เปิดเสรีอาวุธปืนในไทย......

[khwanphet_NAVY 39]

.................................. .........................................

[arch@]

ผมยังจำได้ครั้งนั้นที่ทาง อาจารย์ ดร.ผนิศวร ไปออกรายการ ถึงลูกถึงคนของ คุณสรยุทธ คุยเรื่องนี้แหละครับ การควบคุมอาวุธปืนรู้สึกอีกฝ่ายที่มาจะเป็นคุณดำรง พุตตาล หรือใครผมก็จำไม่ได้นมนานกาเลแล้วครับจำผิดขออภัย  ใครลองหามาดูได้นะครับ ถ้าหาได้อับลง youtube แบ่งผมดูด้วย

ตอนนั้นอาจารย์ยกตัวอย่างว่า ในอเมริการัฐที่เขาอนุญาติให้มีเสรีอาวุธปืนอัตราอาชญากรรมน้อยกว่ารัฐที่ไม่มีอยู่หลายเท่าแต่ก็ถูกโต้เถียงกลับมากว่าที่นู่นกับที่นี่กฏหมายไม่เหมือนกันสังคมวัฒนธรรมศาสนาก็ไม่เหมือนกัน  

ตอนแรกผมก็เห็นด้วยนะ แต่พอมาคิดอีกทีโจรส่วนใหญาก็ทำเหมือนกัน "ไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ก็ต่อชีวิต จะฆ่าคนปล้นคน ถ้ากลัวศาสนา กลัวกฏหมาย กลัวคำสอนพ่อแม่ปู่ย่าตายายก็คงไม่ทำ" ผมเลยคิดว่า โจรที่ใหนก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละครับ "แต่พลเมืองดีต่างหากที่ป้องกันตัวได้ไม่เท่ากัน"

หรือไม่จริง?

[thanasin]

คนไทยส่วนมาก.... ยังไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง
ไม่ให้ความเคารพสิทธิของผู้อื่น  มีจิตใจที่ขาดสามัญสำนึก
ขาดความรับผิดชอบ ขาดสติสัมปชัญญะ
ในการใช้วิจารณญาณตัดสินผิดชอบชั่วดี

กฎหมายฯ เข้มงวดบังคับใช้เฉพาะกับคนจน.... อ่อนโอนผ่อนผันให้กับคนรวย

ถ้าเปิดเสรีอาวุธปืนแล้ว.... กฏหมายยังเป็นเหมือนถุงใส่กล้วยแขกขาย
ก็ไม่มีประโยชน์อันใดเลยครับ  ถ้าโจรผู้ร้ายยังชุกชุม
คนร้ายสามารถพกพาเอาปืนมาไล่ยิงคนอื่นอย่างอุกอาจ....
แต่คนดีๆ ไม่สามารถนำพาอาวุธปืนติดไว้ป้องกันโจรผู้ร้ายได้

คนที่ไม่ดีสามารถหาซื้อปืนได้ง่าย (ขอแค่มีเงิน)
เพราะทุกวันนี้ นักการเมือง ทหาร ตำรวจยังเลี้ยงโจร มือปืน พวกขี้ยา ขี้คุกไว้เป็นลูกน้องคอยเก็บเกี่ยวหาผลประโยชน์บ้านเมืองก็จะยิ่งทำให้กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน

+๑ครับ

[ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙]

ถ้าการเปิดเสรีอาวุธปืนเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ ทั้งในไทยและในโลก  เราก็คงไม่ต้องมานั่งสมมุติคิดกันแบบนี้
นึกถึงปิรามิด  คนส่วนใหญ่เป็นฐานปิรามิด  ชนชั้นปกครองเป็นยอดแหลม
ชนชั้นปกครอง (ปัจจุบันคือพวกนักการเมือง นักกฎหมายทั้งหลาย) ไม่ต้องการให้คนในปกครองสามารถพึ่งตัวเองได้มากนัก
เพราะจะเป็นการลดความสำคัญของคนชั้นปกครองลงไป
จน ก็เรียกร้องขอจากรัฐบาล  ฝ่ายให้ก็ถือเป็นบุญคุณ (ทั้งที่เป็นหน้าที่)  ถ้าฝ่ายรับไม่เห็นบุญคุณก็ถูกตราหน้าว่าอกตัญญู
ถูกกระทำ ก็ร้องเรียนตำรวจช่วย  ถ้าช่วยถือเป็นบุญคุณอีก (ทั้งที่เป็นหน้าที่)  เจอที่เลวก็ตบทรัพย์เอาดื้อๆ
ป้องกันตัวเอง... ทนายชอบมาก  เพราะมีเรื่องถึงโรงถึงศาล  ทั้งทนายทั้งตำรวจต่างพูดตรงกันว่าไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะป้องกันตัวเอง
==> Don't take matters into your own hands.  รอ "ผู้รักษากฎหมาย" มาจัดการให้
นานๆ เข้า  ประชาชนที่ถูกสั่งสอนให้ "งอมืองอเท้า" ตลอดมาก็เลยง่อยเปลี้ยเสียมือเสียขากันไปหมด

