เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: gunnut ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 10:11:31 AM



หัวข้อ: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: gunnut ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 10:11:31 AM
รบกวนเพื่อนอวป.ครับ มีเพื่อนที่อเมริกาจะเกษียณอายุ และจะกลับไปปักหลักที่เมืองไทย เขามีปืนยาวอยากนำกลับมาทีเมืองไทยด้วย ไม่ทราบจะมีขั้นตอนหรือติดต่อหน่วยงานใดบ้าง

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Choltit ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 10:34:28 AM
ขั้นตอนตามกฎหมายคือ ไปยื่นขออนุญาตินำปืนเข้ามาในราชอาณาจักรได้ที่กรมการปกครอง (วังไชยาฯ)


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: quick-รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 10:55:12 AM
รอฟังจากผู้รู้ครับ  ;D


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 12:04:32 PM
จะยื่นขออนุญาตได้ต่อเมื่อมีทะเบียนบ้านในประเทศไทยเสียก่อน (ไม่น้อยกว่า 6 เดือน)   หรือไม่ก็เอาเข้ามากับเรือยอร์ช หรือเครื่องบิน


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: gunnut ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 12:46:51 PM
ขอบคุณทุกท่านครับ อยากรบกวนขอให้ท่านผู้การขยายความที่ว่า "หรือไม่ก็เอาเข้ามากับเรือยอร์ช หรือเครื่องบิน" ให้อีกนิดครับ


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Choltit ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 01:12:25 PM
ผมกลับมาคิดว่า แล้วเอาออกนอกประเทศเขาได้เหรอครับ


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 06:32:49 PM
ขอบคุณทุกท่านครับ อยากรบกวนขอให้ท่านผู้การขยายความที่ว่า "หรือไม่ก็เอาเข้ามากับเรือยอร์ช หรือเครื่องบิน" ให้อีกนิดครับ

ผมตีความว่า....เป็นการนำพาอาวุธปืนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่สุจริตครับ ;D ;D


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 09:52:47 PM
ขอบคุณทุกท่านครับ อยากรบกวนขอให้ท่านผู้การขยายความที่ว่า "หรือไม่ก็เอาเข้ามากับเรือยอร์ช หรือเครื่องบิน" ให้อีกนิดครับ

ผมตีความว่า....เป็นการนำพาอาวุธปืนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่สุจริตครับ ;D ;D

แหม  ทำแบบถูกกฎหมายก็ได้
ขอใบอนุญาตมีและใช้ชั่วคราว ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 5 (2),  18


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 10:02:13 PM
กระทู้นี้มีประโยชน์มากสำหรับผม  เผื่อตอนแก่จะหาช่องทางเอาปืนกลับบ้างครับ 


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2006, 11:01:48 PM
ขอบคุณทุกท่านครับ อยากรบกวนขอให้ท่านผู้การขยายความที่ว่า "หรือไม่ก็เอาเข้ามากับเรือยอร์ช หรือเครื่องบิน" ให้อีกนิดครับ

ผมตีความว่า....เป็นการนำพาอาวุธปืนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่สุจริตครับ ;D ;D

แหม ทำแบบถูกกฎหมายก็ได้
ขอใบอนุญาตมีและใช้ชั่วคราว ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 5 (2), 18

 ;D ;D ;D
ขอบคุณครับผู้การ...บอกทีเดียวให้หมดก็ไม่ได้ ;D


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 12:50:14 AM
ขอบคุณทุกท่านครับ อยากรบกวนขอให้ท่านผู้การขยายความที่ว่า "หรือไม่ก็เอาเข้ามากับเรือยอร์ช หรือเครื่องบิน" ให้อีกนิดครับ

ผมตีความว่า....เป็นการนำพาอาวุธปืนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่สุจริตครับ ;D ;D

แหม ทำแบบถูกกฎหมายก็ได้
ขอใบอนุญาตมีและใช้ชั่วคราว ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 5 (2), 18

