เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ไม่แน่ใจว่าเขาเรียก condition อะไรสักอย่าง

แล้วมีประโยชน์อย่างไรครับ?

ใช้เวลาคากระสุนในรังเพลิงใช่ไหมครับ ??? ???
แล้วมีความปลอดภัยแค่ไหนครับ

ขอบคุณครับ

ครับ ใช่ครับ
คือให้หน้านกสับห่างออกจากท้ายเข็มแทงชนวน
ในกรณีที่ปืนกระบอกนั้นไม่มีระบบนิรภัยเข็มแทงชนวน
ก็คงจะช่วยในเรื่องความปลอดจากการที่นกสับถูกกระแทกจากการตกพื้นแรงๆ
และที่สำคัญก็จะดูน่าหวาดเสียวน้อยกว่าง้างนกไว้สุดทางมากๆเลยครับ

ที่เหลือรอท่านอื่นมาช่วยตอบนะครับ

ตำแหน่ง "Half Cock" เรามักแปลมาว่า "ง้างนกครึงทาง"   แต่ผมอยากให้เรียกว่า "ร่องรับนกตก" เพราะจุดประสงค์ของการออกแบบก็เพื่อให้ร่องนี้ "หยุด" นกสับไว้กรณีเซียร์ชำรุดครับ  นกจะได้สับไม่ถึงท้ายเข็ม   ปืนรุ่นใหม่ ร่องนี้เป็นแบบ "non-captive" คือที่ตำแหน่ง half cock หากเหนี่ยวไก นกจะสับลงมาได้ครับ

ปืน 1911 มีลักษณะการขึ้นลำ ง้างนก ลดนก ห้ามไก  ตามคู่มือการใช้งานทางทหารอย่างนี้ครับ

Condition 0 - A round is in the chamber, hammer is cocked, and the safety is off.
ขึ้นลำ นกง้าง  ปลดห้ามไก  นี่คือตำแหน่ง "พร้อมยิง"

Condition 1 - Also known as "cocked and locked," means a round is in the chamber, the hammer is cocked, and the manual thumb safety on the side of the frame is applied.
ขึ้นลำ นกง้าง เข้าห้ามไก  สำหรับพกใส่ซองเตรียมพร้อม จะให้อุ่นใจเพิ่มก็ใช้ซองทีมีสายหนังคาดท้ายลำเลื่อนดักหน้านกสับครับ   ชักออกจากซอง ปลดห้ามไก ยิงได้ทันที

Condition 2 - A round is in the chamber and the hammer is down.
ขึ้นลำแล้วลดนกสุดทาง (หรือครึ่งทางก็แล้วแต่) ไม่แนะนำครับ ไม่ว่าเพื่อจุดประสงค์ใดๆ ก็ไม่ควรให้ปืนอยู่ในลักษณะนี้   เพราะการลดนกเมื่อขึ้นลำแล้วต้องเหนี่ยวไกพร้อมกับกดนกไว้  ถ้าเกิดลื่นหลุด ปืนลั่น  อาจโชคดีกระสุนไม่ก่อความเสียหายแต่นิ้วโป้งที่กำลังกดนกก็ย่อมชำรุดแน่ๆ เพราะลำเลื่อนดีดกลับ  และแม้ว่าจะลดนกได้เรียบร้อยแล้ว เมื่อจะใช้งานก็ต้องง้างนกอีก  อันตรายอีก  สู้ไม่ขึ้นลำไว้ตั้งแต่แรกจะดีกว่า  ยกเว้นว่าต้องการ "เงียบ" คือไม่อยากให้เกิดเสียงขึ้นลำ

Condition 3 - The chamber is empty and hammer is down with a charged magazine in the gun.
แบบนี้ปลอดภัยดี และเกือบพร้อมใช้งาน เพียงดึงลำเลื่อนขึ้นลำก็ยิงได้เลย  แต่สำหรับบ้านเราแนะนำให้แยกซองกระสุนจากปืนขณะใส่กระเป๋าไว้ในรถนะครับ  ลดความพร้อมลงไปอีกระดับหนึ่ง