[naylex]

"เปิดเสรี" มีความหมายว่าอย่างไร
อธิบายน้องใหม่ ด้วยครับท่าน

 

[SEEZ ..รักในหลวง..]

ถ้าการเปิดเสรีอาวุธปืนเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ ทั้งในไทยและในโลก  เราก็คงไม่ต้องมานั่งสมมุติคิดกันแบบนี้
นึกถึงปิรามิด  คนส่วนใหญ่เป็นฐานปิรามิด  ชนชั้นปกครองเป็นยอดแหลม
ชนชั้นปกครอง (ปัจจุบันคือพวกนักการเมือง นักกฎหมายทั้งหลาย) ไม่ต้องการให้คนในปกครองสามารถพึ่งตัวเองได้มากนัก
เพราะจะเป็นการลดความสำคัญของคนชั้นปกครองลงไป
จน ก็เรียกร้องขอจากรัฐบาล  ฝ่ายให้ก็ถือเป็นบุญคุณ (ทั้งที่เป็นหน้าที่)  ถ้าฝ่ายรับไม่เห็นบุญคุณก็ถูกตราหน้าว่าอกตัญญู
ถูกกระทำ ก็ร้องเรียนตำรวจช่วย  ถ้าช่วยถือเป็นบุญคุณอีก (ทั้งที่เป็นหน้าที่)  เจอที่เลวก็ตบทรัพย์เอาดื้อๆ
ป้องกันตัวเอง... ทนายชอบมาก  เพราะมีเรื่องถึงโรงถึงศาล  ทั้งทนายทั้งตรวจต่างพูดตรงกันว่าไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะป้องกันตัวเอง
==> Don't take matters into your own hands.  รอ "ผู้รักษากฎหมาย" มาจัดการให้
นานๆ เข้า  ประชาชนที่ถูกสั่งสอนให้ "งอมืองอเท้า" ตลอดมาก็เลยง่อยเปลี้ยเสียมือเสียขากันไปหมด

" เป็นไปไม่ได้ "  " ทำไม่ได้ "  หรือ  "  ไม่ได้ทำ "


 

ไอขวดเนี้ย.. สำหรับคนบ้านนอก คน เมืองอย่างเรา ต้องของนอกครับ 

ใช่ ครับ คอแบบเรา ต้องของนอกเท่านั้น  ของไทยกินไม่ได้ ครับ มันคันคอ เน๊าะ 





















นอกเทศบาล
   

ของในถุงนี้ เป็นของเสียครับ  ทิ้งไปซะ      ว่าแต่ลูกยอดหรือปล่าวครับ

[USP40]

ถ้าการเปิดเสรีอาวุธปืนเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ ทั้งในไทยและในโลก  เราก็คงไม่ต้องมานั่งสมมุติคิดกันแบบนี้
นึกถึงปิรามิด  คนส่วนใหญ่เป็นฐานปิรามิด  ชนชั้นปกครองเป็นยอดแหลม
ชนชั้นปกครอง (ปัจจุบันคือพวกนักการเมือง นักกฎหมายทั้งหลาย) ไม่ต้องการให้คนในปกครองสามารถพึ่งตัวเองได้มากนัก
เพราะจะเป็นการลดความสำคัญของคนชั้นปกครองลงไป
จน ก็เรียกร้องขอจากรัฐบาล  ฝ่ายให้ก็ถือเป็นบุญคุณ (ทั้งที่เป็นหน้าที่)  ถ้าฝ่ายรับไม่เห็นบุญคุณก็ถูกตราหน้าว่าอกตัญญู
ถูกกระทำ ก็ร้องเรียนตำรวจช่วย  ถ้าช่วยถือเป็นบุญคุณอีก (ทั้งที่เป็นหน้าที่)  เจอที่เลวก็ตบทรัพย์เอาดื้อๆ
ป้องกันตัวเอง... ทนายชอบมาก  เพราะมีเรื่องถึงโรงถึงศาล  ทั้งทนายทั้งตรวจต่างพูดตรงกันว่าไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะป้องกันตัวเอง
==> Don't take matters into your own hands.  รอ "ผู้รักษากฎหมาย" มาจัดการให้
นานๆ เข้า  ประชาชนที่ถูกสั่งสอนให้ "งอมืองอเท้า" ตลอดมาก็เลยง่อยเปลี้ยเสียมือเสียขากันไปหมด