 ;D ;D ;D
ขอบคุณครับผู้การ...บอกทีเดียวให้หมดก็ไม่ได้ ;D

แกล้ง ๆ ลองภูมิกฎหมายปืนซะงั้น ๆ   ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Sundance ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 03:07:25 AM
ผมกลับมาคิดว่า แล้วเอาออกนอกประเทศเขาได้เหรอครับ

จริงครับ ไม่ง่าย มีขั้นตอนมากมาย เห็นจะต้องซุกมาใน Container ขนของกลับบ้าน Jeff Cooper เอาปืนที่ทิ้งไว้ใน Africa กลับมา USA ยังแทบแย่


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: saranrom41 ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 03:22:01 AM
 :)ขอเรียนประสบการณ์ของตนเองนะครับ แต่เหตุการณ์นี้ก็เกิดมานานมากแล้วตอนนี้อาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างแล้วก็ได้ คงจะเอาเรื่องของผมมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ ถือว่าเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันครับ
ผมไปประจำการที่กรุงออกตาวา ประเทศแคนาดา อยู่ ๔ ปี ครับ ตอนที่อยู่แคนาดานั้นผมสามารถซื้อปืนได้ถูกต้องตามกฏหมายแคนาดาโดยการที่ต้องกรอกแบบฟอร์ม โดยมีผู้บังคับบัญชาลงนามรับรองในเอกสารและส่งเอกสารคำร้องนั้นให้ทางการแคนาดาดำเนินการต่างๆ ซึ่งผมเองไม่ทราบว่าทางการแคนาดาทำอะไรบ้าง อาจจะมีการสอบประวัติ ฯลฯ ในที่สุดผมก็ได้ใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนได้ซึ่งเป็นบัตรพลาสติกคล้ายกับบัตรเครดิตและก็สามารถนำไปซื้อปืนได้  ในสมัยนั้นหากเป็นปืนยาวก็ไปซื้อที่ร้านขายปืนหรืออุปกรณ์ประเภทเดินป่าซึ่งจะมีปืนขายด้วย จะซื้อเท่าไรก็ได้กี่กระบอกก็ได้ลูกกระสุนกี่นัดก็ได้เท่าที่มีปัญญาจะซื้อ สามารถซื้อแล้วนำกลับบ้านได้เลยและสามารถที่จะนำพาไปยิงที่สนามยิงปืนหรือไปล่าสัตว์ก็ได้ (ต้องมีใบอนุญาตให้ล่าสัตว์ได้ ตามฤดูกาล) ส่วนปืนสั้นนั้นยังซื้อไม่ได้จนกว่าจะเป็นสมาชิกสนามยิงปืนและต้องผ่านการอบรมความรู้เบื้องต้นเรื่องอาวุธปืนสั้น กฏความปลอดภัยและยิงปืนสั้น (ยิงเพื่อดูเรื่องการใช้ ความปลอดภัย ระเบียบปฏิบัติในสนามยิงปืน เป็นต้น) จากสนามยิงปืนซึ่งจะมีการเปิดหลักสูตรสั้นๆ สำหรับการอบรม เมื่อผ่านหลักสูตรนี้แล้วก็จะได้รับเอกสารจากทางผู้ให้การอบรม ซึ่งจะต้องใช้เอกสารนี้รวมกับบัตรอนุญาตให้มีอาวุธปืนที่ทางการแคนาดาออกให้ใช้ประกอบกันในการไปซื้อปืนสั้นกระบอกแรก หลังจากนั้นเมื่อชื่ออยู่ในสารบบแล้ว ก็สามารถไปซื้อปืนสั้นได้อีกไม่จำกัดกี่กระบอกก็ได้ กระสุนกี่นัดก็ได้  (แต่ต่อมาประมาณปี ๒๕๓๘ ทางการแคนาดาห้ามไม่ให้มีการซื้อขายหรืออนูญาติให้ซื้อขายปืนขนาด ๖.๓๕ ม.ม. (หรือคือขนาด .๒๕ ออโต) นอกจากผู้ที่เคยมีปืนขนาดนั้นมาก่อนสามารถมีอยู่หรือซื้อขายในพวกที่มีอยู่ก่อนการห้ามนั้นได้ และได้ห้ามการซื้อขายอาวุธปืนสั้นที่มีขนาดลำกล้องสั้นกว่า ๔ นิ้วกับอาวุธปืนพกออโตเมติกจะมีซองกระสุนจุเกิน ๑๐ นัดไม่ได้