Condition 4 - The chamber is empty, hammer is down and no magazine is in the gun.
คือล้างปืนเก็บเข้าตู้

half cock คือการง้างนกครึ่งทางครับ  จากจังหวะง้างนกสุดแล้วค่อยๆบีบไกพร้อมกับใช้หัวแม่มือรั้งนกสับไว้มาอยู่ที่จังหวะนี้ครับ  ในจังหวะนี้ปืนจะไม่สามารถยิงได้ต้องง้างนกให้สุดก่อน  ถ้าเกิดตกกระแทกพื้นมีโอกาสที่แง่เซียร์จะหัก :OO

ของผมอยู่ในแบบ Condition 4 เป็นประจำ ยกเว้นเดินทาง Condition 3 แต่ถ้าสังหรณ์ใจก็ Condition 1

 :)  uzi  กินสูงมีวิธีแก้ไขปัญหายังไงครับ
ช่วยตอบกลับมาด้วย :-*    8)
    ;D

1 เล็งเผื่อ
2 พอกศูนย์หน้าให้สูงขึ้น

ปืน 1911 เดิม ร่อง half cock มีลิ้นยื่นคุมเซียร์ไว้ทำให้กระดกหลบออกมาไม่ได้  ไกไม่ทำงาน  แต่หลังจาก Series 80 ของโคลท์เป็นต้นมา ร่องนี้ไม่มีลิ้นยื่นมาคุมเซียร์  จากตำแหน่ง  half cock ถ้าเหนี่ยวไกนกสับลงมาได้  ปืน 1911 รุ่นใหม่แทบทั้งหมดใช้นกสับแบบนี้แล้วครับ

ผมเคยใช้ทุกกรณีครับ แต่ใน Condition 2 ไม่ค่อยได้ทำเท่าไรครับ 8) 8) 8)

ขอบคุณครับอาจารย์ผณิศวร ;D

Condition 2 ครับ







จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น....

LOAD AND MADE READY  :o

 ;D ;Dแล้วจังหวะ half cock เนี่ยถ้าเราเหนี่ยวไกมันลั่นไหมครับ คือยังไม่เคยลองเคยแต่ไม่ใส่ลูกมันก็ดังแช๊ะ น่าจะลั่นเหมือนกันนะครับ ;D ;D

 ;D  ;D  ;D

เหมือนกันครับในตระกูล 1911 แต่ตอนนี้หันมาเล่นไกดับเบิ้ล ขึ้นลำลดนกปลอดภัยกว่า

 ;D :D ;D

 :oUZI ต้องเล็งแบบศูนย์นั่งแท่นครับ

ขอบคุณมากครับ

ตำแหน่ง "Half Cock" เรามักแปลมาว่า "ง้างนกครึงทาง" แต่ผมอยากให้เรียกว่า "ร่องรับนกตก" เพราะจุดประสงค์ของการออกแบบก็เพื่อให้ร่องนี้ "หยุด" นกสับไว้กรณีเซียร์ชำรุดครับ นกจะได้สับไม่ถึงท้ายเข็ม ปืนรุ่นใหม่ ร่องนี้เป็นแบบ "non-captive" คือที่ตำแหน่ง half cock หากเหนี่ยวไก นกจะสับลงมาได้ครับ
รบกวนอาจารย์ผณิศวร และ ผู้รู้ ช่วยอธิบาย เรื่อง"non-captive" และถ้า
1.นกสับลงได้ ในกรณีมีลูกในรังเพลิง  ปืนจะลั่นได้หรือไม่
2.ปืนที่ใช้ร่อง แบบ "non-captive" เมิ่อ half cockedแล้ว จะเข้า safe ได้หรือไม่
หมายเหตุ..ที่ถามเพราะปืนผม เป็นปืนรุ่น1911a1 series70(ไม่มีสมอล็อกเข็มแทงฉนวน) เมื่อเข้า half cocked เหนี่ยวไก นกก็สับลง ไม่แรง(ยังไม่ได้ลองยิงลูกจริง)และเมื่อ half cocked  ลองเข้าsafe ก็เข้าไม่ได้
ขอขอบคุณ ล่วงหน้า

ARE YOU READY ?   STAND BY !