[SOAP47 รักในหลวง]

เมื่อวานฟังข่าวครับ ได้ยินว่าสวิสทำประชามติว่าจะยึดอาวุธปืนคืนจากประชาชน ไม่ทราบท่านใดมีรายละเอียดบ้างครับ

[cz_dee *รักในหลวง]

เมื่อวานฟังข่าวครับ ได้ยินว่าสวิสทำประชามติว่าจะยึดอาวุธปืนคืนจากประชาชน ไม่ทราบท่านใดมีรายละเอียดบ้างครับ

วันไหนพี่ไทยยึดปืนประชาชน จะหา ปรส. มาใช้แทน
 

[ฟลุค รักในหลวง]

เสรีหรือไม่เสรีไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ แต่ทำให้เท่าเทียมได้หรือเปล่าต่างหาก คุณมีผมก็มีจะยิงกันทีก็ต้องคิดหนักหน่อย คุณไม่มีผมไม่มีก็หมัดเปล่า แต่ถ้าผมมีคุณไม่มีหรือคุณมีผมไม่มีก็คิดดูเถอะ

[Hellboy_ohmmy]

ดีครับชอบๆ

[ekkapols]

ทุกวันนี้ เรื่องอาวุธปืน ในแง่การครอบครอง ก็เสรีแล้วนะครับ เพราะตามกฏหมายใครก็ตามที่ไม่ผิดเงื่อนไขที่กำหนด มีสิทธิครอบครองปืนทุกคน ปัญหาคือ
1.นายทะเบียนแต่ละคน มีมาตรฐานการใช้ดุลยพินิจการออกให้ใบอนุญาตแตกต่างกัน
2.สำคัญสุดคือ ราคา ทั้งตัวปืน ทั้งลูกกระสุน ซึ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ จนยังไม่เห็นวี่แววเลยว่า เมื่อใดจะถูกลงได้  ขนาดลูก9 ลูกซ้อมยิงตูมนึง ค่านมลูกหายไปแล้ว 1 ขวด ลูกซองยิ่งหนัก 1 ตูม ข้าวพร้อมกับ หายไป 1 จาน ยิง 3 ตูม วันนี้อดข้าว 3 มื้อแล้ว เหล่านี้ ทำให้คำว่า เสรีอาวุธปืนในแง่การครอบครอง ถูกใช้เป็นเครื่องมือแบ่งชนชั้นไปเฉยๆ เพราะคนที่จะมีปัญญาซื้อปืนได้ หมายถึง ต้องมีฐานะทางบ้านดี กลายเป็นคนส่วนน้อยเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าถึงกฏหมายเรื่องนี้  ใครไม่เชื่อเรื่องชนชั้นในบ้านเรา สิทธิในการเข้าถึงปืนอย่างถูกฏหมายนี่แหละครับ เป็นตัวอย่างที่เห็นชัด ตำตา เราๆ ท่านๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ชนชั้นล่างต้องทำปืนแก็ปใช้กันเอง หล่อหัวกระสุนลูกซองกันเอง ให้มันผิดกฏหมาย

   ถ้าจะให้เหมือนอเมริกาจริง บ้านเราต้องเริ่มด้วยเสรีภาพทางการเมืองก่อน ต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่ให้ได้เหมือนอเมริกา แม้เสียงส่วนน้อยจะรู้สึกว่าเสียงส่วนใหญ่ดูไม่ค่อยชอบนัก อย่างคราว ที่ จอร์จ บูช ผู้ลูก ชนะเลือกตั้ง อัล กอร์ ได้ แบบกังขากันทั้งประเทศ แถมเข้าใจว่ารัฐที่เป็นตัวชี้ขาด ผู้ว่าการรัฐจะเป็นญาติกับบุช อาจมีการเล่นโกงกันนิดหน่อย แต่เมื่อสู้กันตามระบบไประยะหนึ่งแล้ว อัล กอร์ ยอมแพ้ เพื่อให้รักษาระบบไว้ และให้ประเทศเดินต่อไปได้ นั่นขนาดว่าตัวเองน่าจะได้เสียงส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ คือจบด้วยการไม่ใช้กำลัง ทั้งที่ประชาชนมีปืนกันทั่วบ้านเมือง