ผมได้เดินทางกลับมาประจำการในประเทศไทยเมื่อกลางปี ๒๕๔๐ ก่อนเดินทางกลับก็ได้ประสานกับทางฝ่ายแคนาดาทั้งทางตำรวจที่ออกใบอนุญาตและกระทรวงการต่างประเทศแคนาดาเพื่อแจ้งเรื่องการนำเอาอาวุธปืนส่งออกนอกประเทศแคนาดา ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรทางการแคนาดาก็ออกใบรับทราบการนำอาวุธปืนออกนอกประเทศ (ไม่ใช่ใบอนุญาตส่งออกนะครับ) รวมทั้งเตรียมการประสานขอทราบรายละเอียดจากสายการบินแคนาเดียนแอร์ไลน์ในการนำเอาอาวุธปืนกลับมาพร้อมกับผมโดยเป็นสัมภาระติดตัวใส่ใต้ท้องเครื่องบินมาเพราะว่าเอามาหลายกระบอกโดยได้ติดต่อเป็นลายลักษณ์อักษรทางโทรสาร (แฟ๊กซ์) กับ ผจก.ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสายการบินและได้เก็บเอกสารโต้ตอบทั้งหมดเอาไว้และถ่ายสำเนาทั้งหมดอีก ๑ ชุด เพื่อเตรียมเอาไว้หากมีปัญหาเวลาทำการเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินในวันเดินทาง ซึ่งก็ได้ใช้จริงๆ ได้มอบสำเนาเอกสารโต้ตอบให้ จนท. สายการบินไว้  ก็เป็นอันว่าสามารถนำมาได้จนถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ
เมื่อถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ แล้วผมได้นำปืนทั้งหมดไปแสดงและมอบให้กับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรดอนเมือง เพื่อฝากไว้ในตู้นิรภัย (ซึ่งการฝากนี้จะมีการเสียค่าใช้จ่ายคิดเป็นจำนวนวัน) และทางศุลกากรก็จะออกใบรับโดยมีรายละเอียดปืนทั้งหมดให้เราถือไปเพื่อดำเนินการขออนุญาตต่อไป
หลังจากนั้นผมก็ไปติดต่อที่ แผนกอาวุธปืน กองทะเบียน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ที่ลาดพร้าวครับ ดำเนินการเขียนใบ ป.๑ แยกเป็นปืนสั้น ๑ ใบ ปืนยาว ๑ ใบ เพราะว่าปืนสั้นต้องได้รับอนุมัติจาก มท. ๑ ส่วนปืนยาวแค่นายทะเบียนอาวุธปืน กรุงเทพฯ เท่านั้น (แต่ผมก็ดันโชคร้ายเรื่องขอปืนยาวดันติดไปกับเรื่องขอปืนสั้นเลยเสียเวลาไปฟรีๆ ครับจนเรื่องไปถึง บช.ก. แล้วได้กลับมากองทะเบียนโดยยังดีที่ไม่ได้ไปมหาดไทยด้วย แต่นายทะเบียนท่านก็บอกว่าปืนยาวไรเฟิลมันหลายกระบอกขอให้เอาเท่าที่จำเป็นจริงๆ ผมก็เลยตัดใจยอมไม่ขอ ๒ กระบอก (ผมเองเป็น ขรก.