 ::007::

รุ่น1911a1 series70(ไม่มีสมอล็อกเข็มแทงฉนวน) เมื่อเข้า half cocked เหนี่ยวไก นกก็สับลง ไม่แรง(ยังไม่ได้ลองยิงลูกจริง)
และเมื่อ half cocked  ลองเข้าsafe ก็เข้าไม่ได้

แปลกครับ ซีรีส์ 70 นกเดิมๆ ของเขา ถ้าง้างนกครึ่งทาง  แล้วลองเหนี่ยวไกดู  รับประกัน เหนี่ยวไกให้ตาย นกก็ไม่มีทางสับอย่างเด็ดขาด เพราะมันมีร่องเหมือนท่านอาจารย์ว่าไว้
เจ้าซีรีส์80 เสียต่างหาก นกปืนเดิมๆ ของเขา ตัดร่องที่นกออก ง้างนกครึ่งทาง เหนี่ยวไก ยิงปืน นกก็จะสับลงเสียงเบาๆ
ปืนในภาพ เป็นปืนยุค ปี ค.ศ.ประมาณ 1960 (ดูตามตัวอักษรนะ ตาไม่ดี ไม่รู้แกะใหม่ หรือเปล่า ต้องดูประกอบกันหลายๆ จุด ) เพราะเป็น ม้าหลัง ไม่ใช่ปืน 70  ติดศูนย์หน้าใหม่เอง ติดศูนย์หลังแบบปรับได้เอง นกปืน ก็ของใหม่ ไม่รู้ว่าช่างไปทำอะไรกับนกปืนบ้างหรือเปล่า   หลังอ่อนก็เป็นหลังอ่อนแบบพัฒนาขั้นที่สอง ยังไม่มีที่นอน ของหางนก เวลาง้างสุดตัว จึงทำให้จับได้สูงสู้หางหลังอ่อนรุ่นที่ 3 ไม่ได้
ถ้าท่านบอกว่า กระบอกในภาพ ง้างนกครึ่งทาง แล้วเหนี่ยวไกปืน แล้วมันลั่นดัง แชะ..  ต้องถอดนกปืนมาดูแล้วครับ ว่าร่องของตัวครึ่งทาง มันยังอยู่หรือเปล่า
จะซีรีส์อะไรก็ช่าง ถ้านกปืน ยังมีร่องอยู่ เมื่อง้างครึ่งทาง สำหรับ 1911 แล้ว จะเหนี่ยวไกไม่ได้แน่นอน ไกจะแข็งเป๊กเลย

ผ่านไปเจ็ดปี  ปืนรุ่นใหม่ๆ กลับไปใช้นกสับที่ร่องรับนกตกเป็นแบบ "ตะขอ" (captive) อีกครั้งครับ
กลายเป็นปืน "กลางเก่ากลางใหม่" ที่ใช้ร่อง half cock แบบเปิดหน้า (non-captive)


วิธีทดสอบคือ ตรวจรังเพลิงให้มั่นใจว่าไม่มีกระสุนค้าง   ลดนกมาตำแหน่ง half cock ลองเหนี่ยวไก
ถ้านกสับลงมาได้  ร่องจับเซียร์เป็นแบบเปิดหน้า (non-captive) 
ถ้าเหนี่ยวไกแล้วนกไม่สับ  ร่องจับเซียร์เป็นแบบตะขอ (captive) คือเสียบเข้าร่อง โดนจับไว้ครับ

และอย่างที่คุณ เต๋า บางเขน ว่า  คือซีรีส์ 70 ปกติมันเป็นแบบตะขอครับ  พวก 80 ที่หน้าเปิด
ของคุณถ้าไม่ชำรุดก็คงมีการถอดเปลี่ยน

นกอยู่ตำแหน่ง half cock เข้าห้ามไกไม่ได้    ต้องง้างนอกออกให้สุดถึงจะเข้าห้ามไกได้ครับ

เหนี่ยวไกให้นกสับจากตำแหน่ง half cock (ถ้าเป็น non-captive) ปืนไม่ควรลั่นครับ
ลองเอาดินสอใหม่ๆ เอาด้านที่มียางลบใส่เข้าทางปากลำกล้อง (ปืนไม่มีกระสุนนะครับ) ชี้ลำกล้องขึ้น
เหนี่ยวไกให้นกสับจากตำแหน่ง half cock ดินสอจะขยับนิดเดียวครับ  เทียบกับเมื่อง้างนกสุดจะเห็นชัดเจน
จะให้มั่นใจ  ลองใช้กระสุนหลายๆ ชนิด ยิงในสนามครับ  หันลำกล้องไปทางเป้าเสมอ  ลั่นหรือไม่จะได้รู้กัน
ถ้าไม่ลั่น ดึงกระสุนออกมาดูรอยที่จานท้ายได้ครับว่าบุบเข้าไปมากน้อยแค่ไหน  ระวังมากๆ ด้วยเพราะไม่ใช่กระสุนด้าน

