เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 26, 2025, 01:34:31 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กต่ำกว่า 18 ห้ามออกนอกบ้านหลังสี่ทุ่ม  (อ่าน 4764 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คนตัวเขียว-รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 60
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 348



« ตอบ #15 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 12:07:07 AM »

คิดแย่พอๆกับห้ามกินเหล้าในอุทยาน. งอน
ชอบให้มีการลักลอบ..
บันทึกการเข้า

อยู่อย่างพอเพียง
J_D
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952



« ตอบ #16 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 12:57:31 AM »

งานนี้คงไม่ได้กะเอามาบังคับจริงจังหรอกครับ  แค่พอเกิดเรื่องจะได้มีเหตุกักตัวเด็กไว้ได้  แต่ก็อย่างพี่  submachine ว่านั้นแหละมีข้อกฎหมายรองรับแล้วหรือยัง   แล้วอีกด้านนึงที่อาจมีใครที่ไหนอ้างเป็น ตร. หรือ ตร. จริงแต่เลวหลอกจับเด็กแล้วพาไปที่อื่น    เหมือนกรณีสารวัตรนักเรียนสมัยก่อนที่มีอำนาจจับ นร . ที่นี้ทั้งตัวจริงตัวปลอมจับเด็กเข้าโรงแรมกันเป็นข่าวประจำ  ตรงนี้มีทางป้องกันหรือยัง
บันทึกการเข้า




ชาติ         = บึง
คนในชาติ = ปลาในบึง

ปลามาแล้วก็ไปแต่บึงอยู่มาก่อนและต้องอยู่ต่อไป  บึงสำคัญกับปลาทุกตัวและสำคัญกว่าปลาทุกตัว  อย่างเอาแต่กินแล้วก็ขี้ใส่บึงอย่างเดียว
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 03:07:59 AM »

 Undecided กฎหมายนี้ จะทำให้เด็กไปอยู่ในที่มืดมากขึ้นครับ Undecided
 Undecided กลับบ้านไม่ได้ก็ไม่กลับ ไปอยู่ในที่ลับ ทำอะไรใครจะเห็น Undecided
บันทึกการเข้า

pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #18 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 03:36:46 AM »

    เลี้ยงลูกให้เป็นโจรหรือพระอรหันต์อยู่ที่พ่อแม่ (ว.วชิรเมธี)


เสียงจากท่าน ว.วชิรเมธี
เลี้ยงลูกให้เป็นโจรหรือพระอรหันต์อยู่ที่พ่อแม่

บทความโดย...สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน


สวัสดีปีใหม่ค่ะ

และแล้ว.....ก็ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งปี
ท่ามกลางความวุ่นวายทางด้านการเมือง
ที่มันช่างตรงข้ามกับความรู้สึกของผู้คน
ที่อยู่ในช่วงแห่งการฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป

สำหรับคนเป็นพ่อแม่ก็น่าจะถือโอกาสนี้
พูดคุยกับลูกถึงช่วงเวลาที่ผ่านไปหนึ่งปี
มีอะไรที่ลูกทำสิ่งดีๆ แล้วประทับใจ
หรือมีบางสิ่งที่ทำแล้วไม่สบายใจหรือทำไม่ดี
ก็ถือโอกาสได้พูดคุยและหันหน้าคุยกัน
ในครอบครัวซะเลยก็ไม่เลวค่ะ

ไหนๆ ก็ปีใหม่ที่เป็นปีของหนู ก็เลยอยากฝากสิ่งดีๆ
ของ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือท่าน ว. วชิรเมธี
ที่ท่านเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Mother&Care
ก็เลยขออนุญาตนำมาฝากเพื่อนผู้อ่าน
เพื่อเป็นข้อคิดและสิริมงคลให้แก่ชีวิตช่วงปีใหม่นี้ค่ะ