ที่ได้ทำงานเหนื่อยเพื่อประเทศชาติมาอาจจะสู้หลายๆ ท่านไม่ได้ แต่ก็ทำมาด้วยความซื่อสัตย์และก็มากพอสมควร ก็เลยยอมเสียปืน ๒ กระบอกดีกว่า ฯ)  หลังจากที่ท่านต่างๆ ในแผนกอาวุธปืนได้ทำการประมวลเรื่องต่างๆ พร้อมทั้งเอกสารต่างๆ ที่ต้องการจากผมแล้วก็ได้ส่งเรื่องไปยัง กองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อจะได้ส่งต่อไปยังกระทรวงมหาดไทย (ขั้นตอนจากกองทะเบียนไปยัง บช.ก. ไม่นานเท่าไรครับถ้าจำไม่ผิดประมาณปีกว่าๆ ที่เร็วขนาดนั้นเพราะว่าผมไปรอพบท่าน สว.แผนก อวป. ตั้งแต่เช้าในเช้าวันหนึ่ง กว่าท่านจะมาทำงานก็สายมากๆ พอมาถึงท่านก็บอกว่าท่านมีงานด่วนต้องรีบไปประชุมสั่งให้ผมรอ ผมก็บอกว่ารอไม่ได้เพราะว่าผมก็ต้องรีบกลับไปทำงานราชการเหมือนกันท่าน สว. ก็บอกว่าแล้วจะติดต่อเรียกไป ผมก็เลยกลับและก็รอท่านเรียกไปพบ ในระหว่างที่รอก็ติดต่อไปท่านก็ไม่เคยว่างให้ไปพบและผมเองก็มีงานทำไม่ได้ว่าง ก็ลืมบ้าง พอนึกขึ้นได้ติดต่อไปก็ไม่เคยว่างให้ไปพบ  จนผมต้องติดต่อไปทาง
สนง. รอง.ผบ.ตร. ให้เรียกเรื่องผมมาดู ถึงได้มีการติดต่อจากท่าน สว. เรียกผมไปโดยก็รีบทำเรื่องเสนอให้แต่ในบันทึกเสนอได้บอกไปด้วยว่าได้ติดต่อผมให้มาพบแล้วแต่ผมติดราชการไม่สามารถมาได้ เพื่อท่าน สว. จะได้ไม่โดนเล่นงาน ผมก็ยอมครับ)
หลังจากนั้นเรื่องก็ผ่านจาก ตร. โดยมีความเห็นว่า ไม่มีข้อขัดข้องใดๆ และเห็นควรออกใบอนุญาตให้ได้ ไปยังกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงมหาดไทยก็ไม่มีระเบียบใดๆ ที่จะมาใช้ในการพิจารณาเกี่ยวกับการอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน จากการที่มีการนำเข้าแบบที่ผมนำเข้ามาเพราะทั้งหมดเป็นของส่วนตัวและได้มาจากการที่ซื้อเพื่อใช้ตั้งแต่ในตอนที่ยังอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเอกสารที่ผมใช้ประกอบก็มีทั้งเอกสารทั้งของไทยเช่น ใบรับรองจากหน่วยงาน หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชา หลักฐานการเป็นสมาชิกสนามยิงปืนในประเทศไทย ซึ่งเป็นมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๖ เอกสารของแคนาดา เช่น หลักฐานการเป็นสมาชิกสนามยิงปืน ใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนจากทางการแคนาดา สำเนาใบเสร็จรับเงิน ซึ่งระบุวันที่ที่ผมเริ่มครอบครองอาวุธปืน ใบรับทราบการนำอาวุธปืนนำออกจากประเทศแคนาดา
เป็นต้น ก็เสียเวลาไปนานมากครับจนในที่สุด มท. ก็ใช้การกล่าวอ้างจากหนังสือเวียนของ มท. ที่มีไปถึงนายอำเภอทุกท้องที่ เรื่อง หลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน  ซึ่งในหลักเกณฑ์นั้นมีข้อความอยู่ตอนหนึ่งพอสรุปได้ว่า ควรให้มี สั้น ๑ ยาว ๑ (ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมไม่สามารถอ้างถ้อยคำที่ถูกต้องได้ เพราะว่าตอนนี้ผมไม่ได้อยู่บ้านที่กรุงเทพฯ ก็เลยไม่มีเอกสารในมือที่จะค้นหามาอ้างอิงได้ นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่ค่อยได้แสดงความคิดเห็นในกระทู้ต่างๆ เพราะว่าผมไม่
