หัวข้อ: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ มกราคม 06, 2012, 11:31:23 AM อาจจะคล้ายกับหลายเรื่องที่เพื่อนสมาชิกเคยเล่าไว้ ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับผม แต่อยากฝากข้อคิดแก่เพื่อนสมาชิกเพิ่มเติมจึงขอเล่าสู่กันฟังดังนี้
ผมขับรถมาทำงานตอนเช้าตามปกติ ขณะที่รถติดสลับกับการเคลื่อนตัวไปช้าๆ ผมมองกระจกหลังเห็นรถกระบะขาวคันหนึ่งขับปาด ขับแทรกไปมา แล้วกำลังจะปาดมาแทรกเลนที่ผมขับอยู่ ความคิดตอนนั้นคือ ไม่ให้ เพราะผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่น่าเกลียดจึงบีบแตร แล้วเลื่อนรถไปติดคันหน้าไว้และไม่ยอมให้แทรก เมื่อผ่านไป ผมคิดว่าจบไปแล้ว แต่...รถกระบะขาวคันดังกล่าวขับแซงแล้วปาดหน้าผมพร้อมๆ กับเปิดกระจกมาว่า และยกนิ้วกลางใส่ผม ยังไม่พอ เมื่อขับแซงรถผมไปแล้ว เขาจอดเลนส์ซ้ายมือ พร้อมกับลดกระจก สิ่งที่ผมเห็นคือ ปืนในมือ พร้อมกับหน้าคนขับที่กวนๆ กับทรงผมเกรียนๆ ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่ารถผมมีผู้หญิง (แฟนผม) นั่งคู่คนขับมาด้วย วินาทีนั้นผมคิดจะเอื้อมไปเอาปืนที่หน้ารถมาไว้ที่ตัก แต่นึกถึงเรื่องเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆ กันของเพื่อนสมาชิก ประกอบกับเห็นหน้าแฟนที่นั่งมาด้วย ความคิดเปลี่ยนทันที ผมล้วงโทรศัพท์พร้อมกับเปิดมือถือให้เป็นเบอร์ของเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่เอาไว้ เผื่อมีกรณีฉุกเฉิน แล้วก็ขับแซงรถกระบะคันนั้นไป พร้อมกับพยายามที่จะไม่มองหน้ามัน เมื่อผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมเบาใจ มองหน้าแฟนพร้อมกับคิดว่า...ทำถูกแล้ว ไม่งั้นป่านนี้ คงเป็นข่าวหน้า ๑ ไล่ยิงกันเป็นหนังฮอลลีวู้ดไปแล้ว และผมก็คงไปนั่งบนโรงพักแทนการมานั่งพิมพ์เล่าเรื่องให้เพื่อนสมาชิกทราบ สิ่งที่ผมต้องการบอกเพื่อนๆ สมาชิกก็คือ เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดกับเราในวันใดวันหนึ่งได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นขอให้นึกถึงคนที่เรารักให้มากๆ และประการสำคัญ มีปืนต้องใจเย็น อันนี้สำคัญมาก เพราะหากคนที่เค้าเจอไม่ใช่ผม แล้วคนนั้นยิงสวน (ถ้ายังทำแบบนี้ไม่นานก็คงเจอสักวัน) หรือไม่ก็โดนโทรบอกเจ้าหน้าที่ว่ารถคันทะเบียนดังกล่าวมีปืนอยู่ในรถ (ซึ่งก็เป็นความคิดที่ผมจะทำอยู่) หรือไม่ก็อาจโดนสืบหาจากทะเบียนรถ (ผมเชื่อว่าทำได้ไม่ยาก) แล้วโดนอะไรต่อมิอะไรตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีเลยกับ คนที่มีปืนแล้วไม่มีสติ จึงเขียนเรื่องนี้มาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์และเตือนเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 06, 2012, 11:34:05 AM รีบโทรศัพท์แจ้ง สน.ในพื้นที่สิครับ ระบุหมายเลขทะเบียน ยี่ห้อ รุ่น/สีรถ และพฤติการณ์ที่ประสบอยู่ ::013::
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 06, 2012, 11:51:41 AM หาก จขกท. ไม่ต้องการให้คันอื่นเข้ามาแทรก ก็ควรจะขับให้รักษาระยะต่อระยะห่างคันหน้าเอาไว้ให้สม่ำเสมอน่ะครับ อย่าให้มีช่องว่างยาว... ที่รถปิ๊กอัพคันดังกล่าวเข้ามาแรก ก็เพราะเห็นช่องว่าง และกะระยะพอให้ปลอดภัยจึงย้ายเลนเข้ามา...
ส่วนเรื่องน่าเกลียดหรือไม่นั่นอยู่ที่กฎจราจรครับ หากก่อนจะย้ายเลนตามที่ จขกท. ว่า"น่าเกลียด"นั้นเขาเปิดไฟเลี้ยวเพื่อขอทางในระยะเวลาที่พอเหมาะ ก็จะไม่น่าเกลียดครับ... ส่วน จขกท.จะไม่ให้ นั้นก็ได้ แต่หากไม่ให้ จะต้องเลื่อนรถบังเหลี่ยมบังมุมให้พอเหมาะ โดยต้องคำนึงถึงระยะปลอดภัยหากคันที่ว่านั้นถลำย้ายเลนเข้ามาแล้วต้องมีระยะเบรคให้เขาด้วยครับ... ที่พูดมานี่ เป็นเพราะนายสมชายไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ที่เห็นบ่อยและเจอบ่อยคือคันหน้าขับช้าแช่ขวา แต่เวลาจะโดนแซงมักเร่งเครื่องแข่งเพื่อปิดจังหวะไม่ให้แซง, ตรงนี้อันตราย... เรื่องมุดซ้ายมุดขวานั้น หากทำตามกฎจราจรแล้วไม่ถือว่าน่าเกลียด แต่จะน่าเกลียดกรณีไม่ยอมต่อคิว เช่นจะขึ้นสะพายลอย หรือขึ้นทางด่วนครับ... สำหรับเรื่องยิงปืนนั่นเขาแค่เตือนมากกว่าครับ เพราะถ้าเจอมิจฉาชีพจริงๆ มันจะยิงก่อนเลย เมื่อโดนก่อนแล้วมีโอกาสสวนได้น้อยมากครับ... หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ มกราคม 06, 2012, 11:52:18 AM ผมจะทำตามลุงปูบอกถ้าเจอแบบนี้ ;D
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: ไก่เฮง รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2012, 11:53:50 AM รีบโทรศัพท์แจ้ง สน.ในพื้นที่สิครับ ระบุหมายเลขทะเบียน ยี่ห้อ รุ่น/สีรถ และพฤติการณ์ที่ประสบอยู่ ::013:: ...เห็นตามลุงปูนะครับ...สำหรับผมใช้รถใช้ถนนผมหยวนๆๆครับ รีบก็ให้ไปก่อน ขอแค่รถผมอย่าโดนขูดขีดเป็นพอครับ ;D ;D หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ มกราคม 06, 2012, 12:05:34 PM เป็นไปตามที่เพื่อนสมาชิกแสดงความเห็นทุกประการครับ....
