เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 11, 2025, 12:59:39 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ  (อ่าน 6717 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Nat_usp
เวลาเหลือน้อยแล้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 708
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3010


กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง


« ตอบ #15 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 12:05:04 PM »

เวลาสร้างถนน สร้างยูเทิร์น สร้างสะพานลอย ต้องคำนึงถึงบุคคลสามฝ่ายบ้างครับ
รถยนต์
รถมอเตอร์ไซค์
คนข้ามถนน
ต้องสมดุลย์กันอย่าไปเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป จนเสียสมดุลย์ไป อันตรายมันจะตามมาภายหลัง
เวลานี้ผมเห็นว่าเอาใจแต่บุคคลแรกมากเกินไป จนสองคนหลังแทบไม่มีที่โผล่หัวในสังคมคนใช้รถใช้ถนนกันแล้ว

อ่านถึงตรงนี้นึกได้  ท่านที่ใช้ทางคู่ขนานก่อนถึงห้าง Big-C อยุธยา ( ขาขึ้นเหนือ )
ระวังคนข้ามถนนด้วยครับเพราะสะพานลอยมีครึ่งเดียว ตรงถนนสายหลัก
พอสร้างคู่ขนาน ไม่ได้สร้างสะพานลอยต่อ  อันตรายกับผู้ข้ามถนนมากๆครับ
เพราะเป็นแยกตัว T  ถนนเป็น 2 +เลนสวนกัน+รถเข้า ออก จากซอย
บันทึกการเข้า

รักในหลวงที่สุดที่ในโลก

เพียงดาวเบเกอรี่     http://forum.ayutthaya.go.th/index.php?topic=31931.0
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 12:13:35 PM »

พูดแล้วก็เหมือนเดิม คือทุกเรื่องของประเทศไทยนายสมชายว่ามันเกิดจาก... 1) คนโง่มันแยะเกินไป คิดมักง่าย(ตรงนี้คนออกแบบถนนก็ต้องช่วยแก้ด้วย แต่คนออกแบบก็ส่วนใหญ่โง่ - โดยเฉพาะป้ายบอกทางไม่ค่อยได้ผล), และ 2) คนบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ มักอ้างว่าเข้มเกินไปก็โดนบ่น โดนชาวบ้านด่า แล้วก็เลยกลายเป็นปล่อยเลย หรือไม่ก็ประชดด้วยการหาเรื่องแกล้งจับ ไม่เคยพอดี...
อืม..ถ้าคิดว่าคนออกแบบส่วนใหญ่โง่..ทำไมถึงคิดแบบนั้นละครับ ถ้างั้นรบกวนพี่แนะนำข้อมูลหน่อย ผมจะได้ไปบอกข้อมูลพี่ๆที่ออกแบบให้ พอดีผมพอรู้จักหลายคนอยู่ครับ หลงรัก
ส่วนเรื่องทางกลับรถ ทางหลวงสาย32นั้นต้องมีเพราะการขยายช่องทางจราจรมากขึ้น การกลับรถตรงเกาะกลางถนนนั้นอันตรายมาก โดยเฉพาะรถขนาดใหญ่เช่นรถบัสโดยสาร หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่
 การวิ่งย้อนทิศทางจราจรนั้นผมว่าเป็นเรื่องของความมักง่ายและเห็นแก่ตัวมากกว่า ผมเคยไปช่วยคนที่ประสบเหตุเพราะขับรถย้อนศร ทั้งที่ที่กลับรถห่างไปไม่ถึง100เมตร ถ้าทำตามกฏสักนิดวันนั้นคนที่ย้อนศรคงไม่ตาย คนที่ขับมาตามทาง
ก็ไม่ต้องบาดเจ็บ ดีที่รถที่วิ่งมาตามทางคาดเข็มขัดนิรภัยมาทั้งคันไม่งั้นแย่แน่ ... คนมันจะมักง่ายที่กลับรถห่างบ้านแค่ไม่กี่เมตรมันยังย้อนศรเลย
ถ้าจะปรับปรุงผมว่าน่าจะเป็นเรื่องวินัยจราจรและการบังคับใช้กฏหมายที่ควรต้องปรับปรุงมากกว่าครับ ไหว้

เรื่องออกแบบตำแหน่งว่าตรงไหนควรจะมีสะพานลอยคนข้ามถนน หรือสะพานลอยสำหรับมอเตอร์ไซค์นั้น ท่านอื่นบอกไปแล้วครับ... มีที่นายสมชายพูดบ่อยและยังไม่ได้รับการแก้ไขคือเรื่องทางโค้งรัชดาหน้าศาลอาญา กับเรื่องป้ายบอกทาง"ก่อน"ถึงทางแยะน่ะครับ...

เรื่องทางโค้งรัชดาหน้าศาลอาญา มีการคุยกันไปแล้วว่าเป็นเพราะส่วนโค้งของถนนมันมี"หัก"ซ้อนข้างในโค้งครับ ทำให้รถยนต์มุ่งหน้าเข้าแยกรัชโยธินที่เลี้ยงแรงเหวี่ยงพอดีกับแรงเสียดทานที่พื้นถนนแบบเป๊ะๆ พอถึงโค้งแล้วต้องหักโค้งซ้อนในโค้ง เลยมักหลุดโค้งครับ, ตรงนี้ในกระทู้เก่าเคยคุยกันว่าออกแบบไม่ดี ทหารช่างมาสร้างแล้วพบว่าไม่ถูกต้องขอแก้ไข แต่ทางคนออกแบบไม่ได้แก้แบบครับ... เรื่องนี้คนประมาทมันก็ขับกันเร็วเกิน แต่คนออกแบบน่าจะเผื่อคนประมาทเอาไว้ด้วยครับ...

เรื่องป้ายบอกทางทั่วไป... คือมาตรฐานประเทศไทยกับต่างประเทศแตกต่างกันมาก, ของประเทศไทยบอกก่อนถึงแยกกระชั้นชิดเกิน โดยนายสมชายเข้าใจว่าคนออกแบบใช้ความเร็วมาตรฐานไม่เกิน 90 กม./ชม. เป็นตัวตั้ง, ทีนี้เวลาคนขับรถ 120 กม./ชม.(เกินความเร็วขั้นสูงตามกฎหมายแน่ๆ) ก็เลยกลายเป็นมองป้ายไม่ทัน...