สามารถจะหาเอกสารหรือจะหันไปหยิบปืนที่มีอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อเอามาดูอ้างอิงในการประกอบการเขียนกระทู้ต่างๆ ได้ ช่วงนี้ผมก็เลยได้แต่เข้ามาอ่านกระทู้อย่างเดียวครับ)
ในที่สุดหลังจากที่เวลาผ่านไปถ้าจำไม่ผิดก็เกือบๆ สองปี (ขอเรียนตรงนี้อีกนิดนะครับว่า หากท่านมีเวลาและก็ไปติดตามแบบที่เรียกว่าคอยจี้ตลอดเวลาก็คงไม่ต้องใช้เวลานานอย่างผม อีกทั้งถ้านะครับมีน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ยี่ห้อแพงๆ ใช้ รถก็คงไม่ติดนานก็คงได้ไปถึงที่หมายนานแล้ว) ผมก็ได้รับความกรุณา อนุมัติออกใบอนุญาต
ให้ผมมีและใช้อาวุธปืน สั้นได้ ๒ กระบอก จากที่ผมขอ ๖ กระบอก  เรื่องก็กลับมาที่ แผนกอาวุธปืน กองทะเบียน ที่ลาดพร้าว จนท. ก็ออกใบ ป.๓ ให้ผมๆ ก็ถือไปที่ด่านศุลกากร ดอนเมือง ขอรับอาวุธปืน โดยต้องชำระค่าฝากของไว้ในตู้นิรภัยซึ่งคิดเป็นรายวันบวกกับภาษีนำเข้า ซึ่งผมมีใบเสร็จรับเงินจากร้านค้าที่ซื้ออาวุธปืนมาแสดงว่าซื้อมาราคาเท่าไรและซื้อเมื่อใด ทำให้ได้รับการประเมินภาษีอย่างถูกต้องและศุลกากรท่านก็คงสงสารที่กว่าจะมารับของได้ก็เป็นปีก็เลยไม่จู้จี้ ทำตามระเบียบให้อย่างเร็วมาก ผมก็หิ้วปืนกลับไปกองทะเบียนเพื่อทำเครื่องหมายและก็ออกใบ ป. ๔ ต่อไป  ส่วนปืนสั้นที่เหลือ ๔ กระบอกและปืนยาวไรเฟิลอีก ๒ กระบอกผมก็ต้องทำเรื่องยกให้ตกเป็นของแผ่นดินไป เพราะจะส่งออกไปไหนก็ไม่ได้จะส่งกลับไปแคนาดาก็ไม่รู้จะส่งไปให้ใครเพราะเป็นปืนที่ผมซื้อขาดมาเป็นปืนส่วนตัวและหากไม่ยกให้เป็นของแผ่นดินแล้วผมก็ต้องจ่ายค่าฝากของไว้ในตู้นิรภัยของกรมศุลกากรอีกเป็นจำนวนไม่น้อยด้วยครับ
เรื่องทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้ครับ ถามว่าปืน ๒ กระบอกที่ได้มาคุ้มหรือไม่กับภาษีและค่าฝากของในตู้นิรภัย ก็บอกได้ว่ารวมทั้งราคาปืนที่ผมซื้อตอนนั้นด้วยแล้ว ก็ยังถูกกว่าซื้อปืนที่กรุงเทพฯ ในปี ๒๕๔๐ - ๒๕๔๒ อ้อ และก็ยังมีปืนยาวที่ได้รับอนุญาตอีกด้วยก็ต้องตอบว่าคุ้มครับ
แต่ถ้าถามถึงเรื่องการเสียเวลาและอารมณ์แล้ว ก็ขอให้ท่านคิดกันเอาเองนะครับว่าคุ้มหรือไม่
ก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับ   อ้อ อีกอย่างหนึ่งที่ผมได้รับก็คือ ได้รู้ว่า ถ้าอยู่เมืองไทยต้องมีเงิน ถ้าไม่มีเงินก็ต้องมีเพื่อนครับ  :)


