|
หัวข้อ: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 10:38:39 AM พึ่งได้รับเมล์เลยเอามาแบ่งกันอ่านครับ ไม่รู้ว่าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่า ::005::
กว่าจะรู้ก็ครี่งหนึ่งของชีวิตแล้ว เฮ้อ หลงกินเข้าไปตั้งนาน มันกุ้ง ที่ชอบกินกันรู้มั๊ยคืออะไร มันกุ้ง มันปู คือ ตับ ทำหน้าที่เหมือนตับของสัตว์อื่นๆ คือ กรองสารพิษและเชื้อโรคออกจากกระแสเลือด สร้างน้ำย่อย จึงเป็นที่รวมของสารพิษต่างๆ ( หน้าตาไม่เห็นจะเหมือนตับมนุษย์หรือตับไก่ตรงไหน) เวลาตรวจหาสารโลหะหนักหรือสารพิษต่างๆ จึงใช้ส่วนหัวที่มีมันไปตรวจ และโดยส่วนตัวมันกุ้งแล้ว ยังอุดมไปด้วยคลอเรสเตอรอล ดังนั้นอาจพูดได้ว่าเป็นแหล่งรวมโรคและสารพิษของกุ้งก็ว่าได้ครับ ^ ^ การผ่านความร้อนในกระบวนการทำอาหาร ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ก็จริง แต่ว่าพวกสารพิษอย่างโลหะหนักล่ะ ? สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำจืด สำนักวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กรมประมง ในวันและเวลาราชการ หรือโทรศัพท์ 0-2579-4122 หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 10:47:24 AM อืมห์ กินต่อไป เดี๋ยวนี้อะไรๆก็มีแต่สารพิษ สารก่อมะเร็งไปหมด ไปกินผักกูด ผักติ้ว ผักคันจอง ผักแว่น ปลาซิวปลาสร้อยดีกว่า ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 10:56:16 AM กินกุ้งฝอยอาจช่วยได้นะ ตับมันเล็กดี ;D
คิดถึงสมัยก่อนที่ยังเป็นเด็ก (ไม่กี่ปีมานี่เอง) อยากกินอะไรก็เดินไปทุ่งนาแถวบ้านเดินไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง อยากกินปลาก็ปักเบ็ดธงไว้ ไม่ถึงชั่วโมง ได้แล้วปลาหมอปลาช่อนสี่ซ้าห้าตัว งามๆทั้งนั้น อยากกินกุ้งฝอยเอาสวิงไปช้อนตามทุ่งนาแอ่งน้ำ แป้บเดียวได้จานนึง ปลากดปลาแขยงปลาหมูเอามาต้มส้มใบมะขามอยากได้ไปดึงเรือที่จมอยู่ในห้วยขึ้นมา ได้แล้วสิบกว่าตัว ต้มแกงว่ากันไป ผักเผิกหาเก็บเอาแถวๆบ้าน วู้ยยยยมีฟามสุขแท้ๆ เดี๋ยวนี้อะไรก็กินไม่ได้ มีสารพิษมีสารก่อมะเร็ง มีนู่นมีนี่ พาลจะทำให้เสียสุขภาพจิตไปอีก :P หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 10:58:28 AM แต่มันกุ้งหรือมันปูก็อร่อยแท้ๆน๊อ... ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:06:38 AM ขอบคุณมากครับ คุณ กระต่ายป่า. :D