“พระพุทธเจ้าตรัสไว้คำหนึ่งว่า การเกิดเป็นทุกข์
แต่ประโยคนี้ไม่จบนะ มีต่อว่า เกิดดีมีสุข
การเกิดเป็นทุกข์เป็นการยอมรับความจริงตามธรรมชาติ
ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า คน
แต่ความจริงไม่ได้มีแค่นี้
ถ้าเกิดดีก็มีความสุขได้
การเกิดเป็นทุกข์นั้นเป็นความทุกข์ทางกาย
เช่น มนุษย์เกิดมาแล้วต้องกิน ต้องดื่ม ป่วยไข้ต้องรักษา
อันนี้ เป็นความทุกข์ตามธรรมชาติ
เป็นคำอธิบายของการเกิดเป็นทุกข์
แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะบำบัดความทุกข์ทางกาย
เช่น หิวก็กิน ป่วยก็รักษา
เจ็บปวดกล้ามเนื้อก็เปลี่ยนอิริยาบถ

พระพุทธเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า การเกิดนั้นเป็นทุกข์ทางกาย
แต่ทางจิตใจ เราไม่ได้แบกทุกข์มาตั้งแต่เกิด
มีคำอยู่คำหนึ่ง พระองค์ตรัสเอาไว้ว่า
ธรรมชาติเดิมแท้ของจิตนั้นเป็นประภัสสร
คือ ธรรมชาติของจิตตั้งแต่แรกเกิดมีความบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่แล้ว
ฉะนั้น ที่บอกว่าทุกข์นั้นเป็นทุกข์ของกาย
ถ้าเราสามารถฝึกจิตให้แยกความจริงของกายไว้กองหนึ่ง
ความจริงของใจไว้กองหนึ่ง
ก็จะเห็นชัดว่าที่ทุกข์นั้น กายทุกข์
แต่ถ้าใจมีปัญญา สามารถแก้ปัญหาทางกายได้
การเกิดนั้นก็เป็นสุข

ผู้ที่จะได้ชื่อว่า เป็นพ่อเป็นแม่นั้น
ลำพังให้กำเนิดลูกยังไม่ได้ชื่อว่า เป็นพ่อเป็นแม่
แต่เป็นได้แค่ผู้ให้กำเนิด
หลายคนอาจคิดว่าแค่ให้กำเนิดก็เป็นพ่อเป็นแม่แล้ว
ทางพุทธยังไม่ยอมรับ
ถ้าเพียงแค่ให้กำเนิดแล้วได้ชื่อว่า เป็นพ่อเป็นแม่
มนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน หมู หมา กา ไก่
มันให้กำเนิดปุ๊บ มันก็ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว

ถ้าคนทำแค่นี้ก็ไม่ประเสริฐไปกว่าสัตว์เดรัจฉานเลย
ดังนั้น ถ้าให้กำเนิดมาแล้วจะได้ชื่อว่า
เป็นพ่อเป็นแม่ต้องทำหน้าที่อย่างน้อย 5 ประการ
หนึ่ง ห้ามปรามลูกจากความชั่ว
สอง แนะนำลูกให้ตั้งอยู่ในความดี
สาม ให้ลูกได้รับการศึกษา
สี่ เป็นธุระดูแลเรื่องคู่ครองของลูก
ห้า เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็มอบมรดกให้ลูก
ถ้าพ่อแม่ทำหน้าที่ 5 ประการนี้แล้ว
พ่อแม่ก็เลื่อนสถานะจากผู้ให้กำเนิดเป็นพ่อเป็นแม่

ถ้าคุณไม่ได้ทำหน้าที่ 5 ประการนี้
ก็เป็นเพียงแค่ผู้ให้กำเนิดเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้น ลองย้อนกลับไปที่พ่อแม่ทุกวันนี้สิ
เป็นพ่อเป็นแม่กันหรือเปล่า
คุณห้ามลูกจากความชั่วไหม
หรือปล่อยลูกไปอยู่ในแหล่งอบายมุข
ในทางพุทธศาสนายกย่องคนเป็นพ่อเป็นแม่เอาไว้ว่า
หนึ่งเท่ากับเป็นพระพรหม
สองเท่ากับเป็นบุรพาจารย์ คือ ครูคนแรก
สามเท่ากับเป็นพระอรหันต์

ชะตากรรมของลูกจะเป็นอย่างไร ขึ้นกับพ่อกับแม่
ฉะนั้น ช่วง 0-6 ขวบ จึงเป็นช่วงที่อันตราย
และช่วงที่ดีที่สุดที่พ่อแม่จะใส่อะไรให้กับลูก
ถ้าในระหว่างนี้ พ่อแม่ไม่สามารถใส่สิ่งที่ดีให้กับลูกได้
พ่อแม่ก็จะกลายเป็นศัตรูกับลูก
แต่ถ้าพ่อแม่ใส่สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก
ก็จะเป็นพระพรหมของลูก คือ เป็นผู้ลิขิตชะตากรรมให้กับลูก