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: gunnut ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 06:35:08 AM
ขอบคุณมากครับ มีประโยชน์มาก ได้รู้ขั้นตอนและพอจะเดาออกว่าจะต้องเจออะไรบ้าง




หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 07:23:43 AM
สมัยที่ผมนำปืนกลับมาจากสหรัฐฯ  ปี 1986 ก็ผ่านขั้นตอนในไทย คล้ายๆ กับที่ท่านสราญรมย์๔๑ครับ  เพียงแต่สมัยนั้นไม่ยุ่งถึง รมต. เพราะคนธรรมดาขอ ป.2 นำเข้าได้   ลูกโม่หนึ่ง  .30-06 หนึ่ง  ลูกกรดหนึ่ง รวมสามกระบอก   เรื่องเสร็จแล้วทำพิธีไหว้ผีสางเทวดา ให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อดวงวิญญาณบรรพบุรุษท่านผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องทั้งหลายว่าต่อไปนี้ลูกช้างจะไม่ทำอีกแล้ว


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 08:50:13 AM
อ่านที่ท่านsaranrom41เล่า และที่อ.ผณิศวรกล่าวแล้วเห็นภาพเลยครับ
การเป็นคนดี เคารพปฏิบัติตามกฎหมาย ทำไมมันเหนื่อยยากอย่างนี้หนอ........ :(


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: krudam ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 09:20:24 AM
พี่สราญรมย์ครับ ปีหน้าเอาใหม่นะครับ..  ;)


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 09:21:56 AM
นายสมชายเคยเอาปืนลูกซองยาวเบรานิงก์ระบบรีคอยล์ เข้าประเทศมาหนึ่งกระบอกเมื่อปี 1995 ครับ... ซื้อปืนที่ Oklahoma City ได้ที่ร้านขายเครื่องกีฬาปรกติทั่วไป...

ที่โน่นเมื่อปี 1995 สามารถซี้อปืนสั้นได้ในร้านปืน ร้านเครื่องกีฬา และร้าน Pawn Shop เกลื่อนทุกหัวถนนครับ และที่มากไปกว่านั้น...  ปืนยาวสามารถซื้อได้ซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ เช่นร้านวอลล์มาร์ท ร้านทาร์เก็ต ร้าน Service Merchandise เป็นต้น...

ซื้อแล้วก็แล้วกัน จะเอาออกนอกประเทศได้ทุกเมื่อ ไม่ใช่"ส่งออก"แต่เอาออกแล้วประเทศปลายทางว่าอย่างไรนั่นไม่เกี่ยวครับ... นายสมชายเอาใส่กระเป๋าแข็งยาวๆ สีดำที่ซื้อเพิ่มอีก 40 เหรียญมั๊ง แล้วหิ้วไปขึ้นเครื่องที่ Will Roger World Airport พร้อมกระเป๋าเดินทางธรรมดาๆ บอกเจ้าหน้าที่รับกระเป๋าว่านี่คือปืนยาวลูกซอง ไม่มีลูกปืน... เขาเปิดกระเป๋าตรวจว่าไม่มีลูกฯ แล้วก็ยิงแห้งใส่ถังทราย ใส่กุญแจฯ แล้วคืนกุญแจกล่องให้เรา...

พอกลับมาเมืองไทยที่ดอนเมือง... กระเป๋าที่ว่าก็มาตามสายพานให้เราเอาไปบอกกับ จนท. ว่านี่คือปืนฯ... เจ้าหน้าที่จะเก็บไว้ และออกตั๋วรับของให้เราครับ...

แล้วตั้งแต่นั้นมามันเหมือนหนังชีวิต... ฮา...