     สอบถามจากเจ้าของเดิมแล้ว
ได้ความว่า หลายปีก่อน(2532) ปืนกระบอกนี้ถูกเปลี่ยนชุดลั่นไกทั้งชุดของWILSON
(ตามรูปที่เห็น..รวมทั้งตัวsear เหมือนรูปที่แนบมา)
     แต่ sear ในตัวปืนตอนนี้ เป็นแบบไหน ไม่ทราบ เพราะไม่มีความรู้ที่จะถอดชุดลั่นไก ออกมายืนยัน
และจะหาเวลาไปสนามทดสอบ ตามที่อาจารย์ผณิศวร แนะนำ
     ถ้าผลออกมา ตามที่อาจารย์ผณิศวรคาดการณ์ ว่า เป็นsear แบบnon-captive
คือ เหนี่ยวไกจากตำแหน่ง half cocked นกสับแล้ว แต่ปืนไม่ลั่น
และต้องขอความกรุณาอาจารย์ผณิศวร แนะนำการใช้งาน และความปลอดภัย ของปืนกระบอกนี้ด้วย
ขอขอบคุณอาจารย์ผณิศวร และทุกๆท่าน
หมายเหตุ  sear ในรูปเป็นของในweb ผมเอาของจริง(searเดิมเป็นหางยาว)เปรียบเทียบหามาpost

     หมายเหตุ  sear ในรูปเป็นของในweb ผมเอาของจริง(searเดิมเป็นหางยาว)เปรียบเทียบหามาpost



[/quote
ตามรูปที่ท่านว่า ท่านเห็นรอยหยักๆ ทางด้านขวามือไว้ครับ มันมีอยู่สองระดับ เห็นไหมครับ
มีอันบน กับอันล่าง  หยักบนมีหน้าที่ไว้เป็นตัวหยุดให้ง้างนกไว้ครึ่งทาง หยักล่าง เป็นตัวหยุดให้ง้างนกไว้เต็มที่พร้อมยิง
จะเห็นว่า หยักบน มีช่องเป็นรูปตัวยู หัวคว่ำ  ตัวยู หัวคว่ำ นี่แหละ จะเป็นตัวล็อค ให้เหนี่ยวไกไม่ได้ เวลาง้างนกครึ่งทาง 

แต่หยักล่าง เป็นทางเรียบๆ ไม่มีตัวยู หัวคว่ำ เมื่อง้างนกถอยหลังสุด เหนี่ยวไก ก็จะลั่นโป้ง

นกปืนของท่าน ต้องไปถอดดูครับ  ถ้าท่านยืนยันว่า ท่านง้างนกครึ่งทาง แล้วเหนี่ยว แล้วนกตกลงดัง  ...แชะ
ผมขอรับรองว่า หยักบน ของนกปืนท่าน จะต้องไม่เหมือนในรูป แน่นอนครับท่าน ด้วยความเคารพ ....

ต้องขอขอบคุณสำหรับคำชี้แจงของคุณtao bang khaen  เรื่องการทำงานของsear ที่ค่อนข้างชัดเจน
แต่ผมไม่มีความชำนาญและความมั่นใจในการถอดประกอบมากนัก
พยายามดูการถอดจากyou tubeแล้ว ก็ยังไม่กล้าถอด กลัวประกอบไม่เหมือนเดิม
       http://www.youtube.com/watch?v=uZvbN8xd5Wc&feature=relmfu
       http://www.youtube.com/watch?v=V5Zz1MmqLRQ&feature=relmfu
ในเบื้องต้นตั้งใจจะไปสนามยิงปืนทดลองยิงในสนามก่อน ตามที่อาจารย์ผณิศวรแนะนำ
ว่าsearในปืนปัจจุบัน เป็นแบบ non-captive หรือไม่
ถ้าใช่...ก็จะได้ใช้ปืนอย่างถูกวิธี และปลอดภัย
จึงหวังจะได้คำแนะนำ หรือข้อควรระวัง จากผู้ชำนาญ และมีประสบการณ์
เรื่องการใช้ปืน1911a1 ที่ใช้searแบบ non-captive  
หมายเหตุ...ส่วนการถอดชุดลั่นไก คงต้องให้ถึงมืออาชีพ  หรือ รอให้ผมมีความมั่นใจมากกว่านี้