กินกุ้งฝอยอาจช่วยได้นะ ตับมันเล็กดี ;D คิดถึงสมัยก่อนที่ยังเป็นเด็ก (ไม่กี่ปีมานี่เอง) อยากกินอะไรก็เดินไปทุ่งนาแถวบ้านเดินไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง อยากกินปลาก็ปักเบ็ดธงไว้ ไม่ถึงชั่วโมง ได้แล้วปลาหมอปลาช่อนสี่ซ้าห้าตัว งามๆทั้งนั้น อยากกินกุ้งฝอยเอาสวิงไปช้อนตามทุ่งนาแอ่งน้ำ แป้บเดียวได้จานนึง ปลากดปลาแขยงปลาหมูเอามาต้มส้มใบมะขามอยากได้ไปดึงเรือที่จมอยู่ในห้วยขึ้นมา ได้แล้วสิบกว่าตัว ต้มแกงว่ากันไป ผักเผิกหาเก็บเอาแถวๆบ้าน วู้ยยยยมีฟามสุขแท้ๆ เดี๋ยวนี้อะไรก็กินไม่ได้ มีสารพิษมีสารก่อมะเร็ง มีนู่นมีนี่ พาลจะทำให้เสียสุขภาพจิตไปอีก :P อยากได้พบ บรรยากาศ แบบนี้ บ้างครับ..ไปปักเต้นท์ เอาหนังสือไปอ่าน.. มี. ๙ พารา หรือ .๔๕ เป็นเพื่อน ก่อไฟทำครัว ง่าย ๆ อยู่กับธรรมชาติ สันโดษ ดีครับ. :D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:08:00 AM กินกุ้งฝอยอาจช่วยได้นะ ตับมันเล็กดี ;D คิดถึงสมัยก่อนที่ยังเป็นเด็ก (ไม่กี่ปีมานี่เอง) อยากกินอะไรก็เดินไปทุ่งนาแถวบ้านเดินไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง อยากกินปลาก็ปักเบ็ดธงไว้ ไม่ถึงชั่วโมง ได้แล้วปลาหมอปลาช่อนสี่ซ้าห้าตัว งามๆทั้งนั้น อยากกินกุ้งฝอยเอาสวิงไปช้อนตามทุ่งนาแอ่งน้ำ แป้บเดียวได้จานนึง ปลากดปลาแขยงปลาหมูเอามาต้มส้มใบมะขามอยากได้ไปดึงเรือที่จมอยู่ในห้วยขึ้นมา ได้แล้วสิบกว่าตัว ต้มแกงว่ากันไป ผักเผิกหาเก็บเอาแถวๆบ้าน วู้ยยยยมีฟามสุขแท้ๆ เดี๋ยวนี้อะไรก็กินไม่ได้ มีสารพิษมีสารก่อมะเร็ง มีนู่นมีนี่ พาลจะทำให้เสียสุขภาพจิตไปอีก :P สมัยเป็นเด็กหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปเที่ยวบ้านตาบ้านยายซึ่งเป็นไร่นาสวนผสม เอาเสียมกับกระป๋องนมเก่า ๆ ขุดไส้เดือน แล้วก็ลงเบ็ด ไว้ตามริมน้ำอย่างน้อย ๆ คืนนึงปลาดุก 20-30 ตัว ทำกับข้าวได้หลายอย่างเลยครับคุณ soveat ผมกำลังอ่านย้อนหลังความรู้เชิงพราน อ่านได้ 20 กว่าหน้าแล้วล่ะครับ ;D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:12:23 AM ขอบคุณมากครับ คุณ กระต่ายป่า. :D กินกุ้งฝอยอาจช่วยได้นะ ตับมันเล็กดี ;D คิดถึงสมัยก่อนที่ยังเป็นเด็ก (ไม่กี่ปีมานี่เอง) อยากกินอะไรก็เดินไปทุ่งนาแถวบ้านเดินไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง อยากกินปลาก็ปักเบ็ดธงไว้ ไม่ถึงชั่วโมง ได้แล้วปลาหมอปลาช่อนสี่ซ้าห้าตัว งามๆทั้งนั้น อยากกินกุ้งฝอยเอาสวิงไปช้อนตามทุ่งนาแอ่งน้ำ แป้บเดียวได้จานนึง ปลากดปลาแขยงปลาหมูเอามาต้มส้มใบมะขามอยากได้ไปดึงเรือที่จมอยู่ในห้วยขึ้นมา ได้แล้วสิบกว่าตัว ต้มแกงว่ากันไป ผักเผิกหาเก็บเอาแถวๆบ้าน วู้ยยยยมีฟามสุขแท้ๆ เดี๋ยวนี้อะไรก็กินไม่ได้ มีสารพิษมีสารก่อมะเร็ง มีนู่นมีนี่ พาลจะทำให้เสียสุขภาพจิตไปอีก :P อยากได้พบ บรรยากาศ แบบนี้ บ้างครับ..ไปปักเต้นท์ เอาหนังสือไปอ่าน.. มี. ๙ พารา หรือ .