สำหรับ"ทางราบ"นั้น ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ ป้ายบอกทางบนถนนวิภาวดีจากดินแดงไปรังสิต มีป้ายเล็กๆบอกโน่นนี่เป็นระยะๆ แล้วบางป้ายก็มีต้นไม้บังอีกต่างหาก... นี่ไม่นับป้ายบนถนนอื่นอีกทั่วประเทศครับ, ก็คือใครก็ตามที่ผ่านมาครั้งแรกต้องหลงก่อนทุกครั้ง...

ส่วนบนทางด่วนก็คือป้ายบอกแยกต่างๆ ที่ไปแปะเอาไว้กับ"ง่ามตัววาย"พอดีเป๊ะ เช่นป้ายบอกแยกไปหลานหลวง ไปสาทร เป็นต้น... เรื่องนี้เคยได้ยินผู้ใหญ่ในประเทศไทยบอกว่าสาเหตุที่รถยนต์"ตก"ทางด่วนก็เพราะไม่ชินเส้นทาง...

นายสมชายเคยขับรถยนต์ที่ต่างประเทศทริปเดียว 20,000 กิโล(สองหมื่น) ก็เคยครับ... เอาที่ USA เขาจะมีป้ายบอกเป็นระยะ"ก่อนถึง"ห่างพอให้คนขับย้ายเลนล่วงหน้าได้ทัน, และหากป้ายบอกสถานที่หลายแห่ง เขาก็จะเรียงตามลำดับ ที่ไหนถึงก่อนจะมีตำแหน่งอยู่ซ้ายมือสุด, สถานที่ห่างออกไปแห่งใหม่จะปรากฎครั้งแรกที่ขวามือสุด แล้วค่อยๆเลื่อนมาทางซ้ายมือเมื่อใกล้ถึงครับ...

สำหรับป้ายบนทางด่วนที่เมืองไทยนั้น คนขับต้องรู้ว่า"หลานหลวงถึงก่อนบางนา"ม่ายงั้นงงเลยครับ... เย้...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2011, 12:20:00 PM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #17 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 12:22:20 PM »

เวลาสร้างถนน สร้างยูเทิร์น สร้างสะพานลอย ต้องคำนึงถึงบุคคลสามฝ่ายบ้างครับ
รถยนต์
รถมอเตอร์ไซค์
คนข้ามถนน

ต้องสมดุลย์กันอย่าไปเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป จนเสียสมดุลย์ไป อันตรายมันจะตามมาภายหลัง
เวลานี้ผมเห็นว่าเอาใจแต่บุคคลแรกมากเกินไป จนสองคนหลังแทบไม่มีที่โผล่หัวในสังคมคนใช้รถใช้ถนนกันแล้ว

ต่างประเทศให้ความสำคัญกับจักรยานด้วยนะ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #18 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 12:23:28 PM »



ทุบเกาะกลาง เป็นช่อง สักหน่อย ก็ไปกันได้แล้ว

งงอยู่ครับ คุณยอด ทุบเกาะกลางแบบไหนครับ
จินตนาการไม่ออกจริงๆ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

EAK1980 รักในหลวง
ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอย่างไร
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1197


ไปได้ทุกที่.....ที่มีทาง ฅ.ฅนสร้างทาง


« ตอบ #19 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 01:07:40 PM »

พูดแล้วก็เหมือนเดิม คือทุกเรื่องของประเทศไทยนายสมชายว่ามันเกิดจาก... 1) คนโง่มันแยะเกินไป คิดมักง่าย(ตรงนี้คนออกแบบถนนก็ต้องช่วยแก้ด้วย แต่คนออกแบบก็ส่วนใหญ่โง่ - โดยเฉพาะป้ายบอกทางไม่ค่อยได้ผล), และ 2) คนบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ มักอ้างว่าเข้มเกินไปก็โดนบ่น โดนชาวบ้านด่า แล้วก็เลยกลายเป็นปล่อยเลย หรือไม่ก็ประชดด้วยการหาเรื่องแกล้งจับ ไม่เคยพอดี...
อืม..ถ้าคิดว่าคนออกแบบส่วนใหญ่โง่..ทำไมถึงคิดแบบนั้นละครับ ถ้างั้นรบกวนพี่แนะนำข้อมูลหน่อย ผมจะได้ไปบอกข้อมูลพี่ๆที่ออกแบบให้ พอดีผมพอรู้จักหลายคนอยู่ครับ หลงรัก
ส่วนเรื่องทางกลับรถ ทางหลวงสาย32นั้นต้องมีเพราะการขยายช่องทางจราจรมากขึ้น การกลับรถตรงเกาะกลางถนนนั้นอันตรายมาก โดยเฉพาะรถขนาดใหญ่เช่นรถบัสโดยสาร หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่
 การวิ่งย้อนทิศทางจราจรนั้นผมว่าเป็นเรื่องของความมักง่ายและเห็นแก่ตัวมากกว่า ผมเคยไปช่วยคนที่ประสบเหตุเพราะขับรถย้อนศร ทั้งที่ที่กลับรถห่างไปไม่ถึง100เมตร ถ้าทำตามกฏสักนิดวันนั้นคนที่ย้อนศรคงไม่ตาย คนที่ขับมาตามทาง
ก็ไม่ต้องบาดเจ็บ ดีที่รถที่วิ่งมาตามทางคาดเข็มขัดนิรภัยมาทั้งคันไม่งั้นแย่แน่ ... คนมันจะมักง่ายที่กลับรถห่างบ้านแค่ไม่กี่เมตรมันยังย้อนศรเลย
ถ้าจะปรับปรุงผมว่าน่าจะเป็นเรื่องวินัยจราจรและการบังคับใช้กฏหมายที่ควรต้องปรับปรุงมากกว่าครับ ไหว้

เรื่องออกแบบตำแหน่งว่าตรงไหนควรจะมีสะพานลอยคนข้ามถนน หรือสะพานลอยสำหรับมอเตอร์ไซค์นั้น ท่านอื่นบอกไปแล้วครับ... มีที่นายสมชายพูดบ่อยและยังไม่ได้รับการแก้ไขคือเรื่องทางโค้งรัชดาหน้าศาลอาญา กับเรื่องป้ายบอกทาง"ก่อน"ถึงทางแยะน่ะครับ...