กรณีนี้ รถติดเพราะมีรถ กทม ปิดเลนส์ซ้ายอยู่ วิ่งได้เลนขวาเลนส์เดียว ทุกคันเลยมาต่อคิวที่เลนขวาครับ ทั้งๆ ที่เห็นแต่ไกล แต่รถคันนี้ตั้งใจมาปาดเพื่อเข้าขวาตรงรถ กทม เลยครับ ไม่มีการเปิดไฟและสัญญาณ บางคนอาจปล่อยผ่านเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ แต่กับผมเห็นว่านิสัยไม่ดีเอาเปรียบคนอื่นครับ (อันนี้แล้วแต่ความคิดของเพื่อนสมาชิกแต่ละท่านครับ) และคิดว่ามันควรจบๆ ไป ไม่ได้ติดใจอะไร และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ต่อท้ายครับ จึงเตือนเพื่อนสมาชิกว่าอาจเกิดขึ้นได้ครับ ส่วนการโทรไปหาเจ้าหน้าที่นั้น ผมก็คิดจะทำครับ จะโทรแล้วด้วย แต่แฟนผมบอกว่าผ่านแล้วเก็บมาคิดทำไม อารมณ์เสียไม่ช่วยอะไร ปล่อยเค้าไปเถอะ... พอผ่านไปแล้ว เรื่องโทรจึงไม่ได้โทร ส่วนการสืบทะเบียนก็ไม่ได้ทำครับ... เพียงแต่เล่ากึ่งระบายให้เพื่อนสมาชิกฟังครับ ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Nero Angel01 ที่ มกราคม 06, 2012, 12:20:41 PM จขกท.ใจเย็นมากครับ เป็นผมถ้าเห็นแบบนั้น ผมคิดก่อนเลยว่ามันต้องยิงแน่ ผมคงชิงลงมือก่อน
ผมคงไม่ใจเย็นขนาดเห็นคู่กรณีชักปืนออกมาแล้ว ยังนึกถึงโทรศัพท์หรอก คงหูอื้อไม่ได้ยินอะไร กว่าจะรู้สติกระสุนคงหมดแมกไปแล้วละ นับถือครับ หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 06, 2012, 12:21:47 PM ขอบคุณอาฮุยครับ คันเจ้าปัญหานี่ไม่ยอมต่อคิว...
นายสมชายเห็นอีกอย่างนึงครับ ตามตัวแดงข้างล่าง... คือคันเจ้าปัญหานี่มาจากด้านขวา เมื่อปาดหน้าได้แล้วกลับชิดด้านซ้ายเพราะคนขับฯ จะยิงจากหน้าต่างด้านหน้าขวามือ... ประเด็นคือปาดหน้าได้แล้ว ไปข้างหน้าได้แล้ว แต่ยังไม่ยอมไป ยังอุตส่าห์ขับเทียบด้านซ้ายมือของเราซึ่งมีผู้หญิงนั่งอยู่เสียด้วย... อยากบอกว่าอาฮุยโชคดีที่รอดครับ อาจเป็นเพราะช่วงเช้ารถติดยิงใส่แล้วหนีลำบาก มันเลยไม่ยิง, ส่วนเรื่องที่ว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่นั่นมันกลับคิดไปว่านั่นคือความได้เปรียบของมัน ทำให้อาฮุยไม่กล้ายิงสู้ไงครับ... เหตุผลของเราสุจริตชนไม่เหมือนกับของพวกมันครับ, ดูตัวอย่างไอ้จิ๊บไอ้โจ๊กไงครับ... แต่ถ้านายสมชายเองจะขับรถรักษาระยะต่อเอาไว้ เพราะเวลาเกิดเรื่องแล้วมันยุ่งครับ เลยหาวิธีไม่ให้เริ่มนับหนึ่ง มันก็ไปไม่ถึง 100 องศา... อาจจะคล้ายกับหลายเรื่องที่เพื่อนสมาชิกเคยเล่าไว้ ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับผม แต่อยากฝากข้อคิดแก่เพื่อนสมาชิกเพิ่มเติมจึงขอเล่าสู่กันฟังดังนี้ ผมขับรถมาทำงานตอนเช้าตามปกติ ขณะที่รถติดสลับกับการเคลื่อนตัวไปช้าๆ ผมมองกระจกหลังเห็นรถกระบะขาวคันหนึ่งขับปาด ขับแทรกไปมา แล้วกำลังจะปาดมาแทรกเลนที่ผมขับอยู่ ความคิดตอนนั้นคือ ไม่ให้ เพราะผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่น่าเกลียดจึงบีบแตร แล้วเลื่อนรถไปติดคันหน้าไว้และไม่ยอมให้แทรก เมื่อผ่านไป ผมคิดว่าจบไปแล้ว แต่...รถกระบะขาวคันดังกล่าวขับแซงแล้วปาดหน้าผมพร้อมๆ กับเปิดกระจกมาว่า และยกนิ้วกลางใส่ผม ยังไม่พอ เมื่อขับแซงรถผมไปแล้ว เขาจอดเลนส์ซ้ายมือ พร้อมกับลดกระจก สิ่งที่ผมเห็นคือ ปืนในมือ พร้อมกับหน้าคนขับที่กวนๆ กับทรงผมเกรียนๆ ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่ารถผมมีผู้หญิง (แฟนผม) นั่งคู่คนขับมาด้วย วินาทีนั้นผมคิดจะเอื้อมไปเอาปืนที่หน้ารถมาไว้ที่ตัก แต่นึกถึงเรื่องเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆ กันของเพื่อนสมาชิก ประกอบกับเห็นหน้าแฟนที่นั่งมาด้วย ความคิดเปลี่ยนทันที ผมล้วงโทรศัพท์พร้อมกับเปิดมือถือให้เป็นเบอร์ของเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่เอาไว้ เผื่อมีกรณีฉุกเฉิน แล้วก็ขับแซงรถกระบะคันนั้นไป พร้อมกับพยายามที่จะไม่มองหน้ามัน เมื่อผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมเบาใจ มองหน้าแฟนพร้อมกับคิดว่า...ทำถูกแล้ว ไม่งั้นป่านนี้ คงเป็นข่าวหน้า ๑ ไล่ยิงกันเป็นหนังฮอลลีวู้ดไปแล้ว และผมก็คงไปนั่งบนโรงพักแทนการมานั่งพิมพ์เล่าเรื่องให้เพื่อนสมาชิกทราบ สิ่งที่ผมต้องการบอกเพื่อนๆ สมาชิกก็คือ เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดกับเราในวันใดวันหนึ่งได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นขอให้นึกถึงคนที่เรารักให้มากๆ และประการสำคัญ มีปืนต้องใจเย็น อันนี้สำคัญมาก เพราะหากคนที่เค้าเจอไม่ใช่ผม แล้วคนนั้นยิงสวน (ถ้ายังทำแบบนี้ไม่นานก็คงเจอสักวัน) หรือไม่ก็โดนโทรบอกเจ้าหน้าที่ว่ารถคันทะเบียนดังกล่าวมีปืนอยู่ในรถ (ซึ่งก็เป็นความคิดที่ผมจะทำอยู่) หรือไม่ก็อาจโดนสืบหาจากทะเบียนรถ (ผมเชื่อว่าทำได้ไม่ยาก) แล้วโดนอะไรต่อมิอะไรตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีเลยกับ คนที่มีปืนแล้วไม่มีสติ จึงเขียนเรื่องนี้มาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์และเตือนเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Geoman ที่ มกราคม 06, 2012, 12:22:16 PM อ่านแล้วลุ้นแทนครับ โชคดีแล้วครับที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่คนที่เอาปืนออกมาโชว์ชาวบ้านเวลาโกรธผมว่าเข้าขั้นภัยสังคมเลยนะครับเสียวงการคนรักปืนหมด
