เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: officerLudlow ที่ มีนาคม 28, 2009, 02:10:29 AM



หัวข้อ: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ มีนาคม 28, 2009, 02:10:29 AM
          คือตอนนี้ผมกำลังเรียนมหาลัยรามคำเเหง  คณะนิติศาสตร์อยู่ครับ   มีข้อสงสัยอยากเรียนถามท่านสมาชิกที่เรียน้านนิติศาสตร์มาหน่อยครับ      ว่าพวกพ.ร.บ.อาวุธปืนฯกับพ.ร.บ.ตำรวจเเห่งชาติ    มันไม่มีสอนในหลักสูตรหรือครับ     ต้องไปศึกษาเองหลังจากเรียนจบเเล้วอีกทีหนึ่งใช่ไหมครับ      หรือไปอยู่รวมกับพวกวิชาอื่น   เเล้ววิชากฏหมายทหาร    การสืบสวนเเละสอบสวน   เเล้วก็พวกกฏหมายอาญาเปรียบเทียบนี่       เเต่ละอย่างมันเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างครับ(ถ้ารายละเอียดเยอะขอเเบบย่อๆก็พอครับ)  ::014::     

         ปล.ผมว่าเราน่าจะทำกระทู้รวมพลคนใช้กฏหมายบ้างนะครับ   อาจจะได้พบเจอกับรุ่นพี่รุ่นน้องมหาลัยเดียวกันก็ได้  ไว้สนทนากันเกี่ยวกับพวกกฏหมายต่างๆนะครับ    เพราะผมสังเกตว่าสมาชิกในเวปนี้ก็มีผุ้ที่เรียนด้านกฏหมายมาหลายท่านอยู่เหมือนกัน ::014::


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 02:51:27 AM
          คือตอนนี้ผมกำลังเรียนนิมหาลัยรามคำเเหง  คณะนิติศาสตร์อยู่ครับ   มีข้อสงสัยอยากเรียนถามท่านสมาชิกที่เรียน้านนิติศาสตร์มาหน่อยครับ      ว่าพวกพ.ร.บ.อาวุธปืนฯกับพ.ร.บ.ตำรวจเเห่งชาติ    มันไม่มีสอนในหลักสูตรหรือครับ     ต้องไปศึกษาเองหลังจากเรียนจบเเล้วอีกทีหนึ่งใช่ไหมครับ      หรือไปอยู่รวมกับพวกวิชาอื่น   เเล้ววิชากฏหมายทหาร    การสืบสวนคดีอาญา    เเล้วก็พวกกฏหมายอาญาเปรียบเทียบนี่       เเต่ละอย่างมันเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างครับ(ถ้ารายละเอียดเยอะขอเเบบย่อๆก็พอครับ)  ::014::     

         ปล.ผมว่าเราน่าจะทำกระทู้รวมพลคนใช้กฏหมายบ้างนะครับ   อาจจะได้พบเจอกับรุ่นพี่รุ่นน้องมหาลัยเดียวกันก็ได้  ไว้สนทนากันเกี่ยวกับพวกกฏหมายต่างๆนะครับ    เพราะผมสังเกตว่าสมาชิกในเวปนี้ก็มีผุ้ที่เรียนด้านกฏหมายมาหลายท่านอยู่เหมือนกัน ::014::

 ;D ขออนุญาตนะครับ เรียนกฎหมายควรใช้ภาษาให้ถูกต้องกว่านี้ครับ ;D

 ;D รอหน่อยนะครับ เดี๋ยวพี่ ๆ หลาย ๆ ท่านที่เป็นนักกฎหมายจะมาตอบให้ ตอนนี้คงกำลังฝันดีกันอยู่ครับ ;D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MP 436 ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:55:24 AM
ผมว่าต้องไปถามอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแล้วละครับ จะตอบได้ดีกว่า  :~)


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Autumn ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:57:15 AM
กฎหมายมีมากมาย ออกปีละหลายฉบับ เอามาเรียนเฉพาะที่คนทั่วไปใช้กัน ที่เหลือศึกษาเองได้

เมื่อเรียนกฎหมายถึงระยะหนึ่ง ที่เหลือ อ่านเองเข้าใจเองได้


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 10:07:32 AM
กฎหมายมีหลายร้อยฉบับครับ เอามาสอนหมดคงใชเวลาหลายสิบปี  ผมเรียน มสธ ก็ไม่ได้เรียนครับ เรียนหลักๆ ป.อาญา ป.วิอาญา ป.แพ่ง ป.วิแพ่ง กฎหมายมหาชน กฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศ กฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน กฎหมายพาณิชย์ ฯ


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 11:08:12 AM
น่าจะมีกล่าวถึงในเรื่องความผิดอาญาตามกฏหมายอื่นของชุดวิชา"กฎหมายอาญา1"ของมสธ.ครับ


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 11:47:49 AM
กฎหมายที่เรียนในระดับปริญญาตรี  มีเพียงไม่ถึงร้อยละ ๑ ของกฎหมายที่มีการบังคับอยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้นการเรียนกฎหมาย จึงทำได้เฉพาะเรื่องสำคัญ ๆ   ที่เป็นหลัก หรือโครงสร้างของระบบกฎหมายเท่านั้น

พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ เป็นหลักสูตรที่เหนือกว่าระดับปริญญาตรี  และมีสอนในโรงเรียนของหน่วยงานต่าง ๆ เช่นวิทยาลัยการปกครอง  กรมศุลกากร  กรมพระธรรมนูญ  โรงเรียนสืบสวนสอบสวน


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ มีนาคม 28, 2009, 12:08:48 PM
พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ต้องมาศึกษาเองครับหลังจากจบ ป.ตรี แต่ไม่ยากครับเพราะในระดับ ป.ตรีจะสอนให้เราเข้าใจหลักของกฎหมายให้เราเอาไปศึกษาและวิเคราะห์กฎหมายอย่างอื่นอีกด้วยครับ
แล้ว พ.ร.บ.ตำรวจฯ นี่เป็นเรื่องของหน่วยงานตำรวจครับใน ระดับป.ตรี คงไม่ลงลึกไปสอนครับ ถ้าสงสัย
ในเรื่อง พ.ร.บ.ตำรวจฯ ปรึกษาได้ครับ ;D ตอนนี้ไม่ได้จับปืนมาหลายเดือนแล้วมานั่งดูพ.ร.บ.ตำรวจฯกับกฎ ก.ตร.แทน :D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฟ้า+รักในหลวง ที่ มีนาคม 28, 2009, 04:58:48 PM
 ;) ;) ;)พ.ร.บ.อาวุธปืน  กับ พ.ร.บ.ตำรวจฯ  ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับสอบเข้าหน่วยงานราชการ หลังจากที่จบระดับปริญญาแล้วเท่านั้น เช่น สอบเข้าเป็นตำรวจค่ะ...หลักสูตรของรามฯไม่เน้น ..... สำหรับวิชากฎหมายทหาร  การสืบสวนคดีอาญา และวิชากฎหมายอาญาเปรียบเทียบ  เป็นวิชาเลือกไม่ใช่วิชาบังคับสามารถเลือกลงเรียนได้ค่ะ  ส่วนใหญ่จะลงตอนใกล้ๆจบ  เพราะวิชาหลักจะสำคัญกว่า / วิชากฎหมายทหารไม่ยากค่ะส่วนใหญ่ลงแล้วจะได้ G กันหมดแต่ต้องขยันอ่านนะคะข้อบสอบเป็น ก. ข. ค. ง. วิชานี้เมื่อจบแล้วสามรถนำไปใช้สอบเป็นนายทหารพระธรรมนูญ  หรือหน่วยงานต่างๆของทหาร  ควรศึกษาไว้บ้างก็ดีนะคะ / เรื่องการสืบสวนคดีอาญาก็ไม่ยากเท่าไหร่  อิงเนื้อหาของปวิ.อาญา  เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน  /ส่วนกฎหมายอาญาเปรียบเทียบไม่เคยลงค่ะเลยบอกข้อมูลไม่ได้...กลัวผิดพลาด...รอให้รุ่นพี่ท่านอื่นๆมาบอกเพิ่มเติมดีกว่านะคะ :D :D
 :) :) ปล.ยังมีวิชาเลือกตามหลักสูตรอีกหลายวิชาที่น่าสนใจนะคะ...ค่อยๆศึกษาดูก่อนที่จะลงเรียน...เป็นกำลังใจให้ค่ะ :) :)


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sticker ที่ มีนาคม 28, 2009, 05:56:39 PM
;) ;) ;)พ.ร.บ.อาวุธปืน  กับ พ.ร.บ.ตำรวจฯ  ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับสอบเข้าหน่วยงานราชการ หลังจากที่จบระดับปริญญาแล้วเท่านั้น เช่น สอบเข้าเป็นตำรวจค่ะ...หลักสูตรของรามฯไม่เน้น ..... สำหรับวิชากฎหมายทหาร  การสืบสวนคดีอาญา และวิชากฎหมายอาญาเปรียบเทียบ  เป็นวิชาเลือกไม่ใช่วิชาบังคับสามารถเลือกลงเรียนได้ค่ะ  ส่วนใหญ่จะลงตอนใกล้ๆจบ  เพราะวิชาหลักจะสำคัญกว่า / วิชากฎหมายทหารไม่ยากค่ะส่วนใหญ่ลงแล้วจะได้ G กันหมดแต่ต้องขยันอ่านนะคะข้อบสอบเป็น ก. ข. ค. ง. วิชานี้เมื่อจบแล้วสามรถนำไปใช้สอบเป็นนายทหารพระธรรมนูญ  หรือหน่วยงานต่างๆของทหาร  ควรศึกษาไว้บ้างก็ดีนะคะ / เรื่องการสืบสวนคดีอาญาก็ไม่ยากเท่าไหร่  อิงเนื้อหาของปวิ.อาญา  เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน  /ส่วนกฎหมายอาญาเปรียบเทียบไม่เคยลงค่ะเลยบอกข้อมูลไม่ได้...กลัวผิดพลาด...รอให้รุ่นพี่ท่านอื่นๆมาบอกเพิ่มเติมดีกว่านะคะ :D :D
 :) :) ปล.ยังมีวิชาเลือกตามหลักสูตรอีกหลายวิชาที่น่าสนใจนะคะ...ค่อยๆศึกษาดูก่อนที่จะลงเรียน...เป็นกำลังใจให้ค่ะ :) :)

ศิษย์เก่า รามคำแหง รุ่นก่อนเก่า มาบอกเองเลย  ::005:: ::008:: ;D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ มีนาคม 29, 2009, 12:34:36 AM
        ขอบคุณทุกท่านครับ ::014:: 


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ มีนาคม 29, 2009, 09:53:40 PM
            ขออนุญาติถามท่านสมาชิกที่จบนิติศาสตร์อีกเรื่องนึงครับ   ว่าเหตุใดตอนนั้นถึงเลือกที่จะเรียนนิติศาสตร์  เเล้วตอนที่เรียนได้ตั้งใจว่าจะประกอบอาชีพใด    เเล้วได้เป็นตามที่หวังไว้หรือไม่ครับ       เเล้วอย่างพวกอาชีพอัยการหรือทหารจบเเล้วต้องไปสอบที่ไหนอย่างไรบ้างอะครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ มีนาคม 30, 2009, 06:42:35 AM
เหตุที่เลือกเรียน เพราะอยากเป็นตำรวจ ตอนเรียนตั้งใจว่าจะเป็นตำรวจ แล้วได้อย่างที่หวังคือได้เป็นตำรวจ
จะเป็นอัยการ ต้องได้เนติบัณฑิตก่อน แล้วรอสมัครสอบ อ้อต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดด้วยต้องมีประสบการณ์
ด้านกฎหมายตามที่กำหนด ส่วนทหารต้องคอยดูประกาศรับสมัครแล้วแต่ไม่แน่นอน


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ มีนาคม 30, 2009, 10:22:50 AM
กฎหมายประเภท  พ.ร.บ.มีเยอะครับ   ต้องศึกษาเอาเอง

กฎหมายเมื่อประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว  ถือว่าประชาชนทุกคนทราบแล้ว



หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ เมษายน 03, 2009, 12:23:54 AM
           เมื่อวันก่อนผมได้ไปเดินดูงานสัปดาหืหนังสือเเห่งชาติมาครับ     ตั้งใจว่าจะไปหาหนังสือเกี่ยวกับป.อาญากับป.วิอาญามาอ่านอยากหาเล่มที่เนื้อหาครบๆ    อธิบายดีเข้าใจง่าย   เเต่เดินดูในงานมันมีเยอะเหลือเกินไม่รู้จะเลือกเล่มไหนดีอะครับ      มีตั้งเเต่200กว่าบาทไปจนถึง6-700บาท     อ่านๆดูเเล้วผมก็เปรียบเทียบไม่ค่อยได้ว่าอันไหนดีกว่ากัน       ใครมีหนังสือกฏหมายชื่อไหนของสำนักพิมพ์ใดที่คิดว่าดีช่วยเเนะนำให้ผมหน่อยนะครับ ::014::        เเต่ที่โชคดีคือเผอิญไปเจอหนังสือชื่อ"เล่นปืนไม่ให้ถูกจับ"กับ"ย่อหลักกฏหมายปืน"ของสมพร  พรหมหิตาธร    ผมว่าเขาเขียนไว้ค่อนข้างดีทีเดียวเข้าใจได้ไม่ยาก    เสียดายที่ไม่มีรูปประกอบอาจทำให้คนอ่านนึกภาพไม่ค่อยออก    เเต่ดีตรงมีการรวบรวมกฏกระทรวง       กับคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีอาวุธปืนไว้เป็นตัวอย่างใช้อ้างอิงด้วยครับ    เเถมราคาไม่เเพงเลยตัดสินใจซื้อมา    ผมเเนะนำว่าสมาชิกท่านใดมีโอกาสก็ลองไปเดินๆดูงานสัปดาห์หนังสือก็ดีนะครับ     มีหนังสือดีๆเพียบเเถมราคาถูกอีกด้วย ::002::


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ เมษายน 04, 2009, 12:16:00 AM

ค่อยๆ เรียนรู้ครับ ยังต้องศึกษาอีกเยอะ
ตอนนี้สนใจและศึกษาวิชาที่เรียนให้ผ่านก่อน อนาคตได้ศึกษาเพิ่มเติมแน่ๆครับ

http://www.library.coj.go.th/ (http://www.library.coj.go.th/)

http://www.ago.go.th/interest_law/main.html (http://www.ago.go.th/interest_law/main.html)



หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ เมษายน 04, 2009, 01:21:35 AM

ค่อยๆ เรียนรู้ครับ ยังต้องศึกษาอีกเยอะ
ตอนนี้สนใจและศึกษาวิชาที่เรียนให้ผ่านก่อน อนาคตได้ศึกษาเพิ่มเติมแน่ๆครับ

http://www.library.coj.go.th/ (http://www.library.coj.go.th/)

http://www.ago.go.th/interest_law/main.html (http://www.ago.go.th/interest_law/main.html)




                          ครับผม  ช่วงนี้ตั้งใจสุดๆกะว่าไม่เกิน2ปีกว่าจะต้องจบให้ได้       เรื่องของเรื่องคือเห็นคนอื่นเขาเป็นนายร้อยกันเยอะเเล้วเราก็อดอิจฉาเขาไม่ได้     มี2เเขน2ขาเท่ากัน     เเต่ทำไมวาสนามันไม่เท่ากันฟะ     คิดว่าคงเป็นที่เรามันขยันน้อยกว่าคนอื่นเขา        เลยบอกกับตัวเองเลยว่าจะต้องพยามยามให้ถึงที่สุด     ไม่ย่อท้อเด็ดขาด ::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ เมษายน 04, 2009, 09:55:11 AM
อย่าไปน้อยใจครับเรื่องแบบนี้ ;D มีลูกน้องหลายคนที่จบป.ตรีแล้วยังสอบไม่ได้นายร้อยก็หลายคน ที่เรียนป.โทอยู่ก็มี
เป็นแนวทางที่ผู้บังคับบัญชาวางไว้ครับที่รับชั้นประทวนวุฒิ ป.ตรี เพื่อที่จะยกระดับตำรวจเราเองทั้งในด้านงบประมาณเงินเดือนของพวกเรา และจะได้ไม่โดนดูแคลนจากสังคมและหน่วยงานอื่นๆว่าตำรวจชั้นประทวน
ความรู้น้อย มันจะค่อยๆปรับไปครับถ้าเข้ารูปเข้ารอยแล้วเห็นระดับบนๆคุยกันว่าอาจมีการขอแก้ ป.วิอาญา บางมาตรา
หรือแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ชั้นประทวนเข้ามามีหน้าที่มากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับวุฒิที่รับเข้ามา
แต่บอกไว้ก่อนนะครับทุกวันนี้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจบป.โท กันเยอะแล้วนะครับ เป็นนายร้อยแล้วยังต้องดิ้นรน
ศึกษาต่อครับ ;D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ เมษายน 04, 2009, 10:00:49 AM
ขอเอาใจช่วย ให้สมหวังในสิ่งที่ตั้งใจครับ คุณ officerLudlow   . :D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 04, 2009, 10:09:20 AM

ค่อยๆ เรียนรู้ครับ ยังต้องศึกษาอีกเยอะ
ตอนนี้สนใจและศึกษาวิชาที่เรียนให้ผ่านก่อน อนาคตได้ศึกษาเพิ่มเติมแน่ๆครับ

http://www.library.coj.go.th/ (http://www.library.coj.go.th/)

http://www.ago.go.th/interest_law/main.html (http://www.ago.go.th/interest_law/main.html)




                          ครับผม  ช่วงนี้ตั้งใจสุดๆกะว่าไม่เกิน2ปีกว่าจะต้องจบให้ได้       เรื่องของเรื่องคือเห็นคนอื่นเขาเป็นนายร้อยกันเยอะเเล้วเราก็อดอิจฉาเขาไม่ได้     มี2เเขน2ขาเท่ากัน     เเต่ทำไมวาสนามันไม่เท่ากันฟะ     คิดว่าคงเป็นที่เรามันขยันน้อยกว่าคนอื่นเขา        เลยบอกกับตัวเองเลยว่าจะต้องพยามยามให้ถึงที่สุด     ไม่ย่อท้อเด็ดขาด ::002:: ::002:: ::002::

  อย่าน้อยใจสู้ๆๆ ครับพี่ชายผมมุมานะ เรียน ม.ธ. จบในสามปี หรือสามปีครึ่งนี่แหละจำไม่ได้ สอบ 4 ครั้งกว่าจะติดนายร้อย ติดรุ่นสุดท้ายที่ท่าน พ.ต.ต. เสรีพิสุทธ์เปิดครับ

มันบอกว่าทั้งตอนเรียน ทั้งตอนสอบนั่งอ่านหนังสือกันจน ต....เปื่อย...ผมให้รางวัลชีวิตมันด้วย เบเร็ตต้า92เอฟเอส 1 กระบอก

==============================================

อ้าวเจอพี่โร้ด เข้ามาพอดี สวัสดีครับพี่โร้ด ::014:: ใกล้สงกรานตร์แล้วนะครับ วางแผนไปชาร์จแบตที่ไหนบ้างครับ


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ เมษายน 04, 2009, 10:24:08 AM

ค่อยๆ เรียนรู้ครับ ยังต้องศึกษาอีกเยอะ
ตอนนี้สนใจและศึกษาวิชาที่เรียนให้ผ่านก่อน อนาคตได้ศึกษาเพิ่มเติมแน่ๆครับ

http://www.library.coj.go.th/ (http://www.library.coj.go.th/)

http://www.ago.go.th/interest_law/main.html (http://www.ago.go.th/interest_law/main.html)




                          ครับผม  ช่วงนี้ตั้งใจสุดๆกะว่าไม่เกิน2ปีกว่าจะต้องจบให้ได้       เรื่องของเรื่องคือเห็นคนอื่นเขาเป็นนายร้อยกันเยอะเเล้วเราก็อดอิจฉาเขาไม่ได้     มี2เเขน2ขาเท่ากัน     เเต่ทำไมวาสนามันไม่เท่ากันฟะ     คิดว่าคงเป็นที่เรามันขยันน้อยกว่าคนอื่นเขา        เลยบอกกับตัวเองเลยว่าจะต้องพยามยามให้ถึงที่สุด     ไม่ย่อท้อเด็ดขาด ::002:: ::002:: ::002::

  อย่าน้อยใจสู้ๆๆ ครับพี่ชายผมมุมานะ เรียน ม.ธ. จบในสามปี หรือสามปีครึ่งนี่แหละจำไม่ได้ สอบ 4 ครั้งกว่าจะติดนายร้อย ติดรุ่นสุดท้ายที่ท่าน พ.ต.ต. เสรีพิสุทธ์เปิดครับ

มันบอกว่าทั้งตอนเรียน ทั้งตอนสอบนั่งอ่านหนังสือกันจน ต....เปื่อย...ผมให้รางวัลชีวิตมันด้วย เบเร็ตต้า92เอฟเอส 1 กระบอก

==============================================

อ้าวเจอพี่โร้ด เข้ามาพอดี สวัสดีครับพี่โร้ด ::014:: ใกล้สงกรานต์แล้วนะครับ วางแผนไปชาร์จแบตที่ไหนบ้างครับ


สวัสดีครับ คุณ Gunchon..  :D.