เรื่องทางโค้งรัชดาหน้าศาลอาญา มีการคุยกันไปแล้วว่าเป็นเพราะส่วนโค้งของถนนมันมี"หัก"ซ้อนข้างในโค้งครับ ทำให้รถยนต์มุ่งหน้าเข้าแยกรัชโยธินที่เลี้ยงแรงเหวี่ยงพอดีกับแรงเสียดทานที่พื้นถนนแบบเป๊ะๆ พอถึงโค้งแล้วต้องหักโค้งซ้อนในโค้ง เลยมักหลุดโค้งครับ, ตรงนี้ในกระทู้เก่าเคยคุยกันว่าออกแบบไม่ดี ทหารช่างมาสร้างแล้วพบว่าไม่ถูกต้องขอแก้ไข แต่ทางคนออกแบบไม่ได้แก้แบบครับ... เรื่องนี้คนประมาทมันก็ขับกันเร็วเกิน แต่คนออกแบบน่าจะเผื่อคนประมาทเอาไว้ด้วยครับ...

เรื่องป้ายบอกทางทั่วไป... คือมาตรฐานประเทศไทยกับต่างประเทศแตกต่างกันมาก, ของประเทศไทยบอกก่อนถึงแยกกระชั้นชิดเกิน โดยนายสมชายเข้าใจว่าคนออกแบบใช้ความเร็วมาตรฐานไม่เกิน 90 กม./ชม. เป็นตัวตั้ง, ทีนี้เวลาคนขับรถ 120 กม./ชม.(เกินความเร็วขั้นสูงตามกฎหมายแน่ๆ) ก็เลยกลายเป็นมองป้ายไม่ทัน...

สำหรับ"ทางราบ"นั้น ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ ป้ายบอกทางบนถนนวิภาวดีจากดินแดงไปรังสิต มีป้ายเล็กๆบอกโน่นนี่เป็นระยะๆ แล้วบางป้ายก็มีต้นไม้บังอีกต่างหาก... นี่ไม่นับป้ายบนถนนอื่นอีกทั่วประเทศครับ, ก็คือใครก็ตามที่ผ่านมาครั้งแรกต้องหลงก่อนทุกครั้ง...

ส่วนบนทางด่วนก็คือป้ายบอกแยกต่างๆ ที่ไปแปะเอาไว้กับ"ง่ามตัววาย"พอดีเป๊ะ เช่นป้ายบอกแยกไปหลานหลวง ไปสาทร เป็นต้น... เรื่องนี้เคยได้ยินผู้ใหญ่ในประเทศไทยบอกว่าสาเหตุที่รถยนต์"ตก"ทางด่วนก็เพราะไม่ชินเส้นทาง...

นายสมชายเคยขับรถยนต์ที่ต่างประเทศทริปเดียว 20,000 กิโล(สองหมื่น) ก็เคยครับ... เอาที่ USA เขาจะมีป้ายบอกเป็นระยะ"ก่อนถึง"ห่างพอให้คนขับย้ายเลนล่วงหน้าได้ทัน, และหากป้ายบอกสถานที่หลายแห่ง เขาก็จะเรียงตามลำดับ ที่ไหนถึงก่อนจะมีตำแหน่งอยู่ซ้ายมือสุด, สถานที่ห่างออกไปแห่งใหม่จะปรากฎครั้งแรกที่ขวามือสุด แล้วค่อยๆเลื่อนมาทางซ้ายมือเมื่อใกล้ถึงครับ...

สำหรับป้ายบนทางด่วนที่เมืองไทยนั้น คนขับต้องรู้ว่า"หลานหลวงถึงก่อนบางนา"ม่ายงั้นงงเลยครับ... เย้...
เรื่องป้ายบอกทาง...ความเร็วมีผลครับปกตติตามมาตราฐาน (เราก็ใช้มาตราฐานกับสากลนะครับ) จะติดบอกกันประมาณ 1 กม.. 500 เมตร และประมาณ150เมตร เป็นระยะก่อนถึงทางแยกออกแต่บางครั้งรถวิ่งเร็วเกิน>120ย่อมดูไม่ทัน แต่ก็มีเหมือนกันที่ติดไม่ได้ระยะ อยู่จนเกือบจะถึงทางแยกก็มี
อีกทั้งบางแห่งป้ายมีมาก จนดูแล้วไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องต้นไม้บังป้ายนั้น อยู่ที่เจ้าของพื้นที่แล้วครับ เรื่องการดูแล 
ผมเดินทางบ่อยเหมือนกัน (ในประเทศนะครับ) ต้องดูแผนที่ก่อนวางแผนก่อนไม่งั้นก็หลงเอาดื้อๆเหมือนกันเพราะ ถนนในเมืองไทย
มีหลายเจ้าภาพครับ...หลักๆสายใหญ่ๆก็กรมทางหลวง...ระหว่างหรือภายในจังหวัดก็ทางหลวงชนบท...ที่เหลือก็เทศบาล อบต. กรมชลฯ
เวลาเดินทางผมจะดูหมายเลขถนนเป็นหลัก(ของกรมทางหลวง)เพราะจะตรงกับแผนที่ เพราะปัจจุบันถนนเกิดใหม่และที่ขยายเพิ่มก็เยอะครับ ป้ายบอกให้เลี้ยวซ้าย
พอจะเลี้ยว อ้าว..ผิดแยกซะแล้ว มีทางมาเชื่อมใหม่ ก่อนทางแยก ก็งงกันไป  กิ๊วก๊าว
แต่ที่หน้าศาลอาญา โค้งนั้นน่ากลัวครับ...แต่ถ้าปิดเส้นนั้นปรับโค้งใหม่ผมว่ายิ่งน่ากลัวกว่าอีก หัวเราะร่าน้ำตาริน รถน่าจะติดแบบ...แต่ถ้าขับความเร็วปกติก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
แต่ส่วนใหญ่เหตุ ที่เกิดกลางคืน คนขับจะเมามาแล้วขับเร็วมากๆเพราะกลางคืน สถานบันเทิงเลิก ดึกๆรถจะโล่งมากๆ ก็มาสาดโค้งแบบ F1 กันเล่นๆ  คนเมา+คึกคะนอง=เรื่องเศร้าครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