(http://i257.photobucket.com/albums/hh201/panisuan/1911set.jpg)

ตามภาพนี้นะครับ ตัวซ้ายคือ นกสับ (hammer) ตัวกลางคือ เซียร์ (sear) ตัวขวาคือ ดิสคอนเนคเตอร์ (disconnector ตัวตัดการทำงาน)

เมื่อง้างนกสุด หยักล่าง B ของนกสับหมุนขึ้นไปขัดค้างที่ปลายเซียร์ A พอเหนี่ยวไก เซียร์เผยอออก นกก็จะสับลงสุดทาง
แต่ถ้านกลื่นหลุด สับลงมาโดยเราไม่ได้เหนี่ยวไก  ปลายเซียร์จะจิ้มเข้าในร่อง C (ภาพนี้เป็นแบบตะขอ)
ซึ่งเมื่อเสียบเข้าไปแล้ว เหนี่ยวไกไม่ขยับครับ เพราะเซียร์มันถูกจับไว้ในร่อง

นกสับเดิมๆ ของ ซีรีส์ 70 หยัก B กับ C เป็นตามภาพนี้ (รวมทั้งนกสับของปืนรุ่นใหม่ๆ และชิ้นส่วนแทบทุกยี่ห้อ)
แต่ถ้าเป็นซีรีส์ 80 เดิม ร่อง C ไม่มีตะของุ้มลงมาครับ หน้าตาคล้ายๆ กับ B  เมื่อเหนี่ยวไกเซียร์ขยับให้นกสับต่อไปได้

ถ้าเราจงใจง้างนกมาให้อยู่ตำแหน่งที่หยัก C จับปลายเซียร์ A เรียกว่านกอยู่ในตำแหน่ง half cock
แต่ชื่อเป็นทางการของหยัก C คือ "safety notch" ครับ
 
ในปืนลูกโม่ซิงเกิลฯ ของเดิม มีทั้้ง safety notch (ง้างนกออกมานิดเดียว ให้ห่างเข็มแทงชนวน) และ half-cock notch (ง้างออกมาอีกหน่อยสำหรับหมุนโม่่บรรจุกระสุน)

มันมีอีกกรณีนะครับ คือ ชุดลั่นไกแบบเก่าก่อน ซีรีย์ 80 เราสามารถแกล้ง ให้นกตกอยู่ตำแหน่งใกล้ๆ ฮาฟคล็อก ได้ แต่จริงๆแล้ว ตัวนก-เซียร์ ปีนกันอยู่ ยังไม่ถึงจังหวะฮาฟคล็อก    เมื่อเหนี่ยวไก นกสับจะฟาดลงมาที่แป้นล็อกเข็มแทงชนวน ซึ่งปืนอาจจะลั่นได้ หรือถ้าไม่ลั่นก็อาจจะมีรอยหยิกที่จอกแก็ป

พวกปืนแกะกล่อง ที่ยังไม่เคยแต่งไก ที่ไม่ใช่ ซีรีย์ 80 จะทดลองทำเล่นได้ง่ายๆครับ  แต่พวกที่แต่งไกมาเยอะแล้ว ลองทำสิบครั้ง จะทำได้สักสามสี่ครั้ง
กลุ่มมือใหม่ ที่ลดนกไม่ชำนาญ ก็มีสิทธิ์ ติดจังหวะนี้   หรือพวกปืน เก่าและมีคราบสกปรกให้ห้องกลไกมาก ปืนที่แต่งไกโดยการเจียร์แหนบ ตัดแต่งสปริง ก็มีโอกาสเป็นเหมือนกัน

แต่มันมีวิธีเช็คง่ายๆ คือ ถ้านกอยู่จังหวะ ฮาฟคล็อก ก็เอานิ้วโยกตัวนกสับดู ถ้ามันอยู่ตรงร่องรับนกตก มันจะนิ่งไม่เคลื่อนไหว แต่ถ้าปีนร่องอยู่ มันจะคลายตัวไปอยู่ ในจังหวะร่องรับนกตกเอง ทันที นกสับจะโยกให้ตัวมีเสียง ดัง "คลิ๊ก"