    ซึ่งผิดกับบ้านเรา แม้เสียงส่วนน้อยจะแพ้ แต่เพราะมีฐานะทางสังคมสูง  เสียงจึงดัง ไม่ยอมรับการตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่ แล้วจบลงด้วยการสนับสนุนให้ทหารทำรัฐประหาร ซึ่งก็คือการเอาชนะกันด้วยการใช้กำลัง กลายเป็นคนส่วนน้อยนิยมการใช้กำลังมากกว่าคนส่วนใหญ่ไป
    คือตราบที่ชนชั้นปกครอง ไม่เชื่อเสียงส่วนใหญ่ ไม่ไว้ใจประชาชนใต้ปกครองว่า เขาเหล่านั้นก็มีมโนธรรมเช่นเดียวกับผู้ปกครอง กลับเชื่อว่า คนส่วนใหญ่โง่จึงถูกหลอก ยากจนจึงถูกซื้อได้ (ซึ่งหลายปีมานี้ ผมก็ดันเชื่อจริงๆ เสียด้วย)  ดังนั้นผมไม่คาดหวังเลยว่า เสรีภาพเรื่องอาวุธปืนจะได้รับการแก้ไขไม่ว่าแง่ใด เขาคงไม่ยอมให้คนส่วนใหญ่ของประเทศครอบครองอาวุธปืนกันง่ายๆ เพื่อปิดโอกาสการใช้ทหารทำรัฐประหารในโอกาสหน้ากระมัง ไม่เช่นนั้นชาวบ้านอาจลุกขึ้นสู้ก็ได้ ปล่อยไปแบบนี้ก็ดีแล้ว คนที่จะมีสิทธิครอบครองปืน โดนระบบคัดกรองสารพัด จนแน่ใจได้ว่าแทบไม่มีโอกาสเป็นภัยต่ออำนาจของตัวเองแล้ว

    ที่จริงแล้ว คนที่จำกัดสิทธิ ไม่ยอมให้เกิดเสรีอาวุธปืน ที่จริงแล้วไม่ใช่ใคร คือพวกเรานี่เองแหละ
    ถ้าเราเริ่มต้นด้วยการไว้ใจคนอื่นว่าทุกคนล้วนอยากเป็นคนดี คนอื่นก็จะไว้ใจเรา ฝ่ายปกครองก็จะถูกคนทั้งหมดกดดันให้ต้องปลดปล่อยเสรีภาพเรื่องอาวุธปืนไปเอง  ซึ่งผมว่า เราต้องใช้ความกล้าหาญและอดทนอย่างมาก แถมพวกเราก็ทนไม่ค่อยได้นานเสียด้วย

    

[youngboy]

คงยากครับ

[khwanphet_NAVY 39]

.....................................ตื่นเถิดชาวไทย....................................................................

[USP40]

ทุกวันนี้ เรื่องอาวุธปืน ในแง่การครอบครอง ก็เสรีแล้วนะครับ เพราะตามกฏหมายใครก็ตามที่ไม่ผิดเงื่อนไขที่กำหนด มีสิทธิครอบครองปืนทุกคน ปัญหาคือ
1.นายทะเบียนแต่ละคน มีมาตรฐานการใช้ดุลยพินิจการออกให้ใบอนุญาตแตกต่างกัน
2.สำคัญสุดคือ ราคา ทั้งตัวปืน ทั้งลูกกระสุน ซึ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ จนยังไม่เห็นวี่แววเลยว่า เมื่อใดจะถูกลงได้  ขนาดลูก9 ลูกซ้อมยิงตูมนึง ค่านมลูกหายไปแล้ว 1 ขวด ลูกซองยิ่งหนัก 1 ตูม ข้าวพร้อมกับ หายไป 1 จาน ยิง 3 ตูม วันนี้อดข้าว 3 มื้อแล้ว เหล่านี้ ทำให้คำว่า เสรีอาวุธปืนในแง่การครอบครอง ถูกใช้เป็นเครื่องมือแบ่งชนชั้นไปเฉยๆ เพราะคนที่จะมีปัญญาซื้อปืนได้ หมายถึง ต้องมีฐานะทางบ้านดี กลายเป็นคนส่วนน้อยเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าถึงกฏหมายเรื่องนี้  ใครไม่เชื่อเรื่องชนชั้นในบ้านเรา สิทธิในการเข้าถึงปืนอย่างถูกฏหมายนี่แหละครับ เป็นตัวอย่างที่เห็นชัด ตำตา เราๆ ท่านๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ชนชั้นล่างต้องทำปืนแก็ปใช้กันเอง หล่อหัวกระสุนลูกซองกันเอง ให้มันผิดกฏหมาย