Long Live The King

ต้นหนาว
CE KKU
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1397
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9433



« ตอบ #20 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 01:09:06 PM »

ตอนนี้มานั่งอยู่ที่ สำนักแผนงาน กรมทางหลวง อยู่สองอาทิตย์กว่าแล้ว....และยังต้องอยู่ต่ออีกเป็นเดือน...
มีผู้ใหญ่ในกรม มาอธิบายให้ฟังในหลายๆ เรื่อง...ก็เข้าใจปัญหาในหลายๆอย่าง

ปัญหาต่างๆที่ถกกันอยู่นี้  สมาชิกบางท่านก็พูดถูก  บางท่านก็พูดเอาแต่ใจ...

ถ้าให้อธิบายด้วยเหตุ ด้วยผล....คงว่ากันยาว....

แค่ปัญหาจะสร้างเกือกม้าไว้ตรงหน้าบ้านใครก็เรื่องใหญ่...แล้ว...ไม่มีใครอยากได้หรอก

ปัญหาของกระทู้นี้...คือความมักง่ายของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ครับ....
บันทึกการเข้า

  
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 01:55:32 PM »

เรื่องป้ายบอกทาง...ความเร็วมีผลครับปกตติตามมาตราฐาน (เราก็ใช้มาตราฐานกับสากลนะครับ) จะติดบอกกันประมาณ 1 กม.. 500 เมตร และประมาณ150เมตร เป็นระยะก่อนถึงทางแยกออกแต่บางครั้งรถวิ่งเร็วเกิน>120ย่อมดูไม่ทัน แต่ก็มีเหมือนกันที่ติดไม่ได้ระยะ อยู่จนเกือบจะถึงทางแยกก็มี
อีกทั้งบางแห่งป้ายมีมาก จนดูแล้วไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องต้นไม้บังป้ายนั้น อยู่ที่เจ้าของพื้นที่แล้วครับ เรื่องการดูแล  
ผมเดินทางบ่อยเหมือนกัน (ในประเทศนะครับ) ต้องดูแผนที่ก่อนวางแผนก่อนไม่งั้นก็หลงเอาดื้อๆเหมือนกันเพราะ ถนนในเมืองไทย
มีหลายเจ้าภาพครับ...หลักๆสายใหญ่ๆก็กรมทางหลวง...ระหว่างหรือภายในจังหวัดก็ทางหลวงชนบท...ที่เหลือก็เทศบาล อบต. กรมชลฯ
เวลาเดินทางผมจะดูหมายเลขถนนเป็นหลัก(ของกรมทางหลวง)เพราะจะตรงกับแผนที่ เพราะปัจจุบันถนนเกิดใหม่และที่ขยายเพิ่มก็เยอะครับ ป้ายบอกให้เลี้ยวซ้าย
พอจะเลี้ยว อ้าว..ผิดแยกซะแล้ว มีทางมาเชื่อมใหม่ ก่อนทางแยก ก็งงกันไป  กิ๊วก๊าว
แต่ที่หน้าศาลอาญา โค้งนั้นน่ากลัวครับ...แต่ถ้าปิดเส้นนั้นปรับโค้งใหม่ผมว่ายิ่งน่ากลัวกว่าอีก หัวเราะร่าน้ำตาริน รถน่าจะติดแบบ...แต่ถ้าขับความเร็วปกติก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
แต่ส่วนใหญ่เหตุ ที่เกิดกลางคืน คนขับจะเมามาแล้วขับเร็วมากๆเพราะกลางคืน สถานบันเทิงเลิก ดึกๆรถจะโล่งมากๆ ก็มาสาดโค้งแบบ F1 กันเล่นๆ  คนเมา+คึกคะนอง=เรื่องเศร้าครับ  ไหว้

เอาเรื่องป้ายบอกทาง กับเรื่องทางโค้งรัชดานะครับ... ส่วนเรื่องมีหลายเจ้าภาพ หรือเรื่องอื่นที่อาจพาดพิงถึงนั้นเดี๋ยวมันหลุดไปไกลครับ... เย้...

เรื่องป้ายบอกทางนั้นโจทก์มันมีอยู่ว่าทำอย่างไรไม่ให้เกิดอุบัติเหตุน่ะครับ, หากยึดมาตรฐาน(ที่ว่า)สากลแล้ว แต่มันยังเกิดอุบัติเหตุอยู่(ตกทางด่วน หรือชนเสาไฟฟ้า) หรือยังมีคนบ่นหลงทางอยู่ แสดงว่ามาตรฐานที่ว่าดีนั้นยังดีไม่พอครับ... มีที่น่าสังเกตว่าบริเวณไหนมีอุบัติเหตุบ่อย จะไม่ว่ายึดมาตรฐานใดก็ตาม แสดงว่ามาตรฐานของ"ตรงบริเวณนั้น"มันไม่ถูกต้องแล้วครับ, เพราะถ้ามันถูกต้องจะต้องมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยเหมือนที่อื่น...

มาตรฐานป้ายบอกทางนั้นนายสมชายไม่มีอาชีพด้านนี้ เลยไม่ทราบรายละเอียดครับ... แต่ที่เห็นแน่ๆคือสมมติว่าป้ายบอกทางไปหลายสถานที่ สถานที่ไหนใกล้สุดจะต้องไปอยู่บนราวแขวนป้ายซ้ายมือสุด สถานที่ไกลสุดจะอยู่ขวามือสุด(ตรงนี้ประเทศไทยมีป้ายสารพัดขนาด อยู่หลากตำแหน่ง), แล้วเมื่อจะเข้าแยกนั้นจะต้องมีลูกศรบอกช่องทางชี้ลงที่พื้นถนน(ตัวอย่างตรงนี้ที่ถนนวิภาวดี บริเวณรังสิตฯ ชวนสับสน)...