มี่เพื่อนคอ Off Ro@d ชวนเข้าทุ่งใหญ่นเรศวร ไปที่ รร.ตชด.บ้านหินตั้ง ก่อนถึงเหมืองพุจือ
แต่ยังมีงานบางอย่างต้องตามคาบเกี่ยวอยู่  จึงไม่ได้ไปไหนไกล ครับ  :D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 04, 2009, 10:47:44 AM
ทุ่งใหญ่นเรศวร เพื่อนเคยบอกครับว่าน่าขับวิบากเที่ยวมากครับ..ไม่ทราบ จนท. อนุญาติให้ขับมอเตอรืไซค์เข้าไปได้ไม๊

ในกลุ่มออฟโร้ดของพี่เนี่ยไม่ทราบท่านใดพอจะทราบร้านทำแร็คยกวิบากติดท้ายไปเที่ยวแบบในภาพบ้างหรือไม่ครับ

เป็นความฝันของผมครับ

แต่ยังไม่มีวิบากนะครับ..เล็งๆไว้แล้ว คาวา เคแอลเอ็ก ราคาถูกกว่า เลสแบร์นิดหนึ่งเองครับ

 ::014::


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ เมษายน 04, 2009, 11:59:25 AM
ยังไม่มีรายไหน ติดรถเล็กไปสักราย .  ;D.
กว่าจะถึงที่พักปลายทาง ถูกขย่ม บนรถ เดี้ยงไป สัก ๔ ใน ๕ ส่วน
จอดรถแล้ว ๑ ป๋องเขียว ก็แผ่ แล้วครับ ::005::

ความจริงแล้ว ๒ ล้อวิบาก ไปได้เร็วและสะดวก แต่จำกัด ในสัมภาระที่จะนำติดตัวเข้าไป  ::002::

จะขับ ๒ ล้อวิบากเข้าไป จนท. คงบอกให้วนรถไปทางซ้ายแล้วกลับทางเดิม  ::005::
นอกจากเป็นชาวบ้าน..คอ Off Ro@d ก็ต้องขออนุญาตนำสิ่งของเข้าไปที่ รร.ตชด. ซึ่งทำติดต่อมาทุกปี ครับ.  :D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 04, 2009, 12:17:36 PM
ยังไม่มีรายไหน ติดรถเล็กไปสักราย .  ;D.
กว่าจะถึงที่พักปลายทาง ถูกขย่ม บนรถ เดี้ยงไป สัก ๔ ใน ๕ ส่วน
จอดรถแล้ว ๑ ป๋องเขียว ก็แผ่ แล้วครับ ::005::

ความจริงแล้ว ๒ ล้อวิบาก ไปได้เร็วและสะดวก แต่จำกัด ในสัมภาระที่จะนำติดตัวเข้าไป  ::002::

จะขับ ๒ ล้อวิบากเข้าไป จนท. คงบอกให้วนรถไปทางซ้ายแล้วกลับทางเดิม  ::005::
นอกจากเป็นชาวบ้าน..คอ Off Ro@d ก็ต้องขออนุญาตนำสิ่งของเข้าไปที่ รร.ตชด. ซึ่งทำติดต่อมาทุกปี ครับ.  :D

อ้าว..กลายเป็นแบบนั้นไป...ผมจะเอา 2 ล้อติดท้ายไปก็เพราะแบบนี้แหละเคยไปเที่ยว อุทยานพอไปถึงเหนื่อยเพราะขับมาไกล
ถึงอุทยานแต่ยังไม่ถึงจุดท่องเที่ยวก็หมดแรงจะเดินมันอีกไกล....เลยเดินแถวๆนั้นไม่ไกลแล้ว..กลับ....เสียดายเวลา
เสียดายน้ำมันจริงๆเลย
 ขอให้ท่องเที่ยวให้สนุกครับพี่และอิ่มบุญปลอดภัยในการเดินทางแก่สมาชิกอ็อฟโร้ดทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ เมษายน 06, 2009, 02:33:17 AM
อย่าไปน้อยใจครับเรื่องแบบนี้ ;D มีลูกน้องหลายคนที่จบป.ตรีแล้วยังสอบไม่ได้นายร้อยก็หลายคน ที่เรียนป.โทอยู่ก็มี
เป็นแนวทางที่ผู้บังคับบัญชาวางไว้ครับที่รับชั้นประทวนวุฒิ ป.ตรี เพื่อที่จะยกระดับตำรวจเราเองทั้งในด้านงบประมาณเงินเดือนของพวกเรา และจะได้ไม่โดนดูแคลนจากสังคมและหน่วยงานอื่นๆว่าตำรวจชั้นประทวน
ความรู้น้อย มันจะค่อยๆปรับไปครับถ้าเข้ารูปเข้ารอยแล้วเห็นระดับบนๆคุยกันว่าอาจมีการขอแก้ ป.วิอาญา บางมาตรา
หรือแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ชั้นประทวนเข้ามามีหน้าที่มากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับวุฒิที่รับเข้ามา
แต่บอกไว้ก่อนนะครับทุกวันนี้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจบป.โท กันเยอะแล้วนะครับ เป็นนายร้อยแล้วยังต้องดิ้นรน
ศึกษาต่อครับ ;D



                 เเต่ผมกลับไม่เห็นด้วยเลยครับ      ผมคิดว่าเป็นการเเก้ปัญหาที่กำปั้นทุบดินมากไปหน่อย        การที่คิดเเค่ว่ารับคนที่จบสูงๆมา     จะได้มีเเต่คนดีเเละเก่งผมว่ามันคนละเรื่องกันเลย     กลายเป็นว่าคนนึงจบป.ตรีจากมหาลัยได้เป็นนายสิบ    อีกคนจบสามพรานวุฒิระดับเดียวกันเเต่ได้เป็นนายร้อย   มันหมายความว่าหลักสูตรป.ตรีจากสามพรานมีคุณภาพกว่าของมหาลัยภายนอกหรือ??      คนอยากเป้นนายร้อยที่บ้านฐานะดีสอบเตรียมทหารติดได้เป็นว่าที่นายร้อยตั้งเเต่อายุ14      มีเงินเดือน   เสื้อผ้าฟรี  อุปกรณ์การเรียนฟรี     คนอยากเป็นนายสิบต้องขวนขวายเรียนเอง(ยากจนไม่มีปัญญาเรียนก็ไม่ต้องมาเป็นตำรวจ)        จนจบป.ตรี       เเล้วถึงจะมีสิทธิมาเป็นลูกน้องคนจบนายร้อยอีกทีเวรกรรมนายสิบบางคนกับเชี่ยวชาญกฏหมายหว่านายร้อยซะอีก    เเต่ต้องเป็นเเค่นายสิบ     เเล้ววุคิดดูว่างานของชั้นประทวนต่างๆ     ให้พวกนายร้อยมานั่งทำเขาจะทำกันไหม     นั่งเฝ้าห้องขัง   พิมพ์ลายนิ้วมือ   ยืนโบกรถตามสี่เเยก   พวกนี่ต้องใช้ความรู้ถึงวุฒิปริญญาตรีหรือ     ค่าเเรงค่าตอบเเทนสวัสดิการคุ้มหรือไม่    เเล้วนักเรียนนายสิบวุฒิปริญญาตรีที่ผ่านมาถือว่ามีคุณภาพหรือไม่    ผมเห้นเเต่พวกอยากเป้นนายร้อย    โดนหลอกขายฝันมาตอนสมัครว่า  สอบมาเป็นนายสิบชั่วคราว    เดี๋ยวมีสอบภายในก็ได้เป็นนายร้อย   วันๆไม่คิดอะไรมากทำงานเเบบถนอมตัว     อะไรเสี่ยงอะไรลำบากไม่ทำ    คิดว่าจบตั้งป.ตรีทำไมต้องมาลำบากเเบบพวกรุ่นพี่วุฒิม.6     วันๆจะรอสอบเป็นนายร้อยอย่างเดียว    ไม่มีความเคารพรุ่นพี่เลย   ถือว่าตัวเองจบมาสูงกว่าฉลาดกว่า    อนาคตนายร้อย  เเล้วงานมันจะไปมีคุณภาพได้ยังไง    นี่หรือคนเเบบที่สตช.ต้องการ     เเล้วคนที่เขาอาจจะตั้งใจเป้นตำรวจจริงๆ    เเต่ฐานะลำบากจบเเค่ม.6กลับไม่มีโอกาศเป็นตำรวจเลย    ผมเห็นตำรวจเยอะเเยะ    จบม.6มาสอบนายสิบ   พอเป็นตำรวจมีการมีงานไม่ลำบากที่บ้าน    เขาก็กระตือรือล้นที่จะขวนขวายเรียนต่อป.ตรี    จนได้เป็นนายร้อย      เเต่ต่อไปคนเหล่านี้จะไม่ได้รับโอกาศได้เป็นตำรวจอีกเเล้ว      โดยวัดคุณค่าของคนเพียงเเค่กระดาษเเผ่นเดียว    ที่บอกว่าผู้บังคับบัญชาหวังดีอะผมถามคำเดียวท่านทำอะไรเคยถามความเห็นลูกน้องบ้างหรือเปล่า   
                      หรือท่านคิดว่าท่านเองเก่งอยู่เเล้วทำอะไรไปก็ต้องถูกเสมอ(ลูกน้องมีหน้าที่เเค่ปฏิ
บัติตาม)     นายพลนายพันประชุมกัน100กว่าคนถือว่าเป็นความเห็นของทั้งสตช.ทั้ง200,000คนใช่หรือไม่     


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ดิ โอลดิ์ สยาม ที่ เมษายน 06, 2009, 05:32:24 AM
            ขออนุญาติถามท่านสมาชิกที่จบนิติศาสตร์อีกเรื่องนึงครับ   ว่าเหตุใดตอนนั้นถึงเลือกที่จะเรียนนิติศาสตร์  เเล้วตอนที่เรียนได้ตั้งใจว่าจะประกอบอาชีพใด    เเล้วได้เป็นตามที่หวังไว้หรือไม่ครับ       เเล้วอย่างพวกอาชีพอัยการหรือทหารจบเเล้วต้องไปสอบที่ไหนอย่างไรบ้างอะครับ ::014::
   รอฟังข้อคิด และเหตุผล ด้วยครับ พอดีมีเยาวชนถามผมบ่อยๆ ผมแค่อธิบายว่า อย่างน้อยมันเป็นวิชาทักษะชีวิต ที่นำไปใช้ในการดำเนินชีวิตส่วนหนึ่ง  แต่เรื่องโอกาส ความก้าวหน้า และความมั่นคงด้านฐานะ ผมตอบได้ไม่กระจ่างครับ...คงได้รับวิทยาทาน  ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ เมษายน 06, 2009, 09:55:01 AM
อย่าไปน้อยใจครับเรื่องแบบนี้ ;D มีลูกน้องหลายคนที่จบป.ตรีแล้วยังสอบไม่ได้นายร้อยก็หลายคน ที่เรียนป.โทอยู่ก็มี
เป็นแนวทางที่ผู้บังคับบัญชาวางไว้ครับที่รับชั้นประทวนวุฒิ ป.ตรี เพื่อที่จะยกระดับตำรวจเราเองทั้งในด้านงบประมาณเงินเดือนของพวกเรา และจะได้ไม่โดนดูแคลนจากสังคมและหน่วยงานอื่นๆว่าตำรวจชั้นประทวน
ความรู้น้อย มันจะค่อยๆปรับไปครับถ้าเข้ารูปเข้ารอยแล้วเห็นระดับบนๆคุยกันว่าอาจมีการขอแก้ ป.วิอาญา บางมาตรา
หรือแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ชั้นประทวนเข้ามามีหน้าที่มากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับวุฒิที่รับเข้ามา
แต่บอกไว้ก่อนนะครับทุกวันนี้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจบป.โท กันเยอะแล้วนะครับ เป็นนายร้อยแล้วยังต้องดิ้นรน
ศึกษาต่อครับ ;D



                 เเต่ผมกลับไม่เห็นด้วยเลยครับ      ผมคิดว่าเป็นการเเก้ปัญหาที่กำปั้นทุบดินมากไปหน่อย        การที่คิดเเค่ว่ารับคนที่จบสูงๆมา     จะได้มีเเต่คนดีเเละเก่งผมว่ามันคนละเรื่องกันเลย     กลายเป็นว่าคนนึงจบป.ตรีจากมหาลัยได้เป็นนายสิบ    อีกคนจบสามพรานวุฒิระดับเดียวกันเเต่ได้เป็นนายร้อย   มันหมายความว่าหลักสูตรป.ตรีจากสามพรานมีคุณภาพกว่าของมหาลัยภายนอกหรือ??      คนอยากเป้นนายร้อยที่บ้านฐานะดีสอบเตรียมทหารติดได้เป็นว่าที่นายร้อยตั้งเเต่อายุ14      มีเงินเดือน   เสื้อผ้าฟรี  อุปกรณ์การเรียนฟรี     คนอยากเป็นนายสิบต้องขวนขวายเรียนเอง(ยากจนไม่มีปัญญาเรียนก็ไม่ต้องมาเป็นตำรวจ)        จนจบป.ตรี       เเล้วถึงจะมีสิทธิมาเป็นลูกน้องคนจบนายร้อยอีกทีเวรกรรมนายสิบบางคนกับเชี่ยวชาญกฏหมายหว่านายร้อยซะอีก    เเต่ต้องเป็นเเค่นายสิบ     เเล้ววุคิดดูว่างานของชั้นประทวนต่างๆ     ให้พวกนายร้อยมานั่งทำเขาจะทำกันไหม     นั่งเฝ้าห้องขัง   พิมพ์ลายนิ้วมือ   ยืนโบกรถตามสี่เเยก   พวกนี่ต้องใช้ความรู้ถึงวุฒิปริญญาตรีหรือ     ค่าเเรงค่าตอบเเทนสวัสดิการคุ้มหรือไม่    เเล้วนักเรียนนายสิบวุฒิปริญญาตรีที่ผ่านมาถือว่ามีคุณภาพหรือไม่    ผมเห้นเเต่พวกอยากเป้นนายร้อย    โดนหลอกขายฝันมาตอนสมัครว่า  สอบมาเป็นนายสิบชั่วคราว    เดี๋ยวมีสอบภายในก็ได้เป็นนายร้อย   วันๆไม่คิดอะไรมากทำงานเเบบถนอมตัว     อะไรเสี่ยงอะไรลำบากไม่ทำ    คิดว่าจบตั้งป.ตรีทำไมต้องมาลำบากเเบบพวกรุ่นพี่วุฒิม.6     วันๆจะรอสอบเป็นนายร้อยอย่างเดียว    ไม่มีความเคารพรุ่นพี่เลย   ถือว่าตัวเองจบมาสูงกว่าฉลาดกว่า    อนาคตนายร้อย  เเล้วงานมันจะไปมีคุณภาพได้ยังไง    นี่หรือคนเเบบที่สตช.ต้องการ     เเล้วคนที่เขาอาจจะตั้งใจเป้นตำรวจจริงๆ    เเต่ฐานะลำบากจบเเค่ม.6กลับไม่มีโอกาศเป็นตำรวจเลย    ผมเห็นตำรวจเยอะเเยะ    จบม.6มาสอบนายสิบ   พอเป็นตำรวจมีการมีงานไม่ลำบากที่บ้าน    เขาก็กระตือรือล้นที่จะขวนขวายเรียนต่อป.ตรี    จนได้เป็นนายร้อย      เเต่ต่อไปคนเหล่านี้จะไม่ได้รับโอกาศได้เป็นตำรวจอีกเเล้ว      โดยวัดคุณค่าของคนเพียงเเค่กระดาษเเผ่นเดียว    ที่บอกว่าผู้บังคับบัญชาหวังดีอะผมถามคำเดียวท่านทำอะไรเคยถามความเห็นลูกน้องบ้างหรือเปล่า   
                      หรือท่านคิดว่าท่านเองเก่งอยู่เเล้วทำอะไรไปก็ต้องถูกเสมอ(ลูกน้องมีหน้าที่เเค่ปฏิ
บัติตาม)     นายพลนายพันประชุมกัน100กว่าคนถือว่าเป็นความเห็นของทั้งสตช.ทั้ง200,000คนใช่หรือไม่     

คุณคิดผิดแล้วครับ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ  เป็นโรงเรียนวิชาชีพเฉพาะ  ออกแบบมาสำหรับผลิตนายร้อยตำรวจตรี   ทำให้ผลิต ร.ต.ต.ได้ดีกว่าหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต ซึ่งสอนวิชากฎหมายเป็นหลัก

ผมสวมครุยเนติบัณฑิตมาตั้งแต่ พ.ศ.2523  แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่าความรู้ทางกฎหมายของตนเองจะทำให้ผมอยู่เหนือกว่าบุคคลอื่น   ในทางตรงกันข้าม ผมกลับพบว่าในหน่วยงานที่ปฏิบัติงานทางกฎหมายจะมีปัญหาในเรื่องการบริหาร และการปกครอง   ไม่สามารถแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนให้ออกมาเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดีเท่ากับผู้บริหารในสาขาชีพอื่น


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rambo1th ที่ เมษายน 06, 2009, 10:30:27 AM
อย่าไปน้อยใจครับเรื่องแบบนี้ ;D มีลูกน้องหลายคนที่จบป.ตรีแล้วยังสอบไม่ได้นายร้อยก็หลายคน ที่เรียนป.โทอยู่ก็มี
เป็นแนวทางที่ผู้บังคับบัญชาวางไว้ครับที่รับชั้นประทวนวุฒิ ป.ตรี เพื่อที่จะยกระดับตำรวจเราเองทั้งในด้านงบประมาณเงินเดือนของพวกเรา และจะได้ไม่โดนดูแคลนจากสังคมและหน่วยงานอื่นๆว่าตำรวจชั้นประทวน
ความรู้น้อย มันจะค่อยๆปรับไปครับถ้าเข้ารูปเข้ารอยแล้วเห็นระดับบนๆคุยกันว่าอาจมีการขอแก้ ป.วิอาญา บางมาตรา
หรือแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ชั้นประทวนเข้ามามีหน้าที่มากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับวุฒิที่รับเข้ามา
แต่บอกไว้ก่อนนะครับทุกวันนี้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจบป.โท กันเยอะแล้วนะครับ เป็นนายร้อยแล้วยังต้องดิ้นรน
ศึกษาต่อครับ ;D



                 เเต่ผมกลับไม่เห็นด้วยเลยครับ      ผมคิดว่าเป็นการเเก้ปัญหาที่กำปั้นทุบดินมากไปหน่อย        การที่คิดเเค่ว่ารับคนที่จบสูงๆมา     จะได้มีเเต่คนดีเเละเก่งผมว่ามันคนละเรื่องกันเลย     กลายเป็นว่าคนนึงจบป.ตรีจากมหาลัยได้เป็นนายสิบ    อีกคนจบสามพรานวุฒิระดับเดียวกันเเต่ได้เป็นนายร้อย   มันหมายความว่าหลักสูตรป.ตรีจากสามพรานมีคุณภาพกว่าของมหาลัยภายนอกหรือ??      คนอยากเป้นนายร้อยที่บ้านฐานะดีสอบเตรียมทหารติดได้เป็นว่าที่นายร้อยตั้งเเต่อายุ14      มีเงินเดือน   เสื้อผ้าฟรี  อุปกรณ์การเรียนฟรี     คนอยากเป็นนายสิบต้องขวนขวายเรียนเอง(ยากจนไม่มีปัญญาเรียนก็ไม่ต้องมาเป็นตำรวจ)        จนจบป.ตรี       เเล้วถึงจะมีสิทธิมาเป็นลูกน้องคนจบนายร้อยอีกทีเวรกรรมนายสิบบางคนกับเชี่ยวชาญกฏหมายหว่านายร้อยซะอีก    เเต่ต้องเป็นเเค่นายสิบ     เเล้ววุคิดดูว่างานของชั้นประทวนต่างๆ     ให้พวกนายร้อยมานั่งทำเขาจะทำกันไหม     นั่งเฝ้าห้องขัง   พิมพ์ลายนิ้วมือ   ยืนโบกรถตามสี่เเยก   พวกนี่ต้องใช้ความรู้ถึงวุฒิปริญญาตรีหรือ     ค่าเเรงค่าตอบเเทนสวัสดิการคุ้มหรือไม่    เเล้วนักเรียนนายสิบวุฒิปริญญาตรีที่ผ่านมาถือว่ามีคุณภาพหรือไม่    ผมเห้นเเต่พวกอยากเป้นนายร้อย    โดนหลอกขายฝันมาตอนสมัครว่า  สอบมาเป็นนายสิบชั่วคราว    เดี๋ยวมีสอบภายในก็ได้เป็นนายร้อย   วันๆไม่คิดอะไรมากทำงานเเบบถนอมตัว     อะไรเสี่ยงอะไรลำบากไม่ทำ    คิดว่าจบตั้งป.ตรีทำไมต้องมาลำบากเเบบพวกรุ่นพี่วุฒิม.6     วันๆจะรอสอบเป็นนายร้อยอย่างเดียว    ไม่มีความเคารพรุ่นพี่เลย   ถือว่าตัวเองจบมาสูงกว่าฉลาดกว่า    อนาคตนายร้อย  เเล้วงานมันจะไปมีคุณภาพได้ยังไง    นี่หรือคนเเบบที่สตช.ต้องการ     เเล้วคนที่เขาอาจจะตั้งใจเป้นตำรวจจริงๆ    เเต่ฐานะลำบากจบเเค่ม.6กลับไม่มีโอกาศเป็นตำรวจเลย    ผมเห็นตำรวจเยอะเเยะ    จบม.6มาสอบนายสิบ   พอเป็นตำรวจมีการมีงานไม่ลำบากที่บ้าน    เขาก็กระตือรือล้นที่จะขวนขวายเรียนต่อป.ตรี    จนได้เป็นนายร้อย      เเต่ต่อไปคนเหล่านี้จะไม่ได้รับโอกาศได้เป็นตำรวจอีกเเล้ว      โดยวัดคุณค่าของคนเพียงเเค่กระดาษเเผ่นเดียว    ที่บอกว่าผู้บังคับบัญชาหวังดีอะผมถามคำเดียวท่านทำอะไรเคยถามความเห็นลูกน้องบ้างหรือเปล่า   
                      หรือท่านคิดว่าท่านเองเก่งอยู่เเล้วทำอะไรไปก็ต้องถูกเสมอ(ลูกน้องมีหน้าที่เเค่ปฏิ
บัติตาม)     นายพลนายพันประชุมกัน100กว่าคนถือว่าเป็นความเห็นของทั้งสตช.ทั้ง200,000คนใช่หรือไม่     



  จริงๆ ก็เห็นด้วยบางส่วนนะครับ แต่ว่าบ้านเรา ตร. ดันมี ****ยศ***** ตามทหารเขา เรื่องมันก็เลยยุ่ง ตามหลักแล้ว รร.นรต. นะ ควรจะเป็นวิทยาลัย ตร. หรือ POLICE ACADEMY ปัญหาความน้อยเนื้อต่ำใจ หรือ เรื่องกำเนิดจากไหนมันก็จะหมดไป เรื่องรุ่นนั้น รุ่นนี้ มันก็จะน้อยตามลงไปด้วย

