขณะที่บุตรเดินเข้าปรี่มาหา บิดาจึงเล็งแล้วยิงผู้ตาย ๑ นัด เต็มๆ ไม่มีการยื้อแย่ง
ตรงนี้ ถือว่าบิดามีความผิดฐานเจตนาฆ่าผู้ตายแน่นอน เมื่อความตายเกิดขึ้นจากการตั้งใจยิงของบิดาแล้ว
จึงค่อยมาพิจารณาว่าการยิงของพ่อนั้นเป็นการป้องกันหรือไม่ต่อไปครับ




          หลักส่วนใหญ่จะคล้ายกับของพี่สิงห์ครับ  เมื่อข้อเท็จจริงตามเนื้อข่าวระบุมาว่าเป็นกรณีปืนลั่นจึงต้องตัดเรื่องฆ่าคนตายโดยเจตนาออก

ไปเพราะไม่มีเจตนาจะยิงตั้งแต่แรก และย่อมไม่เป็นการป้องกันด้วยเพราะการป้องกันตามกฎหมายจะต้องเป็นการกระทำโดยด้วยเจตนาเช่นกัน

จึงไม่เป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา  ตาม  ป.อ.มาตรา  ๒๘๘  ครับ

          สำหรับข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม  ป.อ.มาตรา  ๒๙๐  นั้น  เจตนาเริ่มแรกต้องมีเจตนาทำร้ายก่อนไม่ได้มีเจตนาฆ่า  เพียงแต่ผล

ของการทำร้ายทำให้ผู้อื่นนั้นถึงแก่ความตาย  ( เช่นกรณีที่อาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใช้ไม้กอล์ฟตีภรรยาจนเสียชีวิต )  แต่กรณีนี้พ่อไม่

ได้มีเจตนาจะยิงทำร้ายตั้งแต่แรกเพราะยกปืนขึ้นขู่เท่านั้น  จึงไม่เป็นความผิดข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเช่นกัน

           คงมีแต่ข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาทเท่านั้นที่น่าจะเป็นไปได้  ซึ่งตาม  ป.อ.มาตรา  ๕๙  วรรคสี่  บัญญัติว่ากระทำโดยประมาท  ได้แก่

กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา  แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำ

อาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้  แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ 

           ซึ่งในเรื่องนี้ผมมีความเห็นแตกต่างจากพี่สิงห์ครับ   ไหว้   เพราะพฤติการณ์ที่ลูกเดินปรี่เข้ามาเช่นนั้นน่าเชื่อว่าจะเข้ามาทำร้ายบิดา

อย่างแน่นอน และไม่แน่ว่าเหตุการณ์จะร้ายแรงเหมือนกับเหตุการณ์ลูกที่เมายาฆ่าบิดา - มารดา  ของตนเองเพราะไม่ให้เงินไปซื้อยาเหมือนที่เรา

ได้ยินข่าวกันอยู่เนือง ๆ หรือไม่  ถ้าเป็นบุคคลทั่วไป  ( รวมถึงผม )  หากมีอาวุธปืนอยู่ในมือก็ย่อมจะยกขึ้นมาขู่เพื่อกันไม่ให้เข้ามาทำร้ายตัวเราเอง

อย่างแน่นอน  ทั้งเรื่องนี้ลูกเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นแต่แรกและเป็นฝ่ายปัดปืนจนเกิดปืนลั่นขึ้นมาเองหากพ่อยกปืนขึ้นมาเล็งแล้วลูกหยุดทันทีไม่เดิน

ตรงปรี่เข้าไปและไม่เข้าไปปัดปืนปืนอาจจะไม่ลั่นก็ได้  ทั้งวิสัยของผู้ที่ประสบเหตุดังกล่าวนั้นย่อมต้องมีความตื่นเต้น  ตกใจ  กลัว  และไม่สามารถ

บังคับสติและอารมณ์ของตนเองได้ตามปกติ  อย่าว่าแต่เหตุจะใช้กำลังทำร้ายกันเลย  เอาแค่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้ยินเสียงกุกกักตอนกลางคืน  แม้จะมี

ปืนอยู่ในมือท่านจะควบคุมสติได้ดีแค่ไหน  ดังนั้นจะใช้เกณฑ์ความระมัดระวังของคนทั่วไปในยามปกติมาใช้กับกรณีนี้ไม่ได้  ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า

บิดาได้ใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์แล้วครับ  อีกทั้งเรื่องนี้ถ้าดูแล้วบิดาไม่สมควรจะต้องติดคุกครับ  สำหรับผมจึงไม่เป็นความผิดฐาน