สอง เป็นครูคนแรกของลูก
พ่อแม่ต้องสอนลูก ตั้งแต่การเอาตัวรอดในโลก
สอนความรู้ มารยาท หัดให้เข้าโรงเรียน
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกที่ลูกได้เรียนรู้
ล้วนแต่ได้อิทธิพลมาจากพ่อแม่
ฉะนั้น พ่อแม่จึงเป็นเบ้าหลอมของลูก เป็นครูคนแรกของลูก
ถามว่า ทุกวันนี้ พ่อแม่ให้กำเนิดลูกแล้วเป็นครูของลูกไหม
หรือให้พี่เลี้ยงทำแทน

สาม พ่อแม่เป็นพระอรหันต์
นั่นคือ คุณต้องรักลูกด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ไม่หวังผลอะไรตอบแทนทั้งสิ้น
ไม่ใช่มีลูกแล้วแต่ลูกเป็นหมากตัวหนึ่ง
เป็นหุ้นตัวหนึ่งที่พ่อแม่ส่งไปลงทุนกับบริษัทนั้น บริษัทนี้
ดันไปแต่งงานกับคนนั้นคนนี้ แล้วคอยเรียกทุนคืน
พ่อแม่แบบนี้ ไม่ได้ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์
ฉะนั้น เราจะเห็นได้ว่า
ฐานะของพ่อแม่ในทางพุทธศาสนานั้นสำคัญมาก
ถามว่าทำไมสถาบันครอบครัวทุกวันนี้จึงมีปัญหา
นั่นเป็นเพราะพ่อแม่เริ่มทอดทิ้งหน้าที่ของตนเอง

ถ้าเรากังวลว่า ลูกจะลำบากในอนาคต
ก็แก้ปัญหาให้ลูกตั้งแต่ตอนนี้
ก็คือ ควรจะสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก
หนึ่ง ให้ลูกเป็นคนที่มีความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล
เพื่อจะได้อยู่ในสังคมที่มีความซับซ้อนได้อย่างอยู่รอดปลอดภัย

สอง ให้ลูกใฝ่เรียนใฝ่รู้ใฝ่สู้งานหนักเตรียมไว้เนิ่นๆ
ความใฝ่เรียนใฝ่รู้จะทำให้เขามีปัญญา
ใฝ่สู้งานหนักจะทำให้เขาอยู่ท่ามกลางสังคม
ที่แก่งแย่งแข่งขันสูงได้ตลอด
สาม ให้ลูกใฝ่ดีและใฝ่สูง
คือ ให้เขาใฝ่ธรรมะไว้ตั้งแต่ต้นๆ
เพื่อว่าวันหนึ่ง เมื่อเจอวิกฤตการณ์หนักๆ ในชีวิต
เขาจะได้มีภูมิคุ้มกันในการกำเนิดชีวิต
เจอทุกข์จะได้ไม่พรั่น เจออุปสรรคจะได้ไม่กลัว
ผิดหวังจะได้ไม่ทำร้ายตนเอง
แล้วก็มองเห็นปัญหาทั้งหลายเป็นที่มาของปัญญา

ทำได้ทั้ง 3 ประการนี้ก็ถือว่า
พ่อแม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกแล้ว
สำหรับภาวะโลกร้อนที่จะตามมาในอนาคต
เราต้องเรียนรู้ว่า เด็กทุกคนมีศักยภาพที่จะเป็นโจรก็ได้
มีศักยภาพที่จะเป็นพระอรหันต์ก็ได้
ลูกจะเป็นโจรหรือพระอรหันต์ก็ขึ้นอยู่กับสองมือของพ่อและแม่
เพราะเด็ก คือ บุตรธิดาของสิ่งแวดล้อม
พ่อแม่ คือ สิ่งแวดล้อมที่ใกล้ชิดที่สุดของลูก
ถ้าพ่อแม่เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดี ก็ได้ลูกที่ดี เป็นพระอรหันต์
ถ้าพ่อแม่ทำตัวสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี ลูกก็เป็นโจร
ฉะนั้น ลูกจะเป็นโจรหรือเป็นพระอรหันต์
พ่อแม่มีส่วนในคุณสมบัติของลูกด้วยเสมอไป”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเสียงส่วนหนึ่งจากท่าน ว.วชิรเมธี
ที่น่าจะทำให้เราคนเป็นพ่อแม่ได้ข้อคิดดีๆ ในปีของหนูนะคะ