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: sittichai10 ที่ มกราคม 06, 2012, 12:40:36 PM ต่างกับผมครับ มีปืนอยู่ในรถกลัวคนอื่นเห็นแทบแย่ แค่ย้ายปืนจากรถขึ้นบ้านยัง รอมืดๆๆง่ะครับ
ยิ่งขับรถยังเอาออกมาโชว์ผมว่าเสี่ยงมากๆครับ ทั้งโดนสวนและโดนจับ อ่านแล้วลุ้นแทนครับ โชคดีแล้วครับที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่คนที่เอาปืนออกมาโชว์ชาวบ้านเวลาโกรธผมว่าเข้าขั้นภัยสังคมเลยนะครับเสียวงการคนรักปืนหมด หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มกราคม 06, 2012, 12:50:27 PM ตอนไปหาเพื่อนที่เป็นสารวัตร สน.ในกรุงเทพแห่งหนึ่ง ก็ได้เห็นคนมาแจ้งความว่าเจอพวกชักปืนโชว์แบบนี้
เลยมาแจ้งความ ดีที่จดทะเบียนรถ พร้อมมีพยายานบุคคลในรถเห็นด้วย สารวัตรสั่งให้ลูกน้องเช็คที่อยู่และ เชิญตัวเรียกมาคุยที่โรงพักด้วย เสียดายไม่ได้อยู่รอดูตอนจบ หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Builderman-รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2012, 12:56:51 PM พออ่านแล้วก็เศร้าใจครับ ไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับคนใช้รถที่มีปืนแล้วเป็นแบบนี้ แต่ขอแสดงความเคารพต่อการตัดสินใจของท่าน จขกท. ครับ
ท่านทำดีที่สุดแล้วครับ ::002:: ::002:: ::014:: เพือคนที่เรารักและรักเรา ไม่คุ้มด้วยเหตุผลประการทั้งปวงที่จะวัดกับคนประเภทนี้ ส่วนใหญ่ ที่มีปืนและใช้รถใช้ถนนแล้วมีการกระทำเยี่ยงนี้นั้น คนเหล่านี้มักมีปืนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากเราคิดจะวัดกับคนประเภทนี้ ไม่คุ้มครับ ทางออกที่ดีและเหมาะสม ก็ตามที่ ลุง PU45™ ท่านว่าไว้ครับ สังคมทุกวันนี้ " คนดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน " ครับ เศษขยะสังคมประเภทนี้มีเยอะครับ และเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน ๆ " อัตตาหิ อัตตะโนนาโถ " ครับ เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง หลบได้ก็ควรหลบครับ นับถือการตัดสินใจของท่าน จขกท. ครับ ::002:: ::002:: ::014:: ปืนมีไว้แก้ปัญหาเป็นสิ่งสุดท้าย ไม่ใช่มีเพื่อแสดงอำนาจว่า " ข้าใหญ่ " คนดี ๆ ที่ใช้ปืนแก้ปัญหา น้อยนักน้อยหนาที่มีโอกาสมานั่งเล่าเรื่องราวสู่กันฟังครับ สิ่งที่พวกเราชาว อวป.ทำได้ก็คงเพียงแค่ นำเรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเล่าสู่กันฟังเพื่อระบายความคับแค้นใจและเป็นอุทาหรณ์เท่านั้นครับ ::002:: ::002:: ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: TA881 ที่ มกราคม 06, 2012, 01:17:56 PM จขกท เจอรถเร็วหาเรื่อง ส่วนผมเจอรถช้ากวนโอ้ย คือ ช้าชิดขวาพอจะแซงซ้ายแล้วไม่ให้แซง เพราะทิ้งระยะห่างเยอะ พอเราแซงได้ก็เร่งกลับมาแซงแล้วเข้าขวาขับช้า
ผู้ยิ่งใหญ่ครับ เคยโพสในที่เว็ปนี้แหละ ปล่อยมันไปครับ ทำไมไม่แจ้งความครับ เราไม่ใช่ผู้รักษากฎหมายตัดสินไม่ได้ว่าใครถูกผิด แต่เอาปืนออกมาโชว์ไม่เล็งก็ผิดแล้ว แต่ถ้าเล็งโทษหนักหน่อย เป็นผมแจ้งเลยบอกพยายามฆ่าไปเลย เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นเจอ ถึงจะพูดว่าไม่ได้เล็งก็ไม่มีใครเชื่อแล้วครับ ส่วนหากใครบอกว่ายิงก่อน ผมมองว่าจะไม่เข้าค่ายป้องกันตัวนะครับ เพราะเหตุเกิดจากคู่กรณีเป็นผู้ก่อร่วมกัน หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ มกราคม 06, 2012, 01:29:13 PM ขอบคุณอาฮุยครับ คันเจ้าปัญหานี่ไม่ยอมต่อคิว... นายสมชายเห็นอีกอย่างนึงครับ ตามตัวแดงข้างล่าง... คือคันเจ้าปัญหานี่มาจากด้านขวา เมื่อปาดหน้าได้แล้วกลับชิดด้านซ้ายเพราะคนขับฯ จะยิงจากหน้าต่างด้านหน้าขวามือ... ประเด็นคือปาดหน้าได้แล้ว ไปข้างหน้าได้แล้ว แต่ยังไม่ยอมไป ยังอุตส่าห์ขับเทียบด้านซ้ายมือของเราซึ่งมีผู้หญิงนั่งอยู่เสียด้วย... อยากบอกว่าอาฮุยโชคดีที่รอดครับ อาจเป็นเพราะช่วงเช้ารถติดยิงใส่แล้วหนีลำบาก มันเลยไม่ยิง, ส่วนเรื่องที่ว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่นั่นมันกลับคิดไปว่านั่นคือความได้เปรียบของมัน ทำให้อาฮุยไม่กล้ายิงสู้ไงครับ... เหตุผลของเราสุจริตชนไม่เหมือนกับของพวกมันครับ, ดูตัวอย่างไอ้จิ๊บไอ้โจ๊กไงครับ... แต่ถ้านายสมชายเองจะขับรถรักษาระยะต่อเอาไว้ เพราะเวลาเกิดเรื่องแล้วมันยุ่งครับ เลยหาวิธีไม่ให้เริ่มนับหนึ่ง มันก็ไปไม่ถึง 100 องศา... .....คงจริงอย่างที่ท่านพูดครับ ผมลืมนึกไปเลย.... ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ค่อยจะถูกจริงๆ ครับ ทุกอย่างเป็นความคิดและการตัดสินใจในชั่ววินาทีจริงๆ ครับ ตอนแรกก็ไม่กล้าขับผ่าน (ตอนที่เขาจอดชิดซ้ายแล้วเปิดหน้าต่าง) แต่ลึกๆ ภาวนาว่าเค้าคงไม่กล้าหรอกครับ แต่เหตุการณ์จริงๆ มันเกิดขึ้นเร็วมากๆ ครับ จะหยุดรถดี จะขับผ่านดี มันเสี้ยววินาทีจริงๆ :) :) :) ขอบคุณนะครับสำหรับความเห็น หวังว่าจะเป็นเหตุการณ์อุทาหรณ์ให้เพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ ด้วยเช่นกันครับ หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: YIMTHANOM ที่ มกราคม 06, 2012, 01:44:24 PM +1 ให้พี่อาฮุยก่อนครับ ที่ใช้สติมากกว่าอารมณ์ ::002:: ถ้าเป็นผมจะจำทะเบียนแล้วโทรแจ้งความบัดเดี๋ยวนั้นเลยครับ...... มีปืนแล้วกร่างนัก ::013:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: magicmo ที่ มกราคม 06, 2012, 01:48:17 PM ขอบคุณมากๆๆครับผม