สำหรับเรื่องโค้งรัชดานั้น ไม่น่ากลัวรถติดเสียจนไม่กล้าปรับปรุง... เพราะถึงไม่ปรับปรุงถนน มันก็มีปรับปรุงอย่างอื่นให้รถติดอยู่ดีครับ เช่นทำผิวสะพานลอยรัชโยธิน รถก็ติดอีกอยู่ดี, ดังนั้นเรื่องนี้มันอยู่ที่"อยากจะแก้ไขหรือไม่"น่ะครับ...

แล้วถ้าบอกว่าสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุตรงโค้งนั้นเพราะคนเมาออกจากสถานบันเทิง เลยสาดโค้งแบบ F1 + คึกคะนอง = เรื่องเศร้านี่, มันต้องแยกประเด็นน่ะครับ คนเมาก็ผิดกฎจราจร สาดโค้งแบบ F1 กฏผิดกฏจราจร แต่ความผิดแบบนั้นมันไม่ถึงกับต้องตายนี่ครับ... มันก็ต้องกลับมาที่เดิมว่าโจทย์ของคนออกแบบถนนต้องหาวิธีแก้ไขรักษาชีวิตพวกประมาท พวกเมา พวกคะนองนี่ด้วยเหมือนกันแหละครับ...

ประเด็นคือการออกแบบจะต้องมุ่งป้องกันเผื่อคนประมาท คนมักง่าย คนโง่ ฯลฯ ซึ่งสรุปคือป้องกันความเสียหายน่ะครับ... แล้วหากมันยังอุตส่าห์เกิดความเสียหายขึ้นอีก ก็ต้องล้อมคอกกันต่อไป(อาจเกินมาตรฐานฯ)ครับ...
บันทึกการเข้า
Eka นายเอกา+รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 27
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 434



« ตอบ #22 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 03:07:37 PM »

น่าเห็นใจครับต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลครับ แม้แต่พวกที่ย้อนศรเขาก็ยังอ้างเพื่อความปลอดภัยและประหยัดทั้งที่รู้ว่ามันผิด

และขออาศัยกระทู้นี้สอบถามท่านผู้รู้หรือมีความเกี่ยวข้องด้วยครับผมสงสัยมานาน .. ตรงจุดกลับรถใต้สะพานตอนออกจากสนามยิงปืนบางบัวทองทำไมมันถึงต้องไปโผล่ในหมู่บ้าน/โครงการแถวนั้นแทนที่จะกลับออกถนนใหญ่ครับ  หรือว่ามันไม่ใช่จุดกลับรถแต่เป็นทางเข้าโครงการของเอกชนครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
EAK1980 รักในหลวง
ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอย่างไร
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1197


ไปได้ทุกที่.....ที่มีทาง ฅ.ฅนสร้างทาง


« ตอบ #23 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 03:48:37 PM »

เรื่องป้ายบอกทาง...ความเร็วมีผลครับปกตติตามมาตราฐาน (เราก็ใช้มาตราฐานกับสากลนะครับ) จะติดบอกกันประมาณ 1 กม.. 500 เมตร และประมาณ150เมตร เป็นระยะก่อนถึงทางแยกออกแต่บางครั้งรถวิ่งเร็วเกิน>120ย่อมดูไม่ทัน แต่ก็มีเหมือนกันที่ติดไม่ได้ระยะ อยู่จนเกือบจะถึงทางแยกก็มี
อีกทั้งบางแห่งป้ายมีมาก จนดูแล้วไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องต้นไม้บังป้ายนั้น อยู่ที่เจ้าของพื้นที่แล้วครับ เรื่องการดูแล  
ผมเดินทางบ่อยเหมือนกัน (ในประเทศนะครับ) ต้องดูแผนที่ก่อนวางแผนก่อนไม่งั้นก็หลงเอาดื้อๆเหมือนกันเพราะ ถนนในเมืองไทย
มีหลายเจ้าภาพครับ...หลักๆสายใหญ่ๆก็กรมทางหลวง...ระหว่างหรือภายในจังหวัดก็ทางหลวงชนบท...ที่เหลือก็เทศบาล อบต. กรมชลฯ
เวลาเดินทางผมจะดูหมายเลขถนนเป็นหลัก(ของกรมทางหลวง)เพราะจะตรงกับแผนที่ เพราะปัจจุบันถนนเกิดใหม่และที่ขยายเพิ่มก็เยอะครับ ป้ายบอกให้เลี้ยวซ้าย
พอจะเลี้ยว อ้าว..ผิดแยกซะแล้ว มีทางมาเชื่อมใหม่ ก่อนทางแยก ก็งงกันไป  กิ๊วก๊าว
แต่ที่หน้าศาลอาญา โค้งนั้นน่ากลัวครับ...แต่ถ้าปิดเส้นนั้นปรับโค้งใหม่ผมว่ายิ่งน่ากลัวกว่าอีก หัวเราะร่าน้ำตาริน รถน่าจะติดแบบ...แต่ถ้าขับความเร็วปกติก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
แต่ส่วนใหญ่เหตุ ที่เกิดกลางคืน คนขับจะเมามาแล้วขับเร็วมากๆเพราะกลางคืน สถานบันเทิงเลิก ดึกๆรถจะโล่งมากๆ ก็มาสาดโค้งแบบ F1 กันเล่นๆ  คนเมา+คึกคะนอง=เรื่องเศร้าครับ  ไหว้

เอาเรื่องป้ายบอกทาง กับเรื่องทางโค้งรัชดานะครับ... ส่วนเรื่องมีหลายเจ้าภาพ หรือเรื่องอื่นที่อาจพาดพิงถึงนั้นเดี๋ยวมันหลุดไปไกลครับ... เย้...

เรื่องป้ายบอกทางนั้นโจทก์มันมีอยู่ว่าทำอย่างไรไม่ให้เกิดอุบัติเหตุน่ะครับ, หากยึดมาตรฐาน(ที่ว่า)สากลแล้ว แต่มันยังเกิดอุบัติเหตุอยู่(ตกทางด่วน หรือชนเสาไฟฟ้า) หรือยังมีคนบ่นหลงทางอยู่ แสดงว่ามาตรฐานที่ว่าดีนั้นยังดีไม่พอครับ... มีที่น่าสังเกตว่าบริเวณไหนมีอุบัติเหตุบ่อย จะไม่ว่ายึดมาตรฐานใดก็ตาม แสดงว่ามาตรฐานของ"ตรงบริเวณนั้น"มันไม่ถูกต้องแล้วครับ, เพราะถ้ามันถูกต้องจะต้องมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยเหมือนที่อื่น...