 แรกเริ่มเดิมที นั้น มี รร.พลตำรวจ รับคนจบ ม.3 แล้ว มารับ ม.6 จบมาได้ยศ พลตำรวจ ตำแหน่ง ลูกแถว (รร.แต่เดิมอยู่ ตรง สโมสร ตร.ปัจจุบัน)  อำนาจมากมายตรวจค้น จับกุม คนก็บอกว่าไม่ได้ กระทบสิทธิชาวบ้าน ต้องมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ เลยมาริเริ่ม รับ ส.ต.ต. ตำแหน่ง ผบ.หมู่ คุณวุฒิ ป.ตรี แต่เงินเดือนเท่าสัญญาบัตร (พลตำรวจ เป็นแต่ใน รร. เท่านั้น) พอรับมา ปุ๊บ ก็มีการเปรียบเทียบอีกว่า จบ ป.ตรี เท่ากัน ทำไม ยศ ไม่เท่ากันอีก อยากจะตอบว่า ************มันคนละหลักสูตร และแนวคิดในการผลิตมาต่างกัน***********   อยู่ รร.นรต. นั่งพุ่งซัดเท้าหลัง จนหลังจะหัก หัวปักพื้นอีก ซ่อมอีกสารพัด หลับมันตอนเวลาเรียนอีก  จบมา 21-22 เป็น ร.ต.ต. 5 ปี ก็ ร.ต.อ. 30 ต้นๆ ก็ เป็นสารวัตร ไลน์ เขาวางไว้แล้ว

 แต่ นายร้อยอบรม เป็น พงส. ไปสิ สบ.1-4 ก็ทำกันไปสำนวนนะ ลูกน้องก็พลขับ ก็สิบเวร นั่นแหละใช้ได้มั่งไม่ได้บ้าง

 ตอนนี้ มี นรต. ญ อีก จริงๆ แนวคิดคือให้มาเป็น พงส. ญ ดู คดีเด็กและเยาวชน แต่ๆๆๆๆ คอยดูนะตอนจบนะ มีเป็นนายเวรบ้าง รองสารวัตร งานโน่น งานนี่บ้าง ช่วยราชการ จุดนั้น จุดนี้ บ้าง อยู่ สันติบาลบ้าง จะมี ลง พงส. กี่คน

  *****ต้องปฏิรูปใหญ่ครับ จริงๆแนวคิด ที่จะมีวิทยาลัย ตร. นี่ มีผู้ใหญ่ในประเทศเราเสนอแนวคิดแล้ว แต่สุดท้ายผู้คนคิดว่าจะไปยุบ รร.นรต. เลย จบข่าว *****


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ เมษายน 06, 2009, 11:31:03 AM
อืม... จขกท. คงมีอารมณ์น้อยใจ มั๊งครับ ลองอ่านความเห็นของท่าน rambo1th กับท่านสุพินท์ประกอบนะครับ
แนวทางจะเป็นเช่นนั้น ลองศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของตำรวจไทยดู และไปอ่านระบบตำรวจเปรียบเทียบกับ
ต่างประเทศก็จะทราบ เพราะพื้นฐานของคนแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ระบบตำรวจและระบบยุติธรรมก็จะไม่เหมือนกัน แนวคิดต่างกัน แต่จะมีวัตถุประสงค์หรือจุดหมายคล้ายๆกันหรือเหมือนกัน
               ที่มาของนายสิบวุฒิป.ตรี ก็อย่างที่ท่าน rambo1th ว่าไว้ครับคือเรื่องวุฒิภาวะ เพราะทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าการศึกษาระดับ ป.ตรี กระจายไปทั่วประเทศและคนที่จบระดับดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาก แล้วทำไมตำรวจเราจะรับชั้นประทวนซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับประชาชนในวุฒิ ป.ตรี ไม่ได้ละครับ
แล้วก็อย่างที่ท่านสุพินท์ว่าไว้ครับ ร.ร.นายร้อยตำรวจ เป็น ร.ร.วิชาชีพเฉพาะ คุณว่าคุณจบ ป.ตรี มาแล้วบรรจุเป็นนายร้อยได้เลยหรือก็เปล่านะครับ คุณจะต้องเข้าอบรมเพื่อให้ได้คุณสมบัติการบริหารการเป็นผู้นำหน่วยระดับขั้นต้น
ซึ่งใน ร.ร.นายสิบ ไม่ได้มีหลักสูตรแบบนี้ ซึ่งร.ร.นายสิบหลักสูตรก็คือเน้นผลิตเจ้าหน้าที่ตำรวจไป "ปฎิบัติ" หรือทำงานในตำแหน่งหน้าที่ ที่กำหนด จขกท.ลองกลับไปดูหลักสูตรที่คุณเรียนหรืออบรมผ่านมานะครับ
                ส่วนเรื่องที่ว่าตัดโอกาสคนที่จบ ม.6 หรือคนยากจนผมว่าทาง สตช.คงไม่คิดกันอย่างนั้นหรอกครับทุกคนเท่าเทียมกันอยู่ที่ว่าแต่ละคนจะเลือกทางเดินทางไหนมากกว่า แล้วการคัดเลือกเราใช้การสอบคัดเลือกนะครับ
หลายๆคนที่สอบนายร้อยได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะรวย ถ้าตำรวจรับ ป.ตรี ตัวเองไม่มีวุฒิ ป.ตรี ถ้าอยากรับใช้ชาติไม่จำเป็นต้องเป็นตำรวจก็ได้ครับ มีวุฒิ ม.6 ก็ไปสอบนายสิบทหารบกหรือ จ่าทหารเรือ จ่าอากาศ ก็ได้เผลอๆได้ดีกว่าเป็นตำรวจซะอีก
                  แล้วเรื่องผู้บังคับบัญชาท่านไม่ได้คิดเอง เออเองหรอกครับ ท่านก็รับฟังและถามปัญหาจากลูกน้องทุกระดับชั้น แล้วก็มีคณะทำงานมีการออกแบบสอบถามไปทั่วประเทศนะครับแต่ก็คงไม่ทั่วทุกคนหรอกครับ
                 ส่วนเรื่องตำรวจวุฒิ ป.ตรี ไม่ทำงานคงเป็นเรื่องสำนึกความรับผิดชอบแล้วละครับ ถ้าไม่ทำอย่าลืมว่า
เรามีระบบบังคับบัญชาและเรื่องการลงโทษทางวินัย นะครับ ถ้าโดนนี่มีผลต่อการเป็นนายร้อยในอนาคตเลยนะครับ
ลองถามพวกที่สอบนายร้อยคราวนี้ดูนะครับ


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ เมษายน 06, 2009, 11:31:27 AM
อย่าไปน้อยใจครับเรื่องแบบนี้ ;D มีลูกน้องหลายคนที่จบป.ตรีแล้วยังสอบไม่ได้นายร้อยก็หลายคน ที่เรียนป.โทอยู่ก็มี
เป็นแนวทางที่ผู้บังคับบัญชาวางไว้ครับที่รับชั้นประทวนวุฒิ ป.ตรี เพื่อที่จะยกระดับตำรวจเราเองทั้งในด้านงบประมาณเงินเดือนของพวกเรา และจะได้ไม่โดนดูแคลนจากสังคมและหน่วยงานอื่นๆว่าตำรวจชั้นประทวน
ความรู้น้อย มันจะค่อยๆปรับไปครับถ้าเข้ารูปเข้ารอยแล้วเห็นระดับบนๆคุยกันว่าอาจมีการขอแก้ ป.วิอาญา บางมาตรา
หรือแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ชั้นประทวนเข้ามามีหน้าที่มากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับวุฒิที่รับเข้ามา
แต่บอกไว้ก่อนนะครับทุกวันนี้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจบป.โท กันเยอะแล้วนะครับ เป็นนายร้อยแล้วยังต้องดิ้นรน
ศึกษาต่อครับ ;D



                 เเต่ผมกลับไม่เห็นด้วยเลยครับ      ผมคิดว่าเป็นการเเก้ปัญหาที่กำปั้นทุบดินมากไปหน่อย        การที่คิดเเค่ว่ารับคนที่จบสูงๆมา     จะได้มีเเต่คนดีเเละเก่งผมว่ามันคนละเรื่องกันเลย     กลายเป็นว่าคนนึงจบป.ตรีจากมหาลัยได้เป็นนายสิบ    อีกคนจบสามพรานวุฒิระดับเดียวกันเเต่ได้เป็นนายร้อย   มันหมายความว่าหลักสูตรป.ตรีจากสามพรานมีคุณภาพกว่าของมหาลัยภายนอกหรือ??      คนอยากเป้นนายร้อยที่บ้านฐานะดีสอบเตรียมทหารติดได้เป็นว่าที่นายร้อยตั้งเเต่อายุ14      มีเงินเดือน   เสื้อผ้าฟรี  อุปกรณ์การเรียนฟรี     คนอยากเป็นนายสิบต้องขวนขวายเรียนเอง(ยากจนไม่มีปัญญาเรียนก็ไม่ต้องมาเป็นตำรวจ)        จนจบป.ตรี       เเล้วถึงจะมีสิทธิมาเป็นลูกน้องคนจบนายร้อยอีกทีเวรกรรมนายสิบบางคนกับเชี่ยวชาญกฏหมายหว่านายร้อยซะอีก    เเต่ต้องเป็นเเค่นายสิบ     เเล้ววุคิดดูว่างานของชั้นประทวนต่างๆ     ให้พวกนายร้อยมานั่งทำเขาจะทำกันไหม     นั่งเฝ้าห้องขัง   พิมพ์ลายนิ้วมือ   ยืนโบกรถตามสี่เเยก   พวกนี่ต้องใช้ความรู้ถึงวุฒิปริญญาตรีหรือ     ค่าเเรงค่าตอบเเทนสวัสดิการคุ้มหรือไม่    เเล้วนักเรียนนายสิบวุฒิปริญญาตรีที่ผ่านมาถือว่ามีคุณภาพหรือไม่    ผมเห้นเเต่พวกอยากเป้นนายร้อย    โดนหลอกขายฝันมาตอนสมัครว่า  สอบมาเป็นนายสิบชั่วคราว    เดี๋ยวมีสอบภายในก็ได้เป็นนายร้อย   วันๆไม่คิดอะไรมากทำงานเเบบถนอมตัว     อะไรเสี่ยงอะไรลำบากไม่ทำ    คิดว่าจบตั้งป.ตรีทำไมต้องมาลำบากเเบบพวกรุ่นพี่วุฒิม.6     วันๆจะรอสอบเป็นนายร้อยอย่างเดียว    ไม่มีความเคารพรุ่นพี่เลย   ถือว่าตัวเองจบมาสูงกว่าฉลาดกว่า    อนาคตนายร้อย  เเล้วงานมันจะไปมีคุณภาพได้ยังไง    นี่หรือคนเเบบที่สตช.ต้องการ     เเล้วคนที่เขาอาจจะตั้งใจเป้นตำรวจจริงๆ    เเต่ฐานะลำบากจบเเค่ม.6กลับไม่มีโอกาศเป็นตำรวจเลย    ผมเห็นตำรวจเยอะเเยะ    จบม.6มาสอบนายสิบ   พอเป็นตำรวจมีการมีงานไม่ลำบากที่บ้าน    เขาก็กระตือรือล้นที่จะขวนขวายเรียนต่อป.ตรี    จนได้เป็นนายร้อย      เเต่ต่อไปคนเหล่านี้จะไม่ได้รับโอกาศได้เป็นตำรวจอีกเเล้ว      โดยวัดคุณค่าของคนเพียงเเค่กระดาษเเผ่นเดียว    ที่บอกว่าผู้บังคับบัญชาหวังดีอะผมถามคำเดียวท่านทำอะไรเคยถามความเห็นลูกน้องบ้างหรือเปล่า   
                      หรือท่านคิดว่าท่านเองเก่งอยู่เเล้วทำอะไรไปก็ต้องถูกเสมอ(ลูกน้องมีหน้าที่เเค่ปฏิ
บัติตาม)     นายพลนายพันประชุมกัน100กว่าคนถือว่าเป็นความเห็นของทั้งสตช.ทั้ง200,000คนใช่หรือไม่     

คุณคิดผิดแล้วครับ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ  เป็นโรงเรียนวิชาชีพเฉพาะ  ออกแบบมาสำหรับผลิตนายร้อยตำรวจตรี   ทำให้ผลิต ร.ต.ต.ได้ดีกว่าหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต ซึ่งสอนวิชากฎหมายเป็นหลัก

ผมสวมครุยเนติบัณฑิตมาตั้งแต่ พ.ศ.2523  แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่าความรู้ทางกฎหมายของตนเองจะทำให้ผมอยู่เหนือกว่าบุคคลอื่น   ในทางตรงกันข้าม ผมกลับพบว่าในหน่วยงานที่ปฏิบัติงานทางกฎหมายจะมีปัญหาในเรื่องการบริหาร และการปกครอง   ไม่สามารถแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนให้ออกมาเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดีเท่ากับผู้บริหารในสาขาชีพอื่น
     

                                  ผมไม่ได้มีเจตนาไปว่ากล่าวอะไรโรงเรียนนายร้อยตำรวจหรอกครับ     คือผมเห็นว่าระบบที่เป็นมามันมีความลงตัวอยู่ในระดับที่สมดุลดีเเล้ว     ผมไม่ได้บอกว่ามันดีเพอเฟ็กนะครับ    เเต่คิดว่าน่าจะเป็นธรรมเเก่ทุกฝ่ายมากที่สุด     คนเรียนเก่งเรียนตั้งเเต่เด็ก    คุณสอบได้เตรียมทหารคุรก็ไปเป็นนายร้อยอนาคตนายพลก็สมเหตุสมผลอยู่     เเต่กับงานนายสิบผมเห็นว่าการรับวุฒิปริญญาตรีมีข้อเสียมากกว่าข้อดี      เทียบกับระบบตำรวจของอเมริกา     เท่าที่ผมพอจะทราบ(รู้สึกคุณ40S&Wจะเคยพิมพ์ตอบผม)     เขาจะถือว่าทุกคนเท่าเทียมกันหมดจะเป็นนายร้อยมาจากไหน    เข้าโรงเรียนตำรวจเสร็จทุกคนจบออกมาเป็นพลตำรวจขั้นสามเหมือนกันหมด    จากนั้นจึงทำงานชั้นประทวนไป        พอมีสอบเลื่อนขั้นเป็นผู้หมวดหรือนักสืบก็ไปสอบ     ผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็คือผู้ที่เคยทำงานชั้นประทวนมาก่อนทั้งนั้น        ลูกน้องจึงเคารพนับถือ   เวลาจะวางนโยบายอะไรก็คิดย้อนไปถึงสมัยที่ตนเองเคยเป็นผู้น้อย     ทำให้นโยบายของเขาตรงกับใจของผู้ใต้บังคับบัญชา          ต่างกับระบบโรงเรียนนายร้อยของเรา    ผมยอมรับว่าอิจฉาผู้ที่ได้เป็นนายร้อยตำรวจ   ผมเองเคยสอบเตรียมทหาร2ครั้งเเต่ก็ไม่ติดทั้ง2ครั้ง       ผมไม่โทษอะไรเลยนอกจากความขี้เกียจของตัวผมเอง        เเละยอมรับอีกว่าถ้าผมได้เป็นนรต.ผมคงไม่มานั่งสนใจอะไรเรื่องนี้          ผมจะไม่พูดถึงเเนวทางที่ต้องไปยุบหรือยุ่งกี่ยวกับโรงเรียนนรต.       ผมเเค่อยากให้มีความเท่าเทียมกันของมนุษย์ด้วยกันเท่านั้นเอง        ถ้าผมไม่อยากเป็นตำรวจผมคงไม่ซึ้งกับคำว่า"เเข่งเรือเเข่งพายมันเเข่งกันได้  เเต่เเข่งบุญเเข่งวาสนามันเเข่งกันไม่ได้"           ผมไม่ได้อยากจะเรียกร้องเงินทองใดๆ     ผมขอเเค่โอกาศที่เท่าเทียมกันเท่านั้นเอง      ระบบเดิม    คือคนเก่งไปเป็นนักเรีนเตรียมก็ถูกเเล้ว      คนไม่เก่งจบม.6มาสอบนายสิบ         จบมามีสิทธิสอบเป็นนรต.อีก     ถ้าได้ก็เหมือนกับได้มีโอกาสเป็นนักเรียนนายร้อยอีกครั้ง      ซึ้งสำหรับผมผมว่ามันสำคัญมาก    เพราะการเป็นนรต.มันไม่ใช้เเค่ได้เป็นสัญญาบัตร    เเต่มันได้อะไรๆอีกหลายอย่าง           ส่วนนายสิบที่อยากจะเรียนป.ตรีมหาวิทยาลัยข้างนอก     ทางสตช.ก็ให้โอกาสในการที่เปิดรับสมัครสอบนายร้อยอบรมอีก      เรียกว่าเปิดกาสให้อย่างกว้างขวาง      จะประสบความสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับความขยันเเละความสามารถล้วนๆ      ทำให้ระบบมีความสมดุลมาก     ไม่มีชนชั้นวรรณณะ   เเบ่งยศกันที่ความสามรถ        ผมจึงไม่เข้าใจกับเหตุผลของสตช.ที่เปลี่ยนมารับวุฒิป.ตรีเลย       เท่าที่ฟังมาผมรู้สึกว่าสตช.มองเเต่ข้อดี         คิดเเก้ปัญหาด้วยวิธีสบายๆ    ไม่คิดถึงความรู้สึกทั้งคนนอกที่อยากเป็นตำรวจเเละผู้ใต้บังคับบัญชาเลย        ลองคิดดูว่าถ้าองค์กรอื่นเขาคิดเเบบสตช.     พนักงานล้างจาน   ยาม  คนทำความสะอาด   รับวุฒิป.ตรีหมด    ถามว่าองคฅ์กรนั้นจะพัฒนาจริงหรือ     ในอนาคตสตช.ก็ยังต้องใช้ตชด.ต้องใช้ตำรวจจราจรอยู่   เเล้วจะรับด้วยวุฒิไหน   จะให้คนจบป.ตรีไปยืนตากฝุ่นกลางสี่เเยก    ให้ไปเป็นตชด.ประทวน   เเล้วจะมีคนมาสมัครหรือ      ปีที่เเล้วถ้าไม่ขายฝันด้วยสโลเเกนว่า"มาเป็นนายสิบชั่วคราว    เพื่อเป็นนายร้อยวันหน้า"
จะมีคนมาสมัครหรือ       ตอนนี้ปัญหามันตามก้นมาเเล้ว      นายสิบวุฒิป.ตรีที่สตช.ว่าดีนักดีหนา  กำลังทำพิษให้สตช.ซะเอง       วันๆไม่คุยเรื่องคดีเรื่องคนร้ายหรอก     คุยกันเเต่เรื่องข้อสอบปป.1ปป.3จะออกอะไร        จะอ่านหนังสืออะไรดี      ยศสิบตำรวจโทสิบตำรวจเอกไม่สนใจ    เป็นไปก็ไม่ได้อะไร  อยู่มันสตต.นี้เเละ   สอบไปนายร้อยเท่ากันอยู่ดี      พอสตช.ออกกฏ4ปีมา   ทีนี้ละโวยวายกันเป็นเเถวถึงขั้นจะฟ้องร้องเลยก็มี       พวกรุ่นพี่ก็สุดภูมิใจลูกน้อง    ว่ามันไม่ได้เคารพอะไรรุ่นพี่เลย    มันถือว่าตัวเองวุฒิป.ตรีอนาคตนายร้อยนายพล       ไม่อยากไปสนใจพวกม.6อนาคตนายดาบ        มันก็เกิดความเเคลงใจกันภายในองค์กร(ผมไม่อยากจะมองเเง่ร้ายนะว่าเดี๋ยวมันเกิดกรณีเเบบสน.บางยี่ขันอีก    ที่นายร้อยอบรมยิงนายร้อยสามพราน   เพราะเรื่องดูถูกกันเอง)           สุดท้ายผมก็ได้เเต่เเสดงความคิดเห็นเท่านั้น     ไม่มีอำนาจไปเปลี่ยนเเปลงอะไร         เเต่ถ้าซักวันนึงผมได้เป็นใหญ่เป็นโต(ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่านะครับ-*-)      ผมจะไม่ลืมเหตุการณ์ตอนนี้เลย     เเละจะเตือนตัวเองเสมอว่าทำอะไรต้องคิดถึงผู้ใต้บังคับบัญชาให้มาก      ผมขอสัญญาเลย ::014::

  ปล.ส่วนตัวผมไม่ว่ายังไงคงจะพยายามต่อไปอยู่ดีผมเดินมาไกลเเล้ว   จะเดินต่อไปจนสุดท้ายไม่ได้อะไรเลยผมก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรที่มันจะหนักหนากว่านี้อีกเเล้ว    เมื่อเรื่งนี้มันฆ่าผมไม่ได้  มันก็เเค่ทำให้ผมเเข็งเเกร่งขึ้นเท่านั้น  (ยืมมาจากหนังอีกทีอิ อิ) ::005::


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ เมษายน 06, 2009, 12:06:46 PM
 :)......ลองอ่านกระทู้ของผมดูนะครับ ระบบที่อเมริกามันก็ดีครับอยู่ที่ความสามารถ และความชอบของตัวเอง
บางคน "ทำหน้าที่สายตรวจ" จนเกษียณ บางคนไปเป็น "นักสืบ" (ไม่ใช่สายสืบ) มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายมากมาย ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงรัฐบาลกลาง   เพราะระบบที่ต่างกันและพื้นฐานการศึกษา วัฒนธรรม วิถีชีวิตต่างกัน
             เรื่องตำรวจวุฒิ ป.ตรี ที่เป็นปัญหาในตอนนี้เป็นเพราะพวกนี้ยังไม่ใช่ตำรวจที่แท้จริง หรือเรียกว่าสีกากียังไม่จับ การทำงานของตำรวจเราต้องใช้ การทำงานเป็นทีม+การเสียสละ*ความอดทน เป็นพื้นฐาน และที่สำคัญที่พวกนี้
อาจจะลืมไป ก็คือ ระดับความรับผิดชอบในแต่ละระดับขั้น นายร้อย ย่อมมี"ภาระความรับผิดชอบ" มากกว่า
นายสิบ  นายพันก็มี "ภาระความรับผิดชอบ" มากว่านายร้อย
              เท่าที่อ่านความเห็นของ จขกท. แนะนำลองไปหาหนังสือเกี่ยวกับการบริหารงานองค์กรภาครัฐมาศึกษา
หรือถ้ามีโอกาสลองพูดคุยกับพวกที่จบ ป.โท ทางบริหารรัฐกิจ หรือ รัฐประศาสนศาสตร์ ก็อาจจะได้แนวคิดที่มีมุมมองต่างจากเดิมก็ได้ อย่าไปน้อยใจครับ คิดว่าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีก็ใช้ได้ :)