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2012, 01:58:43 PM อาจจะคล้ายกับหลายเรื่องที่เพื่อนสมาชิกเคยเล่าไว้ ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับผม แต่อยากฝากข้อคิดแก่เพื่อนสมาชิกเพิ่มเติมจึงขอเล่าสู่กันฟังดังนี้ ผมขับรถมาทำงานตอนเช้าตามปกติ ขณะที่รถติดสลับกับการเคลื่อนตัวไปช้าๆ ผมมองกระจกหลังเห็นรถกระบะขาวคันหนึ่งขับปาด ขับแทรกไปมา แล้วกำลังจะปาดมาแทรกเลนที่ผมขับอยู่ ความคิดตอนนั้นคือ “ไม่ให้” เพราะผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่น่าเกลียดจึงบีบแตร แล้วเลื่อนรถไปติดคันหน้าไว้และไม่ยอมให้แทรก เมื่อผ่านไป ผมคิดว่าจบไปแล้ว แต่...รถกระบะขาวคันดังกล่าวขับแซงแล้วปาดหน้าผมพร้อมๆ กับเปิดกระจกมาว่า และยกนิ้วกลางใส่ผม ยังไม่พอ เมื่อขับแซงรถผมไปแล้ว เขาจอดเลนส์ซ้ายมือ พร้อมกับลดกระจก สิ่งที่ผมเห็นคือ “ปืนในมือ” พร้อมกับหน้าคนขับที่กวนๆ กับทรงผมเกรียนๆ ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่ารถผมมีผู้หญิง (แฟนผม) นั่งคู่คนขับมาด้วย วินาทีนั้นผมคิดจะเอื้อมไปเอาปืนที่หน้ารถมาไว้ที่ตัก แต่นึกถึงเรื่องเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆ กันของเพื่อนสมาชิก ประกอบกับเห็นหน้าแฟนที่นั่งมาด้วย ความคิดเปลี่ยนทันที ผมล้วงโทรศัพท์พร้อมกับเปิดมือถือให้เป็นเบอร์ของเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่เอาไว้ เผื่อมีกรณีฉุกเฉิน แล้วก็ขับแซงรถกระบะคันนั้นไป พร้อมกับพยายามที่จะไม่มองหน้ามัน เมื่อผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมเบาใจ มองหน้าแฟนพร้อมกับคิดว่า...ทำถูกแล้ว ไม่งั้นป่านนี้ คงเป็นข่าวหน้า ๑ ไล่ยิงกันเป็นหนังฮอลลีวู้ดไปแล้ว และผมก็คงไปนั่งบนโรงพักแทนการมานั่งพิมพ์เล่าเรื่องให้เพื่อนสมาชิกทราบ สิ่งที่ผมต้องการบอกเพื่อนๆ สมาชิกก็คือ เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดกับเราในวันใดวันหนึ่งได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นขอให้นึกถึงคนที่เรารักให้มากๆ และประการสำคัญ “มีปืนต้องใจเย็น” อันนี้สำคัญมาก เพราะหากคนที่เค้าเจอไม่ใช่ผม แล้วคนนั้นยิงสวน (ถ้ายังทำแบบนี้ไม่นานก็คงเจอสักวัน) หรือไม่ก็โดนโทรบอกเจ้าหน้าที่ว่ารถคันทะเบียนดังกล่าวมีปืนอยู่ในรถ (ซึ่งก็เป็นความคิดที่ผมจะทำอยู่) หรือไม่ก็อาจโดนสืบหาจากทะเบียนรถ (ผมเชื่อว่าทำได้ไม่ยาก) แล้วโดนอะไรต่อมิอะไรตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีเลยกับ “คนที่มีปืนแล้วไม่มีสติ” จึงเขียนเรื่องนี้มาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์และเตือนเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ ::014:: ::014:: ::014:: อาการอย่างนี้ เรียกว่า "ถือทาง" ครับ. คือถือว่าเรา ถูกทางเป็นฝ่ายรักษากฎจราจร อีกฝ่ายทำไม่ถูก เราจึงไม่ให้ทางเขา และการถือทางนี้ อาจเริ่มต้น จากเรื่องไม่มีอะไรเลย แต่ผลที่ตามมา จะนำความความเสียหาย อย่างใหญ่หลวงมาให้ ถึงตาย เชียวครับ ถ้าถือทาง กับรถคันที่แซงไม่พ้น ท่านก็ต้องเละเทะ ไปด้วย ขับรถอยย่าไปเครียด อย่าไปถือทางกันนักครับ แบ่ง ๆ กันไป.. ต้องมีบ้างสักครั้งที่ท่านแซงแล้ว อาจไม่พ้น แต่รถที่ท่านกำลังแซง ลดความเร็วให้ท่านเข้าซ้าย หรือ อีกฝ่ายที่สวนมา หลบให้ท่าน.. แบ่ง ๆ กันอยู่ครับ แล้วปัญหาที่ได้พบมานั้น จะผ่านเลยไป อย่าเก็บมาเป็นเรื่องเครียดใส่ ตัวเรา เลยครับ การให้ทาง คือการแสดงน้ำใจ อย่างหนึ่ง กับผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกัน อย่าไปสนว่าเข้า จะเป็นอย่างไร ในกทม. เคยได้ยิน ไหม ครับ "สามแยกมารยาท" อยู่ตรงทางลอดใต้ เชิงสะพานพุทธ ด้านที่มาจาก รพ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยาฯ "สี่แยกทศกัณฑ์" ช่วงหนึ่งบนถนนที่เชื่อม ระหว่างเพชรเกษม กับ ปิ่นเกล้านครชัยศรี เลือกดูครับ ว่า เราอยากจะผ่านไป ที่ใด ;D หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: pranburi ที่ มกราคม 06, 2012, 02:06:42 PM อ่านแล้วน่ากลัวครับ เจอขับรถกวนประสาทมาก็เยอะประเภท เราขับเลนซ้าย มันพรวดแซงขึ้นมาแล้วเข้าซ้ายแล้วเบรคเพื่อที่จะเลี้ยวในซอยข้างหน้า เราก็เบรคตัวโก่งเลยเพราะจะชนตูดมัน แล้วมันก็เลี้ยวเข้าซอยไป นี่ก็ตกใจแล้ว ถ้าเจอเอาปืนออกมาด้วยคงขาสั่นขับไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ มกราคม 06, 2012, 02:18:47 PM การขับรถต้องรู้จักแบ่งปันและให้อภัยเหมือนกันครับ....เขาบ้าง เราบ้าง ซ้ายคัน ขวาคัน แบ่งปันกันไป
