ถ้าเป็นผมอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ กับคนในลักษณะนี้
ผมจะพยายามเป็นมิตร ( ไม่แท้ ) แค่พอพูดคุยกันได้บ้าง
แต่ก็จะไม่ลืมระวังตัว เอาแบบแค่รู้จัก แต่ไม่รักจริงครับ ( หลีกเลี่ยงการปะทะทุกรูปแบบครับ เรามีคนที่ต้องห่วง )
เพราะคนเราหากรู้จักกันแล้ว ความเกรงใจและไม่ละเมิดสิทธิของกันและกัน มันก็จะตามมา
สร้างมิตรดีกว่าสร้างศัตรูครับ แม้ว่ามิตรนั้นจะไม่น่าคบหาสักเท่าใด
วิธีการหรือแนวคิดแบบนี้ อาจใช้กับสถานการณ์ของท่านไม่ได้ก็ได้นะครับ
แต่น่าจะเป็นทางเลือกอีกหนึ่งแนวทางครับ

นักเลงที่ท่านว่าเป็นคนในบ่อน หรือคนมาเล่นในบ่อนครับ ถ้าเป็นคนที่มาเล่นแนะนำให้ลองไปบอกกับเจ้าของบ่อนครับ ว่าเราเดือดร้อน...........อะไรก็ว่าไปให้ช่วยดูแลให้หน่อย ส่วนใหญ่พวกนี้ไม่ค่อยอยากมีปัญหากับเพื่อนบ้านข้างเคียงหรอกครับ เพราะถ้ามีปัญหามากขึ้ันเท่าไหร่ ก็นับวันปิดได้เลยครับ
บ้านผมก็มี อยู่บ้านติดกันเลยมีนายดาบมาเปิดเป็นบ่อนไฮโล ตัวดาบที่เปิดแกก็ดีไม่เคยมาระรานใคร แต่คนที่มาเล่นในบ่อนแกมันกร่างโคตร มาจอดรถหน้าบ้านเราไม่พอ ยังมาฉี่หน้าบ้านอีก ผมก็ไปบอกกับดาบเจ้าของบ่อนว่าเราเดือนร้อนคนที่ทำเป็นคนที่มาเล่นในบ่อนคุณนะ แกก็รับฟังแล้วก็ขอโทษขอโพยกันใหญ่ ต่อมาก็ดีขึ้นครับ ไม่มีใครมายุ่งให้รำคาญใจอีกเลย ผมถือว่าต่างคนต่างอยู่ใครทำอะไรไม่ดีเดี๋ยวก็มีคนจัดการกันเองครับ (อ้อ ดาบท่านนี้ใหญ่แค่ไหนไม่รู้แต่วันทำบุญบ้านแก มีนายตำรวจระดับหัวหน้าภาคมางานแก 2 ท่านครับ

)
เห็นด้วยกับวิธีของทั้งสองท่าน ผูกมิตรดีกว่าสร้างศัตรู ใช้วิธีละมุนละม่อมดีกว่า ภรรยา จขกท.ก็แรงไปครับ เค้าขอโทษแล้วแสดงว่าก็ยังมีความเกรงใจให้อยู่ ดันไปขู่เค้าอีกคราวนี้ต่างฝ่ายก็เกิดทิจฐิอยากเอาชนะกัน พูดกันยากขึ้น แต่ก็ควรแก้ไขอย่าปล่อยทิ้งไว้เป็นเรื่องหมางใจกันเปล่าๆ