มีความสุขกับการเป็นพ่อแม่ในทุกวันค่ะ

    ขอบคุณที่มา เว็บบอร์ด พลังจิต
 
 
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #19 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 03:40:03 AM »

เพราะอะไรลูกท่านจึงกลายเป็นอาชญากร
 
ท่านพ่อแม่ที่นับถือทั้งหลาย...
             หลายครั้งหลายหน ที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาส
             เข้าไปให้การอบรมนักโทษในเรือนจำของ
จังหวัดต่างๆที่ข้าพเจ้าไปก็เพื่ออบรมให้เขากลับตัว
เป็นคนดี ได้พบว่า มีผู้ต้องขังเป็นจำนวนมาก ผู้ต้อง
ขังที่ทำให้กระเทือนใจมากที่สุด  คือเด็กเล็กๆ  อายุ
ขนาด 12-15 ปี อันมีอยู่ในเรือนจำนั้นๆ ได้ลองถาม
เด็กเหล่านั้นว่าต้องถูกจับด้วยเรื่องอะไร? เขาก็บอกว่า
เรื่องลักทรัพย์บ้าง เรื่องทำร้ายร่างกายเพื่อนเด็กด้วยกัน
บ้าง แต่ส่วนมากเกี่ยวกับเรื่องลักทรัพย์   ได้ถามเขาต่อ
ไปว่าพ่อแม่ไม่มีหรือ? เขาบอกว่ามีอยู่   ได้ถามต่อไปว่า
พ่อแม่ยากจนหรือ?  ก็ได้ทราบว่าหาได้เป็นคนยากจน
เกินไปไม่  มีบ้านอยู่มีข้าวกินทุกวัน...ไม่เคยอดอยาก
            
ทำไมเจ้าเด็กน้อยคนนั้นจึงต้องตกเป็นอาชญากรไปอย่างนั้น?
       ถ้าไม่ศึกษาถึงมูลฐานของเขาก็คงไม่ทราบ และ
อาจนึกไปเองว่าความยากจนเป็นเหตุ   จริงอยู่...
ความยากจนเป็นต้นเหตุประการหนึ่งที่ทำให้คนกลาย
เป็นอาชญากร     แต่จะคิดว่ามีเหตุเพียงประการเดียว
เท่านั้นก็ไม่ได้ เหตุอันอื่นๆ ก็คงมีอยู่บ้างมิน้อย

             พ่อแม่บางคนมีส่วนสำคัญในการอบรม
ลูกของตนเป็นโจรไปโดยไม่รู้ตัว...          นิทาน
สุภาษิตเรื่องสอนลูกให้เป็นโจรมีตัวอย่างอยู่แล้ว
จริงอยู่...พ่อแม่ทุกคนมีความรักลูกและปรารถนา
ที่จะสอนลูกให้เป็นคนดี เป็นคนมีหน้ามีตา  เช่น
เข้าใจไปว่า ถ้าลูกของตนเป็นคนเก่ง เป็นคนไม่
กลัวใคร เป็นนักสู้ กระทำอะไรได้ทุกอย่างก็นึกว่า
เป็นความดีแล้ว ความคิดแบบนี้มันเป็นความคิด
ที่ผิดเกิดขึ้นแก่บิดามารดาใดแล้ว ย่อมนำความ
เสื่อมมาสู่สกุลเป็นแน่ ขออย่าได้มีความเข้าใจผิด
ในรูปนี้เลย

        หลักการสอนลูกปฏิบัติขั้นต้นห้าประการ

        - สอนมิให้ฆ่าสัตว์    อันเป็นการกระทำที่โหดร้าย ปราศจากความปรานี
            
        - สอนมิให้ลักขโมย  อันเป็นอาการของบุคลผู้ไม่เคารพต่อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของใครๆ
 
        - สอนมิให้มีการประพฤติผิดในทางกาม  อันแสดงถึงความเป็นคนไม่รู้จักบังคับตนเองในทางใจ