เป็นหนังยาวยืดกว่าจะจบตั้งหลายเดือน... เหตุการณ์คล้ายกับท่านสราญรมณ์ครับ แต่แตกต่างที่นายสมชายใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือน เพราะให้หน้าห้องของนายตามเรื่องให้... แต่ตัวนายสมชายเองประเมินว่า"ไม่คุมค่า"ครับเพราะส่วนเหลื่อมราคาไม่กี่หมื่นบาท แต่เสียโอกาสทำมาหากินไปตั้งแยะ... โดยเฉพาะพวกนักเรียนนอกคิดจะประหยัดค่าปืนสามหมื่น สี่หมื่นบาทต่อกระบอก(เอาเข้ามาได้แค่สองกระบอก หนึ่งสั้นหนึ่งยาว)ประหยัดได้เต็มที่ในปืนใช้งาน รวมส่วนเหลื่อมเงินก็ไม่เกินแสนบาท... ตั้งใจทำมาหากินดีกว่าครับ... แฮ่ๆ

มีประสบการณ์ไม่ดีกับข้าราชการ(บางคน)ด้วย... อยู่เมื่องไทย อยากทำอะไรลื่นๆ ต้องให้"หน้าห้อง"ของ C11 ตามเรื่องให้หง่ะ... จ๊ากซ์


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 09:32:49 AM
การนำปืนตัวเองเข้ามา มันต้องมี plan B,  plan C ด้วย
ที่เคยทำก็คือต้องถอดชิ้นส่วนสำคัญ เช่นลูกเลื่อนออกเสียก่อน
plan B  ก็คือเมื่อขอ ป.2 ไม่ได้ หรือได้ไม่ครบ   ก็ให้รีบมอบให้กับกรมศุลกากร  แล้วกระซิบให้นำออกขายทอดตลาด   จากนั้นก็ขอใบ ป.3 มาซื้อจากกรมศุลกากรอีกที   วิธีนี้จะขอใบ ป.3 ได้ง่ายกว่า ป.2   แล้วไม่มีใครมาประมูลแข่งด้วย เพราะชิ้นส่วนสำคัญมันหายไป
plan C  ไม่บอกครับ


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 09:39:23 AM
ใครคิดจะนำปืนเข้าขอแนะนำให้นัดสังสรรค์ชาวเว็ปบ่อยๆ  โดยผู้การเป็นแขกบังคับต้องเชิญมาให้ได้  เผื่อจะพอขอยืม plan C ไปใช้บ้าง :)


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Choltit ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 09:54:08 AM
ก็เชิญทั้งสองท่านแหละครับ  ให้อาจารย์เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามสดเลย  :)


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: โจ ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 09:54:57 AM
ตอนนี้ที่อเมริกา การนำปืน หรือ ชิ้นส่วนสำคัญอาวุธปืน(Gun parts) จำเป็นต้องแจ้งให้แจ้งทางสนามบินทราบแล้วครับ ตอนที่ผมกลับจากอเมริกาเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน กับ ตอนต้นปีที่ไปดูงานที่อเมริกา ก็เห็นป้ายติดภายในที่สนามบิน LAX ยังไงลองตรวจสอบก่อนที่จะนำปืนขึ้นเครื่องครับ



หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: jj26621 ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 11:55:22 AM
ได้ความรู้มากเลยครับ


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 12:31:43 PM
สมัยที่ผมนำปืนกลับมาจากสหรัฐฯ  ปี 1986 ก็ผ่านขั้นตอนในไทย คล้ายๆ กับที่ท่านสราญรมย์๔๑ครับ  เพียงแต่สมัยนั้นไม่ยุ่งถึง รมต. เพราะคนธรรมดาขอ ป.2 นำเข้าได้   ลูกโม่หนึ่ง  .30-06 หนึ่ง  ลูกกรดหนึ่ง รวมสามกระบอก   เรื่องเสร็จแล้วทำพิธีไหว้ผีสางเทวดา ให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อดวงวิญญาณบรรพบุรุษท่านผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องทั้งหลายว่าต่อไปนี้ลูกช้างจะไม่ทำอีกแล้ว

อาจารย์สาปส่งเลย................


