แต่ก็ไม่เข้าใจ ว่าอะไรเป็นเหตุผลให้ต้องฆ่าปลาโลมาตัวอื่นด้วย
คนญี่ปุ่นกินโลมาเหมือนกินปลาหรืออาหารทะเลอื่นๆ ที่ญี่ปุ่นหากมีการเสริฟเนื้อโลมาหรือวาฬในเมนูซาซิมิ
ถือว่าเป็นของแพง แต่เนื้อวาฬ ผู้ค้าต้องมีหนังสือรับรองว่า เนื้อวาฬได้มาจากห้องแล็ป ที่เอาวาฬมาใช้ในงานวิจัย
อีกที
ส่วนโลมานั้นแต่ก่อนไม่แพงนะ เพราะทะเลญี่ปุ่นเหมาะกับการดำรงชีพของโลมา มีโลมาเยอะ แต่พอตอนหลัง
ได้รับการต่อต้านจากต่างชาติ ถึงขั้นว่าจะไม่ซื้อสินค้าจากทะเล หากไม่แจ้งว่าสินค้านั้นจับมาได้โดยวิธีที่ไม่เป็น
อันตรายต่อโลมา หลังจากนั้น เนื้อโลมาหายากและแพง เว้นแต่ในท้องถิ่น ติดทะเล ที่หาได้ง่าย
คนต่างชาติมักเห็นโลมาเป็นสัตว์น่ารัก จากรูปลักษณ์และลักษณะนิสัย หรือจากสื่อต่างๆ ที่นำเสนอให้เห็นแง่มุม
ของความน่ารัก แสนรู้ของเขา ทำให้กระแสต่อต้านการกินโลมา ค่อนข้างแข็ง
ผมไม่ต่อต้านการกินโลมาของคนญี่ปุ่นในญี่ปุ่นนะ แต่บ้านเรา อย่าเลยครับ
บ้านเราหาโลมาได้น้อย ทะเลก็ไม่เหมาะกับการดำรงชีพของโลมาเท่าไหร่นัก
รักษาไว้ให้ยั่งยืนดีกว่า
ภาพกระทู้นี้ หากสงสัยว่าภาพจริงหรือตกแต่ง ลองหาหนังสารคดีเรื่องข้างล่างไปดูสิครับ
หนังเมื่อ2009นี่เอง
ทีมงานถ่ายทำหนังสารคดี นำโดยLouie Psihoyos ผู้กำกับและRic O'Barry ครูฝึกโลมา ที่ผันตัวมาเป็น
นักอนุรักษ์โลมา
หนังเรื่องนี้(แอบ)ถ่ายทำมาจากเมืองTaiji จังหวัดWakayama ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น
ดูที่วงกลมแดงครับจังหวัดWakayama
เมืองTaijiคือจุดสีเข้มๆ
อ้อ....ว่ากันว่าโลมาที่กองทัพสหรัฐอเมริกาใช้(อาจเคยเห็นภาพจากข่าวตอนบุกอิรัก) ก็จับจากทะเลญี่ปุ่นส่วนหนึ่ง
เพราะมีโลมาดีๆเยอะ เอาไปคัดสายพันธุ์ได้ (ว่ากันว่านะครับ อาจเพราะอเมริกามีฐานทัพอยู่ญี่ปุ่นก็ได้)
โลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นสัตว์เลือดอุ่น และมีปอด(ไม่ได้หายใจด้วยเหงือกเหมือนปลา) ดังนั้นเลือด
ของโลมา(หรือวาฬก็เถอะ สายพันธุ์ใกล้เคียงกัน) จะเหมือนสัตว์เลือดอุ่นทั่วๆไป ไม่เหมือนเลือดปลาครับ(ปลาเป็นสัตว์เลือดเย็น)
จบครับ ขอปิดด้วยภาพโลมาหัวบาตรในสวนน้ำแห่งหนึ่ง
โลมาและวาฬ ไม่ใช่ปลาครับ