มาตรฐานป้ายบอกทางนั้นนายสมชายไม่มีอาชีพด้านนี้ เลยไม่ทราบรายละเอียดครับ... แต่ที่เห็นแน่ๆคือสมมติว่าป้ายบอกทางไปหลายสถานที่ สถานที่ไหนใกล้สุดจะต้องไปอยู่บนราวแขวนป้ายซ้ายมือสุด สถานที่ไกลสุดจะอยู่ขวามือสุด(ตรงนี้ประเทศไทยมีป้ายสารพัดขนาด อยู่หลากตำแหน่ง), แล้วเมื่อจะเข้าแยกนั้นจะต้องมีลูกศรบอกช่องทางชี้ลงที่พื้นถนน(ตัวอย่างตรงนี้ที่ถนนวิภาวดี บริเวณรังสิตฯ ชวนสับสน)...

สำหรับเรื่องโค้งรัชดานั้น ไม่น่ากลัวรถติดเสียจนไม่กล้าปรับปรุง... เพราะถึงไม่ปรับปรุงถนน มันก็มีปรับปรุงอย่างอื่นให้รถติดอยู่ดีครับ เช่นทำผิวสะพานลอยรัชโยธิน รถก็ติดอีกอยู่ดี, ดังนั้นเรื่องนี้มันอยู่ที่"อยากจะแก้ไขหรือไม่"น่ะครับ...

แล้วถ้าบอกว่าสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุตรงโค้งนั้นเพราะคนเมาออกจากสถานบันเทิง เลยสาดโค้งแบบ F1 + คึกคะนอง = เรื่องเศร้านี่, มันต้องแยกประเด็นน่ะครับ คนเมาก็ผิดกฎจราจร สาดโค้งแบบ F1 กฏผิดกฏจราจร แต่ความผิดแบบนั้นมันไม่ถึงกับต้องตายนี่ครับ... มันก็ต้องกลับมาที่เดิมว่าโจทย์ของคนออกแบบถนนต้องหาวิธีแก้ไขรักษาชีวิตพวกประมาท พวกเมา พวกคะนองนี่ด้วยเหมือนกันแหละครับ...

ประเด็นคือการออกแบบจะต้องมุ่งป้องกันเผื่อคนประมาท คนมักง่าย คนโง่ ฯลฯ ซึ่งสรุปคือป้องกันความเสียหายน่ะครับ... แล้วหากมันยังอุตส่าห์เกิดความเสียหายขึ้นอีก ก็ต้องล้อมคอกกันต่อไป(อาจเกินมาตรฐานฯ)ครับ...
Grin นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง เรื่องรถติดมันเป็นมุขนะครับแต่ พี่คงจะไม่ขำ  หัวเราะร่าน้ำตาริน จริงๆแล้วผู้รับผิดชอบเขาคงหาทางแก้ไขอยู่นะครับโค้งที่รัชดานะครับ
เพราะที่เห็นก็มีอุปกรณ์ในการเตือน เช่นป้าย ไฟกระพริบ แถบสีเตือนบนถนน เพิ่มมาจนชัดเจนแล้ว  เยี่ยม
แต่ผู้ใช้ทางต้องเตือนตัวเองด้วย ยกตัวอย่างที่ ทางหลวงหมายเลข4 ช่วงกม.ที่500-530 จะมีโค้งอันตรายมากแต่การขยายถนนทำได้ยากด้วยสภาพพื้นที่
แต่ก่อนถึงโค้งจะมีป้ายเตือน ป้ายความเร็ว แถบสีเตือนบนถนนหลายสิบเมตร  ถ้าผู้ขับปฏิบัติตามกฏ อุบัตเหตุก็มีโอกาสเกิดน้อยมาก
แต่ยังไงก็มีอีกหลายจุดที่เป็นจุดบอดบนทางหลวงสายต่าง ๆ โดยผู้ใช้ทางย่อมต้องไม่ประมาท ต้องช่วยกัน ถ้าพบก็โทรแจ้งได้ตามเลขสายด่วนต่างๆเช่น 1123 สายตรงกระทรวงคมนาคม  ,1555 สายด่วน กทม. (สอบถามข้อมูล หรือ ร้องเรียนร้องทุกข์),1586 กรมทางหลวง ,1146 กรมทางหลวงชนบท ถ้าพบจุดอันตรายในพื้นที่รับผิดชอบเรื่องของใคร ก็โทรไปหน่วยงานนั้น ระบุชื่อผู้แจ้งสักนิดเรื่องจะไวขึ้น
 แต่หลายๆครั้งเรื่องป้ายมันก็ดูแล้วขัดลูกตา แบบ พี่ว่าเหมือนกัน  หัวเราะร่าน้ำตาริน ส่วนที่กลับรถใต้สะพานแล้วแถวๆบางบัวทองไปเข้าที่เอกชนที่เปิดเป็นตลาดขายของนั้น(น่าจะตัวเดียวกัน) ผมก็เคยผ่านงงเหมือนกัน หรือเขาให้ไปวนดูร้านขายของก็ไม่รู้ ยิ้มีเลศนัย
อาจจะเป็นที่เอกชน ขอเปิดทางเข้านะครับ เพราะสังเกตเขตทางอีกด้านมันน่าจะสุดแล้ว จะไปลองถามๆดู ให้ครับ Wink

บันทึกการเข้า

Long Live The King

อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #24 เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 11:04:26 PM »