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ เมษายน 07, 2009, 12:38:41 AM
      เห็นว่าในอนาคตจะกระจายการรับสมัครนสต.วุฒิป.ตรี     ไปที่ภูธรภาคต่างๆด้วยใช่ไหมครับ      เเล้วหลักเกณฑ์การสมัครจะมีการดูที่ภูมิลำเนาเเบบเดิมหรือป่าวครับ       หรือสมัครจากที่ไหนมา           ก็ไม่เกี่ยวกับการเลือกที่ลงตอนเลือกตำเเหน่ง   เเล้วเขาอบรมกันนานเท่าไรครับ1ปีเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ เมษายน 07, 2009, 07:49:01 AM


                 เเต่ผมกลับไม่เห็นด้วยเลยครับ      ผมคิดว่าเป็นการเเก้ปัญหาที่กำปั้นทุบดินมากไปหน่อย        การที่คิดเเค่ว่ารับคนที่จบสูงๆมา     จะได้มีเเต่คนดีเเละเก่งผมว่ามันคนละเรื่องกันเลย     กลายเป็นว่าคนนึงจบป.ตรีจากมหาลัยได้เป็นนายสิบ    อีกคนจบสามพรานวุฒิระดับเดียวกันเเต่ได้เป็นนายร้อย   มันหมายความว่าหลักสูตรป.ตรีจากสามพรานมีคุณภาพกว่าของมหาลัยภายนอกหรือ??      คนอยากเป้นนายร้อยที่บ้านฐานะดีสอบเตรียมทหารติดได้เป็นว่าที่นายร้อยตั้งเเต่อายุ14      มีเงินเดือน   เสื้อผ้าฟรี  อุปกรณ์การเรียนฟรี     คนอยากเป็นนายสิบต้องขวนขวายเรียนเอง(ยากจนไม่มีปัญญาเรียนก็ไม่ต้องมาเป็นตำรวจ)        จนจบป.ตรี       เเล้วถึงจะมีสิทธิมาเป็นลูกน้องคนจบนายร้อยอีกทีเวรกรรมนายสิบบางคนกับเชี่ยวชาญกฏหมายหว่านายร้อยซะอีก    เเต่ต้องเป็นเเค่นายสิบ     เเล้ววุคิดดูว่างานของชั้นประทวนต่างๆ     ให้พวกนายร้อยมานั่งทำเขาจะทำกันไหม     นั่งเฝ้าห้องขัง   พิมพ์ลายนิ้วมือ   ยืนโบกรถตามสี่เเยก   พวกนี่ต้องใช้ความรู้ถึงวุฒิปริญญาตรีหรือ     ค่าเเรงค่าตอบเเทนสวัสดิการคุ้มหรือไม่    เเล้วนักเรียนนายสิบวุฒิปริญญาตรีที่ผ่านมาถือว่ามีคุณภาพหรือไม่    ผมเห้นเเต่พวกอยากเป้นนายร้อย    โดนหลอกขายฝันมาตอนสมัครว่า  สอบมาเป็นนายสิบชั่วคราว    เดี๋ยวมีสอบภายในก็ได้เป็นนายร้อย   วันๆไม่คิดอะไรมากทำงานเเบบถนอมตัว     อะไรเสี่ยงอะไรลำบากไม่ทำ    คิดว่าจบตั้งป.ตรีทำไมต้องมาลำบากเเบบพวกรุ่นพี่วุฒิม.6     วันๆจะรอสอบเป็นนายร้อยอย่างเดียว    ไม่มีความเคารพรุ่นพี่เลย   ถือว่าตัวเองจบมาสูงกว่าฉลาดกว่า    อนาคตนายร้อย  เเล้วงานมันจะไปมีคุณภาพได้ยังไง    นี่หรือคนเเบบที่สตช.ต้องการ     เเล้วคนที่เขาอาจจะตั้งใจเป้นตำรวจจริงๆ    เเต่ฐานะลำบากจบเเค่ม.6กลับไม่มีโอกาศเป็นตำรวจเลย    ผมเห็นตำรวจเยอะเเยะ    จบม.6มาสอบนายสิบ   พอเป็นตำรวจมีการมีงานไม่ลำบากที่บ้าน    เขาก็กระตือรือล้นที่จะขวนขวายเรียนต่อป.ตรี    จนได้เป็นนายร้อย      เเต่ต่อไปคนเหล่านี้จะไม่ได้รับโอกาศได้เป็นตำรวจอีกเเล้ว      โดยวัดคุณค่าของคนเพียงเเค่กระดาษเเผ่นเดียว    ที่บอกว่าผู้บังคับบัญชาหวังดีอะผมถามคำเดียวท่านทำอะไรเคยถามความเห็นลูกน้องบ้างหรือเปล่า   
                      หรือท่านคิดว่าท่านเองเก่งอยู่เเล้วทำอะไรไปก็ต้องถูกเสมอ(ลูกน้องมีหน้าที่เเค่ปฏิ
บัติตาม)     นายพลนายพันประชุมกัน100กว่าคนถือว่าเป็นความเห็นของทั้งสตช.ทั้ง200,000คนใช่หรือไม่     

ขอแสดงความเห็นด้วยคนนะครับ .............. ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้มีเส้นทางการเรียนและอาชีพ ตามที่เจ้าของกระทู้กล่าว แต่ออกแนวคล้ายๆกัน

ตามที่อ่านๆมา .............. จะบอกให้เป็นข้อมูลพิจารณาแนวทางในการกำหนดเส้นทาง (ต้องขออภัยไว้ก่อนถ้า"ตรง"เกินไป)

รร.นายร้อยตำรวจ (รร.นรต.) คือสถาบันที่ ตำรวจเขาตั้งมาเพื่อผลิต นายตำรวจ"หลัก" ของ สตช. ซึ่งการหล่อหลอมและเล่าเรียน สตช.เป็นคนกำหนด สำหรับการทำงานใน สตช. ที่สถาบันอื่นไม่ได้หล่อหลอมและเล่าเรียน ตามที่ สตช.กำหนด............... อย่างแรก ถ้าอยากเรียน ต้อง"สอบให้ได้" สอบได้ก็เข้าไป"เรียนให้จบ" ................. ถ้าสอบไม่ได้ ก็ช่วยไม่ได้ และไม่ควรไปวิจารณ์การคัดเลือก การเรียนการสอน และ แนวทางการรับราชการของบุคลากรเหล่านี้ ......................ส่วนใครจบมา ทำตัวดี หรือเลว อย่างไร เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลๆไป .................

ไม่ใช่สอบเข้าไปเรียนไม่ได้ แล้วมากล่าวประชดว่า เรียนฟรี มีอนาคต ............. ถ้าอยากเป็นแบบเขา "ต้องสอบให้ได้" ถ้าสอบไม่ได้ ก็ไปหาทางอื่น .........

ทางเลือกอีกทางหนึ่ง คือ จบ ป.ตรีแล้วเข้ารับราชการเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร .................. ก็สอบเข้าให้ได้ เมื่อเข้าไปแล้ว ก็ทำงานไปตามระบบ จะดี จะเลว อยู่ที่ตัวบุคคล .................... แต่ถ้าจะหวังว่าตัวเองไปเทียบกับ นายร้อยหลัก ก็คิดได้ และต้องทำงานให้ดีกว่า โอกาสก้าวหน้ามีแน่นอน .................... แต่บอกไว้ให้อย่างหนึ่งว่า สตช.เขามีแหล่งผลิต นายตำรวจหลัก ของหน่วยงานอยู่................

งานของนายสิบ ที่กล่าวมา............. ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ เขาจะให้นายร้อยไปทำได้ยังไง  คนที่เป็นนายสิบ มีใครบังคับ ............. สอบบรรจุเป็นพลตำรวจตอนแรกเจ้าตัวเลือกเองไม่ใช่หรือ .................... มีใครไปบังคับว่า สอบนายร้อยไม่ได้ ต้องไปสอบพลตำรวจเท่านั้น ........

ที่กล่าวว่างานนายร้อย นายสิบบางคนทำได้ดีกว่าเสียอีก ................ ก็ใช่ เพราะความเก๋า กับความใส่ใจในหน้าที่การงานที่พัฒนาตัวเองขึ้น .............. เขาถึงกำหนดให้มีการสอบเลื่อนฐานะจากนายตำรวจชั้นประทวน เป็นชั้นสัญญาบัตรไงครับ ................... อยากเลื่อนฐานะก็ต้องมีวุฒิตามที่กำหนด และ"ต้องสอบให้ได้" ........................ไม่เห็นมีอะไรแปลก แต่งานระดับนายพัน หานายสิบยาก ที่จะทำงานระดับนี้ได้ ............ ถ้าไม่ผ่านงานระดับนายร้อยมาก่อน ...........

ทั้งนายสิบ และนายร้อยบางคน ใน"ภาพรวม" เวลาเกเร เกตุง .............. เห็น"ดับ"ทุกราย ไม่ก้าวหน้ากันสักคน ............. ถ้าทำงานดี ก็เห็น"ได้ดี"กันทุกคน ................

สตช.เป็นหน่วยงานที่"มีสายการบังคับบัญชา" เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นๆของรัฐ แม้แต่บริษัท ก็มีสายการบังคับบัญชา .................การที่กล่าวว่า "นายพลนายพันประชุมกัน100กว่าคนถือว่าเป็นความเห็นของทั้งสตช.ทั้ง200,000คนใช่หรือไม่     " นั้น ............. ถ้าตอบตรงๆตามหลักการ"บังคับบัญชา" ก็ถือว่าใช่ เพราะว่าเป็นผู้รับผิดและรับชอบ ในการกระทำหรือตกลงใจทั้งสิ้น เป็นขอบเขตอำนาจหน้าที่ ตามที่ กฎหมายกำหนด ..................ถ้าเอาคนสามแสนกว่าคนใน สตช. มากระทำหรือตกลงใจพร้อมๆกัน คงพิลึก................ บริษัทเอกชน มีใครเขาให้พนักงานเป็นพันเป็นหมื่นคนมาตกลงใจในเรื่องกิจการบ้าง................เขามี Boss กันทั้งนั้น

ตราบใดที่เข้ามาอยู่ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นของรัฐ หรือเอกชน ................ ต้องดำเนินวิถีทางการทำงานไปตามระบบ .............ถ้าอยากจะตัดสินใจเอง ทำเอง ........... ก็ต้องเป็นเจ้าของกิจการเอง แบบหลงจู๊..............

การทำงานในองค์กรต่างๆนั้น .................ไม่เหมือนกับการเรียนหนังสือหรอกครับ

เรียนหนังสือ รับผิดชอบแค่ตัวเอง ............. เป็นไอดีลล้วนๆ ตามหลักวิชาการ ตามประสบการณืของผู้สอนที่จะถ่ายทอดให้ฟัง ให้คิด แต่ยังไม่ได้เจอกับตัว ...............

ทำงานเจอทั้งลูกน้องเจอทั้งนาย ................. ซ้ำยังต้องรับผิดชอบงานในหน้าที่ ไหนจะต้องกันตัวเองไม่ให้เข้าไปอยู่ในวังวนความชั่วร้าย  ................. ไหนจะระวังไม่ให้ไปขัดขาใคร ................... ไหนจะต้องพัฒนาตนเอง บุคลากร รวมถึงหน่วยงาน(ถ้าสำนึก) ............... ไหนจะต้องอึดอัดใจ ท้อใจ ลำบากใจ ในสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูกแต่นโยบายเบื้องสูงไม่ทำ ตามที่เราคิด .................. ไหนจะระวังตัวว่า ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้นาย ให้หน่วยงานเห็น แต่ต้องไม่เชื่อมั่นขนาด"ดื้อ" (เราคิดว่าเจ๋ง แต่คนอื่นว่าไอ้บ้านี่ดื้อ)....................... ฯลฯ

เลือกทางเองครับ ................ คนเรามีทางเลือกไม่มากนัก บางคนอาจจะแค่ทางเดียว (ถ้าไม่เปลี่ยนวิถีชีวิตกลางคัน) ...............

สอบเข้าไม่ได้ ก็อย่าบ่น .............. เลือกทางใหม่เอา ถ้าทุกคนเลือกได้ตามที่ใจนึก ทำตามที่ตนเองต้องการได้เสียทั้งหมด โลกใบนี้คงแปลกๆ

 :D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ เมษายน 07, 2009, 08:08:27 AM


                 เเต่ผมกลับไม่เห็นด้วยเลยครับ      ผมคิดว่าเป็นการเเก้ปัญหาที่กำปั้นทุบดินมากไปหน่อย        การที่คิดเเค่ว่ารับคนที่จบสูงๆมา     จะได้มีเเต่คนดีเเละเก่งผมว่ามันคนละเรื่องกันเลย     กลายเป็นว่าคนนึงจบป.ตรีจากมหาลัยได้เป็นนายสิบ    อีกคนจบสามพรานวุฒิระดับเดียวกันเเต่ได้เป็นนายร้อย   มันหมายความว่าหลักสูตรป.ตรีจากสามพรานมีคุณภาพกว่าของมหาลัยภายนอกหรือ??      คนอยากเป้นนายร้อยที่บ้านฐานะดีสอบเตรียมทหารติดได้เป็นว่าที่นายร้อยตั้งเเต่อายุ14      มีเงินเดือน   เสื้อผ้าฟรี  อุปกรณ์การเรียนฟรี     คนอยากเป็นนายสิบต้องขวนขวายเรียนเอง(ยากจนไม่มีปัญญาเรียนก็ไม่ต้องมาเป็นตำรวจ)        จนจบป.ตรี       เเล้วถึงจะมีสิทธิมาเป็นลูกน้องคนจบนายร้อยอีกทีเวรกรรมนายสิบบางคนกับเชี่ยวชาญกฏหมายหว่านายร้อยซะอีก    เเต่ต้องเป็นเเค่นายสิบ     เเล้ววุคิดดูว่างานของชั้นประทวนต่างๆ     ให้พวกนายร้อยมานั่งทำเขาจะทำกันไหม     นั่งเฝ้าห้องขัง   พิมพ์ลายนิ้วมือ   ยืนโบกรถตามสี่เเยก   พวกนี่ต้องใช้ความรู้ถึงวุฒิปริญญาตรีหรือ     ค่าเเรงค่าตอบเเทนสวัสดิการคุ้มหรือไม่    เเล้วนักเรียนนายสิบวุฒิปริญญาตรีที่ผ่านมาถือว่ามีคุณภาพหรือไม่    ผมเห้นเเต่พวกอยากเป้นนายร้อย    โดนหลอกขายฝันมาตอนสมัครว่า  สอบมาเป็นนายสิบชั่วคราว    เดี๋ยวมีสอบภายในก็ได้เป็นนายร้อย   วันๆไม่คิดอะไรมากทำงานเเบบถนอมตัว     อะไรเสี่ยงอะไรลำบากไม่ทำ    คิดว่าจบตั้งป.ตรีทำไมต้องมาลำบากเเบบพวกรุ่นพี่วุฒิม.6     วันๆจะรอสอบเป็นนายร้อยอย่างเดียว    ไม่มีความเคารพรุ่นพี่เลย   ถือว่าตัวเองจบมาสูงกว่าฉลาดกว่า    อนาคตนายร้อย  เเล้วงานมันจะไปมีคุณภาพได้ยังไง    นี่หรือคนเเบบที่สตช.ต้องการ     เเล้วคนที่เขาอาจจะตั้งใจเป้นตำรวจจริงๆ    เเต่ฐานะลำบากจบเเค่ม.6กลับไม่มีโอกาศเป็นตำรวจเลย    ผมเห็นตำรวจเยอะเเยะ    จบม.6มาสอบนายสิบ   พอเป็นตำรวจมีการมีงานไม่ลำบากที่บ้าน    เขาก็กระตือรือล้นที่จะขวนขวายเรียนต่อป.ตรี    จนได้เป็นนายร้อย      เเต่ต่อไปคนเหล่านี้จะไม่ได้รับโอกาศได้เป็นตำรวจอีกเเล้ว      โดยวัดคุณค่าของคนเพียงเเค่กระดาษเเผ่นเดียว    ที่บอกว่าผู้บังคับบัญชาหวังดีอะผมถามคำเดียวท่านทำอะไรเคยถามความเห็นลูกน้องบ้างหรือเปล่า   
                      หรือท่านคิดว่าท่านเองเก่งอยู่เเล้วทำอะไรไปก็ต้องถูกเสมอ(ลูกน้องมีหน้าที่เเค่ปฏิ
บัติตาม)     นายพลนายพันประชุมกัน100กว่าคนถือว่าเป็นความเห็นของทั้งสตช.ทั้ง200,000คนใช่หรือไม่     

ขอแสดงความเห็นด้วยคนนะครับ .............. ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้มีเส้นทางการเรียนและอาชีพ ตามที่เจ้าของกระทู้กล่าว แต่ออกแนวคล้ายๆกัน

ตามที่อ่านๆมา .............. จะบอกให้เป็นข้อมูลพิจารณาแนวทางในการกำหนดเส้นทาง (ต้องขออภัยไว้ก่อนถ้า"ตรง"เกินไป)

รร.นายร้อยตำรวจ (รร.นรต.) คือสถาบันที่ ตำรวจเขาตั้งมาเพื่อผลิต นายตำรวจ"หลัก" ของ สตช. ซึ่งการหล่อหลอมและเล่าเรียน สตช.เป็นคนกำหนด สำหรับการทำงานใน สตช. ที่สถาบันอื่นไม่ได้หล่อหลอมและเล่าเรียน ตามที่ สตช.กำหนด............... อย่างแรก ถ้าอยากเรียน ต้อง"สอบให้ได้" สอบได้ก็เข้าไป"เรียนให้จบ" ................. ถ้าสอบไม่ได้ ก็ช่วยไม่ได้ และไม่ควรไปวิจารณ์การคัดเลือก การเรียนการสอน และ แนวทางการรับราชการของบุคลากรเหล่านี้ ......................ส่วนใครจบมา ทำตัวดี หรือเลว อย่างไร เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลๆไป .................

ไม่ใช่สอบเข้าไปเรียนไม่ได้ แล้วมากล่าวประชดว่า เรียนฟรี มีอนาคต ............. ถ้าอยากเป็นแบบเขา "ต้องสอบให้ได้" ถ้าสอบไม่ได้ ก็ไปหาทางอื่น .........

ทางเลือกอีกทางหนึ่ง คือ จบ ป.ตรีแล้วเข้ารับราชการเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร .................. ก็สอบเข้าให้ได้ เมื่อเข้าไปแล้ว ก็ทำงานไปตามระบบ จะดี จะเลว อยู่ที่ตัวบุคคล .................... แต่ถ้าจะหวังว่าตัวเองไปเทียบกับ นายร้อยหลัก ก็คิดได้ และต้องทำงานให้ดีกว่า โอกาสก้าวหน้ามีแน่นอน .................... แต่บอกไว้ให้อย่างหนึ่งว่า สตช.เขามีแหล่งผลิต นายตำรวจหลัก ของหน่วยงานอยู่................

งานของนายสิบ ที่กล่าวมา............. ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ เขาจะให้นายร้อยไปทำได้ยังไง  คนที่เป็นนายสิบ มีใครบังคับ ............. สอบบรรจุเป็นพลตำรวจตอนแรกเจ้าตัวเลือกเองไม่ใช่หรือ .................... มีใครไปบังคับว่า สอบนายร้อยไม่ได้ ต้องไปสอบพลตำรวจเท่านั้น ........

ที่กล่าวว่างานนายร้อย นายสิบบางคนทำได้ดีกว่าเสียอีก ................ ก็ใช่ เพราะความเก๋า กับความใส่ใจในหน้าที่การงานที่พัฒนาตัวเองขึ้น .............. เขาถึงกำหนดให้มีการสอบเลื่อนฐานะจากนายตำรวจชั้นประทวน เป็นชั้นสัญญาบัตรไงครับ ................... อยากเลื่อนฐานะก็ต้องมีวุฒิตามที่กำหนด และ"ต้องสอบให้ได้" ........................ไม่เห็นมีอะไรแปลก แต่งานระดับนายพัน หานายสิบยาก ที่จะทำงานระดับนี้ได้ ............ ถ้าไม่ผ่านงานระดับนายร้อยมาก่อน ...........

ทั้งนายสิบ และนายร้อยบางคน ใน"ภาพรวม" เวลาเกเร เกตุง .............. เห็น"ดับ"ทุกราย ไม่ก้าวหน้ากันสักคน ............. ถ้าทำงานดี ก็เห็น"ได้ดี"กันทุกคน ................

สตช.เป็นหน่วยงานที่"มีสายการบังคับบัญชา" เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นๆของรัฐ แม้แต่บริษัท ก็มีสายการบังคับบัญชา .................การที่กล่าวว่า "นายพลนายพันประชุมกัน100กว่าคนถือว่าเป็นความเห็นของทั้งสตช.ทั้ง200,000คนใช่หรือไม่     " นั้น ............. ถ้าตอบตรงๆตามหลักการ"บังคับบัญชา" ก็ถือว่าใช่ เพราะว่าเป็นผู้รับผิดและรับชอบ ในการกระทำหรือตกลงใจทั้งสิ้น เป็นขอบเขตอำนาจหน้าที่ ตามที่ กฎหมายกำหนด ..................ถ้าเอาคนสามแสนกว่าคนใน สตช. มากระทำหรือตกลงใจพร้อมๆกัน คงพิลึก................ บริษัทเอกชน มีใครเขาให้พนักงานเป็นพันเป็นหมื่นคนมาตกลงใจในเรื่องกิจการบ้าง................เขามี Boss กันทั้งนั้น

ตราบใดที่เข้ามาอยู่ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นของรัฐ หรือเอกชน ................ ต้องดำเนินวิถีทางการทำงานไปตามระบบ .............ถ้าอยากจะตัดสินใจเอง ทำเอง ........... ก็ต้องเป็นเจ้าของกิจการเอง แบบหลงจู๊..............

