เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เชิญเพื่อน ๆ สมาชิกแสดงทัศนส่วนตัวเกี่ยวกับธรรมะ...โพสท์เรื่องธรรมชาติก็ได้ครับ เช่น น้ำท่วมเพราะฝนตกมาก น้ำเน่าเพราะทิ้งขยะ หรือระบายน้ำเสียลงก็คนมากนี่ครับ ส่วนผมขอใส่ไว้นิดหน่อยว่า...
ธรรมะคือ การปฏิบัติที่ถูกต้องทั้งต่อตนเอง และต่อผู้อื่น
การทำบุญ คือการยอมเสียสละโดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทนเลย การทำบุญสุนทรทาน คือการให้ที่ดีทุก ๆ สิ่ง ย่อมล้างบาป
ถ้าใครมีกุศล ก็สามารถตัดเพิงหนาม ตัดความยุ่งยาก ตัดกิเลสออกไปได้เรื่อย ๆ จนเบาบางลงไป
........................................................... ........................................................... .............................
ต้องต่อตายแล้วถึงจะเอา...แล้วสวรรค์ในที่นี้มีก็ไม่อยากเอากัน จากซีดีธรรมมะ อ.พุทธทาสฯ เพียงบางส่วน
........................................................... ........................................................... .............................

ดีครับ  ;D ;D ;D  ความเห็นผม

กินเจบ้างแล้วมากินเนื้อบ้าง เหมือน กลางคืนเป็นโจรแล้วตอนเช้ามาเป็นตำรวจ

ผมว่ามันหักล้างกันไม่ได้  ;D ;D ;D  หรือว่าบางช่วงกินเจก็ยังดี หรือบางช่วงเป็นตำรวจก็ยังดี  ;D ;D ;D เพื่อนๆว่าไงครับ

หัวข้อนี้แปลกในรอบหลายปี   เห็นยกธรรมะมาแว๊ปๆ  แต่ตบะแตกทุกที
หรือว่าคนที่คุยเรื่องนี้เริ่มจะแก่  แต่ก็ดี  ตอนตายจะได้มีอะไรให้เกาะบ้าง   :D :D

ใจสงบมันเกิดจากข้างใน  ไม่มีใครชักชวนใครหรือช่วยทำให้สงบได้
ธรรมะทำให้สิ่งรอบตัวเราเย็นนะ  จริงจริง

 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D :~) :~) :~) :~)................



















สาธุ....

คนแถวบ้านผมกำลังจะตักบาตร   ไม่ถูกกับข้างบ้านคนนึงมองหน้าแล้วยกเท้าให้    อีกคนถ่มน้ำลายใส่เชียร์ให้ตีกันไม่ตีซักที    สำหรับผมก็ไม่มีอะไรซึ้งมากหรอกครับ

"จิตที่สงบนำสุขมาให้"     แค่นี้ก็พอ"ไม่โลภไม่ได้ไม่เอาถ้าได้เอาครับ" ;D

มีเพื่อนผมสมัยก่อนเรียนอยู่ด้วยกันกินเหล้า เที่ยวด้วยกัน ตอนนี้ เจอกันอีกที
แกบอกกินเจตลอดชีวิต และที่บ้านอุทิศเป็นสำนักธรรมไปแล้วครับ

มีเรื่องหลายเรื่องที่เล่าให้ใครฟังไม่ได้เหมือน เต่าเล่าเรื่องบนบกให้ปลาฟัง ปลาก็ไม่สามารถพิสูจน์และเชื่อเต่าได้

มันเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ

วันพรุ่งนี้ วันมะรืนพี่ชายผม ท่านภูกามยาว จะบวชแล้วขออนุโมทนาด้วยนะครับ สาธุ

ผมคิดของผมว่า คนที่คุยเรื่องธรรมมะ คุยเรื่องพระมากๆ ลึกๆในใจก็ยังไม่ได้เป็นคนที่ดีจริงๆ ตัวผมเองก็คงเป็นแบบนั้น
ปฎิบัติธรรมด้วยปาก คงช่วยให้กิเลสในใจสงบไม่ได้ การกระทำดีๆที่ออกมาจากใจจริง แม้เพียงน้อยนิด
มีค่ามากกว่าคิดและพูด โดยไม่ได้ทำอะไร(ขอเพิ่มข้อความนิดหน่อย)

...เพื่อนที่ทำงานผมแกบวชตั้งแต่เด็ก และสอบเทียบทางพระจนได้ ม.ปลาย จึงลาออกมาสมัครงาน เวลาคุยกับแก ไม่ค่อยพ้นแนวอย่างว่า...;D