งานออกแบบกับงานก่อสร้างจริงๆ ไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ เหมือนทำโมเดลครับ  อย่าได้ด่วนสรุปว่าใครโง่ใครฉลาดเลย สภาพหน้างานจริงไม่ได้จบง่ายเหมือนในกระดาษ เรื่องป้ายก็เหมือนกัน ข้อบกพร่องมันต้องมีอยู่แล้ว อย่าเอาเมืองไทยไปเปรียบกับเมืองนอกเลย ป้ายบอกทางทำมาแค่เพื่อส่วนกลาง เขาไม่รู้หรอกคุณจะไปไหนบ้าง ถ้าจะทำละเอียดขนาดนั้น คงจะไม่มีที่ให้ติดป้ายครับ
ผมเห็นอ.สมชายบ่นบ่อย ๆ เรื่องคนไทยโง่ คนโน้นโง่คนนี้โง่ ทั้งที่คนไทยทุกวันนี้เรียนสูงกว่าแต่ก่อนมาก จนทำให้ผมสงสัยว่าการศึกษาหรือการสอนตามหลักสูตรทุกวันนี้มันไม่ได้ผลหรืออย่างไร ปัญหาอยู่ที่ผู้เรียนหรืออยู่ที่ใครครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 08:31:52 AM »

งานออกแบบกับงานก่อสร้างจริงๆ ไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ เหมือนทำโมเดลครับ  อย่าได้ด่วนสรุปว่าใครโง่ใครฉลาดเลย สภาพหน้างานจริงไม่ได้จบง่ายเหมือนในกระดาษ เรื่องป้ายก็เหมือนกัน ข้อบกพร่องมันต้องมีอยู่แล้ว อย่าเอาเมืองไทยไปเปรียบกับเมืองนอกเลย ป้ายบอกทางทำมาแค่เพื่อส่วนกลาง เขาไม่รู้หรอกคุณจะไปไหนบ้าง ถ้าจะทำละเอียดขนาดนั้น คงจะไม่มีที่ให้ติดป้ายครับ
ผมเห็นอ.สมชายบ่นบ่อย ๆ เรื่องคนไทยโง่ คนโน้นโง่คนนี้โง่ ทั้งที่คนไทยทุกวันนี้เรียนสูงกว่าแต่ก่อนมาก จนทำให้ผมสงสัยว่าการศึกษาหรือการสอนตามหลักสูตรทุกวันนี้มันไม่ได้ผลหรืออย่างไร ปัญหาอยู่ที่ผู้เรียนหรืออยู่ที่ใครครับ ไหว้

ขอบคุณครับ+รับทราบครับ...

เรื่องออกแบบทางนั้นมันไม่ง่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าบอกว่างานมันยากแล้วยอมรับโดยไม่หาวิธีแก้... มันก็จะมีคนเกิดอุบัติเหตุถึงตายอยู่เรื่อยแหละครับ(เช่นโค้งรัชดา)...

เรื่องป้ายบอกทาง ที่ว่าอย่าเอาไปเปรียบกับเมืองนอกนั่นจะว่าใช่ก็ได้ ไม่ใช่ก็ได้, คือมันต้องมีวิธีคิดเช่นเอาเมืองนอกมาเป็นจุดเริ่มต้นแล้วปรับใช้(เช่นที่บอกว่าติดระยะใกล้ไกลแค่ไหนก่อนถึงแยก)... โดยมีวัตถุประสงค์ว่าต่อให้มา"ครั้งแรก"แล้วก็ไม่หลงทาง ถึงแม้ว่าคนทำป้ายไม่รู้ว่าคนขับรถจะไปไหนก็ตามครับ(ตรงนี้ใครที่ชอบขับรถท่องเที่ยวจะรู้)...

เรื่องป้ายบอกทางบางทีมีข้อบกพร่องบ้าง แต่ถ้าข้อบกพร่องนั้นทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก(ตัวอย่างเช่นป้ายบอกทางบนทางด่วน - ทำรถตกง่ามตัววายบริเวณกระทรวงการคลังฯ) มันก็ต้องหาวิธีแก้ไขไม่ให้คนตายเพิ่มน่ะครับ... ส่วนเรื่องที่ว่าจะทำป้ายบอกทางละเอียดแค่ไหนนั้น ถ้าให้ชาวบ้านแบบนายสมชายคิด ก็ต้องบอกว่า มันมีกี่แยกต้องบอกก่อนถึงทางแยกเสีย"ทุกแยก"แหละครับ แล้วจะใช้พื้นที่ตรงไหนติดป้าย ก็ต้องแก้โจทย์เอา แต่มันต้องติดสำหรับ"ทุกแยกที่เป็นถนนสำคัญ"...

เรื่องคนไทยโง่และใครโง่บ้าง แล้วปัญหาอยู่ที่ไหนนั้น เรื่องนี้คุยหาข้อยุติไม่ได้ง่ายครับ, โดยสถิติเกิดอุบัติเหตุบนถนนของไทยส่วนใหญ่เกิดจากการทำผิดกฎจราจรเช่นเมาแล้วขับ ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ฯลฯ ซึ่งพวกนี้คนฉลาดเขาไม่ทำกัน... ทีนี้คนออกแบบทางก็ต้องคุ้มครองคนพวกนี้ด้วย (เทียบได้กับกับคนโง่ยอมเสี่ยงขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อค จะบอกว่าเขาเต็มใจยอมตายแล้วปล่อยเลยก็ไม่ได้ - คนออกกฎหมายก็ต้องคุ้มครองด้วยการบังคับให้สวมหมวกเสีย)...