การทำงานในองค์กรต่างๆนั้น .................ไม่เหมือนกับการเรียนหนังสือหรอกครับ

เรียนหนังสือ รับผิดชอบแค่ตัวเอง ............. เป็นไอดีลล้วนๆ ตามหลักวิชาการ ตามประสบการณืของผู้สอนที่จะถ่ายทอดให้ฟัง ให้คิด แต่ยังไม่ได้เจอกับตัว ...............

ทำงานเจอทั้งลูกน้องเจอทั้งนาย ................. ซ้ำยังต้องรับผิดชอบงานในหน้าที่ ไหนจะต้องกันตัวเองไม่ให้เข้าไปอยู่ในวังวนความชั่วร้าย  ................. ไหนจะระวังไม่ให้ไปขัดขาใคร ................... ไหนจะต้องพัฒนาตนเอง บุคลากร รวมถึงหน่วยงาน(ถ้าสำนึก) ............... ไหนจะต้องอึดอัดใจ ท้อใจ ลำบากใจ ในสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูกแต่นโยบายเบื้องสูงไม่ทำ ตามที่เราคิด .................. ไหนจะระวังตัวว่า ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้นาย ให้หน่วยงานเห็น แต่ต้องไม่เชื่อมั่นขนาด"ดื้อ" (เราคิดว่าเจ๋ง แต่คนอื่นว่าไอ้บ้านี่ดื้อ)....................... ฯลฯ

เลือกทางเองครับ ................ คนเรามีทางเลือกไม่มากนัก บางคนอาจจะแค่ทางเดียว (ถ้าไม่เปลี่ยนวิถีชีวิตกลางคัน) ...............

สอบเข้าไม่ได้ ก็อย่าบ่น .............. เลือกทางใหม่เอา ถ้าทุกคนเลือกได้ตามที่ใจนึก ทำตามที่ตนเองต้องการได้เสียทั้งหมด โลกใบนี้คงแปลกๆ

 :D


เสธฯ ฮธิบายไว้. ดี ครับ  ::002:: 


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ เมษายน 07, 2009, 09:19:14 AM
เท่าที่ทราบเบื้องต้น ทาง ตร. มีนโยบายให้ ระดับชั้นประทวนอยู่ในเขตภูมิลำเนาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา กำลังพลขอย้ายและทำให้กำลังพลขาดแคลน แต่ไม่ตัดสิทธิในการสมัครสอบในแต่ละภาค เช่น
นาย ก มีบ้านอยู่ที่อ่างทอง นาย ก ก็ไปสมัครสอบที่ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค ๑เมื่อเป็นตำรวจก็ต้องไปอยู่ที่อ่างทองหรือภายในเขตภูธรภาค ๑ แต่นาย ก จะไปสมัครสอบที่ ศูนย์ฝึกอบรมภาค ๒ ก็ได้ แต่ถ้าสอบได้เป็นตำรวจอาจจะต้องอยู่ทำงานภายในภาค ๒ 5 ปี 9 ปี แล้วแต่นโยบาย


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ เมษายน 07, 2009, 09:44:01 AM
เสริมอีกนิดหนึ่งครับ ..................

ลายเซ็นต์ของคุณ officerLudlow ที่เขียนไว้ตามนี้  "ใช้วุฒิป.ตรีรับนสต.เเน่จริงใช้วุฒิป.เอกคัดนายพลดิ"

ผมอ่านแล้วเข้าใจความหมายพอสมควรเลย  ::005:: ....................

เด็กรุ่นใหม่ จบใหม่ๆ คิดแบบนี้เยอะ .................. ว่าตัวเองจบปริญญาสูงๆ ทำไมต้องมาเป็นลูกน้อง คนจบ ป.ตรี .............. เคยมีคำพูดของคนทำงานระดับกลางๆ พูดว่า "กรูก็จบ ป.โท ทำไมต้องมาฟังหัวหน้าที่แม่งจบ ป.ตรี วะ กรูเรียนสูงกว่า จบสูงกว่าแม่งอีก" ............... ปัจจุบันเจ้าหน้าที่คนนี้อยู่ในพวกกำลังพลเสื่อม เพราะความถือดี ................ ว่าตัวเองเรียนสูง เลยพาลไม่ฟังผู้บังคับบัญชาตามสายงาน ทำงานก็ไม่ได้รับความร่วมมือ แถมถูกแอนตี้อีก งานการเลยล้มเหลว ..............ผลคือ เป็นคนกระด้างกระเดื่อง มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อหน่วยงานและเพื่อนร่วมงาน ................. ดับ เรียบร้อย เพราะเวลาจะมีการเสนอบำเหน็จหรือเลื่อนตำแหน่งใดๆ ................. เจ้าหน้าที่คนนี้ ถูกคัดชื่อออกเสมอ  สาเหตุคือ กระด้างกระเดื่อง ยะโส โอหัง และปากหมา (จบ ป.โท นึกว่าแน่หรือไง)............

นายพลที่คุณกล่าว .............. ถ้าบอกตามวิถีทางการรับราชการ แน่นอนย่อมต้องใช้วุฒิ ป.ตรีในการเข้าทำงาน ................. แต่กว่าจะดำรงตำแหน่งและมีชั้นยศนี้ได้ ................. การทำงาน การฝ่าฟันความยากลำบาก มีมากมาย ที่จะต้องไต่ระดับขึ้นมาได้ขนาดนี้ ตั้งแต่ระดับผู้ปฎิบัติงานเด็กๆ จนขึ้นมาอยู่ระดับผู้บริหารได้  ........................... การขึ้นสู่ตำแหน่งระดับการบังคับบัญชาระดับสูงๆ ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ  ไม่ใช่จบมาแล้วเป็น Boss ใหญ่เลย (ถ้าเป็นบริษัทที่พ่อเป็นเจ้าของ ก็ว่าไปอย่าง)..............ต้องประกอบไปด้วย อุปนิสัย การทำงาน การยอมรับ และที่สำคัญที่สุดคือ "สภาวะความเป็นผู้นำ" ....................

ซึ่งบางคน(เป็นส่วนใหญ่ด้วย) ที่ไปหรือขึ้นไม่ถึง ต่อให้จบ ป.เอกสัก 10 ใบด้วย ................... จบด๊อกเตอร์มา แต่หยิ่งยะโส โอหัง พองขน ใครพูดกรูไม่ฟังใคร เพราะกรูเก่ง จบด๊อกฯ ....................... ผมเห็นอยู่คนเดียวในโลกของตัวเองเสียส่วนใหญ่ ไม่มีใครคบ เพราะดูถูกคนอื่นเขาไปหมด ...................... ทำงานร่วมกับใครก็ไม่ได้ เพราะดูถูกเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมงานรังเกียจเอาเสียอีก ........... ไปๆมาๆ จบ ป.เอก แต่ทำงานง่ายๆตามที่ได้รับมอบ ไม่สำเร็จ เพราะความยะโสโอหัง ..................... ดับ ครับ ไม่รุ่งแน่นอน (บางครั้ง บางที คนขยันๆ ยังไม่รุ่งเลย คนยะโสโอหังจะรุ่งได้อย่างไร)..........................

คนที่จะเป็น"ผู้นำ"ได้ ................ ต้องเป็น"ผู้ตาม"ที่ดีมาก่อน ...............ตามระบบสายการบังคับบัญชาของหน่วยงานนั้นๆ

ปล. สำหรับสถาบันของเหล่าทัพและตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นนายร้อยหรือนายสิบ ............... อย่างหนึ่งที่เขา"ต้องสอน"และ"ต้องหล่อหลอม"ให้คนที่เรียนได้รับรู้และ"ซึมซับ" คือ "สภาวะความเป็นผู้นำ" และ"หลักการบังคับบัญชา" ครับ  ::002::



หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: บ่าวอู๋ ที่ เมษายน 07, 2009, 10:19:20 AM
ขออนุญาต จขกท. ครับ


เรียนถามพี่สมาชิกผู้รู้ 


เรื่องมีอยู่ว่า  มีคนเล่นการพนันกันแล้วพูดเสียดสีกันนี้แหละครับ...  คนที่โดนว่าก็เลยโกรธ เลยจะเอาปืนมายิง  ปืนที่ใช้เป็นปืนแก็ปครับ คนที่ปืนพูดขึ้นว่า  " ใหนคนไหนว่าให้กรู... ออกมา.." พร้อมกับยกปืนเตรียมจะยิง

เลยอยากจะถามว่า
 
1. คนที่จะยิงมีผิดมั้ย
2. ถ้าแจ้งตำรวจคนที่เล่นการพนันจะมีความผิดเกี่ยวกับการพนันรึเปล่าครับ

ปล. คนที่จะยิงยังเด็กอยู่เลยครับ อายุยังประมาณ 18 ปี
 
ขอบคุณครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ เมษายน 07, 2009, 03:04:39 PM
ขออนุญาต จขกท. ครับ


เรียนถามพี่สมาชิกผู้รู้ 


เรื่องมีอยู่ว่า  มีคนเล่นการพนันกันแล้วพูดเสียดสีกันนี้แหละครับ...  คนที่โดนว่าก็เลยโกรธ เลยจะเอาปืนมายิง  ปืนที่ใช้เป็นปืนแก็ปครับ คนที่ปืนพูดขึ้นว่า  " ใหนคนไหนว่าให้กรู... ออกมา.." พร้อมกับยกปืนเตรียมจะยิง

เลยอยากจะถามว่า
 
1. คนที่จะยิงมีผิดมั้ย
2. ถ้าแจ้งตำรวจคนที่เล่นการพนันจะมีความผิดเกี่ยวกับการพนันรึเปล่าครับ

ปล. คนที่จะยิงยังเด็กอยู่เลยครับ อายุยังประมาณ 18 ปี
 
ขอบคุณครับ  ::014::


ข้อเท็จจริงตอนยกอาวุธปืนแก๊ป เตรียมจะยิงนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า เด็กชายผู้นั้นมีความผิดฐานใด
- ขณะเรียกให้ออกมา มีคนออกมาหรือไม่
- อานุภาพและความร้ายแรงของปืนแก๊บนั้นว่าสามารถทำอันตรายได้ขนาดไหน อย่างไร
- หากมีคนออกมาตามคำเรียก เด็กชายใจร้อนผู้นั้น ยิงหรือไม่ ถ้ายิง ยิงถูกหรือไม่

ซึ่งสามารถระบุฐานความผิดได้หลายฐาน ฆ่า พยายามฆ่า เจตนาทำร้าย พยามยามทำร้าย เสรีภาพ หรือทำให้ตกใจกลัว ซึ่งต้องแล้วแต่ข้อเท็จจริงครับ
และถ้าอาวุธปืนแก๊บนั้น พนักงานสอบสวนทำการส่งตรวจแล้วเห็นว่า เป็นอาวุธปืน ตาม พรบ อาวุธ ปืน แล้ว ยังไงก็มีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ด้วยครับ

ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน เป็นความผิดที่ผู้เล่นในวงได้กระทำสำเร็จครบองค์ประกอบความผิดไปแล้ว ซึ่งแยกออกจากกันได้ไม่เกี่ยวกับคดีใช้ปืนแก๊ปจะยิง ผู้เล่นพนันจึงผิดแน่นอน ส่งผลให้พนักงานสอบสวนสามารถสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการพนันนั้นได้

แต่เท่าที่เคยเจอมา หากแจ้งเรื่องมีเหตุจะยิงกัน พนักงานสอบสวนมักจะสอบสวนสาเหตุของเรื่องที่จะยิงกันเท่านั้น ว่าทำอะไรอยู่ เหตุใดผู้ต้องหาจึงนำอาวุธมาจะยิง แต่จะไม่สอบสวนคดีเกี่ยวกับการพนันและดำเนินคดีกับผู้เล่นพนันก่อนมีเหตุยิง เพราะความยุ่งยากในการสอบสวน เนื่องจากไม่พบการกระทำผิดซึ่งหน้า ของกลางก็ไม่มี และหากพนักงานสอบสวนไปถามภายหลัง คงไม่มีใครรับว่าเล่นการพนันครับ   ;D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ เมษายน 08, 2009, 12:48:25 AM
เสริมอีกนิดหนึ่งครับ ..................

ลายเซ็นต์ของคุณ officerLudlow ที่เขียนไว้ตามนี้  "ใช้วุฒิป.ตรีรับนสต.เเน่จริงใช้วุฒิป.เอกคัดนายพลดิ"

ผมอ่านแล้วเข้าใจความหมายพอสมควรเลย  ::005:: ....................

เด็กรุ่นใหม่ จบใหม่ๆ คิดแบบนี้เยอะ .................. ว่าตัวเองจบปริญญาสูงๆ ทำไมต้องมาเป็นลูกน้อง คนจบ ป.ตรี .............. เคยมีคำพูดของคนทำงานระดับกลางๆ พูดว่า "กรูก็จบ ป.โท ทำไมต้องมาฟังหัวหน้าที่แม่งจบ ป.ตรี วะ กรูเรียนสูงกว่า จบสูงกว่าแม่งอีก" ............... ปัจจุบันเจ้าหน้าที่คนนี้อยู่ในพวกกำลังพลเสื่อม เพราะความถือดี ................ ว่าตัวเองเรียนสูง เลยพาลไม่ฟังผู้บังคับบัญชาตามสายงาน ทำงานก็ไม่ได้รับความร่วมมือ แถมถูกแอนตี้อีก งานการเลยล้มเหลว ..............ผลคือ เป็นคนกระด้างกระเดื่อง มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อหน่วยงานและเพื่อนร่วมงาน ................. ดับ เรียบร้อย เพราะเวลาจะมีการเสนอบำเหน็จหรือเลื่อนตำแหน่งใดๆ ................. เจ้าหน้าที่คนนี้ ถูกคัดชื่อออกเสมอ  สาเหตุคือ กระด้างกระเดื่อง ยะโส โอหัง และปากหมา (จบ ป.โท นึกว่าแน่หรือไง)............

นายพลที่คุณกล่าว .............. ถ้าบอกตามวิถีทางการรับราชการ แน่นอนย่อมต้องใช้วุฒิ ป.ตรีในการเข้าทำงาน ................. แต่กว่าจะดำรงตำแหน่งและมีชั้นยศนี้ได้ ................. การทำงาน การฝ่าฟันความยากลำบาก มีมากมาย ที่จะต้องไต่ระดับขึ้นมาได้ขนาดนี้ ตั้งแต่ระดับผู้ปฎิบัติงานเด็กๆ จนขึ้นมาอยู่ระดับผู้บริหารได้  ........................... การขึ้นสู่ตำแหน่งระดับการบังคับบัญชาระดับสูงๆ ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ  ไม่ใช่จบมาแล้วเป็น Boss ใหญ่เลย (ถ้าเป็นบริษัทที่พ่อเป็นเจ้าของ ก็ว่าไปอย่าง)..............ต้องประกอบไปด้วย อุปนิสัย การทำงาน การยอมรับ และที่สำคัญที่สุดคือ "สภาวะความเป็นผู้นำ" ....................

ซึ่งบางคน(เป็นส่วนใหญ่ด้วย) ที่ไปหรือขึ้นไม่ถึง ต่อให้จบ ป.เอกสัก 10 ใบด้วย ................... จบด๊อกเตอร์มา แต่หยิ่งยะโส โอหัง พองขน ใครพูดกรูไม่ฟังใคร เพราะกรูเก่ง จบด๊อกฯ ....................... ผมเห็นอยู่คนเดียวในโลกของตัวเองเสียส่วนใหญ่ ไม่มีใครคบ เพราะดูถูกคนอื่นเขาไปหมด ...................... ทำงานร่วมกับใครก็ไม่ได้ เพราะดูถูกเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมงานรังเกียจเอาเสียอีก ........... ไปๆมาๆ จบ ป.เอก แต่ทำงานง่ายๆตามที่ได้รับมอบ ไม่สำเร็จ เพราะความยะโสโอหัง ..................... ดับ ครับ ไม่รุ่งแน่นอน (บางครั้ง บางที คนขยันๆ ยังไม่รุ่งเลย คนยะโสโอหังจะรุ่งได้อย่างไร)..........................

คนที่จะเป็น"ผู้นำ"ได้ ................ ต้องเป็น"ผู้ตาม"ที่ดีมาก่อน ...............ตามระบบสายการบังคับบัญชาของหน่วยงานนั้นๆ

ปล. สำหรับสถาบันของเหล่าทัพและตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นนายร้อยหรือนายสิบ ............... อย่างหนึ่งที่เขา"ต้องสอน"และ"ต้องหล่อหลอม"ให้คนที่เรียนได้รับรู้และ"ซึมซับ" คือ "สภาวะความเป็นผู้นำ" และ"หลักการบังคับบัญชา" ครับ  ::002::




                    ครับผม  ยินดีรับฟังคำชี้เเนะครับผม     คืออันที่จริงผมไม่ได้มีเเนวความคิดที่ว่าจบสูงกว่าเเล้วจะต้องเก๋ากว่าหรอกครับ        ความหมายของลายเซ็นผมก็คือ      การที่จะเป็นนายพลนั้นสิ่งสำคัญมันก็อยู่ที่ผลงานที่ผ่านมา  การประเมินจากผู้บังคับบัญชา     ความขยันขันเเข็งความดีต่างๆ(อย่างที่คุณมะขิ่นว่านั้นผมเห้นด้วยครับ)   โดยที่มองถึงวุฒิป.เอกป.โทเป็นเรื่องรองลงไป(ให้เป็นความได้เปรียบส่วนบุคคล)   ไม่มีป.โทป.เอกก็ได้     ก็เป็นนายพลได้         ถ้าความรู้ความสามารถเเละความดีถึงขั้นเหมาะสมที่จะเป็นนายพล      เเต่การพิจารณารับนายสิบกับให้ความสำคัญกับใบปริญญามากเป็นอันดับ1     เรื่องอื่นค่อยว่ากัน(มันจึงทำให้เกิดพวกจบมาไม่รู้จะทำอะไรมาสอบตำรวจละกัน)    ซื้งผมคิดว่ามันจำกัดสิทธิกันเกินไป      ผมสัญชาติไทยโดยกำเนิด    เเละประเทศไทยก็มีสตช.เเห่งเดียวถ้าจะเป็นตำรวจ   ก็ต้องทำงานที่สตช.      ในขณะที่ถ้าอยากเป็นพ่อครัว    ผมจะไปเป็นพ่อครัวที่โรงเเรมไหนก็ได้มีเป็นร้อยเป็นพัน    เเล้วจะให้ผมไปสมัครสอบที่สตช.ประเทศอื่นเขาก็คงจะไม่รับ    ผมจึงเห็นว่าสตช.จะทำอะไรควรคำนึงถึงคนทั้งประเทศ    ไม่ใช้เเค่คนในสตช.เอง   เพราะมันส่งพลกระทบถึงคนไทยทั้งหมด
                   ส่วนที่บอกว่าก็ให้ไปสมัครนายสิบทหารบก  หรือจ่าทหารเรือเเทนทหารบกก็คือทหารบก  ตำรวจก็คือตำรวจ   มันคนละองค์กรกัน    ถ้าเปรียบทหารบกเป็นคน    ทหารบกก็คงจะบอกว่าอยากได้คนที่ตั้งใจจะเป็นทหารบกชืนชอบงานเเบบทหารบก    ไม่ใช้อยากได้พวกที่ผิดหวังจากตำรวจเเล้วจึงคิดจะมาเป็นทหารบก      ส่วนเรื่องโรงเรีนนายร้อยผมไม่ขอพูดถึงเพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้       ผมเห็นด้วยอยู่เเล้วว่าการสอบคัดเลือกนักเรียนนายร้อยมันก็เหมาะสมอยู่เเล้ว     ถ้าเข้าใจความหมายที่ผมพูด ก็จะเข้าใจว่าผมไม่ได้ประชดอะไรเลย 
                      ทั้งหมดที่ผมพิมพ์มาเป็นเเค่ความเห็นส่วนบุคคลนะครับ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)       ไม่ได้มีข้อมูลอ้างอิงอะไร         ผมพูดเพราะผมรู้สึกเสียดายโอกาสที่มันน้อยลงเท่านั้นเอง     เเละเผอิญมาเจอคุณWERASAKซึ่งมีข้อมูลเรื่องนี้      ผมก็เลยเเสดงเหตุผลทีไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้      เพราะจะได้รับฟังข้อมูลอีกด้านจากคุณWERASAKเท่านั้นเองครับ      ไม่ได้มีอารมณ์โกรธเกลียดอะไร     เเละยิ่งไม่ได้มีเจตตาจะว่าร้ายใครหรือหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น         หากทำให้ผู้ใดรู้สึกไม่สบายใจต้องขอโทษด้วยครับ      เเละก็ไม่ได้ยึดติดว่าตัวผมเองเท่านั้นที่ถูกต้อง       คนเราร้อยพ่อพันเเม่ต่างที่มาต่างคุณวุฒิ    ย่อมมีความิดเห็นที่ต่างกันออกไป     ผมไม่คิดเลยว่าเเค่คุยเรื่องสอบนสต.เเล้ว    บรรยากาศกระทู้มันจะเครียดขนาดนี้      เลยกลายเป็นผิดประเด็นจากหัวกระทู้ไปเลย   


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ เมษายน 08, 2009, 07:15:33 AM