ผมบวช 5 พรรษา พรรษาแรก ท่องปาฏิโมกข์จบใช้เวลา19 วัน ตระเวณลงอุโบสถ์ 3 อำเภอ เลยสงสัยว่าปาฏิโมกข์ยากจริง
            อย่างที่เขาร่ำลือหรือเปล่า
            หลังออกพรรษาแรก กราบลาหลวงพ่อซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ออกธุดงค์
            ครั้งแรกเป็นศิษย์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ที่สำนักสงฆ์จิตรลดา
            จากนั้นหลวงปู่เหรียญฯ ท่านพาไปงานศพ หลวงปู่เทสก์  เทสรังสี
            พบกับหลวงพ่อพุธ   ฐานิโย  แห่งวัดป่าสาละวัน หลวงปู่เหรียญฯได้ฝากฝังผมไว้ให้เป็นศิษย์หลวงพ่อพุธ ฯ
            เลยอยู่กับหลวงพ่อพุธ 2 พรรษา ได้แง่คิด หลักธรรมะ และแนวทางในการเจริญภาวนามากพอสมควร
            ก็กราบลาท่าน ออกธุดงค์เดี่ยว อยู่ระหว่างไทย - พม่า อีก 2 พรรษา
            จนอีก 5 วัน จะเข้าพรรษาที่ 6 จิตใจกระวนกระวายอยู่ไม่ได้ต้องกลับวัดไปหาพระอุปัชฌาย์
     สึกแบบไม่มีสาเหตุ (นี่กระมังที่เขาเรียกว่าผ้าเหลืองมันร้อน) ญาติโยมร้องไห้ทั้งหมู่บ้าน (เค้าศรัทธาเรามากขนาดนั้นเลยเหรอ)
           
                                                            นั่นผ่านมาเกือบ ยี่สิบปีแล้วครับ

                                                ปัจจุบัน บุญก็ทำ  กรรมก็สร้าง  วัดก็เข้า   เหล้าก็กิน           
           

  หลักสำคัญ  คิดดี ..... ทำดีผมว่าพอแล้ว

ถ้าร้อนก็ออกมาดีแล้วครับ ;D ;D ;D 

แล้วพวกบ้าพระบูชาล่ะครับ  ;D ;D ;D

ธรรมะอยู่ที่ใจ  มีไม่น้อยชอบเข้าวัดบริจาคทำบุญจำนวนมากๆเพราะต้องการมีหน้ามีตามีข่าวในสังคม

แต่จิตใจกลับโสมม แถมใช้ชีวิตประจำวันด้วยการเบียดเบียนเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบแม้กระทั่งลูกจ้างจนๆ

ท่าน Big Single วาสนาดีครับ ได้ปฏิบัติถึง 5 พรรษา ได้รับการอบรมบ่มนิสัยจากครูบาอาจารย์

อนุโมทนา สาธุด้วยครับ

ถูกต้องครับ ;D ;D ;D  บริวารที่บ้านลำบากไม่รู้จักดูแล คนใกล้ไม่รู้จักดูแล ทีบุญเอาหน้าทำเอา ทำเอา

ผมว่าต่อให้ห้อยพระล้นคอ
ยังไงก็ไม่ช่วยให้เป็นคนดีหรอกครับ

ถูกต้องแล้วคร้าบ..............................

ท่าน Big Single วาสนาดีครับ ได้ปฏิบัติถึง 5 พรรษา ได้รับการอบรมบ่มนิสัยจากครูบาอาจารย์

อนุโมทนา สาธุด้วยครับ

---

ขอบคุณครับ  ผลพวงจากการฝึกฝนตัวเองนานหลายปีมีผลทำให้จิตใจเยือกเย็น มีสติ  รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
และคงเป็นบุญกุศลนี้กระมังครับที่ทำให้ผมได้มีโอกาสได้ ถวายงานกับสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา
               

                         

ผมก็เริ่มอ่านหนังสือธรรมของพุทธทาส..เอาชนะกิเลสไม่ได้ก็ขอเพียงรู้เท่าทันมันบ้างเป็นทาสมันมานาน

ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินถวายพระเพลิงหลวงปู่ฝั้น  เมือสามสิบกว่าปี
หลังจากนั้นช่วงตอนเก็บอังคารพบว่า  อังคารของท่านมีลักษณะเป็นเม็ดเกล็ดใส  ท่านผู้รู้บอกว่า
เป็นพระธาตุชนิดหนึ่ง

และเรื่องการท่องสวดปาติโมกข์ได้นั้น  ต้องใช้ความเพียรเป็นอย่างสูง
มีการเปรียบเทียบว่า  พระองค์ใดที่สวดพระปาติโมกข์ได้  หากแม้นตายตกไป
อยู่ภูมิใดก็ไม่ลำบาก  เป็นเจ้าแห่งภูมินั้นๆ

ประพฤติในสิ่งที่ควรประพฤติ ละเว้นในสิ่งที่ควรละเว้น....

จำคำของท่านยาขอบมาคับ...

  ดีแล้วครับ ถ้าปฏิบัติไม่ได้ สึกดีกว่า เป็นพระมีแต่คนกราบ แต่ถ้าใจไม่ใช่ เราจะแย่

ขอนิดหนึ่งนะครับ การทำบุญไม่ใช่การล้างบาปนะครับ
บุญกับบาป ในพระพุทธศาสนาแยกออกจากันชัดเจน
มีแต่ในตอนไหนกุศลกรรมจะหนุนให้พ้นจากอกุศลกรรมที่เรา ซึ่งจะทำให้บาปส่งผลถึงเราไม่ได้
หรือแม้แต่บางครั้งแม้จะทำบุญมามากขนาดไหน ถ้าถึงเวลาที่กรรมตามทันแล้วผลกรรมนั้นก็จะแสดงผลทันที
อย่างเช่น บางคนที่โกงบ้านโกงเมืองไว้ ถึงจะมีเงินเป็นแสนล้าน ก็ไม่มีแผ่นดินที่จะอยู่ เป็นต้น (เอ้ แล้วเกี่ยวกันบ้างมั้ยเนี่ย)