สมัยก่อนตอนอายุไม่เยอะประสบการณ์บนท้องถนนยังน้อย ก็จะมีอาการแบบ จขกท. เหมือนกัน ใครมาเบียดมาแทรกผมมักไม่ยอม เพราะสมัยก่อนผมก็ชอบขับไวและชอบเบียด แทรก เหมือนกัน เพราะบางทีเรารีบ จำเป็นต้องเบียดต้องแทรกเหมือนกัน แต่การทำอย่างนั้นไม่เป็นผลดีแต่อย่างใด มักจะมีเหตุการณ์ให้เสียวตามมาอยู่เรื่อย ขับรถใจเย็นนิดนึงครับ......ใครจะเบียด ใครจะแทรก ให้ัทางเขาไป เราเบรคให้ทางเขา เขาผงกหัวให้เรา อย่างนี้มันก็แฮปปี้ ผมขับรถออกจากซอยใครจอดให้ทางเรา เราก็ยกมือตะแบ๊ะ วันทยาหัตยถ์ ยิ้มแย้มให้เขาไป อันนี้ไม่มีเรื่องและมีความสุขแน่นอน :VOV: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: yongpayne ที่ มกราคม 06, 2012, 02:24:43 PM อ่านแล้วน่ากลัวครับ เจอขับรถกวนประสาทมาก็เยอะประเภท เราขับเลนซ้าย มันพรวดแซงขึ้นมาแล้วเข้าซ้ายแล้วเบรคเพื่อที่จะเลี้ยวในซอยข้างหน้า เราก็เบรคตัวโก่งเลยเพราะจะชนตูดมัน แล้วมันก็เลี้ยวเข้าซอยไป นี่ก็ตกใจแล้ว ถ้าเจอเอาปืนออกมาด้วยคงขาสั่นขับไม่ไหวแล้ว เจอบ่อยครับแบบนี้จะเข้าซอยไม่รู้จะรีบไปไหน ก็ต่อคิวๆไปเรื่อยๆแล้วก็เลี้ยวก็ได้จะขับมาแซงแล้วมาเลี้ยวทำไมให้หวาดเสียวหัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ มกราคม 06, 2012, 02:25:25 PM การขับรถต้องรู้จักแบ่งปันและให้อภัยเหมือนกันครับ....เขาบ้าง เราบ้าง ซ้ายคัน ขวาคัน แบ่งปันกันไป สมัยก่อนตอนอายุไม่เยอะประสบการณ์บนท้องถนนยังน้อย ก็จะมีอาการแบบ จขกท. เหมือนกัน ใครมาเบียดมาแทรกผมมักไม่ยอม เพราะสมัยก่อนผมก็ชอบขับไวและชอบเบียด แทรก เหมือนกัน เพราะบางทีเรารีบ จำเป็นต้องเบียดต้องแทรกเหมือนกัน แต่การทำอย่างนั้นไม่เป็นผลดีแต่อย่างใด มักจะมีเหตุการณ์ให้เสียวตามมาอยู่เรื่อย ขับรถใจเย็นนิดนึงครับ......ใครจะเบียด ใครจะแทรก ให้ัทางเขาไป เราเบรคให้ทางเขา เขาผงกหัวให้เรา อย่างนี้มันก็แฮปปี้ ผมขับรถออกจากซอยใครจอดให้ทางเรา เราก็ยกมือตะแบ๊ะ วันทยาหัตยถ์ ยิ้มแย้มให้เขาไป อันนี้ไม่มีเรื่องและมีความสุขแน่นอน :VOV: อาจจะคล้ายกับหลายเรื่องที่เพื่อนสมาชิกเคยเล่าไว้ ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับผม แต่อยากฝากข้อคิดแก่เพื่อนสมาชิกเพิ่มเติมจึงขอเล่าสู่กันฟังดังนี้ ผมขับรถมาทำงานตอนเช้าตามปกติ ขณะที่รถติดสลับกับการเคลื่อนตัวไปช้าๆ ผมมองกระจกหลังเห็นรถกระบะขาวคันหนึ่งขับปาด ขับแทรกไปมา แล้วกำลังจะปาดมาแทรกเลนที่ผมขับอยู่ ความคิดตอนนั้นคือ ไม่ให้ เพราะผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่น่าเกลียดจึงบีบแตร แล้วเลื่อนรถไปติดคันหน้าไว้และไม่ยอมให้แทรก เมื่อผ่านไป ผมคิดว่าจบไปแล้ว แต่...รถกระบะขาวคันดังกล่าวขับแซงแล้วปาดหน้าผมพร้อมๆ กับเปิดกระจกมาว่า และยกนิ้วกลางใส่ผม ยังไม่พอ เมื่อขับแซงรถผมไปแล้ว เขาจอดเลนส์ซ้ายมือ พร้อมกับลดกระจก สิ่งที่ผมเห็นคือ ปืนในมือ พร้อมกับหน้าคนขับที่กวนๆ กับทรงผมเกรียนๆ ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่ารถผมมีผู้หญิง (แฟนผม) นั่งคู่คนขับมาด้วย วินาทีนั้นผมคิดจะเอื้อมไปเอาปืนที่หน้ารถมาไว้ที่ตัก แต่นึกถึงเรื่องเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆ กันของเพื่อนสมาชิก ประกอบกับเห็นหน้าแฟนที่นั่งมาด้วย ความคิดเปลี่ยนทันที ผมล้วงโทรศัพท์พร้อมกับเปิดมือถือให้เป็นเบอร์ของเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่เอาไว้ เผื่อมีกรณีฉุกเฉิน แล้วก็ขับแซงรถกระบะคันนั้นไป พร้อมกับพยายามที่จะไม่มองหน้ามัน เมื่อผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมเบาใจ มองหน้าแฟนพร้อมกับคิดว่า...ทำถูกแล้ว ไม่งั้นป่านนี้ คงเป็นข่าวหน้า ๑ ไล่ยิงกันเป็นหนังฮอลลีวู้ดไปแล้ว และผมก็คงไปนั่งบนโรงพักแทนการมานั่งพิมพ์เล่าเรื่องให้เพื่อนสมาชิกทราบ สิ่งที่ผมต้องการบอกเพื่อนๆ สมาชิกก็คือ เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดกับเราในวันใดวันหนึ่งได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นขอให้นึกถึงคนที่เรารักให้มากๆ และประการสำคัญ มีปืนต้องใจเย็น อันนี้สำคัญมาก เพราะหากคนที่เค้าเจอไม่ใช่ผม แล้วคนนั้นยิงสวน (ถ้ายังทำแบบนี้ไม่นานก็คงเจอสักวัน) หรือไม่ก็โดนโทรบอกเจ้าหน้าที่ว่ารถคันทะเบียนดังกล่าวมีปืนอยู่ในรถ (ซึ่งก็เป็นความคิดที่ผมจะทำอยู่) หรือไม่ก็อาจโดนสืบหาจากทะเบียนรถ (ผมเชื่อว่าทำได้ไม่ยาก) แล้วโดนอะไรต่อมิอะไรตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีเลยกับ คนที่มีปืนแล้วไม่มีสติ จึงเขียนเรื่องนี้มาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์และเตือนเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ ::014:: ::014:: ::014:: อาการอย่างนี้ เรียกว่า "ถือทาง" ครับ. คือถือว่าเรา ถูกทางเป็นฝ่ายรักษากฎจราจร อีกฝ่ายทำไม่ถูก เราจึงไม่ให้ทางเขา และการถือทางนี้ อาจเริ่มต้น จากเรื่องไม่มีอะไรเลย แต่ผลที่ตามมา จะนำความความเสียหาย อย่างใหญ่หลวงมาให้ ถึงตาย เชียวครับ ถ้าถือทาง กับรถคันที่แซงไม่พ้น ท่านก็ต้องเละเทะ ไปด้วย ขับรถอยย่าไปเครียด อย่าไปถือทางกันนักครับ แบ่ง ๆ กันไป.. ต้องมีบ้างสักครั้งที่ท่านแซงแล้ว อาจไม่พ้น แต่รถที่ท่านกำลังแซง ลดความเร็วให้ท่านเข้าซ้าย หรือ อีกฝ่ายที่สวนมา หลบให้ท่าน.. แบ่ง ๆ กันอยู่ครับ แล้วปัญหาที่ได้พบมานั้น จะผ่านเลยไป อย่าเก็บมาเป็นเรื่องเครียดใส่ ตัวเรา เลยครับ การให้ทาง คือการแสดงน้ำใจ อย่างหนึ่ง กับผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกัน อย่าไปสนว่าเข้า จะเป็นอย่างไร ในกทม. เคยได้ยิน ไหม ครับ "สามแยกมารยาท" อยู่ตรงทางลอดใต้ เชิงสะพานพุทธ ด้านที่มาจาก รพ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยาฯ "สี่แยกทศกัณฑ์" ช่วงหนึ่งบนถนนที่เชื่อม ระหว่างเพชรเกษม กับ ปิ่นเกล้านครชัยศรี เลือกดูครับ ว่า เราอยากจะผ่านไป ที่ใด ;D การขับรถต้องรู้จักแบ่งปันและให้อภัยเหมือนกันครับ....เขาบ้าง เราบ้าง ซ้ายคัน ขวาคัน แบ่งปันกันไป สมัยก่อนตอนอายุไม่เยอะประสบการณ์บนท้องถนนยังน้อย ก็จะมีอาการแบบ จขกท. เหมือนกัน ใครมาเบียดมาแทรกผมมักไม่ยอม เพราะสมัยก่อนผมก็ชอบขับไวและชอบเบียด แทรก เหมือนกัน เพราะบางทีเรารีบ จำเป็นต้องเบียดต้องแทรกเหมือนกัน แต่การทำอย่างนั้นไม่เป็นผลดีแต่อย่างใด มักจะมีเหตุการณ์ให้เสียวตามมาอยู่เรื่อย ขับรถใจเย็นนิดนึงครับ......ใครจะเบียด ใครจะแทรก ให้ัทางเขาไป เราเบรคให้ทางเขา เขาผงกหัวให้เรา อย่างนี้มันก็แฮปปี้ ผมขับรถออกจากซอยใครจอดให้ทางเรา เราก็ยกมือตะแบ๊ะ วันทยาหัตยถ์ ยิ้มแย้มให้เขาไป อันนี้ไม่มีเรื่องและมีความสุขแน่นอน :VOV: จริงๆ แล้วก็ควรเป็นอย่างนั้นครับ....แต่บางครั้งเราก็รู้สึกว่า คันอื่นเค้ายังต่อคิวกันได้ ทำไม่คันนี้เล่นทางลัด มันเอาเปรียบเราและก็คันข้างหลังที่เค้าต่อคิวอยู่ ก็เลยไม่อยากให้ทำ โดยไม่คิดว่าจะบานปลาย... หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: SAATHU ที่ มกราคม 06, 2012, 03:05:56 PM ผมเห็นด้วยกับพี่ๆหลายๆท่าน ....
โดยส่วนตัวแล้วคิดอยู่เสมอ เรื่อง" การให้ทาง " นั้นเสมือน " การให้น้ำใจ " แก่กันและกัน และด้วยกุศลแห่งกรรมนี้ จะนำให้เราไร้อุปสรรค เดินทางโดยสวัสดิภาพ การงานราบรื่น หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2012, 03:07:54 PM ฮาฮุย. ก็เป็นสุดยอดมือมือกระบี่ เรื่องแบบนี้ แค่ทดสอบอารมณ์ เท่านั้น สบายมาก ใช่ไหม ครับ. :D
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ มกราคม 06, 2012, 03:37:55 PM เอาใจช่วยครับวันนี้เขา(มัน)แค่โชคดีวันข้างหน้า(มัน)อาจจะไม่ได้โชคดีแบบนี้อีกก็เป็นไปได้ครับท่านอาฮุย :)
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มกราคม 06, 2012, 03:39:59 PM ทำถูกแล้วครับ ที่ควบคุมอารมณ์ได้
แต่เรื่องไม่พยายามจดทะเบียน ให้แฟนถ่ายรูปรถ แล้วไปแจ้งความ ถือว่าละเลย ต่อสวัสดิภาพครอบครัวเราครับ เพราะดูจากมุมยิง มันกะคุกคามภรรยาท่านเป็นหลัก เพราะรู้ว่ามีผู้ผญิงมาด้วย ทำกะเราเราไม่ว่าครับ แต่มาทำกะสมาชิกในครอบครัวของเราอย่างนี้ยอมไม่ได้ จริงอยู่เราไม่ไปต่อยตี ยิง กะมัน แต่ก็ต้องแจ้งให้มือกฎหมายเขามาดำเนินการ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่เพราะเราได้ดำเนินการของเราอย่างเต็มที่แล้ว ปัญหาหลักที่ส่วนตัวแล้วมีความเห็นเหมือนพี่สมชาย คือสังคมเราไม่ยอมให้มือกฎหมายมาจัดการแต่แรก ลองคิดดูสิครับ จะเอาแต่น้ำอดน้ำทนอย่างเดียวตัวเราเองจะทนไปได้สักกี่น้ำ อย่างเช่น เช้านี้เจอ คิดว่าฟาดเคราะห์ พอตอนบ่ายก็มาเจออีก ตัวเราจะทนได้สัก แค่ไหน ถ้าเราตะบะแตกตรงจุดไหน ก็ กลายเป็นข่าวไม่ดีเรื่องไม่เป็นเรื่องทำเกินกว่าเหตุอีก หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ มกราคม 06, 2012, 04:01:49 PM เพิ่มเติมนิดนึงครับ วันก่อนได้อ่านหนังสือSeclet เป็นบทความของคุณหนูดีเขียนพอสรุปได้ว่า เมืองไทยเป็นสังคมอลุ่มอล่วย พอมีเหตุการณ์ที่บุคคลถูกละเมิดสิทธิตามกฎหมายขึ้นก็จะบอกว่าดวงไม่ดี หรือ เป็นคราวเคราะห์ หรือ ไม่เป็นไรนิดๆหน่อยๆบ้าง ต่างจากสังคมต่างประเทศซึ่งถ้าถูกละเมิดสิทธิตามกฎหมายแล้วละก็เขาก็จะใช้สิทธิที่พึงมีตามที่กฎหมายคุ้มครองอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจจะทำให้มีแต่เรื่องราวเต็มโรงเต็มศาล แต่ในทางกลับกันก็จะทำให้ผู้คนเคารพและเกรงกลัวกฎหมายกันมากขึ้น ::014::