                    ครับผม  ยินดีรับฟังคำชี้เเนะครับผม     คืออันที่จริงผมไม่ได้มีเเนวความคิดที่ว่าจบสูงกว่าเเล้วจะต้องเก๋ากว่าหรอกครับ        ความหมายของลายเซ็นผมก็คือ      การที่จะเป็นนายพลนั้นสิ่งสำคัญมันก็อยู่ที่ผลงานที่ผ่านมา  การประเมินจากผู้บังคับบัญชา     ความขยันขันเเข็งความดีต่างๆ(อย่างที่คุณมะขิ่นว่านั้นผมเห้นด้วยครับ)   โดยที่มองถึงวุฒิป.เอกป.โทเป็นเรื่องรองลงไป(ให้เป็นความได้เปรียบส่วนบุคคล)   ไม่มีป.โทป.เอกก็ได้     ก็เป็นนายพลได้         ถ้าความรู้ความสามารถเเละความดีถึงขั้นเหมาะสมที่จะเป็นนายพล      เเต่การพิจารณารับนายสิบกับให้ความสำคัญกับใบปริญญามากเป็นอันดับ1     เรื่องอื่นค่อยว่ากัน(มันจึงทำให้เกิดพวกจบมาไม่รู้จะทำอะไรมาสอบตำรวจละกัน)    ซื้งผมคิดว่ามันจำกัดสิทธิกันเกินไป      ผมสัญชาติไทยโดยกำเนิด    เเละประเทศไทยก็มีสตช.เเห่งเดียวถ้าจะเป็นตำรวจ   ก็ต้องทำงานที่สตช.      ในขณะที่ถ้าอยากเป็นพ่อครัว    ผมจะไปเป็นพ่อครัวที่โรงเเรมไหนก็ได้มีเป็นร้อยเป็นพัน    เเล้วจะให้ผมไปสมัครสอบที่สตช.ประเทศอื่นเขาก็คงจะไม่รับ    ผมจึงเห็นว่าสตช.จะทำอะไรควรคำนึงถึงคนทั้งประเทศ    ไม่ใช้เเค่คนในสตช.เอง   เพราะมันส่งพลกระทบถึงคนไทยทั้งหมด
                   ส่วนที่บอกว่าก็ให้ไปสมัครนายสิบทหารบก  หรือจ่าทหารเรือเเทนทหารบกก็คือทหารบก  ตำรวจก็คือตำรวจ   มันคนละองค์กรกัน    ถ้าเปรียบทหารบกเป็นคน    ทหารบกก็คงจะบอกว่าอยากได้คนที่ตั้งใจจะเป็นทหารบกชืนชอบงานเเบบทหารบก    ไม่ใช้อยากได้พวกที่ผิดหวังจากตำรวจเเล้วจึงคิดจะมาเป็นทหารบก      ส่วนเรื่องโรงเรีนนายร้อยผมไม่ขอพูดถึงเพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้       ผมเห็นด้วยอยู่เเล้วว่าการสอบคัดเลือกนักเรียนนายร้อยมันก็เหมาะสมอยู่เเล้ว    ส่วนเรื่องเรียนฟรี      ถ้าเข้าใจความหมายที่ผมพูด     ก็จะเข้าใจว่าผมไม่ได้ประชดอะไรเลย     เพราะเรื่องเรียนฟรี  มีเงินเดือน   มีค่าอุปกรณ์การเรียน   จบมาได้เป็นนายร้อย    มันเป็นจุดขายของโรงเรียนเตรียมทหารอยู่เเล้ว    เเละผมไปสอบเตรียมทหารก็เพราะข้อดีเหล่านี้    ตอนนี้เวลลาเจอน้องๆที่รู้จักผมก็จะเเนะนำให้ไปสอบเตรียมทหารด้วยเหตุผลเหล่านี้ครับ    เเต่ส่วนใหญ่จะบ่นว่าไม่ชอบเพราะกลัวร้อนบ้างกลัวลำบากบ้าง    ผมก็จะคอยเตือนว่าถ้ามันเลยวัยมาเเล้ว    ถึงคิดจะมาเป็นทหาร ตำรวจ   มันจะยุ่งยากซับซ้อนอีกมาก   มีโอกาสก็ควรจะรีบคว้าเอาไว้             
                      ทั้งหมดที่ผมพิมพ์มาเป็นเเค่ความเห็นส่วนบุคคลนะครับ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)       ไม่ได้มีข้อมูลอ้างอิงอะไร         ผมพูดเพราะผมรู้สึกเสียดายโอกาสที่มันน้อยลงเท่านั้นเอง     เเละเผอิญมาเจอคุณWERASAKซึ่งมีข้อมูลเรื่องนี้      ผมก็เลยเเสดงเหตุผลทีไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้      เพราะจะได้รับฟังข้อมูลอีกด้านจากคุณWERASAKเท่านั้นเองครับ      ไม่ได้มีอารมณ์โกรธเกลียดอะไร     เเละยิ่งไม่ได้มีเจตตาจะว่าร้ายใครหรือหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น         หากทำให้ผู้ใดรู้สึกไม่สบายใจต้องขอโทษด้วยครับ      เเละก็ไม่ได้ยึดติดว่าตัวผมเองเท่านั้นที่ถูกต้อง       คนเราร้อยพ่อพันเเม่ต่างที่มาต่างคุณวุฒิ    ย่อมมีความิดเห็นที่ต่างกันออกไป     ผมไม่คิดเลยว่าเเค่คุยเรื่องสอบนสต.เเล้ว    บรรยากาศกระทู้มันจะเครียดขนาดนี้      เลยกลายเป็นผิดประเด็นจากหัวกระทู้ไปเลย   



ผมเข้าใจความหมายที่คุณกล่าวครับ ...............และไม่ได้กล่าวให้คุณไปสมัครสอบโรงเรียนทหารเลย

แต่บางเรื่องคุณยังไม่รู้จริงอีกมาก....................

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเจ้าหน้าที่ระดับนายสิบนั้น ............. อำนาจหน้าที่และการปฎิบัติงาน ไม่จำเป็นต้องใช้คนที่มีวุฒิ ป.ตรี............เขาถึงกำหนดความรู้ของผู้ที่สอบเข้าไว้ที่ ม.3 ก็มีสิทธิที่จะเข้าสอบ และถ้าสอบได้ก็เข้าเรียน เรียนจบ ก็บรรจุ ............ทำงานไป

ใครจะจบสูงกว่ามาสมัครสอบ.................. เขาก็ไม่ว่าอะไร เพราะกำหนดวุฒิมาแค่นี้

เมื่อคนๆนี้บรรจุ ทำงานไปจนยศสูงขึ้น ............... เจ้าตัวอยากก้าวหน้า ก็ไปเรียนเพิ่ม และสอบเลื่อนฐานะเป็นนายร้อย ซึ่งย่อมต้องมีข้อกำหนดไว้ เช่น(สมมติ) เป็นสิบเอกมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือจ่ามาไม่ต่ำกว่า 3 ปี นับถึงวันที่รับสมัคร ....... ต้องจบ ป.ตรี ในหลักสูตรที่ กพ.รับรอง และมีหลักฐานการลาไปเรียนในเวลาราชการ ................ แล้วจึงจะมีสิทธิสมัครสอบ ได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง ...........

สำหรับข้อความนี้ " เพราะเรื่องเรียนฟรี  มีเงินเดือน   มีค่าอุปกรณ์การเรียน   จบมาได้เป็นนายร้อย    มันเป็นจุดขายของโรงเรียนเตรียมทหารอยู่เเล้ว    เเละผมไปสอบเตรียมทหารก็เพราะข้อดีเหล่านี้" และอีกข้อความคือ " เเต่ส่วนใหญ่จะบ่นว่าไม่ชอบเพราะกลัวร้อนบ้างกลัวลำบากบ้าง"................... ในฐานะผมเป็นศิษย์เก่า..............ขอบอกไว้เลยว่า

คุณยังรู้ไม่จริงและเข้าใจอะไรผิดๆมากไป ................... โดยเฉพาะคำว่า"จุดขาย" ผมฟังแล้วบอกตรงๆนะครับว่า ผมไม่พอใจที่คุณใช้คำนี้กับสถาบันของผม ................

จริงอยู่ การเข้าเรียนในสถาบันทหาร-ตำรวจ ย่อมได้รับสวัสดิการในการเรียน................ ซึ่งนัยยะคือ เป็นคนของหลวง แต่เฉพาะโรงเรียนเหล่าเท่านั้น ................ นักเรียนเตรียมทหาร ยังไม่ถือว่าเข้าประจำการ ค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเครื่องแต่งกาย ค่าขนม ยังเป็นภาระของผู้ปกครอง โรงเรียนให้แต่อุปกรณ์การเรียนเท่านั้น ...............

แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญ สำหรับการที่จะเข้ามาเรียนของบุคคลเหล่านี้อย่างแท้จริง ....................ความมุ่งหวังที่แท้จริง คือการเข้ามาเรียนเพื่อรับราชการ และต้องตั้งอุดมการณ์ไว้ ทำงาน................... เรียกว่าต้องการอนาคตที่ดี มีงานทำแน่นอน แต่ต้องทุ่มกาย ทุ่มใจอย่างมีอุดมการณ์ด้วย..............

ถ้ากลัวร้อนกลัวลำบากแต่เริ่มแรก ............ ก็ไม่สมควรจะเข้ามาเรียน ผมเห็นคนพวกนี้ สอบเข้ามาได้แค่อาทิตย์สองอาทิตย์ แล้วร้องจ๊าก ..............ฟ้องพ่อฟ้องแม่ ขอลาออกไปแต่ต้นมือก็เยอะ ..................เปลืองงบหลวงที่จะต้องเรียกตัวอะไหล่กลับเข้ามาเรียนในที่นั่งที่ว่าง ...................

ถ้าคิดว่าจะเข้าเรียนเพื่อเรียนฟรี มีอนาคตแค่นี้ ................ก็อย่าคิดเลยดีกว่า  อุปสรรคขวากหนามมันมีเยอะมากมาย  แค่สอบเข้าก็ยากเย็นแสนเข็ญแล้ว ............... เข้ามาคิดได้แค่นี้ ผมเห็นลาออกไปเป็นระยะๆ แม้กระทั่งจบมาแล้วสักพักยังมีการลาออกเลย เพราะแนวความคิดของเจ้าตัว ไปไม่ได้ กับระบบ .................

กระทู้นี้ผมว่าเริ่มเครียดแล้วล่ะ ............. เพราะคุณบังอาจมาวิจารณ์โรงเรียนเก่าผม ว่าเอาเรื่องเรียนฟรี มาเป็นจุดขาย

ถ้าคุณสอบเข้าเตรียมทหารไม่ได้ หรือไม่ได้สอบ ก็อย่าเอาความเห็นส่วนตัวของคุณมาวิจารณ์สถาบันของผม .................

อยากจะสอบอะไรก็สอบไป .................. เข้าให้ได้ก็แล้วกัน  แล้วขอให้สมหวังตามที่ได้ตั้งใจไว้

แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า หากในอนาคตคุณสอบบบรจุเป็นนายตำรวจได้ ก็อย่าไปกล่าวก้าวล่วงสถาบันของนายรัอยหลักก็แล้วกัน ..............เดี๋ยวจะมีเรื่องกันเปล่าๆ.....................เรื่องนี้เขาถือกัน

ปล. โรงเรียนเตรียมทหาร ไม่เคยง้อใครที่ไหน ให้เข้ามาสอบเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ............... อยากเข้ามาเรียนก็ต้องสอบเข้าให้ได้ เรียนให้จบ รับระบบให้ได้ ................. ไม่มีปัญญาสอบได้ ก็ไม่ต้องเข้ามาเรียน ไปเรียนที่อื่น............ มีเด็กหนุ่มที่มีความสามารถในประเทศนี้อีกเยอะ ที่ผ่านการทดสอบเข้ามาเรียนได้และเรียนจบได้ ...................และโรงเรียนนี้ไม่เคยเอาเรื่องสวัสดิการที่หลวงให้มาเป็นจุดขาย สำหรับล่อให้คนเข้ามาสอบ ................. เห็นแต่ตะเกียกตะกาย อยากสอบเข้ากันทั้งนั้น



หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ เมษายน 08, 2009, 09:42:22 AM
อืม........ผมจะพยายามไม่ทำให้กระทู้นี้เครียดนะครับ ;D และจะไม่กล่าวถึงระบบสถาบัน รร.นายร้อย ในแต่ละเหล่าด้วย แต่ขอคุยเรื่อง เฉพาะองค์การ จะดีกว่านะครับ
                  ส่วนเรื่อง วุฒิ ป.ตรี ที่ จขกท.มีความเห็นว่าไม่ควรใช้สำหรับสอบคัดเลือก เข้ามารับราชการเป็นชั้นประทวนโดยให้เหตุผลว่าเป็นการตัดโอกาสคนที่ไม่มีวุฒิดังกล่าว ทาง สตช.พิจารณาแล้วคงมีวิสัยทัศน์และมองไปในช่วงเวลาข้างหน้าว่าน่าจะเป็นการคัดกรองบุคคลให้มีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง เพื่อยกระดับการทำงานในลักษณะวิชาชีพตำรวจเพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและยอมรับในระดับความรู้ความสามารถของตำรวจ
ในข้อเท็จจริง สตช.ยังคงมีการรับตำรวจชั้นประทวน วุฒิต่ำกว่า ป.ตรี อยู่แต่รับน้อยมาก :) ยังไงรอดูตอนรับสมัครสอบบุคคลภายนอกอีกไม่กี่เดือนนี้ก็ได้ครับว่าจำนวนจะมีเท่าไรและในครั้งนี้ก็ไม่ได้มีคำกล่าวชวนเชื่อแบบที่ จขกท.กล่าวมาข้างต้น
ยังไงก็คุยกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ครับ ;D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ เมษายน 08, 2009, 09:57:57 AM
เพิ่มเติมเรื่องปริญญาตรีให้ครับ
ในประเทศอังกฤษ  และอีกหลายประเทศที่เดินตามอังกฤษ  จะไม่ให้ความสำคัญกับปริญญาตรี
โรงเรียนทหาร หรือโรงเรียนตำรวจ   ก็ไม่ได้ให้ความรู้ในวิชาสามัญ  ใครอยากได้ปริญญาตรี ก็ไปเรียนเอาเอง  แต่ได้มาแล้วก็ไม่มีผลกับชีวิตราชการ  เงินเดือนไม่เปลี่ยน   นักเรียนไทยที่ไปเรียนโรงเรียนนายร้อยอังกฤษ  ต้องเสียเวลาเรียนปริญญาตรี อีก 4 ปี   ส่วนที่ไปเรียนประเทศอื่นใช้เวลา 6 ปีเท่ากันแต่ได้ปริญญาโทกลับมาด้วย   แต่ไทยก็ยังส่งไปเรียนอังกฤษ กับสิงคโปร์ทุกปี  เพราะระบบอังกฤษก็มีความดีเด่นในตัวเอง

โรงเรียนนายสิบของอังกฤษ  สอนให้นักเรียนออกมาเป็นผู้บังคับหมู่   มีความรู้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่นี้ ให้ดีที่สุดในโลก  ใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ปี
โรงเรียนนายร้อย  ก็สอนให้ออกมาเป็นผู้บังคับหมวดที่ดีที่สุดในโลก  เรียนประมาณหนึ่งปีครึ่ง


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rambo1th ที่ เมษายน 08, 2009, 10:12:23 AM
เพิ่มเติมเรื่องปริญญาตรีให้ครับ
ในประเทศอังกฤษ  และอีกหลายประเทศที่เดินตามอังกฤษ  จะไม่ให้ความสำคัญกับปริญญาตรี
โรงเรียนทหาร หรือโรงเรียนตำรวจ   ก็ไม่ได้ให้ความรู้ในวิชาสามัญ  ใครอยากได้ปริญญาตรี ก็ไปเรียนเอาเอง  แต่ได้มาแล้วก็ไม่มีผลกับชีวิตราชการ  เงินเดือนไม่เปลี่ยน   นักเรียนไทยที่ไปเรียนโรงเรียนนายร้อยอังกฤษ  ต้องเสียเวลาเรียนปริญญาตรี อีก 4 ปี   ส่วนที่ไปเรียนประเทศอื่นใช้เวลา 6 ปีเท่ากันแต่ได้ปริญญาโทกลับมาด้วย   แต่ไทยก็ยังส่งไปเรียนอังกฤษ กับสิงคโปร์ทุกปี  เพราะระบบอังกฤษก็มีความดีเด่นในตัวเอง

โรงเรียนนายสิบของอังกฤษ  สอนให้นักเรียนออกมาเป็นผู้บังคับหมู่   มีความรู้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่นี้ ให้ดีที่สุดในโลก  ใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ปี
โรงเรียนนายร้อย  ก็สอนให้ออกมาเป็นผู้บังคับหมวดที่ดีที่สุดในโลก  เรียนประมาณหนึ่งปีครึ่ง


  รร. นายร้อย แซนด์เฮิร์ส ของอังกฤษ นี่เรียน 1 ปี ครึ่ง เองเหรอครับ ท่านผู้การ ยังงี้จบมา นายทหารใหม่ ร.ต. ไม่เด็กๆ กันเหรอครับ


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ เมษายน 08, 2009, 10:13:02 AM
สงสัยขอรบกวนพี่ๆที่อยู่อเมริกามาอธิบายเพิ่มเพื่อให้เห็นภาพเปรียบเทียบครับ ::014::
ในระบบตำรวจครับ ;D


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ เมษายน 08, 2009, 11:24:48 AM
เพิ่มเติมเรื่องปริญญาตรีให้ครับ
ในประเทศอังกฤษ  และอีกหลายประเทศที่เดินตามอังกฤษ  จะไม่ให้ความสำคัญกับปริญญาตรี
โรงเรียนทหาร หรือโรงเรียนตำรวจ   ก็ไม่ได้ให้ความรู้ในวิชาสามัญ  ใครอยากได้ปริญญาตรี ก็ไปเรียนเอาเอง  แต่ได้มาแล้วก็ไม่มีผลกับชีวิตราชการ  เงินเดือนไม่เปลี่ยน   นักเรียนไทยที่ไปเรียนโรงเรียนนายร้อยอังกฤษ  ต้องเสียเวลาเรียนปริญญาตรี อีก 4 ปี   ส่วนที่ไปเรียนประเทศอื่นใช้เวลา 6 ปีเท่ากันแต่ได้ปริญญาโทกลับมาด้วย   แต่ไทยก็ยังส่งไปเรียนอังกฤษ กับสิงคโปร์ทุกปี  เพราะระบบอังกฤษก็มีความดีเด่นในตัวเอง

โรงเรียนนายสิบของอังกฤษ  สอนให้นักเรียนออกมาเป็นผู้บังคับหมู่   มีความรู้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่นี้ ให้ดีที่สุดในโลก  ใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ปี
โรงเรียนนายร้อย  ก็สอนให้ออกมาเป็นผู้บังคับหมวดที่ดีที่สุดในโลก  เรียนประมาณหนึ่งปีครึ่ง


  รร. นายร้อย แซนด์เฮิร์ส ของอังกฤษ นี่เรียน 1 ปี ครึ่ง เองเหรอครับ ท่านผู้การ ยังงี้จบมา นายทหารใหม่ ร.ต. ไม่เด็กๆ กันเหรอครับ

ใช่ครับ  ผู้หมวดใหม่ ๆ ของเขาอายุประมาณยี่สิบปี   แต่ก็จะมีหลักสูตรเฉพาะหน้าที่ บังคับเรียน และประเมินค่าไปตลอด
นักเรียนนายเรือของเขาสมัยก่อน ยิ่งเด็กกว่านี้อีกครับ   เรียนบนบก 1-2 ปีแล้วลงเรือ ไปเป็นนักเรียนทำการนายเรือ (midshipman)  ทำงาน มีเงินดือนแล้ว  มีนายทหารเรือทั้งลำเป็นครูฝึก  อีก 2-3 ปีถึงจะเป็นนายเรือตรี  แต่ถ้า "ครู" ตายกันบ่อย ๆ ก็อาจจะเป็นเร็วกว่านั้น   อย่างเช่นเนลสัน แม่ทัพเรืออังกฤษ ก็เป็นนาวาเอก ก่อนอายุสามสิบ (แล้วตายในการรบตอนอายุ 47 เป็นพลเรือโท)


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ เมษายน 08, 2009, 11:35:19 AM
แล้วอย่างของ อเมริกา ทหารที่ถูกส่งไปอิรัค อายุต่ำสุดประมาณเท่าไหร่ครับท่านผู้การฯ ::014::


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ เมษายน 08, 2009, 12:05:56 PM
แล้วอย่างของ อเมริกา ทหารที่ถูกส่งไปอิรัค อายุต่ำสุดประมาณเท่าไหร่ครับท่านผู้การฯ ::014::
น่าจะ 18  19 นะครับดูจากคลิป


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 08, 2009, 03:49:35 PM
เพิ่มเติมเรื่องปริญญาตรีให้ครับ
ในประเทศอังกฤษ  และอีกหลายประเทศที่เดินตามอังกฤษ  จะไม่ให้ความสำคัญกับปริญญาตรี
โรงเรียนทหาร หรือโรงเรียนตำรวจ   ก็ไม่ได้ให้ความรู้ในวิชาสามัญ  ใครอยากได้ปริญญาตรี ก็ไปเรียนเอาเอง  แต่ได้มาแล้วก็ไม่มีผลกับชีวิตราชการ  เงินเดือนไม่เปลี่ยน   นักเรียนไทยที่ไปเรียนโรงเรียนนายร้อยอังกฤษ  ต้องเสียเวลาเรียนปริญญาตรี อีก 4 ปี   ส่วนที่ไปเรียนประเทศอื่นใช้เวลา 6 ปีเท่ากันแต่ได้ปริญญาโทกลับมาด้วย   แต่ไทยก็ยังส่งไปเรียนอังกฤษ กับสิงคโปร์ทุกปี  เพราะระบบอังกฤษก็มีความดีเด่นในตัวเอง

โรงเรียนนายสิบของอังกฤษ  สอนให้นักเรียนออกมาเป็นผู้บังคับหมู่   มีความรู้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่นี้ ให้ดีที่สุดในโลก  ใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ปี
โรงเรียนนายร้อย  ก็สอนให้ออกมาเป็นผู้บังคับหมวดที่ดีที่สุดในโลก  เรียนประมาณหนึ่งปีครึ่ง


  รร. นายร้อย แซนด์เฮิร์ส ของอังกฤษ นี่เรียน 1 ปี ครึ่ง เองเหรอครับ ท่านผู้การ ยังงี้จบมา นายทหารใหม่ ร.ต. ไม่เด็กๆ กันเหรอครับ

โรงเรียนมัธยมอังกฤษจะเรียนมากกว่าแบบเมกันปีหนึ่งครับ วิชาเทียบได้กับ ม. ปีหนึ่ง ป.ตรี หลักสูตรเขา 3 ปี

ตามที่ท่านผู้การสุพินท์บอก คนต่างชาติที่ไม่ได้เรียนระบบอังกฤษมาเลยต้องไปเรียนอีกปีเพิ่ม 6 ฟอร์มฯ คอเลจ ก่อน 1 ปี แล้วสอบ A level เข้า ม. เรียน ป.ตรี 3 ปี รวมเป็น 4 ปี