๔๕ เป็นเพื่อน ก่อไฟทำครัว ง่าย ๆ อยู่กับธรรมชาติ สันโดษ ดีครับ. :D แฮ่ๆ ด้วยความเคารพ ผมอยากได้รับบรรยากาศแบบที่พี่โร้ดเคยท่องเที่ยวหาประสพการณ์เหมือนกันครับ ::014:: :D :D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:14:23 AM กินกุ้งฝอยอาจช่วยได้นะ ตับมันเล็กดี ;D คิดถึงสมัยก่อนที่ยังเป็นเด็ก (ไม่กี่ปีมานี่เอง) อยากกินอะไรก็เดินไปทุ่งนาแถวบ้านเดินไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง อยากกินปลาก็ปักเบ็ดธงไว้ ไม่ถึงชั่วโมง ได้แล้วปลาหมอปลาช่อนสี่ซ้าห้าตัว งามๆทั้งนั้น อยากกินกุ้งฝอยเอาสวิงไปช้อนตามทุ่งนาแอ่งน้ำ แป้บเดียวได้จานนึง ปลากดปลาแขยงปลาหมูเอามาต้มส้มใบมะขามอยากได้ไปดึงเรือที่จมอยู่ในห้วยขึ้นมา ได้แล้วสิบกว่าตัว ต้มแกงว่ากันไป ผักเผิกหาเก็บเอาแถวๆบ้าน วู้ยยยยมีฟามสุขแท้ๆ เดี๋ยวนี้อะไรก็กินไม่ได้ มีสารพิษมีสารก่อมะเร็ง มีนู่นมีนี่ พาลจะทำให้เสียสุขภาพจิตไปอีก :P สมัยเป็นเด็กหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปเที่ยวบ้านตาบ้านยายซึ่งเป็นไร่นาสวนผสม เอาเสียมกับกระป๋องนมเก่า ๆ ขุดไส้เดือน แล้วก็ลงเบ็ด ไว้ตามริมน้ำอย่างน้อย ๆ คืนนึงปลาดุก 20-30 ตัว ทำกับข้าวได้หลายอย่างเลยครับคุณ soveat ผมกำลังอ่านย้อนหลังความรู้เชิงพราน อ่านได้ 20 กว่าหน้าแล้วล่ะครับ ;D แบบนั้นเลยครับ แต่เมื่อก่อนตอนอายุสัก 12-13 ขวบ ปักเป็ดธงนี่ได้แต่ปลาดุกอุย กับปลาหมอปลาช่อน มีครั้งนึงได้ปลาช่อนดัวเกือบสองกิโล ไดใจจับใส่ข้องเอาไปวิ่งโชว์รอบหมู่บ้านเลย ;D ;D สำหรับกุ้งแม่น้ำขนาดบิ๊กบึ้มนี่เคยจับได้แค่สองตัวในชีวิต จำได้แม่นเลยว่าเป็นประมาณปี 31-32 นี่แหละ ล้อมก่ำเอาไม้ออกแล้วงมปลาสนุกสนานไปเรื่อย โดนพวกหนีบนิ้วเอาตกใจวิ่งขึ้นจากน้ำทั้งๆที่กุ้งก็หนีบอยู่อย่างนั้น วันนั้นได้กุ้งสองตัว โลกว่าๆ เผากินอร่อยมากกกกกกก หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:15:12 AM คิดมากกันไปครับ
สภาพแวดล้อม รอบตัวเรา เดี๋ยวนี้ ก็พาลจะก่อมะเร็ง ได้อยู่แล้วครับ ทั้งทอด ปิ้ง ย่าง น้ำมันเก่า สูดไอควัน ทั้ง บุหรี่ และ รถ ล้วนบั่นทอน อยู่แล้ว เดี๋ยวพาลจะไม่ต้องทานอะไร ซื้อกินก็ไม่ดี ต้องปลูกกินเอง ถึงจะดี ปลอดภัย คนอยู่ยืนยาว มีทุกข์ หรือ สุข ดีครับ......... ::005:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:15:45 AM ขอบคุณมากครับ คุณ กระต่ายป่า. :D กินกุ้งฝอยอาจช่วยได้นะ ตับมันเล็กดี ;D คิดถึงสมัยก่อนที่ยังเป็นเด็ก (ไม่กี่ปีมานี่เอง) อยากกินอะไรก็เดินไปทุ่งนาแถวบ้านเดินไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง อยากกินปลาก็ปักเบ็ดธงไว้ ไม่ถึงชั่วโมง ได้แล้วปลาหมอปลาช่อนสี่ซ้าห้าตัว งามๆทั้งนั้น อยากกินกุ้งฝอยเอาสวิงไปช้อนตามทุ่งนาแอ่งน้ำ แป้บเดียวได้จานนึง ปลากดปลาแขยงปลาหมูเอามาต้มส้มใบมะขามอยากได้ไปดึงเรือที่จมอยู่ในห้วยขึ้นมา ได้แล้วสิบกว่าตัว ต้มแกงว่ากันไป ผักเผิกหาเก็บเอาแถวๆบ้าน วู้ยยยยมีฟามสุขแท้ๆ เดี๋ยวนี้อะไรก็กินไม่ได้ มีสารพิษมีสารก่อมะเร็ง มีนู่นมีนี่ พาลจะทำให้เสียสุขภาพจิตไปอีก :P อยากได้พบ บรรยากาศ แบบนี้ บ้างครับ..