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ มกราคม 06, 2012, 04:02:06 PM ฮาฮุย. ก็เป็นสุดยอดมือมือกระบี่ เรื่องแบบนี้ แค่ทดสอบอารมณ์ เท่านั้น สบายมาก ใช่ไหม ครับ. :D ทดสอบบ่อยๆ ก็ไม่ไหวนะครับ ของแบบนี้มันมีขึ้นมีลงกันได้.... :) :) :) ทำถูกแล้วครับ ที่ควบคุมอารมณ์ได้ แต่เรื่องไม่พยายามจดทะเบียน ให้แฟนถ่ายรูปรถ แล้วไปแจ้งความ ถือว่าละเลย ต่อสวัสดิภาพครอบครัวเราครับ เพราะดูจากมุมยิง มันกะคุกคามภรรยาท่านเป็นหลัก เพราะรู้ว่ามีผู้ผญิงมาด้วย ทำกะเราเราไม่ว่าครับ แต่มาทำกะสมาชิกในครอบครัวของเราอย่างนี้ยอมไม่ได้ จริงอยู่เราไม่ไปต่อยตี ยิง กะมัน แต่ก็ต้องแจ้งให้มือกฎหมายเขามาดำเนินการ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่เพราะเราได้ดำเนินการของเราอย่างเต็มที่แล้ว ปัญหาหลักที่ส่วนตัวแล้วมีความเห็นเหมือนพี่สมชาย คือสังคมเราไม่ยอมให้มือกฎหมายมาจัดการแต่แรก ลองคิดดูสิครับ จะเอาแต่น้ำอดน้ำทนอย่างเดียวตัวเราเองจะทนไปได้สักกี่น้ำ อย่างเช่น เช้านี้เจอ คิดว่าฟาดเคราะห์ พอตอนบ่ายก็มาเจออีก ตัวเราจะทนได้สัก แค่ไหน ถ้าเราตะบะแตกตรงจุดไหน ก็ กลายเป็นข่าวไม่ดีเรื่องไม่เป็นเรื่องทำเกินกว่าเหตุอีก ....นาทีนั้นผมก็กะเอาจริงครับ จำทะเบียนรถด้วยครับ แต่พอผ่านมา ก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต ให้ต้องมาอารมณ์เสียต่อน่ะครับ อีกอย่าง ก่อนที่เค้าจะขับแซงไปแล้วเปิดกระจก ผมคิดว่าเค้าอาจไม่เห็นคนนั่งข้างผม หรือไม่ก็แค่เอามาขู่เฉยๆ ตามแบบของคนมีปืนแล้วกร่างน่ะครับ แต่สิ่งที่ผมทำผิดถูกอย่างไรก็เก็บไว้เป็นอุทาหรณ์ เมื่อมีเหตุการณ์ลักษณะนี้หากเกิดกับใครก็ขอให้มีสติก่อน แล้วบทสรุปจะเหมือนหรือต่างกันอย่างไรค่อยว่ากันครับ... ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ มกราคม 06, 2012, 04:04:56 PM เพิ่มเติมนิดนึงครับ วันก่อนได้อ่านหนังสือSeclet เป็นบทความของคุณหนูดีเขียนพอสรุปได้ว่า เมืองไทยเป็นสังคมอลุ่มอล่วย พอมีเหตุการณ์ที่บุคคลถูกละเมิดสิทธิตามกฎหมายขึ้นก็จะบอกว่าดวงไม่ดี หรือ เป็นคราวเคราะห์ หรือ ไม่เป็นไรนิดๆหน่อยๆบ้าง ต่างจากสังคมต่างประเทศซึ่งถ้าถูกละเมิดสิทธิตามกฎหมายแล้วละก็เขาก็จะใช้สิทธิที่พึงมีตามที่กฎหมายคุ้มครองอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจจะทำให้มีแต่เรื่องราวเต็มโรงเต็มศาล แต่ในทางกลับกันก็จะทำให้ผู้คนเคารพและเกรงกลัวกฎหมายกันมากขึ้น ::014:: เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ... หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: storm_54321 ที่ มกราคม 06, 2012, 04:06:57 PM ควบคุมอารมได้ดีครับ น่านับถือ ::002:: ::002:: การชักปืนออกมาโชว์ในที่สาธารณะ
เพื่อข่มขู่ผู้อื่น มันไม่เท่ห์อะไรเลย หรือว่าพ่อมันใหญ่ก้อไม่ทราบนะครับ เลยกล้าทำ โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เลยครับ จำหมายเลขทะเบียน ยี่ห้อ สี และ เส้นทางที่รถจะไป โดนจับอาจจะช่วยให้หายซ่าส์ได้บ้าง วันนี้มันรอดจากพี่ไปได้ ::008:: สักวันมันคงโดนดีเองแหละ ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: jine ที่ มกราคม 06, 2012, 05:07:15 PM เรื่องบนถนนนี้ต้องมีน้ำใจกับคนที่น่าจะมีครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ขับรถเร็ว ปาดหาช่องแซง ถ้าใครขับช้าผมจะขับไปดูดตูดกลับกันใครดูดตูดผมผมจะเหยียบไม่ให้ตาม แต่จะไม่เปิดไฟไล่หรือบีบแตรไล่ใคร และถ้าขับช้าไม่สนใจใครผมก็หาช่องแซงแต่จะต่อคิวขึ้นสะพานหรือไฟแดงตลอด ถ้าใครจะมาปาดหน้าผมผมไม่มียอม แต่ก็ไม่ถือถ้าใครจะทำแล้วเข้ามาได้ เพราะว่าไม่คุ้มที่จะไปมีเรื่อง ปืนผมนะมีแต่อยู่ที่บ้าน :DD ลูกเมียผมก็รออยู่ที่บ้านครับ
ปล ปืนมันจะดูดปืนครับ ผมสังเกตการณ์ดูนะครับส่วนใหญ่ผู้ที่ติดป์นในรถมักเจอแต่เรื่องนะครับ ผมไม่ยักเจอ แต่ก็ดีแล้วครับที่ผมไม่เจอและ ท่านเจ้าของกระทู้ ไม่คิดสั้นไปมีเรื่องครับ ::002:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: rin25 ที่ มกราคม 06, 2012, 05:12:00 PM ท่าน จขกท ใจเย็นจริงๆคับ เป็นผมก็จะทำอย่างท่าน แต่แฟนนั้งมาด้วยนี้ซิ ::004::ผมว่าไอ้รถกะบะ จะโดนสวนด้วยปืนหญิงแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มกราคม 06, 2012, 05:56:39 PM ผมขับรถผมจะระวังอยู่เสมอครับว่าใครขับตามมาไหมถ้าตามมาใกล้ก็ให้แซงไปครับผมไม่ชอบให้มีรถจี้้ท้ายครับมันไม่มั่นใจเวลาจะเบรคจะหยุดกลัวเค้าเบรคไม่ทันครับ
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: toeyman ที่ มกราคม 06, 2012, 06:26:06 PM ผมเคยเจอคล้ายๆกับพี่อาฮุยเลยครับ มันปาดจากซ้ายสุด ผมอยู่ขวาสุด ทางมีสามเลน รถเพิ่งออกจากไฟแดงก็ติดกันเป็นขบวน ยังไงก็แทรกไม่ได้ มันก็ยังจะแทรกเข้ามา ตอนแรกผมไม่ยอมครับ >:( แต่มันก็ยังเบียดเข้ามาอีก แบบชนเป็นชน ผมเลยต้องยอม ::012:: แต่บีบแตรเตือนมันไปที่นึง เป็นเรื่องครับ :OO มันปาดเข้าซ้ายอีกแล้วไปจอดรอข้างหน้า ผมก็เลยขับเข้าเลนซ้าย แล้วก็จอดอยู่หลังรถมันประมาณ 200 เมตรได้ แต่คิดได้ว่ามีเรื่องยังไงก็ไม่คุ้ม ไม่รู้ว่ามันมีอาวุธอะไรหรือเปล่า ไอ้ผมก็มากับแฟนด้วย เลยเลี้ยวซ้ายเข้าซอย หมดเรื่องหมดราว ;D