สั้น ๆ ดี แต่ผมเข้าใจครับ  ::) ::) ::)

เนื่องจากผมฟังซีดีธรรมะของ อ.พุทธทาส บางแผ่น ซ้ำ ๆ กันหลาย ๆ ครั้ง ข้อความจึงยกมาทั้ง ๆ อย่างงั้น บางคำออกจะเข้าใจยากอยู่สักหน่อย...ถ้านำมาโพสท์แบบตรง ๆ น่ะครับ คำว่าล้างบาปของ อ.พุทธทาส น่าจะเป็นการพูดเพียงเพื่อให้บุคคลทั่ว ๆ ไปเข้าใจได้เท่านั้นครับ สำหรับท่านที่รู้ลึกกว่าก็อาจจะติงว่า ล้างบาปที่ได้ทำไปแล้วได้อย่างไรกัน? ในที่นี้คงจะหมายความถึง การลด ละ กิเลส(บาป) ให้เบาบางลง โดยที่ยังไม่ได้ทำ กรณีเช่นเดียวกับการดับทุกข์ ซึ่งไม่ได้ดับเมื่อทุกข์ได้เกิดขึ้นแล้ว แต่การดับทุกข์ที่ถูกต้อง...ต้องไปจัดการที่ต้นเหตุแห่งทุกข์ครับ

คุยเรื่องธรรมะ       ในทัศนะของสมาชิกแต่ละท่านไว้บ้างเถอะครับ
แม้พูดแล้วคุยแล้ว         จะทำได้บ้าง...ทำไม่ได้บ้าง ไม่ได้ทำบ้าง
ก็ไม่เป็นไรครับ...
คิดดูแล้วกัน             คนที่เรารู้สึกว่าเค้าไม่ได้ถืออย่างที่พูด ๆ ไป
แล้วถ้าเค้าไม่พูด...ไม่สิกขา                 เค้าเหล่านั้นจะเป็นเช่นไร
ท่าน อ.พุทธทาส บอกไว้ให้เปิด 3 อย่าง คือ           เปิดตา เปิดหู
สุดท้ายคือ เปิดปาก         ก็การที่ได้สนทนาธรรมกันบ้างนี่ล่ะครับ

  ผมขอแค่ หิริ และ โอตัปปะ เท่านั้นพอแล้ว ...  ;D

ผมถือแค่ ทำทุกวันนี้ให้กระทบหรือเอาเปรียบทุกสิ่งให้น้อยที่สุดครับ

ทำบุญบ้างทำทานให้บ่อย เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ ฯลฯ ที่ต่อมความดีของผมจะคิดได้...^^

ปล.อีกต่อมมากกว่านี้เยอะครับ กลัวพื้นที่เวปไม่พอคราบ....... ;D ;D ;D

ไม่ยากครับพี่ ก็ต้องหาห้องกว้างๆเตรียมไว้ครับ

จริงครับ  ..

คนดีในสมัยนี้ไม่ต้องมากหรอกค่ะ...
แค่รักษาศิล 5 ...ให้ครบเถอะค่ะ....

อืม...จริงๆด้วยครับ

ขออนุญาตครับ
ขอถามครับ  ธรรม คืออะไร?
                 
ไม่ได้ก่อกวนนะครับผมก็นับถือพุทธ แต่ผมยังไม่เคลียร์ แนะนำหนังสือก็ได้ครับ
(ตอนนี้เลยไม่กล้าสนทนาธรรม)

ด้วยความเคารพ

ธรรมะ อยู่ที่ใจใช่ปากพูดครับ พูดว่าปฏิบัติธรรม คุณทำจริงหรือเปล่า หรือแค่ปากพูดว่าไปปฏิบัติธรรม  ;) ;) ;)

น่าคิด  ;D ;D ;D

เห็นด้วยครับ  ;D ;D ;D

 >:( อย่าโกรธ ก่อนครับ แล้วเรื่องดี ๆ อื่น ๆ จะตามมาเอง

.... :VOV:  เห็นด้วยนะครับ..

ขอเห็นด้วยอีกคนครับ..  5 ข้อ ผมยังรักษาตกๆ หล่นๆ เลยครับ

เท่าที่ทราบ ... ศีล ๕ ไม่ใช่เรื่องของคนดี แต่เป็นปกติของมนุษย์ ...

สำหรับชาวพุทธแล้ว ทุกวันต้องระลึกในคุณของพระรัตนตรัย รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ และคิดถึงความตามเป็นปกติครับ ... ต้องได้ขนาดนี้ จึงพอจะมีความดีอยู่บ้าง ...

ถ้าผมเข้าใจผิด ขอท่านผู้รู้ช่วยชี้ทางด้วยครับ  ;D

ธรรม คือข้อปฏิบัติ
ศีล คือข้อห้ามครับ

อ้อ....เรื่องหนังสือของท่านพุทธทาส ผมก็พอเคยอ่าน...
หนักครับ ....แถมเข้าใจยาก .....อีก.....

เข้าใจมั่ง ไม่เข้าใจมั่ง

หรือเราเป็นคนบาปน้อ.....