จบมัธยมเมืองไทยไปจะไปสอบ A level เพื่อเข้ามหาลัยเลยไม่ได้

รร. นายร้อย เขาไม่ได้ให้ ป.ตรี เหมือนของไทย คนที่เรียนถ้าอยากได้ ป. ต้องไปเรียน ม. ก่อนเอง หรือเรียนนายร้อยแล้วค่อยไปเรียนก็ได้ อย่างเจ้าชายวิลเลี่ยม จบ ป.ตรี แล้วค่อยมาเข้านายร้อย


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 08, 2009, 04:33:57 PM
อย่าไปน้อยใจครับเรื่องแบบนี้ ;D มีลูกน้องหลายคนที่จบป.ตรีแล้วยังสอบไม่ได้นายร้อยก็หลายคน ที่เรียนป.โทอยู่ก็มี
เป็นแนวทางที่ผู้บังคับบัญชาวางไว้ครับที่รับชั้นประทวนวุฒิ ป.ตรี เพื่อที่จะยกระดับตำรวจเราเองทั้งในด้านงบประมาณเงินเดือนของพวกเรา และจะได้ไม่โดนดูแคลนจากสังคมและหน่วยงานอื่นๆว่าตำรวจชั้นประทวน
ความรู้น้อย มันจะค่อยๆปรับไปครับถ้าเข้ารูปเข้ารอยแล้วเห็นระดับบนๆคุยกันว่าอาจมีการขอแก้ ป.วิอาญา บางมาตรา
หรือแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ชั้นประทวนเข้ามามีหน้าที่มากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับวุฒิที่รับเข้ามา
แต่บอกไว้ก่อนนะครับทุกวันนี้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจบป.โท กันเยอะแล้วนะครับ เป็นนายร้อยแล้วยังต้องดิ้นรน
ศึกษาต่อครับ ;D



                 เเต่ผมกลับไม่เห็นด้วยเลยครับ      ผมคิดว่าเป็นการเเก้ปัญหาที่กำปั้นทุบดินมากไปหน่อย        การที่คิดเเค่ว่ารับคนที่จบสูงๆมา     จะได้มีเเต่คนดีเเละเก่งผมว่ามันคนละเรื่องกันเลย     กลายเป็นว่าคนนึงจบป.ตรีจากมหาลัยได้เป็นนายสิบ    อีกคนจบสามพรานวุฒิระดับเดียวกันเเต่ได้เป็นนายร้อย   มันหมายความว่าหลักสูตรป.ตรีจากสามพรานมีคุณภาพกว่าของมหาลัยภายนอกหรือ??      คนอยากเป้นนายร้อยที่บ้านฐานะดีสอบเตรียมทหารติดได้เป็นว่าที่นายร้อยตั้งเเต่อายุ14      มีเงินเดือน   เสื้อผ้าฟรี  อุปกรณ์การเรียนฟรี     คนอยากเป็นนายสิบต้องขวนขวายเรียนเอง(ยากจนไม่มีปัญญาเรียนก็ไม่ต้องมาเป็นตำรวจ)        จนจบป.ตรี       เเล้วถึงจะมีสิทธิมาเป็นลูกน้องคนจบนายร้อยอีกทีเวรกรรมนายสิบบางคนกับเชี่ยวชาญกฏหมายหว่านายร้อยซะอีก    เเต่ต้องเป็นเเค่นายสิบ      เเล้ววุคิดดูว่างานของชั้นประทวนต่างๆ     ให้พวกนายร้อยมานั่งทำเขาจะทำกันไหม     นั่งเฝ้าห้องขัง   พิมพ์ลายนิ้วมือ   ยืนโบกรถตามสี่เเยก   พวกนี่ต้องใช้ความรู้ถึงวุฒิปริญญาตรีหรือ     ค่าเเรงค่าตอบเเทนสวัสดิการคุ้มหรือไม่    เเล้วนักเรียนนายสิบวุฒิปริญญาตรีที่ผ่านมาถือว่ามีคุณภาพหรือไม่    ผมเห้นเเต่พวกอยากเป้นนายร้อย    โดนหลอกขายฝันมาตอนสมัครว่า  สอบมาเป็นนายสิบชั่วคราว    เดี๋ยวมีสอบภายในก็ได้เป็นนายร้อย   วันๆไม่คิดอะไรมากทำงานเเบบถนอมตัว     อะไรเสี่ยงอะไรลำบากไม่ทำ    คิดว่าจบตั้งป.ตรีทำไมต้องมาลำบากเเบบพวกรุ่นพี่วุฒิม.6     วันๆจะรอสอบเป็นนายร้อยอย่างเดียว    ไม่มีความเคารพรุ่นพี่เลย   ถือว่าตัวเองจบมาสูงกว่าฉลาดกว่า    อนาคตนายร้อย  เเล้วงานมันจะไปมีคุณภาพได้ยังไง    นี่หรือคนเเบบที่สตช.ต้องการ     เเล้วคนที่เขาอาจจะตั้งใจเป้นตำรวจจริงๆ    เเต่ฐานะลำบากจบเเค่ม.6กลับไม่มีโอกาศเป็นตำรวจเลย    ผมเห็นตำรวจเยอะเเยะ    จบม.6มาสอบนายสิบ   พอเป็นตำรวจมีการมีงานไม่ลำบากที่บ้าน    เขาก็กระตือรือล้นที่จะขวนขวายเรียนต่อป.ตรี    จนได้เป็นนายร้อย      เเต่ต่อไปคนเหล่านี้จะไม่ได้รับโอกาศได้เป็นตำรวจอีกเเล้ว      โดยวัดคุณค่าของคนเพียงเเค่กระดาษเเผ่นเดียว    ที่บอกว่าผู้บังคับบัญชาหวังดีอะผมถามคำเดียวท่านทำอะไรเคยถามความเห็นลูกน้องบ้างหรือเปล่า   
                      หรือท่านคิดว่าท่านเองเก่งอยู่เเล้วทำอะไรไปก็ต้องถูกเสมอ(ลูกน้องมีหน้าที่เเค่ปฏิ
บัติตาม)     นายพลนายพันประชุมกัน100กว่าคนถือว่าเป็นความเห็นของทั้งสตช.ทั้ง200,000คนใช่หรือไม่     

ผมว่าตรงนี้ออกจะสมมติ "อะไรๆ" หลายอย่างไปครับ เรื่องฐานะอะไรๆ หรือที่จำกัดว่า ใครอยาก "เป็น" นายสิบ ใครอยาก "เป็น" นายร้อย นึกไม่ค่อยออกว่าใครอยากเป็นนายสิบเท่านั้น ซึ่งถ้ามี บุคคลนั้นๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าใครเรียนเตรียมฯ สามพรานฯ มาแล้วได้เป็นนายร้อย ใครๆ

ที่จริงเป็นเรื่องที่มีโอกาสสอบแล้วสอบไม่ได้ หรือรู้ตัวไม่ทันเลยหมดโอกาส

ทุกคนที่เกิดมาก็ต้องผ่านวัยสอบนายร้อยมาแล้วทั้งนั้น ถ้ารู้ตัวว่าอยากเป็นตำรวจทันอายุสอบแล้วคุณสมบัติอื่นๆ ครบ ก็ไปสอบกันได้ทุกคน



หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ เมษายน 10, 2009, 03:09:02 AM
              ยิ่งผมฟังเรื่องนายสิบวุฒิป.ตรี      นี้มากเท่าไร     ผมกลับรู้สึกว่ามีคนเห็นด้วยน้อยลงเท่านั้น        อย่างดีก็เเค่  ช่างมันเถอะเขาอยากทำอะไรก็ให้เขาทำไม   จะเจอกับคนที่เห็นด้วยน้อยๆมากๆ     คนที่เห็นด้วยกับนายสิบวุฒิป.ตรีที่ไม่ใช้ตำรวจผมยังไม่เคยพบเลย       บางคนมองเเง่ร้ายก็บอกว่าเป็นเรื่องของการช่วยเหลือพรรคพวกของผบ.ตร.คนก่อนโน้น     คิดว่าพอจบเเล้วก็น่าจะพับโครงการไปด้วย    เพราะว่าดูเหมือนจะไปขัดกับกฏหมายของก.พ.       เหมือนว่ารีบๆทำยังไงไม่รู้      เห็นว่าตอนนี้ผบ.ตร.ต้นคิดยังโดนคดีเรื่องการเเต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมยาวเป็นหางว่าวอยู่เลย       บางคนก็บอกมีประเทศไทยที่เดียวที่รับนายร้อยวุฒิม.3  รับนายสิบวุฒิป.ตรี     ไม่รู้จริงรึปล่าว(ของอเมริกาพอจะรู้  นอกนั้นไม่รู้เลย)       พอได้ไปอ่านเว็บบอร์ดตำรวจ    จึงทำให้รู้ว่ายังมีคนที่ลำบากกว่าผมอีกมาก    บางคนเรียนป.ตรีสาขาอื่นไปเเล้วก็เท่ากับหมดสิทธิกลับตัว(ยกเว้นจะมาเรียนป.ตรีกันใหม่    เกิดเรียนไป4ปีจบกลับมารับม.6อีกทีคงตลกพิลึก)           บางคนรับราชการมาเกือบ10ปีเจอเด็กเส้นเบียดในการสอบ    เหอ เหอ องค์กรนี้มันยังมีอะไรที่ผมไม่รู้อีกเยอะจริงๆ      เรื่องของผมกลายเป้นเด็กๆไปเลย     เผอิญผมเห็นในเว็บกองบัญชาการศึกษาเขาบอกว่าจะเป็นโครงการ4ปีรับประมาณ4,000คนหรือครับ     เเล้วจะพิจารณาใหม่หรือกลับไปรับม.6เหมือนเดิมรึปล่าวครับ      คนเขาบ่นกันว่าจะไปซ้ำรอยนโยบายตำรวจดับเพลิง    เรื่องตำรวจดับเพลิงนี้ผมไม่ค่อยมีข้อมูลเลย(เเต่มันจะได้ยินตำรวจบ่นถึงบ่อยๆ)       ตอนที่เกิดเรื่องผมน่าจะยังเด็กอยู่    คุณWERASAkเป็นตำรวจทันในช่วงนั้นรึปล่าวครับ    เรื่องราวมันเป็นยังไงช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยสิครับ     ขอบคุณครับ ::014::     


ปล.ผมเริ่มงงกับคุณมะขิ่นละ   ว่าผมไปว่าร้ายอะไร     ผมคิดว่าโรงเรียนเตรียมทหารนั้นก็ดีอยู่เเล้ว     ตอนผมไปติวสอบได้พบนรต.คนนึง   เป็นคนบอกกับผมว่า"เอ็งจะเป็นลูกชาวนามาจากไหนก็ตาม  ถ้าเอ็งสอบเตรียมทหารได้เอ็งก็จะมีที่เรียนมีอนาคต   พ่อเเม่เอ็งก็พลอยสบายไปด้วย    ส่วนความยากลำบากต่างๆนะคนอื่นเขาก็ผ่านได้ทำไมอ็งจะผ่านไม่ได้"    ซึ่งผมก็เชื่ออย่างนั้น   ผมเองก็มีเพื่อนเป็นนักเรียนนายร้อยจปร.อยู่ตอนนี้มันอยู่ปี2ละ    ตอนไปสอบก็ไปด้วยกันนี้เเละ    เเละมันก็คิดอย่างที่ผมคิดเนี้ยเเละ     จริงๆมันอยากเป็นตำรวจ      เเต่มันก็ดันไปติดทหารบก     มันก็ต้องเอาไว้ก่อน         ตอนก่อนไปสอบมันดูเป็นคนที่รักสบายที่สุดในกลุ่มเลยด้วยซ้ำ      เเต่มันก็ไม่ได้ย่อท้อต่อความยากลำบาก    จนผ่านเตรียมทหารไปสู้จปร.       เเละผมก็เชื่อว่ามันจะต้องเป็นทหารบกที่ดีในอนาคตได้เเน่ๆ     ผมไม่เคยดูถูกใคร   เเละไม่ชอบให้ใครมาดูถูกด้วย      คุณจะเป็นนายพลนายพันผมไม่สนใจ      เเต่คำพูดประมาณว่าไม่มีปัญญาสอบก็อย่าบ่น       หรือประมาณว่าเก่งไม่เท่าคุณก็อย่ามาเถียง      อะไรเเบบนี้ผมกลับไม่เคยได้ยินจากทหาร  ตำรวจคนไหนมาก่อนเลย         เเละผมต้องการจะบอกว่าการสอบเตรียมทหารนั้นดีอยู่เเล้ว    ให้โอกาสคนได้มีอนาคต  ได้ดิบได้ดี   ผมต้องการให้การสอบนายสิบดีเทียบเท่ากับการสอบเตรียมทหาร    เเล้วมันไม่ดีอย่างไร      ถ้าเตรียมทหารไม่ดีเเล้วผมจะไปสอบทำไม    เเล้วจะเเนะนำน้องๆให้ไปสอบเพื่ออะไร    คุณจะคิดอย่างไรก็ตามทุกคนก็มีสิทธิที่จะไปสอบเท่าเทียมกัน    จะลูกนายพลนายพัน   ลูกชาวนาก็1สิทธิเท่ากัน       เเม่เเต่โดนพ่อเเม่บังคับให้สอบก็มีสิทธิ    จะได้ไม่ได้เรียนจบไม่จบก้เเล้วเเต่บุคคล    ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเด็นที่ผมกล่าวมาเลย-*-


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ เมษายน 10, 2009, 08:45:47 AM

 ส่วนเรื่องเรียนฟรี      ถ้าเข้าใจความหมายที่ผมพูด     ก็จะเข้าใจว่าผมไม่ได้ประชดอะไรเลย     เพราะเรื่องเรียนฟรี  มีเงินเดือน   มีค่าอุปกรณ์การเรียน   จบมาได้เป็นนายร้อย    มันเป็นจุดขายของโรงเรียนเตรียมทหารอยู่เเล้ว   

ขออธิบายสั้นๆก็แล้วกันว่า

ผมไม่พอใจคำกล่าวของคุณคำนี้ .................ถ้าไม่เข้าใจก็ช่วยไม่ได้ ................. ผมไม่อธิบายเพิ่มแล้ว

ผมบอกเหมือนเดิมคือ ถ้าสอบเข้าไม่ได้ ก็อย่ามาบ่นว่าน้อยใจในวาสนา เพราะ สอบไม่ได้นั้น ไม่เกี่ยวกับวาสนา แต่เป็นความสามารถล้วนๆ.............. ช่วยไม่ได้ที่สอบไม่ได้เอง ..............

ถ้ายังมีทัศนคติแบบนี้ ก็ตามสบาย ...............

ผมเจอคนที่สอบเข้าเรียนสถาบันต่างๆไม่ได้ แล้วเที่ยวพูดเที่ยววิจารณ์สถาบันที่ตัวเองสอบเข้าไม่ได้ว่า ทำไมเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ...........ทำไม่ไม่ทำแบบนี้ แบบนั้น มาเยอะ................แบบ หมาป่าเห็นองุ่นเปรี้ยว  และผมก็ตำหนิคนพวกนี้ทุกครั้ง ..................

เหมือนเดิมครับ .............. ถ้าสอบเข้าเรียนไม่ได้ ก็อย่ามาวิจารณ์ว่า น่าจะทำอย่างโน้น อย่างนี้ ............ ไปหาแนวทางอื่นเอา

ผมจะเป็นนายพัน นายพลอะไร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องยกเรื่องนี้มาแขวะผมหรอก ................. มุ่งมั่นตั้งใจ สอบเข้าอะไรๆ ที่หวังให้ได้ก่อนเถิด ................ ถ้าความสามารถ"ถึง" ก็คงจะสอบได้แน่นอน ............... ถ้าสอบตำรวจไม่ได้ ก็อย่าไปวิจารณ์เขาอีกก็แล้วกัน

ขออวยพรให้สมหวังนะครับ ............... แล้วเวลาเข้าไปได้แล้ว(ถ้ามีปัญญาและความสามารถ) เจอนายพัน นายพลในนั้น คุณก็จะทราบเองว่า อาการ"จ๋อง"นั้น มีความรู้สึกอย่างไร ............เป็นเด็กๆ ตะเกียกคะกายเรียนและอยู่ข้างนอก ไม่รู้อะไรจริงๆอีกเยอะครับ

วาดฝันไปและทำให้ได้ก็แล้วกัน

ขอย้ำว่า คำๆนี้ "ส่วนเรื่องเรียนฟรี      ถ้าเข้าใจความหมายที่ผมพูด     ก็จะเข้าใจว่าผมไม่ได้ประชดอะไรเลย     เพราะเรื่องเรียนฟรี  มีเงินเดือน   มีค่าอุปกรณ์การเรียน   จบมาได้เป็นนายร้อย    มันเป็นจุดขายของโรงเรียนเตรียมทหารอยู่เเล้ว    "

ผมยังไม่พอใจคุณเช่นเดิม เพราะคุณบังอาจมาวิจารณ์สถาบันของผม จะน้อยอกน้อยใจอะไร ก็ไม่ต้องมาวิจารณ์สถาบันคนอื่น





หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ เมษายน 10, 2009, 09:24:21 AM
"วุฒิภาวะ" สำคัญมากนะครับ ท่านเจ้าของกระทู้ครับ สำคัญกว่าปริญญาบัตรมากมายนัก



หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ เมษายน 10, 2009, 09:32:53 AM
"วุฒิภาวะ" สำคัญมากนะครับ ท่านเจ้าของกระทู้ครับ สำคัญกว่าปริญญาบัตรมากมายนัก



...........................................   ::002:: ::002:: ::002:: 


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: officerLudlow ที่ เมษายน 10, 2009, 09:45:12 AM

 ส่วนเรื่องเรียนฟรี      ถ้าเข้าใจความหมายที่ผมพูด     ก็จะเข้าใจว่าผมไม่ได้ประชดอะไรเลย     เพราะเรื่องเรียนฟรี  มีเงินเดือน   มีค่าอุปกรณ์การเรียน   จบมาได้เป็นนายร้อย    มันเป็นจุดขายของโรงเรียนเตรียมทหารอยู่เเล้ว   

ขออธิบายสั้นๆก็แล้วกันว่า

ผมไม่พอใจคำกล่าวของคุณคำนี้ .................ถ้าไม่เข้าใจก็ช่วยไม่ได้ ................. ผมไม่อธิบายเพิ่มแล้ว

ผมบอกเหมือนเดิมคือ ถ้าสอบเข้าไม่ได้ ก็อย่ามาบ่นว่าน้อยใจในวาสนา เพราะ สอบไม่ได้นั้น ไม่เกี่ยวกับวาสนา แต่เป็นความสามารถล้วนๆ.............. ช่วยไม่ได้ที่สอบไม่ได้เอง ..............

ถ้ายังมีทัศนคติแบบนี้ ก็ตามสบาย ...............

ผมเจอคนที่สอบเข้าเรียนสถาบันต่างๆไม่ได้ แล้วเที่ยวพูดเที่ยววิจารณ์สถาบันที่ตัวเองสอบเข้าไม่ได้ว่า ทำไมเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ...........ทำไม่ไม่ทำแบบนี้ แบบนั้น มาเยอะ................แบบ หมาป่าเห็นองุ่นเปรี้ยว  และผมก็ตำหนิคนพวกนี้ทุกครั้ง ..................