        - สอนมิให้พูดคำหยาบ  คำโกหก คำเหลวไหล คำที่ทำให้คนแตกแยกกัน ล้วนเป็นคำพูดที่ส่อแสดงถึงความไม่ดีของใจ

        - สอนมิให้ดื่ม สูบ กิน ของมึนเมา อันเป็นที่ตั้งของความประมาท

            
                               ข้อปฏิบัติทั้งห้าประการนี้เป็นกิจชอบ ควรที่พ่อแม่พึงสอนให้แก่บุตรธิดาของตน
                     ให้รู้จักปฏิบัติให้ดีตั้งแต่เยาว์วัย ก็จะช่วยให้เด็กเหล่านั้นทำตนให้เป็นคนดีในโอกาสข้างหน้า
            

                                                                                                    รักลูก ให้ถูกทาง...หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 16, 2011, 03:42:39 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #20 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 09:38:04 AM »

ไม่เห็นแปลกครับ ลองดูก็ไม่เสียหายครับ
ใครมีลูกแล้วปล่อยให้ไปนอกบ้านหลังสี่ทุ่ม แล้วผู้ปกครองนอนหลับสบาย
เนี่ยแปลกกว่า
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 10:45:06 AM »

ไม่เห็นแปลกครับ ลองดูก็ไม่เสียหายครับ
ใครมีลูกแล้วปล่อยให้ไปนอกบ้านหลังสี่ทุ่ม แล้วผู้ปกครองนอนหลับสบาย
เนี่ยแปลกกว่า

 Undecided จริงครับไม่มีผู้ปกครองอยากปล่อยหรอกครับ แต่เด็กเองจะเอาตรงนี้มาอ้างในการไม่กลับบ้าน สังเกตุไหมครับ ว่าช่วงที่เอา พรบ. นี้มาเข้มงวดเมื่อครั้งก่อน การเปิดห้องโรงแรมห้องพักตามคอนโดหรือห้องพักต่าง ๆ เพื่อมั่วสุมมีมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถ้าเด็กเองกลับบ้านตรงเวลาก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเด็กคนไหนมีแนวโน้มไปในทางเริ่มที่จะไม่ดี จะเป็นการส่งให้เขากระทำง่ายขึ้น จะมีข้ออ้างต่าง ๆ มากมายในการที่จะไม่กลับบ้าน นี่แหละครับ จะทำให้ผู้ปกครองไม่สบายใจมากขึ้น ไม่เช่นนั้นก็ต้องไปตามหาไปรับเอาเอง Undecided
บันทึกการเข้า

ต่อครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 216
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4088


(** ^0^ **)


« ตอบ #22 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 10:55:35 AM »

เข้มงวดตามจุดล่อแหลมให้มากขึ้น บวกกับ

บังคับใช้ กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เข้มงวดขึ้น ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าใช้สถานบริการ การงดจำหน่ายสุรา บุหรี่ ให้กับเด็ก
บันทึกการเข้า

________________________________________

เพื่อชาติ<>ราชบัลลังค์.....ร่วมปกป้องสถาบัน.....
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 11:14:56 AM »

เข้มงวดตามจุดล่อแหลมให้มากขึ้น บวกกับ

บังคับใช้ กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เข้มงวดขึ้น ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าใช้สถานบริการ การงดจำหน่ายสุรา บุหรี่ ให้กับเด็ก

 Grin พรบ. นี้มันก็มีอยู่แล้วนะ 555 Grin
บันทึกการเข้า

ต่อครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 216
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4088


(** ^0^ **)


« ตอบ #24 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 11:23:37 AM »

เข้มงวดตามจุดล่อแหลมให้มากขึ้น บวกกับ

บังคับใช้ กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เข้มงวดขึ้น ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าใช้สถานบริการ การงดจำหน่ายสุรา บุหรี่ ให้กับเด็ก

 Grin พรบ. นี้มันก็มีอยู่แล้วนะ 555 Grin


ครับพี่ใหม่ ผมคิดว่า พรบ.ที่มีอยู่แล้ว หากมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวดอย่างจริงจัง
น่าจะช่วยลดสิ่งยั่วยุ สิ่งเร้า ที่ดึงเด็กออกจากบ้านไปได้เยอะอยู่แล้วน่ะครับ
บันทึกการเข้า