ความสุข เป็นยอดปรารถนาของมนุษย์ที่สามารถแสวงหาได้ ซึ่งแนวทางในการทำตัวให้มีความสุข มีดังต่อไปนี้

 1. การรักษาสุขภาพทางกายให้แข็งแรง

สุขภาพทางกายและสุขภาพทางจิตมีอิทธิพลต่อกันและกัน คนที่มีสุขภาพกายดีย่อมส่งผลให้มีจิตใจร่าเริงเข้มแข็ง การทำให้สุขภาพแข็งแรง ได้แก่การรับประทานอาหารถูกส่วน การพักผ่อนเพียงพอ การรักษาความสะอาดของร่างกาย ตลอดจนการออกกำลังกายอย่างพอเพียง

2. มีความสุขกับการทำงาน

การเลือกทำงานที่ชอบหรือการสร้างความพึงพอใจในงานที่ทำ หาวิธีการทำงานให้มีความสุข พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายหลายอย่างภายในขอบเขตที่สังคมยอมรับ ตามความสามารถของตนเอง และมองเห็นหนทางไปสู่ความสำเร็จได้ แล้วลงมือปฏิบัติอย่างตั้งใจก็ย่อมจะเกิดความสุข เกิดความปิติจากความสำเร็จในงานตามมา

3. รู้จักตัวเองอย่างแท้จริง

ควรได้สำรวจตัวเองว่าเป็นคนอย่างไร ต้องยอมรับว่าคนเรามีทั้ง ส่วนดีและส่วนเสีย เราต้องมองหาส่วนดี เห็นคุณค่า ชื่นชม พยายามพัฒนาส่วนดี พร้อมทั้งยอมรับในข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข คนที่มีความสุขนั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคยพบอุปสรรค ข้อขัดแย้งในใจ หรือไม่เคยพบปัญหา แต่อาจจะเป็นคนที่บางครั้งแก้ปัญหาไม่ได้ จึงต้องใช้ความพยายาม ความอดทน ก็จะสามารถเผชิญปัญหาไปได้

4. มีอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี

ควรมองหาความสุข ความเพลิดเพลิน เพื่อช่วยลดความตึงเครียดต่างๆ ทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย การหัวเราะทำให้จิตใจเบิกบาน มีการกระเพื่อมของหน้าท้อง หัวใจปอดได้ออกกำลัง มีผลถึงกล้ามเนื้อหัวไหล่ แขน หลัง กระบังลม และขา เกิดความพึงพอใจในความสุข นอกจากนี้ไม่ควร มองโลกในแง่ร้าย เวลาจะทำอะไรต้องหาจุดดีของเรื่องนั้นให้พบ เมื่อพบแล้วทำความพอใจและชื่นชม ก็จะเกิดแต่ความดีงาม

5. ไม่ควรเก็บอารมณ์ขุ่นมัว

การเก็บกดอารมณ์ทำให้เกิดความ ขุ่นมัว สับสน วุ่นวายใจ เป็นการก่อให้เกิดความตึงเครียด ทางอารมณ์ ผลทำให้สีหน้าหม่นหมอง น่าเกลียด ขากรรไกรประกบกันแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย เหี่ยวย่น ผมสีเทา-ขาว ผมร่วง โรคผื่นคัน พุพอง และสิวตามมา เราควรต้องหาทางระบายอารมณ์ที่ขุ่นมัว โดยการแสดงออกในทางที่สังคมยอมรับและได้ตอบสนองตามความต้องการของเรา แต่ถ้าพบความยุ่งยากใจเพิ่มขึ้น ก็ควรหาวิธีหลีกเลี่ยงเสียก่อน เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์จะเผชิญความตึงเครียดทางอารมณ์ได้ถึง ขีดหนึ่งเท่านั้น จากนั้นต้องหาทางผ่อนคลาย ดังคำกลอนที่ว่า

เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง

วุ่นก็ให้ว่าง ทุกอย่างก็สบาย

6. ควรมีงานอดิเรกและการพักผ่อนหย่อนใจ

ควรหาอะไรที่ชอบและพอใจทำ ทำในเวลาว่างที่เหลือจากกิจวัตรประจำวัน การทำอะไรในสิ่งที่พึงพอใจย่อมเกิดความสุขเพลิดเพลิน ทำให้ไม่มีเวลาว่าง ที่จะคิดกังวลเรื่องต่างๆ เป็นการฝึกการใช้เวลาว่างนั้นๆให้มีสมาธิในการทำสิ่งที่พอใจ ซึ่งจิตมีสมาธิจะเป็นจิตที่เข้มแข็ง ไม่หวั่นไหวง่าย พบว่า งานอดิเรกที่เกี่ยวกับกีฬาจะช่วยให้มีความสุข สนุกสนาน ร่าเริง แจ่มใส นอกจากนั้นการได้ท่องเที่ยวไปกับธรรมชาติที่กว้างใหญ่ เช่น ท้องฟ้า ทะเล ป่าเขาลำเนาไพร จะก่อให้เกิดความปลอดโปร่ง สดชื่น มีความสุข และถ้าต้องการทำจิตให้เป็นสมาธิในทางศาสนาจะก่อให้เกิดความสงบสุขทางใจเป็นอย่างมาก

7. หาสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ

แต่ละชีวิตย่อมมีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป เราจึงควรหาเพื่อนหรือใครสักคนที่สามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขได้ ค้นหาคนที่คุณรักและเขารักคุณ ช่วยเหลือเกื้อกูล ปลอบขวัญ บำรุงจิตใจซึ่งกันและกัน สามารถที่จะระบายทุกข์ ปรึกษาขอความคิดเห็น การแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือในที่สุดอาจจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแนะแนวและการบำบัดทางจิตโดยเฉพาะ ทั้งนี้ขึ้นกับปัญหาความซับซ้อน ซึ่งนับเป็นวิธีการแก้ปัญหาการปรับตัวตั้งแต่ต้นที่ชาญฉลาด

 8. พร้อมที่จะเผชิญปัญหาและความกังวลใจ

เมื่อพบอุปสรรค พึงพิจารณาปัญหาอย่างใช้เหตุและผล โดยค้นหาข้อเท็จจริง มองปัญหานั้นๆและหาวิธีการต่างๆในการแก้ปัญหา ทำการตัดสินใจ แล้วปฏิบัติตามที่ได้ตัดสินใจไว้ หรือถ้าปัญหารุมเร้ามากจนต้องการหลีกให้พ้น “จงใช้ชีวิต อยู่เพื่อวันนี้เท่านั้น” ดังคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุว่า

สิ่งล่วงแล้ว แล้วไป อย่าใฝ่หา

ที่ไม่มา ก็อย่าพึง คนึงหวัง

อันวันวาน ผ่านพ้น ไม่วนวัง

วันข้างหน้า หรือก็ยัง ไม่มาเลย

หรือถ้าปัญหาต้อนท่านไปจนมุม ให้มองพิจารณาดูผลร้ายที่เกิดขึ้นแล้วทำใจให้ยินดีเผชิญกับสิ่งนั้นๆ เมื่อเวลาผ่านไปให้พิจารณาว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ทำลายความสุขแห่งชีวิตมามาก เพียงพอแล้ว แล้วหันกลับใช้เหตุผลในการพิจารณาแก้ไขสิ่งร้ายๆให้กลายเป็นดีด้วยใจสุขุมเยือกเย็น ท่านก็จะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้

 9. ใช้เวลาเป็นยารักษาความเจ็บปวด

เมื่อพบกับความผิดหวังจงใช้เวลาเป็นเครื่องช่วยเยียวยา เมื่อพลาดหวังแล้วจงอดทน และมีความหวังต่อไป ความหวังเป็นพลังหรือแรงจูงใจ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิต เมื่อประสบความผิดหวัง ไม่ควรใช้วิธีถอยหนีหรือเลี่ยงปัญหา ควรคิดเสมอว่า “ท้อแท้-หงอย ท้อถอย-แพ้” เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ ไม่ควรแก้ปัญหาโดยใช้สิ่งเสพย์ติด เช่นสุรา หรือยาบางชนิด เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลืมความทุกข์ ได้เพียงชั่วขณะ ไม่ทำให้เราพิจารณาใช้ความคิดในการแก้ปัญหา เป็นการหลีกหนีปัญหาที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง

 10. ค้นหาเป้าหมายของชีวิต

การคิดฝันไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีความคิดฝันที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ซึ่งความคิดฝันจะทำให้เรามีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ มีแรงจูงใจ มีการตั้งเป้าหมายในชีวิตใกล้เคียง กับความสามารถที่แท้จริงและสอดคล้อง กับความเชื่อและอุดมคติ แล้วทำการลงมือปฏิบัติเพื่อไปสู่ เป้าหมาย ถ้าทำเช่นนี้ได้เราก็จะประสบความสำเร็จและความสมหวัง เกิดความสุขทางใจได้

จากสิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็นการเสนอแนวทางในการปฏิบัติอย่างกว้างๆการทำตัวให้มีความสุขได้เพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ ต้องอาศัยการเรียนรู้ และหาวิธีการ แล้วนำไปดัดแปลง ปรับปรุงให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการของผู้ต้องการแสวงหาความสุขนั่นเอง

   

ในท้ายที่สุดขอฝาก

  อันทุกข์สุขอยู่ที่ใจ มิใช่หรือ ใจเราถือเป็นทุกข์ไม่สุกใส

ใจไม่ถือเป็นสุขไม่ทุกข์ใจ เราอยากได้ความทุกข์หรือสุขนา

 

“ขอให้ท่านผู้อ่านจงประสบแต่ความสุข.......”