ในส่วนคนออกแบบมีหน้าที่ต้องลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุในบางจุดที่เกิดซ้ำซาก ให้เหลือเท่าเฉลี่ยทั่วไปครับ... หากสถิติ"ตรงนั้น"เท่ากับกับ"เฉลี่ยทั่วไป"ของทุกโค้งทั่วประเทศแล้วยังเกิดอุบัติเหตุได้อยู่ อย่างนั้นเรียกว่า"Act of God"(เหตุสุดวิสัย) แล้วครับ...
บันทึกการเข้า
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #26 เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 08:50:34 AM »


คือ หมายถึงว่า เกาะกลางถนน
ช่วงมันยาวไป คนเลยมักขับย้อนศร
เพื่อประหยัดเวลา ( แต่ไม่ประหยัดชีวิต )
และย่นระยะทาง
ซึ่งถ้าคนในพื้นที่ ก็มักจะมีก้อนอิฐ
ไปวางพอให้ขึ้นเกาะกลางข้ามไปอีกฝั่ง
เมื่อธรรมชาติของคน เป็นอย่างนั้น
ก็ ตัดช่องขั้น ระหว่าง เกาะ
ตีเส้นนูน เตือนก่อนถึง  ติดไฟกระพริบบอกเตือน
ก็จะลดการขับย้อนศร
เพราะมีทางสะดวก
ขนาดมีคูกั้น พวกยังตีไม้กระดานพาดเลย
ส่วนมาก วินมอเตอร์ไซด์จะรู้ดี
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
EAK1980 รักในหลวง
ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอย่างไร
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1197


ไปได้ทุกที่.....ที่มีทาง ฅ.ฅนสร้างทาง


« ตอบ #27 เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 11:19:06 AM »

จริงๆแล้วถนนในปัจจุบันนั้น เส้นทางหลักๆที่มีช่องจราจรมากกว่า 6 ช่องจราจรขึ้นไปจะมีผลกระทบค่อนข้างมากในกรณีที่ผ่านชุมชน
แต่ทางแก้ก็คือทำ ทางคู่ขนาน และต้องสวนทางกันได้เพื่อลดการวิ่งย้อนศร บนถนนหลัก 
แต่การทำจุดกลับรถนั้น ส่วนใหญ่ก็จะทำตรงจุดที่สำรวจก็จะดูปริมาณจราจรที่ประชาชนใช้มากสุด แต่บางที่ชาวบ้านก็ไม่เอาเพราะคิดว่ามาบังหน้าที่ดินตนเอง ทั้งๆที่ก็มีทางคู่ขนานผ่านหน้าที่ดินอยู่แล้ว... หัวเราะร่าน้ำตาริน การจะหาจุดลงตัวเรื่องความถูกต้องกับความพอใจเป็นเรื่องที่ยากมาก อีกทั้งปัจจัยด้านงบประมาณก็มีส่วนครับ
เรื่องมอเตอร์ไซด์ตัดผ่านเกาะกลางนั้นเยอะครับ ที่กลับรถไกลแล้วย้อนศรพอเข้าใจครับ แต่บางที่จุดกลับรถห่างไปเพียงไม่ถึง100เมตร ก็ยังมีทำผิดกฏกันก็ทำกันมาก
พวกหลังนี่ผมว่าเป็นที่สามัญสำนึกมากกว่า เอาสบายเข้าว่า หลายคนตายเพราะประพฤติแบบนี้ เพราะคนขับรถส่วนมากใกล้ๆจุดกลับรถคงคิดว่าไม่มีใครผ่าเกาะกลางมา
ข้ามถนน แต่ตามต่างจังหวัดพบได้มากครับ บางครั้งจุดกลับรถห่างแค่ไม่กี่ สิบเมตรด้วยซ้ำ  จูบบบบ

บันทึกการเข้า

Long Live The King

Nat_usp
เวลาเหลือน้อยแล้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 708
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3010


กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง


« ตอบ #28 เมื่อ: มีนาคม 21, 2011, 05:12:48 PM »

 ขออนุญาตดึงกระทู้ครับ

วันเสาร์ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.45

ณ ยูเทืร์นเกือกม้าที่นิคมฯไฮเทค ( อยุธยา ) ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ

ขึ้นยูเทิร์นไปได้เกือบจะถึงช่วงตัวยู

มอเตอร์ไซด์ข้างหน้าหักจากชิดซ้ายมาอยู่ตรงหน้ารถผมกระทันหัน

เพราะ

หลบคน ( 2คนพ่อลูก ) เดินลงมาจากยูเทิร์น  กิ๊วก๊าว

สะพานลอยมีแต่ไม่ข้าม มาข้ามทางยูเทิร์นเกือกม้า

ท่านใดมีโอกาสใช้ยูเทิร์นเกือกม้าบริเวณดังกล่าวในเวลาค่ำคืนก็ระวังด้วยนะครับ
บันทึกการเข้า

รักในหลวงที่สุดที่ในโลก

เพียงดาวเบเกอรี่     http://forum.ayutthaya.go.th/index.php?topic=31931.0
แอบดูที่รูเดิม
เกิดเป็นคน ควรรู้จักกตัญญู
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 622
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3747


ปลวกน้อยกัดกินบ้าน..นักการเมืองคอรัปชั่นกัดกินชาติ


« ตอบ #29 เมื่อ: มีนาคม 21, 2011, 05:41:35 PM »

ขออนุญาตดึงกระทู้ครับ

วันเสาร์ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.45

ณ ยูเทืร์นเกือกม้าที่นิคมฯไฮเทค ( อยุธยา ) ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ

ขึ้นยูเทิร์นไปได้เกือบจะถึงช่วงตัวยู

มอเตอร์ไซด์ข้างหน้าหักจากชิดซ้ายมาอยู่ตรงหน้ารถผมกระทันหัน

เพราะ

หลบคน ( 2คนพ่อลูก ) เดินลงมาจากยูเทิร์น  กิ๊วก๊าว

สะพานลอยมีแต่ไม่ข้าม มาข้ามทางยูเทิร์นเกือกม้า

ท่านใดมีโอกาสใช้ยูเทิร์นเกือกม้าบริเวณดังกล่าวในเวลาค่ำคืนก็ระวังด้วยนะครับ

คุณNattapol  หมายถึงออกจากนิคมขึ้นสะพานกลับเข้ากรุงเทพหรือเปล่าครับ
ผมใช้ยูเทิร์นนี้ตลอดครับตั้งแต่สร้างเสร็จ

อีกที่ที่ควรระวังคือเกือกม้าคู่ตรงม.กรุงเทพรังสิตครับ มีอุบัติเหตุบ่อย
เมื่อก่อนทำงานแถวนั้นเวลาขึ้นยูเทิร์นต้องระวังครับ แถมต้องคอยระวังรถมอเตอไซค์ขับสวนเลนส์มาด้วยเวลาลงมาแล้ว

ใครผ่านไปแถวนั้นระวังด้วยนะครับ อุบัติเหตุบ่อยมากครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.11 วินาที กับ 21 คำสั่ง