________________________________________

เพื่อชาติ<>ราชบัลลังค์.....ร่วมปกป้องสถาบัน.....
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 11:39:49 AM »

ครับพี่ใหม่ ผมคิดว่า พรบ.ที่มีอยู่แล้ว หากมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวดอย่างจริงจัง
น่าจะช่วยลดสิ่งยั่วยุ สิ่งเร้า ที่ดึงเด็กออกจากบ้านไปได้เยอะอยู่แล้วน่ะครับ

 Grin สิ่งยั่วยุมันไม่ได้อยู่แค่สถานบริการนะ เด็กหลายคนไม่ได้ไปเที่ยวสถานบริการก็เสียคนได้ เมื่อก่อนก็คิดอย่างนั้น ว่าการที่เด็กได้เที่ยวสถานบริการมันแย่ แต่จากทุกวันนี้ที่คลุกคลีอยู่วงการสถานบริการสถานบันเทิง มีอีกมุมที่มองเห็น คือ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนที่ไม่เข้มงวดเรื่องอายุเด็กที่เที่ยว เด็กที่อายุไม่ถึง 20 ปี เที่ยวสถานบันเทิงมากกว่าปัจจุบันถ้านับเป้นร้อยละ แต่ปัจจุบันเด็กอายุต่ำกว่า 20 เที่ยวสถานบันเทิงคิดเป้นร้อยละน้อยลงกว่าเดิมมาก "แต่ทำไมเด็กมีปัญหาเรื่องต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิม" น่าคิดไหม Huh Undecided Grin
บันทึกการเข้า

ต่อครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 216
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4088


(** ^0^ **)


« ตอบ #26 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 12:23:26 PM »

ครับพี่ใหม่ ผมคิดว่า พรบ.ที่มีอยู่แล้ว หากมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวดอย่างจริงจัง
น่าจะช่วยลดสิ่งยั่วยุ สิ่งเร้า ที่ดึงเด็กออกจากบ้านไปได้เยอะอยู่แล้วน่ะครับ

 Grin สิ่งยั่วยุมันไม่ได้อยู่แค่สถานบริการนะ เด็กหลายคนไม่ได้ไปเที่ยวสถานบริการก็เสียคนได้ เมื่อก่อนก็คิดอย่างนั้น ว่าการที่เด็กได้เที่ยวสถานบริการมันแย่ แต่จากทุกวันนี้ที่คลุกคลีอยู่วงการสถานบริการสถานบันเทิง มีอีกมุมที่มองเห็น คือ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนที่ไม่เข้มงวดเรื่องอายุเด็กที่เที่ยว เด็กที่อายุไม่ถึง 20 ปี เที่ยวสถานบันเทิงมากกว่าปัจจุบันถ้านับเป้นร้อยละ แต่ปัจจุบันเด็กอายุต่ำกว่า 20 เที่ยวสถานบันเทิงคิดเป้นร้อยละน้อยลงกว่าเดิมมาก "แต่ทำไมเด็กมีปัญหาเรื่องต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิม" น่าคิดไหม Huh Undecided Grin

น่าคิดว่า...เป็นเพราะเราปล่อยให้เด็กรวมตัวกัน ในที่ลับตามากเกินไปไหมหนอ

Grin
บันทึกการเข้า

________________________________________

เพื่อชาติ<>ราชบัลลังค์.....ร่วมปกป้องสถาบัน.....
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 12:27:05 PM »

น่าคิดว่า...เป็นเพราะเราปล่อยให้เด็กรวมตัวกัน ในที่ลับตามากเกินไปไหมหนอ
Grin

 Grin นั่นล่ะประเด็นที่บอก กฎหมายนี้เด็กจะไปอยู่ในที่ลับมากขึ้น จะทำให้เรารู้ว่าเด็กไปทำอะไรที่ไหนน้อยลง Undecided Grin
บันทึกการเข้า

RSIA01 - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 832

"If guns are outlawed only outlaws will have guns"


« ตอบ #28 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 01:32:04 PM »

ครับพี่ใหม่ ผมคิดว่า พรบ.ที่มีอยู่แล้ว หากมีการบังคับใช้อย่างเข้มงวดอย่างจริงจัง
น่าจะช่วยลดสิ่งยั่วยุ สิ่งเร้า ที่ดึงเด็กออกจากบ้านไปได้เยอะอยู่แล้วน่ะครับ