ขอแนะนำหนังสือ หรือซีดีของพระนักปฏิบัติตามคำสอนที่เคร่งครัดในทางพุทธะเท่านั้น คือต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับไสยะเลยครับ เช่น อาจารย์พุทธทาส อาจารย์ปัญญา อาจารย์พระพยอม เป็นต้น อ่านหรือฟังคำสอนจากพระท่านโดยตรงดีกว่าครับ...ไม่ควรถามเพื่อนสมาชิก เพราะ ถึงตอบเพื่อนสมาชิกท่านก็ห้ามไว้ไม่ให้เชื่อครับ ธรรมะต้องศึกษาด้วยตนเอง รู้ด้วยตนเอง ปฏิบัติลงไปด้วยตนเอง เมื่อรู้สึกว่าได้ประโยชน์ทางจิตใจ...ทางจิตวิญญาณด้วยตนเองจริง ๆ แล้ว นั่นล่ะครับ คือพุทธศาสนา จากประสบการณ์ของผมซึ่งเมื่อก่อนรู้แต่ว่าประโยชน์ของพุทธศาสนา คือ พิธีรีตองเท่านั้น จนมาเริ่มศึกษาคำสอน และฝึกปฏิบัติ จากความสงสัยของผมเองว่า พุทธศาสนาสอนอะไรกันแน่ โดยการอ่านบ้าง ฟังซีดีบ้าง ฟังเทปบ้าง ถามผู้หลักผู้ใหญ่ท่านที่สนใจธรรมะบ้าง หากฟังครั้งเดียว...อ่านครั้งเดียวไม่เข้าใจ รู้สึกว่ายาก ก็อ่านฟังซ้ำ ๆครับ ต้องยอมรับอยู่อย่างหนึ่งว่า...ผมเคยเจอบางท่านที่นุ่งขาวห่มขาวเหมือนปฏิบัติธรรมจริงจัง แต่บุคคลิกดูเซื่องซึม ใบหน้าเศร้าหม่นหมองไม่ผ่องใส อันนั้นน่าจะมีปัญหาแล้วครับ สังเกตดูพระท่านที่ปฏิบัติธรรมอย่างเห็นพระพุทธเจ้า..เข้าถึงพระพุทธเจ้าจริง ๆ ใบหน้าท่านออกจะผ่องใสครับ

คุยเรื่องนี้

คุยกันได้ยาวเลยนะขอรับ

จะให้ดีต้องคุยกันครับ

เพราะตัวอักษรบางทีอาจจะสื่อผิดพลาดได้

ยถา ปัจจะยัง ปะวัตตันติ สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสาย

สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นไปตามเหตุและปัจจัย

เพราะฉะนั้น สิ่งทั้งปวงอันบุคคลไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น  เด้อ  ;D


คารวะ

เท่าที่ทราบ ... ศีล ๕ ไม่ใช่เรื่องของคนดี แต่เป็นปกติของมนุษย์ ...

สำหรับชาวพุทธแล้ว ทุกวันต้องระลึกในคุณของพระรัตนตรัย รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ และคิดถึงความตามเป็นปกติครับ ... ต้องได้ขนาดนี้ จึงพอจะมีความดีอยู่บ้าง ...

ถ้าผมเข้าใจผิด ขอท่านผู้รู้ช่วยชี้ทางด้วยครับ ;D


ถูกต้องแล้วครับ ศีล 5 ไม่ใช่ข้อห้ามแต่เป็นปกติ 5 ของมนุษย์

........ " ไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น " .........เป็นอีกหนึ่งคำสอนที่พยายามเกลาตัวเอง ครับ 

        จริงครับ  ผมละชอบจะผิดศีลข้อ 3  อยู่เรื่อยเลย 
ถ้าคุณดาวมีทางแก้ก็ช่วยบอกเป็นวิทยาทาน กับผมบ้างนะคร้าบ
จะขอบคุณมากๆๆๆๆๆ  :D :) ;D ;D ;D ;D ;D :OO

เมื่อกว่า 60 ปี มาแล้ว ท่าน อ.ปรีดี พนมยงค์ มีแนวจะทำซีดีเพลงธรรมะ จนมีผู้นำแนวทางมาจัดทำซีดีเพลงธรรมะได้สำเร็จเมื่อเร็ว ๆ นี้ครับ ชื่อซีดีเพลงพุทธทาสเปิดดวงตา 1,2,3 ชุดแรก แนวดนตรีตามสมัยนิยม ได้ผู้มีชื่อหลายท่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาร่วมร้องไว้...ฟังได้ทุกเพศทุกวัยครับ ชุดสอง ลักษณะนำมาอ่านเชิงกวี...ฟังเป็นข้อคิดเตือนใจ ชุดสาม จะออกไปทางเพื่อชีวิตหน่อย เช่น คุณสุรชัย จันทิมาทร และมีนักร้องที่มีชื่อเสียงทั้งชายหญิงมาช่วยกันร้องครับ ทำปกคล้าย ๆ กล่องดีวีดี แต่อ่อนหน่อย ข้างในมีหนังสือด้วย ราคาปก 199 ผมไปได้มาจาก SE-ED สาขาโลตัส ทั้ง 3 ชุด หาซื้อฝากเพื่อนฝูง ญาติผู้ใหญ่ช่วงเทศกาลปีใหม่ได้ครับ ;D ;D ;D

Gun owner must train properly and practice regularly.เจ้าของปืนต้องฝึกใช้ปืนอย่างถูกต้อง และฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ

ของคุณ vanus noonoy อันนี้ดีครับ ;D ;D ;D  บางคนมีปืนแต่ใช้ไม่เป็นอย่างถูกต้อง ก็มี ;D ;D ;D

ปืนพี่ กระสุนเพื่อน ย่อมดีที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด


ชะแว๊บหลบอุ้มเท้าพี่ก่อน  ;D ;D ;D

สำหรับผมผมเชื่อเรื่องกรรมมากที่สุดครับเพราะเป็นตัวชี้ชะตาเราได้เลย   ส่วนธรรมมะผมเอาไว้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจครับ

เนื้อความ คติธรรมของจี้กง
1. ชีวิตย่อมเป็นไปตามลิขิต (ละชั่วทำดี)
วอนขออะไร

2. วันนี้ไม่รู้เหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้
กลุ้มเรื่องอะไร

3. ไม่เคารพพ่อแม่แต่เคารพพระพุทธองค์
เคารพทำไม

4. พี่น้องคือผู้ที่เกิดตามกันมา
ทะเลาะกันทำไม

5. ลูกหลานทุกคนล้วนมีบุญตามลิขิต
ห่วงใยกันทำไม

6. ชีวิตย่อมมีดอกาสประสบความสำเร็จได้ ร้อนใจทำไม

7. ชีวิตย่อมใช่จะพบเห็นรอยยิ้มกันได้ง่าย ทุกข์ใจทำไม

8. ผ้าขาวปะแล้วกันหนาวได้ อวดโก้ทำไม

9. อาหารผ่านลิ้นแล้วกลายเป็นอะไร อร่อยไปใย

10. ตายแล้วบาทเดียวก็เอาไปไม่ได้ ขี้เหนียวทำไม

11. ที่ดินคือที่สืบทอดแก่คนรุ่นหลัง โกงกันทำไม

12. โอกาสจะได้กลายเป็นเสีย โลภมากทำไม

13. สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู้เหนือศรีษะเพียง 3 ฟุต ข่มเหงกันทำไม

14. ลาภยศเหมือนดอกไม้ที่บานอยู่ไม่นาน หยิ่งผยองทำไม

15. ทุกคนย่อมมีลาภยศตามวาสนาที่ลิขิต อิจฉากันทำไม

16. ชีวิตลำเค็ญเพราะชาติก่อนไม่บำเพ็ญ
แค้นใจทำไม

17. นักเล่นการพนันล้วนตกต่ำ เล่นการพนันทำไม

18. ครองเรือนด้วยความขยันประหยัดดีกว่าไปขอพึ่งผู้อื่น
สุรุ่ยสุร่ายทำไม

19. จองเวรจองกรรมเมื่อไรจะจบสิ้น อาฆาตทำไม

20. ชีวิตเหมือนเกมส์หมากรุก คิดลึกทำไม

21. ฉลาดมากเกินจึงเสียรู้
รู้มากทำไม

22. พูดเท็จทอนบุญจนหมด โกหกทำไม

23. ดีชั่วย่อมรู้กันทั่วในที่สุด โต้เถียงกันทำไม

24. ใครป้องกันมิให้เรื่องเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หัวเราะเยาะกันทำไม

25. อวงซุ้ยที่ดีอยู่ที่จิต ไม่ใช่ภูเขา แสวงหาทำไม

26. ข่มเหงผู้อื่นคือทุกข์ รู้ให้อภัยคือบุญ ถามโหรเรื่องอะไร

27. ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม

ปรัชญาที่ชาวจีนถือว่าเป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต
จงให้มากกว่าที่ผู้รับต้องการ และทำอย่างหน้าชื่นตาบาน


จงพูดกับคนที่ถึงแม้จะอายุน้อยกว่า แต่เขาก็มีความสำคัญเท่ากัน


จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน ใช้ทั้งหมดที่มี และนอนเท่าที่อยากจะนอน


เมื่อกล่าวคำว่า "ฉันรักเธอ" จงหมายความตามนั้นจริง ๆ


เมื่อกล่าวคำว่า "ขอโทษ" จงสบตาเขาด้วย


ก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน จงหมั้นเสียก่อนอย่างน้อย 6 เดือน


จงเชื่อในรักแรกพบ


อย่าหัวเราะเยาะความฝันของผู้อื่น คนที่ไม่มีฝันก็เหมือนไม่มีอะไร


เมื่อรักจงรักให้ลึกซึ้ง และ ร้อนแรง อาจจะต้องเจ็บปวดแต่นั่นคือหนทางเดียวที่ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็ม


ในเหตุการณ์ขัดแย้ง โต้อย่างยุติธรรม ไม่มีการตะโกนใส่กัน


อย่าตัดสินคนเพียงเพราะญาติๆ ของเขา


จงพูดให้ช้า แต่ต้องคิดให้เร็ว


ถ้าถูกถามด้วยคำถามที่ไม่อยากตอบ จงยิ้มแล้วถามกลับว่า จะรู้ไปทำไม


จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือความรัก และความสำเร็จ ล้วนต้องมีการเสี่ยง


พูดว่า ขอพระคุ้มครอง เมื่อได้ยินใครจาม


เมื่อพ่ายแพ้ จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปด้วย


จงจำ 3 R :- นับถือผู้อื่น นับถือตนเอง รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ


จงอย่าให้ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่


ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิด ลงมือแก้ไขทันที


จงยิ้มเวลารับโทรศัพท์ ผู้ฟังจะเห็นได้จากน้ำเสียงของเรา


จงหาโอกาสอยู่กับตัวเองบ้าง


 
 ;D ;D ;D

อันนี้จริงหรือ ยังสงสัย ;D ;D ;D ถ้าคนที่เชื่อว่าไม่มีชาตินี้ชาติหน้า ;D ;D ;D  ก็ทำให้เขาไม่บำเพ็ญสิ