แต่ตอนหลังๆนี้ใจเย็นขึ้นเยอะ ใครทำถ่อยๆแบบนี้ ผมให้ไปหมด กลัวมันไปงานศพบิดา มารดามันไม่ทัน ::010:: ไม่เคยเกิดเรื่องอีก ::014:: -คู่กรณี : กระบะยอดขายอันดับ 1 สี่ประตู สีดำ จะทะเบียนไม่ได้ -ที่เกิดเหตุ : ขอนแก่น ถนนมิตรภาพ แยกไฟแดงหน้า มข. หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2012, 07:08:32 PM หลายท่าน ที่ได้เข้ามาในกระทู้นี้ ได้เห็นครรลอง นี้ แล้วใช่ไหม ครับ และต้องตระหนักกันไว้ให้ดี
นี่คือครรลอง ที่จักต้องเกิดนะครับ ถ้าไม่อยากให้เกิด ก็อย่าได้ก่อให้เกิดข้อเท็จริงอย่างนี้ขึ้น แต่ถ้าท่านกระทำอย่างนี้ มันก็จักต้องเกิดครรลอง เข่นนี้ ซ้ำซากอีก และอาจไม่ได้มีโชค อย่างนี้ อย่าได้ไปถือทาง นั่นเท่ากับท่านไม่ได้ร่วมตบมือด้วยกับเขา และเค้าจะไม่มีเหตุต้องแสดงอาการกร่างใส่ท่าน ถ้าท่านยังถือทางอีกเมื่อไหร่ คิดว่ายอมไม่ได้ เท่ากับไปสะกิดต่อม เติมไฟใส่ให้อีกฝ่าย.. มันกฺ็อาจจะเกิดซ้ำ และอาจไม่ได้มีโชคอย่างนี้ อีก. กับคนมีปืน ไม่มีใครแน่กว่าใคร เพราะคนมีปืนนั้น สติถ้าแตกแล้ว มีแต่แย่ด้วยกันทั้งคู่ จะหนักกว่ากันแค่ไหนเท่านั้น ไว้ใช้กับ พวกโจร-คนร้าย บนทางหลวงดีกว่า นะครับ ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: อาฮุย ที่ มกราคม 06, 2012, 07:26:25 PM หลายท่าน ที่ได้เข้ามาในกระทู้นี้ ได้เห็นครรลอง นี้ แล้วใช่ไหม ครับ และต้องตระหนักกันไว้ให้ดี นี่คือครรลอง ที่จักต้องเกิดนะครับ ถ้าไม่อยากให้เกิด ก็อย่าได้ก่อให้เกิดข้อเท็จริงอย่างนี้ขึ้น แต่ถ้าท่านกระทำอย่างนี้ มันก็จักต้องเกิดครรลอง เข่นนี้ ซ้ำซากอีก และอาจไม่ได้มีโชค อย่างนี้ อย่าได้ไปถือทาง นั่นเท่ากับท่านไม่ได้ร่วมตบมือด้วยกับเขา และเค้าจะไม่มีเหตุต้องแสดงอาการกร่างใส่ท่าน ถ้าท่านยังถือทางอีกเมื่อไหร่ คิดว่ายอมไม่ได้ เท่ากับไปสะกิดต่อม เติมไฟใส่ให้อีกฝ่าย.. มันกฺ็อาจจะเกิดซ้ำ และอาจไม่ได้มีโชคอย่างนี้ อีก. กับคนมีปืน ไม่มีใครแน่กว่าใคร เพราะคนมีปืนนั้น สติถ้าแตกแล้ว มีแต่แย่ด้วยกันทั้งคู่ จะหนักกว่ากันแค่ไหนเท่านั้น ไว้ใช้กับ พวกโจร-คนร้าย บนทางหลวงดีกว่า นะครับ ::014:: ขอบคุณท่าน Ro@d - รักในหลวง ผมก็หวังเช่นกันว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นอุทาหรณ์ที่ดีให้กับเพื่อนสมาชิกครับ ผมเคยเจอคล้ายๆกับพี่อาฮุยเลยครับ มันปาดจากซ้ายสุด ผมอยู่ขวาสุด ทางมีสามเลน รถเพิ่งออกจากไฟแดงก็ติดกันเป็นขบวน [font=Verdana]ยังไงก็แทรกไม่ได้ มันก็ยังจะแทรกเข้ามา [/font] ตอนแรกผมไม่ยอมครับ >:( แต่มันก็ยังเบียดเข้ามาอีก แบบชนเป็นชน ผมเลยต้องยอม ::012:: แต่บีบแตรเตือนมันไปที่นึง เป็นเรื่องครับ :OO มันปาดเข้าซ้ายอีกแล้วไปจอดรอข้างหน้า ผมก็เลยขับเข้าเลนซ้าย แล้วก็จอดอยู่หลังรถมันประมาณ 200 เมตรได้ แต่คิดได้ว่ามีเรื่องยังไงก็ไม่คุ้ม ไม่รู้ว่ามันมีอาวุธอะไรหรือเปล่า ไอ้ผมก็มากับแฟนด้วย เลยเลี้ยวซ้ายเข้าซอย หมดเรื่องหมดราว ;D แต่ตอนหลังๆนี้ใจเย็นขึ้นเยอะ ใครทำถ่อยๆแบบนี้ ผมให้ไปหมด กลัวมันไปงานศพบิดา มารดามันไม่ทัน ::010:: ไม่เคยเกิดเรื่องอีก ::014:: -คู่กรณี : กระบะยอดขายอันดับ 1 สี่ประตู สีดำ จะทะเบียนไม่ได้ -ที่เกิดเหตุ : ขอนแก่น ถนนมิตรภาพ แยกไฟแดงหน้า มข. ชอบคำพูดนี้ครับ...ทำให้เข้าใจหัวอกกันและกันในสถานการณ์นั้นเลยครับ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: วรกฤษ ที่ มกราคม 06, 2012, 08:49:24 PM คนมีปืนส่วนมากใจเย็นครับ :D เเละอีกส่วนมากก็ใจร้อนเช่นกันครับ
ผมเลือกใจเย็นเพราะมันดับร้อนได้ครับ ;D งานนี้ท่าน อาฮุย ใจเย็นเลยดับเรื่องร้อนๆไปได้สบายๆ :D เป็นอุทาหรณ์เตือนใจเพื่อนสมาชิกได้ดีเลยครับ ::002:: ::014:: หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: เมียหลวงสั่งถอย เมียน้อยสั่งลุย ที่ มกราคม 06, 2012, 09:05:09 PM หากล้องไว้ถ่ายในรถซักตัว เผื่อฉุกเฉิน
ผมว่าสมควรแจ้งความหรือโทรให้ทางหลวงทราบนะครับ หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง...เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: BIG BERETTA ที่ มกราคม 07, 2012, 09:22:00 AM :o คนจำพวกนี้มีมานานหลายสมัยแล้วครับ เพราะเขาคิดว่าข้านี้มีปืน เองไม่มีมาต่อกรกับข้าหลอก หมาเห่ามักไม่กัดครับ หมากัดมันจะย่องมากัดข้างหลังเลยโดยไม่ให้รู้ตัวก่อน คนโชว์ปืนจำพวกนี้ตัวผมเอง เพื่อนๆที่ทำงาน ญาติๆ ก็เคยพบมา คนอื่นๆบนท้องถนนต่างก็พบกันมา เพราะฟังจากวิทยุสื่อสาร ก็มีเหตุนี้อยู่บ่อยๆให้เจ้าหน้าที่สกัดจับ ได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะว่าคนที่พบเขาโทรแจ้งที่ 191 เหตุเกิดก็เพราะไปขับรถแบบแสดงกิริยาตอบโต้กับการขับรถด้วยความเลวของคนจำพวกนี้ ก็เลยไปจุดประกายต่อมอันธพาลเข้าให้ พักนี้ยิ่งพบได้บ่อยมากขึ้นครับโดยเฉพาะในเขตเมือง ชุมชน เพราะคนมีปืนกันมากขึ้น บวกกับความรีบเร่ง พาหนะที่มีอัดตราเร่งที่แรงขึ้นและการจราจรที่คับคั่ง คนเลยคลั่งไปด้วย
|