 Grin สิ่งยั่วยุมันไม่ได้อยู่แค่สถานบริการนะ เด็กหลายคนไม่ได้ไปเที่ยวสถานบริการก็เสียคนได้ เมื่อก่อนก็คิดอย่างนั้น ว่าการที่เด็กได้เที่ยวสถานบริการมันแย่ แต่จากทุกวันนี้ที่คลุกคลีอยู่วงการสถานบริการสถานบันเทิง มีอีกมุมที่มองเห็น คือ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนที่ไม่เข้มงวดเรื่องอายุเด็กที่เที่ยว เด็กที่อายุไม่ถึง 20 ปี เที่ยวสถานบันเทิงมากกว่าปัจจุบันถ้านับเป้นร้อยละ แต่ปัจจุบันเด็กอายุต่ำกว่า 20 เที่ยวสถานบันเทิงคิดเป้นร้อยละน้อยลงกว่าเดิมมาก "แต่ทำไมเด็กมีปัญหาเรื่องต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิม" น่าคิดไหม Huh Undecided Grin
จริงครับพี่ เพื่อนของเพื่อนมั่ง คนรู้จักมั่ง ของผมหลายคนก็เสียคน ทั้งที่ไม่เคยไปเที่ยวสถานันเทิงหรือร้านเหล้า อะไรเหล่านี้แม้แต่น้อยครับ บางคนก็ติดการพนัน ติดยา ผู้หญิงก็เสียเนื้อเสียตัว
แต่ตรงข้าม กลุ่มผม ที่ไปดื่มตามร้านเหล้าเป็นครั้งคราว (แต่อายุเกิน 18 กันทุกคนแล้วนะครับ) กลับไม่มีใครเลยที่มีพฤติกรรมที่เรียกได้ว่าเสียหาย ดื่มวันหยุด เฮฮากับเพื่อนๆ แล้วก็พักผ่อนไป วันต่อมาก็รับผิดชอบการงานการเรียนได้ ไม่มีใครตาย เพราะว่าเมาไม่ขับอยู่แล้ว ไม่มีใครเสียเนื้อเสียตัว ไปแว๊น ไปติดการพนันติดยา แม้แต่คนเดียว

มันก็คงมีบ้างมีแหละครับ เด็กที่เสียคนจากสถานบันเทิง แต่ผมว่าสถานบันเทิงไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาครับ และไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในการชี้นำเด็กไปสู่ทางที่เสื่อมหรือไม่ ผมว่าขึ้นอยู่กับจิตสำนึก ความคิด และสันดาน ซึ่งมาจากพื้นฐานของสถาบันครอบครัวมากกว่าครับ ว่าอบรมสั่งสอนมาอย่างไร  ไหว้
บันทึกการเข้า

ข้าฯ ประกาศจักต่อสู้ไม่รู้ถอย
ขอ   เฝ้าคอยพิทักษ์ถิ่นแผ่นดินผืน
พลี   ตนได้เพื่อให้ไทยยั่งยืน
ชีพ   ไม่ฟื้นต้องแตกดับไม่กลับใจ
เพื่อ  ประเทศไทยที่รักของข้าฯนี้
ชาติ  ต้องมีอนาคตที่สดใส
และ  จักขอปกป้องศูนย์รวมใจ
ราชบัลลังก์  จักรีไว้ให้ยืนยง
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 02:35:56 PM »

จริงครับพี่ เพื่อนของเพื่อนมั่ง คนรู้จักมั่ง ของผมหลายคนก็เสียคน ทั้งที่ไม่เคยไปเที่ยวสถานันเทิงหรือร้านเหล้า อะไรเหล่านี้แม้แต่น้อยครับ บางคนก็ติดการพนัน ติดยา ผู้หญิงก็เสียเนื้อเสียตัว
แต่ตรงข้าม กลุ่มผม ที่ไปดื่มตามร้านเหล้าเป็นครั้งคราว (แต่อายุเกิน 18 กันทุกคนแล้วนะครับ) กลับไม่มีใครเลยที่มีพฤติกรรมที่เรียกได้ว่าเสียหาย ดื่มวันหยุด เฮฮากับเพื่อนๆ แล้วก็พักผ่อนไป วันต่อมาก็รับผิดชอบการงานการเรียนได้ ไม่มีใครตาย เพราะว่าเมาไม่ขับอยู่แล้ว ไม่มีใครเสียเนื้อเสียตัว ไปแว๊น ไปติดการพนันติดยา แม้แต่คนเดียว