อันนี้ไม่เล่นอยู่แล้ว ไม่เชื่อมาพนันกันไหม  ;D ;D ;D

คนเล่นตกต่ำเชื่อครับ ;D ;D ;D  งั้นเราไปเป็นเจ้ามือกันดีกว่า ผมเห็นเจ้ามือรวยกันจัง

ภูมิจายเจงๆๆเลยมีพี่ชายกะเค้าแบบเนี้ย   :<< :<< :<< เซ้งลี้ฮ่อเจงๆๆ

ไม่ใช่ของผมครับ...นำมาจาก กระทู้กฎความปลอดภัยของ คุณหนองหัวพราน ที่อยู่หน้าแรกอีกที เจตนาก็เพื่อสมาชิกที่เคารพรักทุกท่านเห็นแล้ว...จะได้กลับไปเอามาเก็บไว้อ่านทบทวนความจำกัน ด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจครับ ;D ;D ;D

รับทราบบบบบ  ;D ;D ;D

ผมบวช 1 พรรษา ได้สัมผัสอีกโลกหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันมาก เหมือนที่โบราณว่าคนบวชแล้วคือคนสุก ไม่ใช่คนดิบ รู้และเข้าใจในในพุทธศาสนาที่แท้จริงมาก  ไม่เคยมีช่วงชีวิตใดที่เบาสบายเหมือนตอนบวช ความสุขมันไม่มีแต่ทุกข์เบาบางมาก จนรู้เลยว่าทำไมคนที่บวชบางคนไม่ยอมสึก

เมื่อเป็นไปอย่างที่ใจต้องการ...เราก็ว่ามีความสุข แต่ความรู้สึกว่ามีความทุกข์จะเข้ามาแทนทันที...เมื่อไม่ได้อย่างในตอนแรก ผมว่าความสุขกับความทุกข์มันคือเหรียญเดียวกัน เมื่อเราโยนมันขึ้นไป และตกลงมาในมือเรา....ด้านไหนที่เราเห็นก็เท่านั้นครับ ;D ;D ;D

มีขึ้น ก็มีลง ;D ;D ;D  สุขแล้วครั้งต่อไปรู้อีกทีก็ทุกข์

เนื่องในวโรกาสกำลังจะขึ้นปีใหม่...ปีพุทธศาสนาที่ 2550
ขออนุญาตนำเว็บไซต์ พุทธทาส.คอม มาลิ้งไว้ในกระทู้หน่อยครับ

(http://img134.imageshack.us/img134/9185/2j33zpgpo2.jpg) (http://www.buddhadasa.com/)

ปะจะ...ปะจะ...ปะจะ เฮ่ย ;D ;D ;D
เจ๋งเป้งเลยครับ คำแรก ๆ ที่ผมเริ่มจะรู้ เช่น กระแสความแปรเปลี่ยนแห่งอิทัปปัจจยตา ก็เช่นนั้นเองอย่างตถาตา บนความไม่มีตัวตนอยู่จริงอย่างอนัตตา ความไม่มีตัวตนนี่...ผมเถียงกับตัวเองอยู่นานว่า มันจะไม่มีตัวตนไปได้อย่างไร ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่ามีเรามีเขา...กว่าจะเข้าใจได้ หลัง ๆ มานี่ผมสามารถเข้าใจคำซึ่งผมแทบไม่เคยได้ยินมาก่อน อย่างคำว่า ปฏิจจสมุปบาท ครับ

คนเรายามมีความสุข(ในกิเลส กิเลสในที่นี้คือกิเลสอย่างหยาบ คือ การสัมผัส กลิ่น รส เสียง รูป ) ในสังคมที่วุ่นวายมักไม่ค่อยเห็นความสำคัญ ของศาสนา มั่วเมามกมุ่นอยู่ในอบายทั้งหลาย จนลืมคิดไปว่าชีวิตคนเราสั้นนัก 50 -60 ปี แป็บเดี๋ยว จิตใจ ร่างกาย ห่างเหิน ศาสนา นับถือศาสนาแค่เปลือกนอก ประพฤติตนดำเนินชีวิตอย่างประมาท จนลืมเรื่องบาปบุญคุณโทษ จิตใจตกต่ำ มุ่งแต่จะแก่งแย่ง ชิงดี กอบโกย เห็นแก่ตัว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ประสบกับความทุกข์เมื่อนั้นก็จะนึกถึงและเล็งเห็นความสำคัญของศาสนา

(http://img141.imageshack.us/img141/2185/topleftlogold3.gif) (http://www.booktime.co.th/app/index.php)(http://img132.imageshack.us/img132/7025/homeslogan5jp0.gif) (http://www.booktime.co.th/app/index.php)
(http://img153.imageshack.us/img153/1326/openeye1qo0.gif)(http://img96.imageshack.us/img96/5823/openeye2rq5.gif)(http://img142.imageshack.us/img142/1555/openeye3oo9.gif)
มีแนวคิดทำเพลงเกี่ยวกับธรรมะมากว่าหกสิบปี เดี๋ยวนี้...มีให้ได้ฟังกันแล้วล่ะครับ ;D ;D ;D

เว็บเสียงธรรมครับ...ยอดเยี่ยม ไม่ต้องรอให้อายุมาก ๆ กันก่อนนะครับ ศึกษาธรรมะกันเสียแต่เนิ่น ๆ นะครับ  http://www.dhammathai.org/sounds/dhammasound.php