ไปปักเต้นท์ เอาหนังสือไปอ่าน.. มี. ๙ พารา หรือ .๔๕ เป็นเพื่อน ก่อไฟทำครัว ง่าย ๆ อยู่กับธรรมชาติ สันโดษ ดีครับ. :D ด้วยความยินดีครับพี่ Ro@d เมื่อก่อนตาผม (เป็นตำรวจ) จะนอนเฝ้าไร่พื้นที่ประมาณ 30 ไร่ จะมี .38 ลูกซองเดี่ยว และปืนแก็บมีทะเบียนลำกล้องสแตนเลส อีก 1 กระบอก บรรยากาศสุดยอดครับ ยิงเหยี่ยวที่บินวนเตรียมโฉบลูกไก่ มีคลองน้ำไหลผ่าน ทำไร่นาแบบสวนผสมอีกอยากจะกินก้ามปูนาเผา ก็ไปเลือกเด็ดเอาเฉพาะตัวที่ก้ามใหญ่ ๆ ;D :D~ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:19:44 AM คิดมากกันไปครับ สภาพแวดล้อม รอบตัวเรา เดี๋ยวนี้ ก็พาลจะก่อมะเร็ง ได้อยู่แล้วครับ ทั้งทอด ปิ้ง ย่าง น้ำมันเก่า สูดไอควัน ทั้ง บุหรี่ และ รถ ล้วนบั่นทอน อยู่แล้ว เดี๋ยวพาลจะไม่ต้องทานอะไร ซื้อกินก็ไม่ดี ต้องปลูกกินเอง ถึงจะดี ปลอดภัย คนอยู่ยืนยาว มีทุกข์ หรือ สุข ดีครับ......... ::005:: ผมก็กะว่าจะมีชีวิตอยู่ไม่นานหรอกครับพี่ yod แค่กะว่า หมดแรง... ก็พอแล้วครับ ::005:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:53:10 AM กินกุ้งฝอยอาจช่วยได้นะ ตับมันเล็กดี ;D คิดถึงสมัยก่อนที่ยังเป็นเด็ก (ไม่กี่ปีมานี่เอง) อยากกินอะไรก็เดินไปทุ่งนาแถวบ้านเดินไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง อยากกินปลาก็ปักเบ็ดธงไว้ ไม่ถึงชั่วโมง ได้แล้วปลาหมอปลาช่อนสี่ซ้าห้าตัว งามๆทั้งนั้น อยากกินกุ้งฝอยเอาสวิงไปช้อนตามทุ่งนาแอ่งน้ำ แป้บเดียวได้จานนึง ปลากดปลาแขยงปลาหมูเอามาต้มส้มใบมะขามอยากได้ไปดึงเรือที่จมอยู่ในห้วยขึ้นมา ได้แล้วสิบกว่าตัว ต้มแกงว่ากันไป ผักเผิกหาเก็บเอาแถวๆบ้าน วู้ยยยยมีฟามสุขแท้ๆ เดี๋ยวนี้อะไรก็กินไม่ได้ มีสารพิษมีสารก่อมะเร็ง มีนู่นมีนี่ พาลจะทำให้เสียสุขภาพจิตไปอีก :P สมัยเป็นเด็กหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปเที่ยวบ้านตาบ้านยายซึ่งเป็นไร่นาสวนผสม เอาเสียมกับกระป๋องนมเก่า ๆ ขุดไส้เดือน แล้วก็ลงเบ็ด ไว้ตามริมน้ำอย่างน้อย ๆ คืนนึงปลาดุก 20-30 ตัว ทำกับข้าวได้หลายอย่างเลยครับคุณ soveat ผมกำลังอ่านย้อนหลังความรู้เชิงพราน อ่านได้ 20 กว่าหน้าแล้วล่ะครับ ;D แบบนั้นเลยครับ แต่เมื่อก่อนตอนอายุสัก 12-13 ขวบ ปักเป็ดธงนี่ได้แต่ปลาดุกอุย กับปลาหมอปลาช่อน มีครั้งนึงได้ปลาช่อนดัวเกือบสองกิโล ไดใจจับใส่ข้องเอาไปวิ่งโชว์รอบหมู่บ้านเลย ;D ;D สำหรับกุ้งแม่น้ำขนาดบิ๊กบึ้มนี่เคยจับได้แค่สองตัวในชีวิต จำได้แม่นเลยว่าเป็นประมาณปี 31-32 นี่แหละ ล้อมก่ำเอาไม้ออกแล้วงมปลาสนุกสนานไปเรื่อย โดนพวกหนีบนิ้วเอาตกใจวิ่งขึ้นจากน้ำทั้งๆที่กุ้งก็หนีบอยู่อย่างนั้น