มันก็คงมีบ้างมีแหละครับ เด็กที่เสียคนจากสถานบันเทิง แต่ผมว่าสถานบันเทิงไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาครับ และไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในการชี้นำเด็กไปสู่ทางที่เสื่อมหรือไม่ ผมว่าขึ้นอยู่กับจิตสำนึก ความคิด และสันดาน ซึ่งมาจากพื้นฐานของสถาบันครอบครัวมากกว่าครับ ว่าอบรมสั่งสอนมาอย่างไร  ไหว้

 Grin ถูกครับ แม่สถานบันเทิงเองจะเป้นหนึ่งในสิ่งยั่วยุก็จริง แต่แม้ห้ามเด็กเที่ยวได้ เด็กก็ยังมีทางอื่นอีกเยอะที่จำพาตัวเองไปสู่อบายมุกอื่น ๆ ทุกวันนี้ปัญหาหลัก ๆ เลยก็คือสาเสพติด การเข้าถึงสิ่งเสพติดไม่ใช่เรื่องยาก หรือแม้แต่สุราบุหรี่เอง ก็ไม่มีปัญหาที่เด็กจะหามาดื่มมาสูบได้ ผู้ใหญ่เห็นแก่ตัวหลายคนเป็นคนนำมาให้เสียด้วยซ้ำ Undecided
 Undecided ที่สำคัญก็คือ ยาเสพติดทั้งหลาย เมื่อเวลาเสพ ก็ต้องอยู่ในที่ลับอยู่แล้ว แม้บ่อยครั้งที่จะมีการตรวจสถานบันเทิงและพบสิ่งเสพติด หรือพบนักเที่ยวที่มีสารเสพติดในร่างกาย แต่ที่ผมได้สัมผัสมาคือ มีเพียงน้อยนิดมากที่นำยาเสพติดมาเสพในสถานบันเทิงจริง ๆ ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด เสพมาก่อนเข้าเที่ยว และกลับไปเสพหลังจากเที่ยว แล้วพวกเขาไปเสพที่ไหนกันล่ะ ก็ตามห้องพัก หอพัก โรงแรม คอนโด หรือบางครั้งก็บ้านของตัวเอง (ที่ไม่มีผู้ปกครองอยู่) Undecided
 Undecided แล้วเด็กที่ไม่สามารถเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงได้ล่ะ ก็เช่นเดียวกันตามห้องพักต่าง ๆ นี่คือสวรรค์เลย เขาไม่ได้ง้อที่จะต้องไปเที่ยวสถานบันเทิง ดีเสียอีกที่เงินจำนวนเท่ากันที่จะนำไปเที่ยว สามารถซื้อเหล้าบุหรี่ได้มากกว่า แถมยังจะเหลือเงินซื้อ "ของ" ได้มากขึ้นด้วย แล้วการที่ดันเขาเข้าไปอยู่ในที่ลับมากขึ้น แถวบ้านผมเรียก "เสร็จโจร" เพราะการตรวจตราตรวจสอบก็จะทำได้ลำบากขึ้น เพราะจะมีการกระจายในการลักลอบมั่วสุมเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วไป Undecided
 Grin ไม่ได้เข้าข้างหรือเห็นด้วยกับสถานบันเทิงนะครับ ซึ่งทุกวันนี้ก็รู้สึกดีระดับหนึ่งที่เห้นเด็กเที่ยวน้อยลง แต่ถึงขนาดว่าน้อยลงแต่ปัญหาต่าง ๆ ก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่่างใด แถมเพิ่มมากขึ้นทุกวันเสียด้วยซ้ำ เพราะฉนั้น การห้ามเด็กเที่ยว การห้ามเขาออกจากบ้าน ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดเท่าไร และเห้นว่าในบางมุมจะเป้นการดันเด็กออกไปอยู่ที่ลับมากขึ้นเท่านั้น Undecided
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 16, 2011, 02:38:55 PM โดย NaiMai>รักในหลวง » บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.092 วินาที กับ 21 คำสั่ง