เหมือนเดิมครับ .............. ถ้าสอบเข้าเรียนไม่ได้ ก็อย่ามาวิจารณ์ว่า น่าจะทำอย่างโน้น อย่างนี้ ............ ไปหาแนวทางอื่นเอา

ผมจะเป็นนายพัน นายพลอะไร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องยกเรื่องนี้มาแขวะผมหรอก ................. มุ่งมั่นตั้งใจ สอบเข้าอะไรๆ ที่หวังให้ได้ก่อนเถิด ................ ถ้าความสามารถ"ถึง" ก็คงจะสอบได้แน่นอน ............... ถ้าสอบตำรวจไม่ได้ ก็อย่าไปวิจารณ์เขาอีกก็แล้วกัน

ขออวยพรให้สมหวังนะครับ ............... แล้วเวลาเข้าไปได้แล้ว(ถ้ามีปัญญาและความสามารถ) เจอนายพัน นายพลในนั้น คุณก็จะทราบเองว่า อาการ"จ๋อง"นั้น มีความรู้สึกอย่างไร ............เป็นเด็กๆ ตะเกียกคะกายเรียนและอยู่ข้างนอก ไม่รู้อะไรจริงๆอีกเยอะครับ

วาดฝันไปและทำให้ได้ก็แล้วกัน

ขอย้ำว่า คำๆนี้ "ส่วนเรื่องเรียนฟรี      ถ้าเข้าใจความหมายที่ผมพูด     ก็จะเข้าใจว่าผมไม่ได้ประชดอะไรเลย     เพราะเรื่องเรียนฟรี  มีเงินเดือน   มีค่าอุปกรณ์การเรียน   จบมาได้เป็นนายร้อย    มันเป็นจุดขายของโรงเรียนเตรียมทหารอยู่เเล้ว    "

ผมยังไม่พอใจคุณเช่นเดิม เพราะคุณบังอาจมาวิจารณ์สถาบันของผม จะน้อยอกน้อยใจอะไร ก็ไม่ต้องมาวิจารณ์สถาบันคนอื่น





             ถ้าคุณมะขิ่นจะไม่พอใจ   ผมก็เข้าใจอยู่    คงเป็นที่วิธีการเขียนหรือการใช้คำของผมละมั้ง      คือผมเล่นจากร้านเนต     บางทีการพิมพ์การใช้คำมันก็มีข้อจำกัด     ไม่ใช้ว่านึกอะไรได้ก็จะกลับมาพิมพ์ใหม่ได้      เเต่ผมก็ยืนยันจริงๆว่าผมไม่ได้คิดว่าจะไปตำหนิอะไร     เกี่ยวกับองค์กรใดๆเลย       ผมสนใจอยู่กับเรื่องการสอบนายสิบ     เลยพยามยามพูดถึงเฉพาะที่เกี่ยวกัน      อาจตัดคำพูดให้สั้นๆห้วนๆ      เลยทำให้คุณไม่พอใจ         ผมไม่ได้โกรธอะไรคุณมะขิ่นเลย            มีข้องใจบ้างในบางคำพูดเป็นเรื่องธรรมดา      ผมตั้งใจเข้ามาเพื่อเสาะหาความรู้     ไม่ไดมีเจตนาจะเข้ามาทำกร่าง   หรือไปทะเลาะเบาะเเว้งกับใคร      ข้อความที่คุณมะขิ่นไม่สบายใจ     ผมก็ยอมรับว่าอาจจะใช้คำที่ทำให้เข้าใจผิดได้     ผมก็เลยลบไปเเล้ว       เพราะจริงๆก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่ผมต้องการจะทราบซักเท่าไร       ผมจะถือเป็นบทเรียนก็เเล้วกัน      จะพยามยามกลั่นกรองเเละตรวจทานคำพูดเหมาะสมกว่านี้          จะ ได้ไม่เกิดปัญหาเช่นนี้อีก                   


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ เมษายน 10, 2009, 09:46:09 AM
ถ้าจะทำมาหากิน และเอาดีทางกฎหมาย
อย่าใช้ความรู้สึกของตัวเอง เป็นตัวตัดสินอะไรง่ายๆครับ


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rambo1th ที่ เมษายน 10, 2009, 09:55:11 AM
แหม จริงๆ กระทู้นี้ก็หลากหลายแนว หลากหลายมุมมองดีครับ ......... บอก จขกท. ยังงี้นะ

1) ตร. ดับเพลิงนะเมื่อก่อนก็รับ คน จบ ม.6 มาสอบเป็นพลตำรวจ แล้วบรรจุกองบังคับการ ตร.ดับเพลิง ตามสถานีดับเพลิงต่างๆ สถานภาพเป็น ตร. เหมือนตร.ทั่วๆไป เพียงแต่มาดับเพลิงเท่านั้น แต่ ตอนนี้มีการถ่ายโอนอำนาจภารกิจการดับเพลิง หรือเรียกว่า การบรรเทาสาธารณภัย ไปให้ทาง กทม. ดูแล เลยถามความสมัครใจ ข้าราชการ ตร. ดับเพลิง ว่าใครจะโอนบ้าง ใครไม่โดอนก็จะให้อยู่เป็น ตร. เหมือนเดิม ผลปรากฏว่า ระดับสัญญาบัตร ขึ้นไป ส่วนใหญ่ ร.ต.อ. ไม่โอนเพราะได้ซี 6 - 7 กันถ้วนหน้า (เพราะตอนอยู่ ตร. ขึ้นสารวัตร พ.ต.ต.ไม่ได้) แถมอยู่ กทม ได้เป็นหัวหน้าสถานีอีก (ไปดูสถานีดับเพลิงจะเห็น หน.เป็นยศ ตร กันเยอะบางสถานี ด.ต. เป็นหัวหน้าสถานียังมี)  แถมมีค่าเสี่ยงภัยเข้าเวรอีกเดือนละ 5,000 อีก ปัจจุบันการรับ จนท.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับ 3 มีการรับ จากคนจบ ป.ตรี จากหลายสาขา เช่น วิศวะ กฎหมาย รัฐศาสตร์ และอีกหลายสาขา มีสอบว่ายน้ำ วิ่ง แบกสายยาง ถังอากาศ แบกหุ่น คนสมัครเยอะครับ เพราะรายได้ดี

2) ส่วนเรื่องคนอยากเป็น ตร. นั้น อยากให้ดูตอนนี้รับสมัคร ประทวน ป.ตรี สาย อก. จะเห็นว่าคนสมัครเป็นแสน เพราะรับทุกสาขา แต่พอรับ ประทวน ป.ตรี สายปราบปราม จะไม่เยอะมาก เพราะ รับ ป.ตรี กฎหมาย+รัฐศาสตร เพราะบางคนไปเปรียบเทียบกับ ปลัดอำเภอ เปรียบกับนายร้อยสอบเข้า เพราะวุฒิเท่ากัน แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มองลักษณะงานและการมีอาชีพการงานทำนะครับ ความก้าวหน้าในสายงาน ตร. นั้น คุณวุฒิ ไม่มีความหมายหรอก เป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆเท่านั้นเอง ถ้าได้เข้ามาสัมผัสจะทราบ จขกท. อย่าน้อยใจในวาสนาครับ พยายามมุมานะทำฝันให้ได้ครับ ไม่ได้ทางนี้ลองทางอื่นผมขอแนะนำสายปลัดอำเภอครับ จพง.ปกครอง 3 ดีนะครับถ้าความสามารถถึงก็ไต่ได้ถึง ผวจ.เลย เป็น หน. อส. ด้วย น่าจะเติมเต็มฝันของ จขกท. ได้นะครับผมเองยังมีฝันเลยว่าจะเป็นแบบ " ท่านนาจา " ให้ได้ (ซุ่มอ่านตำราสอบงวดหน้า) แต่ไม่รู้จะได้ไหมก็สอบไปเรื่อยๆ

3) อีกอย่างระบบ ตร. ทหาร นั้น เขามีระบบ เกียรติศักดิ์ ระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง กำกับอยู่นะครับ คนนอก เช่น จขกท. มองเข้าไปอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจนัก เขาซึมซับมาตั้งแต่เรียนเตรียทหารแล้ว มาต่อใน รร.จปร. อีก รร.นรต.อีก ตอนผมเข้าไปสัมผัสผมยังงงเลย ว่าจะมานั่งฉากทำไม(บ้าเปล่าวะ) กินข้าวดันมีท่าอีก(งง) นุ่งพุ่งซัดเท้าหลัง กี่ร้อยยก (จะทำไหวไหม) ซ่อมอีกสารพัด (จะทำทำไม)  แต่พอรู้ว่าเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านั้นคืออะไรก็รับสภาพ และปรับตัว(ทน) จนผ่านมาได้ อ้อ...........ผมไม่ได้มาจากเตรียมทหารนะครับ ผมมาจากบุคคลภายนอกสอบเข้ามาอบรม (ออกตัวไว้ก่อน)  และคำว่าอาการ จ๋อง ของท่านผู้การ มะขิ่น นั้น ผมก็เจอมาแล้ว แค่เดินผ่านจะทำความเคารพ (จะหลบดีไหม) , จะแดกเปล่าวะ , แค่มองหน้าสำรวจเนื้อตัวก็หนาวแล้ว

4) การเปรียบเทียบของ จขกท. นั้น ในมุมมองของคนภายนอกอาจจะมองว่าไม่เป็นธรรมบ้าง แต่ถ้ามุมมองของคนเป็นผู้บังคับบัญชาแล้ว เขาจะพูดว่า" ไม่ได้บังคับใครให้เข้ามาสอบ ใครไม่พอใจลาออกไป " ได้ยินจนบ่อยมาก และขอร้องนะครับอย่าเอาความก้าวหน้ามาเป็นตัวเปรียบเทียบ เพราะในสายงานทหาร ตร. นั้น คำว่า " กำเนิด " นั้นมีความหมายลึกซึ้งนัก ว่า คุณ " กำเนิดจากไหน "


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ เมษายน 10, 2009, 11:24:35 AM
แหม จริงๆ กระทู้นี้ก็หลากหลายแนว หลากหลายมุมมองดีครับ ......... บอก จขกท. ยังงี้นะ

1) ตร. ดับเพลิงนะเมื่อก่อนก็รับ คน จบ ม.6 มาสอบเป็นพลตำรวจ แล้วบรรจุกองบังคับการ ตร.ดับเพลิง ตามสถานีดับเพลิงต่างๆ สถานภาพเป็น ตร. เหมือนตร.ทั่วๆไป เพียงแต่มาดับเพลิงเท่านั้น แต่ ตอนนี้มีการถ่ายโอนอำนาจภารกิจการดับเพลิง หรือเรียกว่า การบรรเทาสาธารณภัย ไปให้ทาง กทม. ดูแล เลยถามความสมัครใจ ข้าราชการ ตร. ดับเพลิง ว่าใครจะโอนบ้าง ใครไม่โดอนก็จะให้อยู่เป็น ตร. เหมือนเดิม ผลปรากฏว่า ระดับสัญญาบัตร ขึ้นไป ส่วนใหญ่ ร.ต.อ. ไม่โอนเพราะได้ซี 6 - 7 กันถ้วนหน้า (เพราะตอนอยู่ ตร. ขึ้นสารวัตร พ.ต.ต.ไม่ได้) แถมอยู่ กทม ได้เป็นหัวหน้าสถานีอีก (ไปดูสถานีดับเพลิงจะเห็น หน.เป็นยศ ตร กันเยอะบางสถานี ด.ต. เป็นหัวหน้าสถานียังมี)  แถมมีค่าเสี่ยงภัยเข้าเวรอีกเดือนละ 5,000 อีก ปัจจุบันการรับ จนท.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับ 3 มีการรับ จากคนจบ ป.ตรี จากหลายสาขา เช่น วิศวะ กฎหมาย รัฐศาสตร์ และอีกหลายสาขา มีสอบว่ายน้ำ วิ่ง แบกสายยาง ถังอากาศ แบกหุ่น คนสมัครเยอะครับ เพราะรายได้ดี

2) ส่วนเรื่องคนอยากเป็น ตร. นั้น อยากให้ดูตอนนี้รับสมัคร ประทวน ป.ตรี สาย อก. จะเห็นว่าคนสมัครเป็นแสน เพราะรับทุกสาขา แต่พอรับ ประทวน ป.ตรี สายปราบปราม จะไม่เยอะมาก เพราะ รับ ป.ตรี กฎหมาย+รัฐศาสตร เพราะบางคนไปเปรียบเทียบกับ ปลัดอำเภอ เปรียบกับนายร้อยสอบเข้า เพราะวุฒิเท่ากัน แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มองลักษณะงานและการมีอาชีพการงานทำนะครับ ความก้าวหน้าในสายงาน ตร. นั้น คุณวุฒิ ไม่มีความหมายหรอก เป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆเท่านั้นเอง ถ้าได้เข้ามาสัมผัสจะทราบ จขกท. อย่าน้อยใจในวาสนาครับ พยายามมุมานะทำฝันให้ได้ครับ ไม่ได้ทางนี้ลองทางอื่นผมขอแนะนำสายปลัดอำเภอครับ จพง.ปกครอง 3 ดีนะครับถ้าความสามารถถึงก็ไต่ได้ถึง ผวจ.เลย เป็น หน. อส. ด้วย น่าจะเติมเต็มฝันของ จขกท. ได้นะครับผมเองยังมีฝันเลยว่าจะเป็นแบบ " ท่านนาจา " ให้ได้ (ซุ่มอ่านตำราสอบงวดหน้า) แต่ไม่รู้จะได้ไหมก็สอบไปเรื่อยๆ

3) อีกอย่างระบบ ตร. ทหาร นั้น เขามีระบบ เกียรติศักดิ์ ระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง กำกับอยู่นะครับ คนนอก เช่น จขกท. มองเข้าไปอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจนัก เขาซึมซับมาตั้งแต่เรียนเตรียทหารแล้ว มาต่อใน รร.จปร. อีก รร.นรต.อีก ตอนผมเข้าไปสัมผัสผมยังงงเลย ว่าจะมานั่งฉากทำไม(บ้าเปล่าวะ) กินข้าวดันมีท่าอีก(งง) นุ่งพุ่งซัดเท้าหลัง กี่ร้อยยก (จะทำไหวไหม) ซ่อมอีกสารพัด (จะทำทำไม)  แต่พอรู้ว่าเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านั้นคืออะไรก็รับสภาพ และปรับตัว(ทน) จนผ่านมาได้ อ้อ...........ผมไม่ได้มาจากเตรียมทหารนะครับ ผมมาจากบุคคลภายนอกสอบเข้ามาอบรม (ออกตัวไว้ก่อน)  และคำว่าอาการ จ๋อง ของท่านผู้การ มะขิ่น นั้น ผมก็เจอมาแล้ว แค่เดินผ่านจะทำความเคารพ (จะหลบดีไหม) , จะแดกเปล่าวะ , แค่มองหน้าสำรวจเนื้อตัวก็หนาวแล้ว

4) การเปรียบเทียบของ จขกท. นั้น ในมุมมองของคนภายนอกอาจจะมองว่าไม่เป็นธรรมบ้าง แต่ถ้ามุมมองของคนเป็นผู้บังคับบัญชาแล้ว เขาจะพูดว่า" ไม่ได้บังคับใครให้เข้ามาสอบ ใครไม่พอใจลาออกไป " ได้ยินจนบ่อยมาก และขอร้องนะครับอย่าเอาความก้าวหน้ามาเป็นตัวเปรียบเทียบ เพราะในสายงานทหาร ตร. นั้น คำว่า " กำเนิด " นั้นมีความหมายลึกซึ้งนัก ว่า คุณ " กำเนิดจากไหน "

ท่านrambo1th  น่ารักครับ ............

+1 ครับ ::002::



หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ เมษายน 10, 2009, 12:52:48 PM
แหม จริงๆ กระทู้นี้ก็หลากหลายแนว หลากหลายมุมมองดีครับ ......... บอก จขกท. ยังงี้นะ

1) ตร. ดับเพลิงนะเมื่อก่อนก็รับ คน จบ ม.6 มาสอบเป็นพลตำรวจ แล้วบรรจุกองบังคับการ ตร.ดับเพลิง ตามสถานีดับเพลิงต่างๆ สถานภาพเป็น ตร. เหมือนตร.ทั่วๆไป เพียงแต่มาดับเพลิงเท่านั้น แต่ ตอนนี้มีการถ่ายโอนอำนาจภารกิจการดับเพลิง หรือเรียกว่า การบรรเทาสาธารณภัย ไปให้ทาง กทม. ดูแล เลยถามความสมัครใจ ข้าราชการ ตร. ดับเพลิง ว่าใครจะโอนบ้าง ใครไม่โดอนก็จะให้อยู่เป็น ตร. เหมือนเดิม ผลปรากฏว่า ระดับสัญญาบัตร ขึ้นไป ส่วนใหญ่ ร.ต.อ. ไม่โอนเพราะได้ซี 6 - 7 กันถ้วนหน้า (เพราะตอนอยู่ ตร. ขึ้นสารวัตร พ.ต.ต.ไม่ได้) แถมอยู่ กทม ได้เป็นหัวหน้าสถานีอีก (ไปดูสถานีดับเพลิงจะเห็น หน.เป็นยศ ตร กันเยอะบางสถานี ด.ต. เป็นหัวหน้าสถานียังมี)  แถมมีค่าเสี่ยงภัยเข้าเวรอีกเดือนละ 5,000 อีก ปัจจุบันการรับ จนท.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับ 3 มีการรับ จากคนจบ ป.ตรี จากหลายสาขา เช่น วิศวะ กฎหมาย รัฐศาสตร์ และอีกหลายสาขา มีสอบว่ายน้ำ วิ่ง แบกสายยาง ถังอากาศ แบกหุ่น คนสมัครเยอะครับ เพราะรายได้ดี

2) ส่วนเรื่องคนอยากเป็น ตร. นั้น อยากให้ดูตอนนี้รับสมัคร ประทวน ป.ตรี สาย อก. จะเห็นว่าคนสมัครเป็นแสน เพราะรับทุกสาขา แต่พอรับ ประทวน ป.ตรี สายปราบปราม จะไม่เยอะมาก เพราะ รับ ป.ตรี กฎหมาย+รัฐศาสตร เพราะบางคนไปเปรียบเทียบกับ ปลัดอำเภอ เปรียบกับนายร้อยสอบเข้า เพราะวุฒิเท่ากัน แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มองลักษณะงานและการมีอาชีพการงานทำนะครับ ความก้าวหน้าในสายงาน ตร. นั้น คุณวุฒิ ไม่มีความหมายหรอก เป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆเท่านั้นเอง ถ้าได้เข้ามาสัมผัสจะทราบ จขกท. อย่าน้อยใจในวาสนาครับ พยายามมุมานะทำฝันให้ได้ครับ ไม่ได้ทางนี้ลองทางอื่นผมขอแนะนำสายปลัดอำเภอครับ จพง.ปกครอง 3 ดีนะครับถ้าความสามารถถึงก็ไต่ได้ถึง ผวจ.เลย เป็น หน. อส. ด้วย น่าจะเติมเต็มฝันของ จขกท. ได้นะครับผมเองยังมีฝันเลยว่าจะเป็นแบบ " ท่านนาจา " ให้ได้ (ซุ่มอ่านตำราสอบงวดหน้า) แต่ไม่รู้จะได้ไหมก็สอบไปเรื่อยๆ

3) อีกอย่างระบบ ตร. ทหาร นั้น เขามีระบบ เกียรติศักดิ์ ระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง กำกับอยู่นะครับ คนนอก เช่น จขกท. มองเข้าไปอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจนัก เขาซึมซับมาตั้งแต่เรียนเตรียทหารแล้ว มาต่อใน รร.จปร. อีก รร.นรต.อีก ตอนผมเข้าไปสัมผัสผมยังงงเลย ว่าจะมานั่งฉากทำไม(บ้าเปล่าวะ) กินข้าวดันมีท่าอีก(งง) นุ่งพุ่งซัดเท้าหลัง กี่ร้อยยก (จะทำไหวไหม) ซ่อมอีกสารพัด (จะทำทำไม)  แต่พอรู้ว่าเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านั้นคืออะไรก็รับสภาพ และปรับตัว(ทน) จนผ่านมาได้ อ้อ...........ผมไม่ได้มาจากเตรียมทหารนะครับ ผมมาจากบุคคลภายนอกสอบเข้ามาอบรม (ออกตัวไว้ก่อน)  และคำว่าอาการ จ๋อง ของท่านผู้การ มะขิ่น นั้น ผมก็เจอมาแล้ว แค่เดินผ่านจะทำความเคารพ (จะหลบดีไหม) , จะแดกเปล่าวะ , แค่มองหน้าสำรวจเนื้อตัวก็หนาวแล้ว

4) การเปรียบเทียบของ จขกท. นั้น ในมุมมองของคนภายนอกอาจจะมองว่าไม่เป็นธรรมบ้าง แต่ถ้ามุมมองของคนเป็นผู้บังคับบัญชาแล้ว เขาจะพูดว่า" ไม่ได้บังคับใครให้เข้ามาสอบ ใครไม่พอใจลาออกไป " ได้ยินจนบ่อยมาก และขอร้องนะครับอย่าเอาความก้าวหน้ามาเป็นตัวเปรียบเทียบ เพราะในสายงานทหาร ตร. นั้น คำว่า " กำเนิด " นั้นมีความหมายลึกซึ้งนัก ว่า คุณ " กำเนิดจากไหน "

ท่านrambo1th  น่ารักครับ ............

+1 ครับ ::002::


:D
+ ๑ แต้มให้ คุณ rambo1th  เหมือนกันครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: ขออนุญาตถามท่านสมาชิกเวปที่เรียนนิติศาสตร์มาหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ เมษายน 10, 2009, 07:01:35 PM
อืม....หายไปนาน กระทู้นี้ไวเหมือนกันนิ :D ขอตอบ จขกท.ก่อน
1 ถ้า จขกท. เป็นตำรวจอยู่ ต้องไปศึกษาหน่วยงานและองค์กรของ สตช.ว่ามีอะไรบ้าง ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆในเวปนี้
จะทราบดีว่าผมอยู่ส่วนไหนมาบ้าง และปัจจุบันผมได้บอกที่ทำงานไว้ในกระทู้ต้นๆแล้ว ส่วนเรื่องโยกย้ายไม่เป็นธรรมที่ ผบ.คนก่อนลองไปดูดีๆนะครับว่าใครโดนกันบ้าง ลองสอบถามผู้ที่ร้องทุกข์ดู ส่วนเรื่องการสอบไม่มีการใช้เส้นครับ
ถ้ามีเส้นใช้เส้นก็ไม่ต้องสอบ ได้เป็นเลยยอมรับว่ามีอยู่แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเท่าใดและบางคนผมได้รู้จักและมาเรียนหลักสูตรสารวัตรด้วยกันก็มี 8) แต่พวกนี้เขามีไลน์หรือเส้นทางของเขาอยู่แล้วครับไม่เกี่ยวกับเรา
ส่วนเรื่องโครงการ 4 ปีจำนวน 4,000 คน เป็นการต้องการตำรวจชั้นประทวนขั้นต่ำภายในระยะเวลาดังกล่าว เนื่องจาก
ขณะนี้การขาดแคลนกำลังพลในระดับชั้นประทวน- นายร้อย เป็นปัญหามาก+ปัญหากำลังพลเสื่อมสภาพเริ่มมากขึ้น
ทำให้ตอนนี้ภาระงานต่อคนของตำรวจเกินกว่าที่จะแบกแล้ว ถ้าได้กำลังคนเพิ่มจากเดิมซึ่ง สตช.ต้องการรับมากกว่านี้
แต่ติดขัดที่งบประมาณ ขอเต็มที่จึงได้แค่ 4000 คนเท่านั้น ส่วนเรื่องรับ นสต.วุฒิ ป.ตรี ผมได้ยินนายระดับนายพลตำรวจตรีพูดๆกันเรื่องปัญหาภายในแต่ นายบอกว่าดูปัญหาว่ามีผลกระทบกับประชาชนและสังคมหรือเปล่า
ประชาชนและสังคมพอใจกับการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจชั้นประทวนวุฒิป.ตรีนี้หรือไม่
                     ดังนั้นโครงการนี้จะเป็นอย่างไรอยู่ที่ประชาชนครับและนี่ก็เพิ่งจะเริ่มปีที่ 2 เองแต่จำนวนยังไม่ถึงครึ่งของ 4000 คนเลย และที่สำคัญมันไม่เกี่ยวกับ ตำรวจดับเพลิงเลยครับ ช่วงที่เปลี่ยนให้ ตร.ดับเพลิงไปอยู่กับ กทม. ผมเป็นตำรวจแล้วครับก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรมากนะครับมีปัญหาแค่ระดับ รองผู้บังคับการเรื่องการเทียบซี
อย่างที่ท่าน rambo1th ว่าไว้ละครับ โอนไปเงินเดือนเพิ่มค่าตอบแทนเพิ่ม ไม่มีปัญหาครับ ดูอย่างขนส่งสิครับ
ทุกวันนี้ตำรวจที่โอนย้ายไปเหลือไม่เท่าไรแล้วครับส่วนใหญ่เกษียณไปแล้ว :D
                       อ้อ.....ขอเตือนเรื่องวินัย และการเคารพระหว่างผู้น้อยกับผู้ใหญ่นะครับ ;D ;D