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 12:58:25 PM
สมัยที่ผมนำปืนกลับมาจากสหรัฐฯ ปี 1986 ก็ผ่านขั้นตอนในไทย คล้ายๆ กับที่ท่านสราญรมย์๔๑ครับ เพียงแต่สมัยนั้นไม่ยุ่งถึง รมต. เพราะคนธรรมดาขอ ป.2 นำเข้าได้ ลูกโม่หนึ่ง .30-06 หนึ่ง ลูกกรดหนึ่ง รวมสามกระบอก เรื่องเสร็จแล้วทำพิธีไหว้ผีสางเทวดา ให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อดวงวิญญาณบรรพบุรุษท่านผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องทั้งหลายว่าต่อไปนี้ลูกช้างจะไม่ทำอีกแล้ว

อาจารย์สาปส่งเลย................

 ;)  อาจารย์ไม่มี Plan C นี่ครับ..... :D


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 01:14:10 PM
Plan C  :o :o :o ล้ำลึกจริงๆ ;D


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 01:15:08 PM
กระทู้นี้มีประโยชน์มากสำหรับผม เผื่อตอนแก่จะหาช่องทางเอาปืนกลับบ้างครับ

ผมเชื่อว่ากว่าพี่จะแก่อีกหลายสิบปีรัฐบาลเซ็งๆ คงจะไปไหนๆ แล้วครับ และหวังว่ารัฐบาลใหม่ไม่บ้าจี้แบบนี้


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Choltit ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 01:16:45 PM
ผมว่ารัฐบาลใหม่ที่ว่า มันก็รัฐบาลเดิม


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 02:47:39 PM
Plan C :o :o :o ล้ำลึกจริงๆ ;D

ยังไม่เคยเห็นซักหน่อย   ส่วนอาจารย์ผณิศวร หมอจันทร์  กับ ผอ.สุวิทย์ เคยเห็นแบบน้ำจิ้มมาแล้ว  เพียงแต่ยังไม่เห็นระดับหม้อสุกี้


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 04:38:28 PM
 :)..อ่านที่ คุณ saranrom41 .. กรุณาเขียนมาเล่าให้ฟัง.
     ขอบคุณมาก เห็นใจ จริง จริง ครับ.. :)

..
Plan C :o :o :o ล้ำลึกจริงๆ ;D

ยังไม่เคยเห็นซักหน่อย ส่วนอาจารย์ผณิศวร หมอจันทร์ กับ ผอ.สุวิทย์ เคยเห็นแบบน้ำจิ้มมาแล้ว เพียงแต่ยังไม่เห็นระดับหม้อสุกี้
.

...  ;D ;D ;D ;D    ;D


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ กรกฎาคม 11, 2006, 05:03:50 PM
พี่สราญรมย์41 อยู่กรมไหนครับ? ผมเข้าไปทำข่าว อาจจะเจอ และจะได้ทักทายถูก


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: saranrom41 ที่ กรกฎาคม 12, 2006, 02:36:31 AM
 :) เรียน  ท่าน pimuk ตอนนี้ผมอยู่ เทลอาวีฟ ครับ ไหว้พระสวดมนต์ทุกวันที่โชคดีว่าวันนี้รอดพ้นภยันตรายมาได้อีกหนึ่งวัน  สิ้นปีนี้ครบเทอมได้ย้ายกลับแล้วครับ  :)


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 12, 2006, 07:00:01 AM
:)..อ่านที่ คุณ saranrom41 .. กรุณาเขียนมาเล่าให้ฟัง.
 ขอบคุณมาก เห็นใจ จริง จริง ครับ.. :)

..
Plan C :o :o :o ล้ำลึกจริงๆ ;D

ยังไม่เคยเห็นซักหน่อย ส่วนอาจารย์ผณิศวร หมอจันทร์ กับ ผอ.สุวิทย์ เคยเห็นแบบน้ำจิ้มมาแล้ว เพียงแต่ยังไม่เห็นระดับหม้อสุกี้
.

... ;D ;D ;D ;D ;D

ล้ำลึกจริงๆ  ;D


หัวข้อ: Re: นำปืนยาวเข้าประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ กรกฎาคม 12, 2006, 04:14:54 PM
:)

Flash Point... ขอให้ปลอดภัยครับ

แต่บรรยากาศบ้านเรา ที่ปัตตานี ก็หมองๆ เช่นกันครับ  :(