ฆ่าคนตายโดยประมาทครับ 

         ซึ่งความเห็นของผมและพี่สิงห์ดังกล่าวข้างต้นไม่มีใครถูกใครผิดครับ  เพียงแต่เป็นเรื่องของดุลพินิจที่แตกต่างกันเท่านั้นเองครับ  ซึ่งทั้งผม

และพี่สิงห์มีเหตุผลมารองรับการวินิจฉัยซึ่งสามารถอธิบายได้  ซึ่งแตกต่างจากเรื่องการใช้ดุลพินิจโดยไม่มีเหตุผลมารองรับ  ซึ่งสำหรับผมเรียกว่า

การสั่งตามอำเภอใจ  ( ซึ่งเป็นเหตุทำให้นายทะเบียนหลาย ๆ คนถูกฟ้อง )  และไม่ใช่เรื่องสองมาตรฐานด้วยนะครับ  คิก คิก 
บันทึกการเข้า

ไม่ว่าจะเกลียดขี้หน้าใครขนาดไหน... แต่ตราบใดที่เขายังถูกต้องตามหลักการ ก็จะต้องปกป้องเขา เพราะสิ่งที่ปกป้องมันมากกว่า บุคคล แต่มันคือหลักการที่จะทำให้ระบบดำเนินต่อไปได้
rx300
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 27
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 156


รักพ่อหลวงและครอบครัวยิ่งกว่าชีวิต..


« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 03:06:44 PM »

จากคำให้การ น่าจะจบที่ประมาททำให้ถึงแก่ความตาย อย่างว่าครับ...

แต่การพิจารณาคดียิงคนตายนั้น ต้องละเอียด รอบคอบ....คด๊มีน้ำนักตรงที่ผู้ยิงเป็นพ่อแท้ๆของผู้ตาย ประวัติการให้การเลี้ยงดูต่างๆนาๆ
น่าจะช่วยสนับสนุนเหตุที่บิดาย้ำว่าไม่ต้องการเอาชีวิตผู้ตาย คือมีปืนเพื่อขู่และป้องกันตัวเองเท่านั้น....

อืม....จริงๆผมก็ไม่ใช่นักกฎหมาย....เอาเป็นว่า ผมให้กำลังใจพ่อแล้วกันครับ...
ผมเชื่อว่า ไม่มีพ่อคนไหนอยากทำร้ายลูก....แค่ตีเบาๆเพื่อสั่งสอน ยังบีบหัวใจ...เรื่องยิงให้ตาย ผมว่าถ้าไม่สุดๆๆๆจริงๆ ไม่น่าทำลง...  ไหว้
บันทึกการเข้า

Guns don't kill people...People kill people...
kamet
Full Member
***

คะแนน 48
ออฟไลน์

กระทู้: 319


« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 03:35:05 PM »

ถ้าท่านเคยคลุกคลีอยู่กับคนติดยาเสพติด เช่นยาบ้า จะเห็นว่าเวลาต้องการยาแล้ว
คนพวกนี้ไม่เคยรู้ผิดชอบชั่วดี ไม่เคยรู้พ่อแม่ ผมมีญาติที่ลูกติดยาอยู่เหมือนกัน
เวลาอยากยา ถ้าแม่ไม่ให้เงินจะทำร้ายเลย ไม่เคยมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี จนแม่กลัวมาก
แต่ก็ทิ้งลูกให้ไปติดคุกหรือปล่อยตามยถากรรมไม่ได้ น่าสงสารพ่อ-แม่มากครับ

ผมเห็นด้วยกับท่านอัยการครับ เป็นความเห็นด้วยจากประสพการณืชีวิตทั้งกับญาติและคนไข้ ส่วนทางกฏหมายไม่ทราบครับ
บันทึกการเข้า
godsira รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 46
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 459



« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 05:31:37 PM »

เห็นข่าวเมื่อเช้า ในฐานะที่เป็นพ่อคนนึงเหมือนกัน รู้สึกหดหู่กับข่าวนี้มากครับ เศร้า

 ไหว้
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 06:32:35 PM »

 ขอบคุณครับท่านโยชิกิ  Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2010, 08:21:55 PM »


ตามที่น้องสิงห์ และคุณ Yoshiki_Silencer - รักในหลวง  ให้ความเห็นเป็นแนวทางไว้.. + ให้ทั้ง ๒ ท่านครับ
ข้อเท็จจริงอย่างนี้ ควรยกไว้ ให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัย 

ส่วนตัวผม เพียงให้ความเห็นไว้ข้างต้น.. ได้เพียงว่า " ไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัว" เท่านั้น ละครับ  Grin
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 21 คำสั่ง