   ถ้าจะให้เหมือนอเมริกาจริง บ้านเราต้องเริ่มด้วยเสรีภาพทางการเมืองก่อน ต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่ให้ได้เหมือนอเมริกา แม้เสียงส่วนน้อยจะรู้สึกว่าเสียงส่วนใหญ่ดูไม่ค่อยชอบนัก อย่างคราว ที่ จอร์จ บูช ผู้ลูก ชนะเลือกตั้ง อัล กอร์ ได้ แบบกังขากันทั้งประเทศ แถมเข้าใจว่ารัฐที่เป็นตัวชี้ขาด ผู้ว่าการรัฐจะเป็นญาติกับบุช อาจมีการเล่นโกงกันนิดหน่อย แต่เมื่อสู้กันตามระบบไประยะหนึ่งแล้ว อัล กอร์ ยอมแพ้ เพื่อให้รักษาระบบไว้ และให้ประเทศเดินต่อไปได้ นั่นขนาดว่าตัวเองน่าจะได้เสียงส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ คือจบด้วยการไม่ใช้กำลัง ทั้งที่ประชาชนมีปืนกันทั่วบ้านเมือง    ซึ่งผิดกับบ้านเรา แม้เสียงส่วนน้อยจะแพ้ แต่เพราะมีฐานะทางสังคมสูง  เสียงจึงดัง ไม่ยอมรับการตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่ แล้วจบลงด้วยการสนับสนุนให้ทหารทำรัฐประหาร ซึ่งก็คือการเอาชนะกันด้วยการใช้กำลัง กลายเป็นคนส่วนน้อยนิยมการใช้กำลังมากกว่าคนส่วนใหญ่ไป
    คือตราบที่ชนชั้นปกครอง ไม่เชื่อเสียงส่วนใหญ่ ไม่ไว้ใจประชาชนใต้ปกครองว่า เขาเหล่านั้นก็มีมโนธรรมเช่นเดียวกับผู้ปกครอง กลับเชื่อว่า คนส่วนใหญ่โง่จึงถูกหลอก ยากจนจึงถูกซื้อได้ (ซึ่งหลายปีมานี้ ผมก็ดันเชื่อจริงๆ เสียด้วย)  ดังนั้นผมไม่คาดหวังเลยว่า เสรีภาพเรื่องอาวุธปืนจะได้รับการแก้ไขไม่ว่าแง่ใด เขาคงไม่ยอมให้คนส่วนใหญ่ของประเทศครอบครองอาวุธปืนกันง่ายๆ เพื่อปิดโอกาสการใช้ทหารทำรัฐประหารในโอกาสหน้ากระมัง ไม่เช่นนั้นชาวบ้านอาจลุกขึ้นสู้ก็ได้ ปล่อยไปแบบนี้ก็ดีแล้ว คนที่จะมีสิทธิครอบครองปืน โดนระบบคัดกรองสารพัด จนแน่ใจได้ว่าแทบไม่มีโอกาสเป็นภัยต่ออำนาจของตัวเองแล้ว

    ที่จริงแล้ว คนที่จำกัดสิทธิ ไม่ยอมให้เกิดเสรีอาวุธปืน ที่จริงแล้วไม่ใช่ใคร คือพวกเรานี่เองแหละ
    ถ้าเราเริ่มต้นด้วยการไว้ใจคนอื่นว่าทุกคนล้วนอยากเป็นคนดี คนอื่นก็จะไว้ใจเรา ฝ่ายปกครองก็จะถูกคนทั้งหมดกดดันให้ต้องปลดปล่อยเสรีภาพเรื่องอาวุธปืนไปเอง  ซึ่งผมว่า เราต้องใช้ความกล้าหาญและอดทนอย่างมาก แถมพวกเราก็ทนไม่ค่อยได้นานเสียด้วย

   

ต้องสีแดงมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว  ที่จะมาใช้กำลังเพราะเรื่องนี้