ปพพ. ม.537 สัญญาเช่าทรัพย์สินนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้ให้เช่า ตกลงให้บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่าผู้เช่า ได้ใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งฯลฯ
กฏหมายมิได้ระบุว่าผู้ให้เช่าต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธ์นั้นในขณะเข้าทำสัญญาเช่ากับผู้เช่า ต่างกับสัญญาจำนองซึ่งกฏหมายระบุว่าผู้จำนองต้องเป็นเจ้าของทรัพย์จำนองดดดยชอบฯ ขณะเข้าทำสัญญาจำนอง หากฝ่าฝืนเป็นโมฆะ คือเสียเปล่ามาตั้งแต่ต้น
ดังนั้นในประเด็นน้องโอถามนั้น วินิจฉัยแบบงูๆปลาๆตามฏีกาที่เคยศึกษามาได้ว่า ผู้เช่าสมารถทำสัญญาเช่าทรัพย์สินกับ ง.ได้สัญญาไม่เป็นโมฆะอย่างไรก็ตามผู้เช่าที่รู้กฏหมาย มักจะต้องทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่าซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์โดยชอบฯ หรือเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจโดยชอบฯจากเจ้าของทรัพย์สินนั้นเสมอ
หากทำสัญญากับบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนได้เสีย สัญญาเช่านั้นไม่เสียเปล่า มีผลตามกฏหมาย แต่เจ้าของทรัพย์โดยชอบอาจใช้สิทธิ์ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนนิติกรรมสัญญาเช่าที่ผู้เช่าทำกับใครก็ไม่รู้ได้ทุกเมื่อ หากเกิดความเสียหายดังกล่าว ผู้เช่าสมารถบงคับฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาเช่าได้ แต่ต้องไปเรียกร้องกับคู่สัญญาฯ ซึ่งรับเงินล่วงหน้าและเปิดก้นไปใช้เงินนั้น อย่างมีความสุขดีแล้ว
และ ม.538 วางหลักไว้ว่า สัญญาเช่านั้น หากมิได้เป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด(คือผู้เช่าและผู้ให้เช่า) จะใช้บังคับฟ้องร้องกันไม่ได้ และหากเช่าเกินกำหนดสามปี ก็ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่(ที่ดินเขต) หากไม่จดทะเบียนแม้ระบุสัญญาเช้ากันกี่สิบปี ก็บังคับฟ้องรอ้งกันได้เพียงสามปี
ถ้าอย่างนั้นผมเห็นที่ดินใครว่างๆผมก็ให้เช่าได้หรือครับ