วันนั้นได้กุ้งสองตัว โลกว่าๆ เผากินอร่อยมากกกกกกก แปลกแต่จริง... ไปปักเบ็ดตาท้องนา... ผมไม่ค่อยได้ปลาเลยครับ... ที่กินเบ็ดก็โดนปูกินไปเสียครึ่งตัวก็เยอะ... แต่กับกบนี่... หวังผลได้เลยครับ... ตอนเด็กๆ ได้กินกบจนเบื่อ... ตอนเย็นๆ ออกไปปักเบ็ดกบแถวท้องนาใกล้บ้าน... ไม่ต้องมากครับ... ซัก ๗-๘ คันก็พอ... เช้ามาไปเก็บต้องได้ ๓-๕ ตัวทุกวัน... ...ตอนนี้เป็นอดีตไปหมดแล้วครับ... หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 11:59:29 AM แปลกแต่จริง... ไปปักเบ็ดตาท้องนา... ผมไม่ค่อยได้ปลาเลยครับ... ที่กินเบ็ดก็โดนปูกินไปเสียครึ่งตัวก็เยอะ... แต่กับกบนี่... หวังผลได้เลยครับ... ตอนเด็กๆ ได้กินกบจนเบื่อ... ตอนเย็นๆ ออกไปปักเบ็ดกบแถวท้องนาใกล้บ้าน... ไม่ต้องมากครับ... ซัก ๗-๘ คันก็พอ... เช้ามาไปเก็บต้องได้ ๓-๕ ตัวทุกวัน... ...ตอนนี้เป็นอดีตไปหมดแล้วครับ... สร้างไร่นาสวนผสมขึ้นมาเองจะย้อนอดีตได้รึเปล่าครับเนี่ย ;D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 12:00:04 PM พูดถึงปลาหมูก็อยากกินอีกจัง เดี๋ยวนี้หายากมากแล้ว ต้มสดๆ ซดน้ำร้อนๆ เฮ้อ.....กินกับชาเขียว :D~
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 12:17:07 PM พูดถึงปลาหมูก็อยากกินอีกจัง เดี๋ยวนี้หายากมากแล้ว ต้มสดๆ ซดน้ำร้อนๆ เฮ้อ.....กินกับชาเขียว :D~ นึกว่าใส่ยาเขียว ::005:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 12:38:51 PM มันกุ้งผมไม่กินรสชาดเป็นยังไงครับ ตากวางน่าจะเชี่ยวชาญ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 12:47:52 PM (http://i34.photobucket.com/albums/d130/mamajung/web/untitled.jpg)
อาจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ แห่งสถาบันทักษิณคดีศึกษาผู้สื่อข่าวกิตติมศักดิ์ของ สารคดี อธิบายว่า มันกุ้งเป็นอาหารพื้นเมือง ประเภทอาหารชูรส ได้จากการนำเอาน้ำหวานและมันที่ติดเปลือกและหัวของกุ้งมาเคี่ยวจนข้นเป็นก้อน มีสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ มันกุ้งเป็นผลพลอยได้จากการทำกุ้งแห้ง กุ้งฝัด และกุ้งไม้กล่าวคือ เมื่อนำกุ้งนางหรือกุ้งแตะ (กุ้งแต้ ก็ว่า) มาต้มให้สุกเพื่อทำเป็นกุ้งแห้ง หรือกุ้งฝัด น้ำที่ใช้ต้มนั้นเมื่อตักแยกเอาตัวกุ้งออกหมดแล้วก็ดี หรือเมื่อปอกเปลือกกุ้งเพื่อทำกุ้งไม้ก็ดีเมื่อนำไปต้มและเคี่ยวจนน้ำหวาน และน้ำมันที่ติดปนอยู่หลุดละลายออก จากนั้นตักส่วนเปลือกและหัวทิ้ง เคี่ยวต่อจนน้ำแห้งขอด ก็จะได้มันกุ้งมีลักษณะเป็นตะกอนสีน้ำตาลเข้ม ตามต้องการ ก่อนที่น้ำจะงวดได้ที่จะเติมเกลือเล็กน้อยเพื่อให้ออกรสมันและสามารถเก็บไว้ได้นาน มันกุ้งที่ได้อาจตักใส่ขวดหรือกระปุกเก็บไว้ได้นานเป็นแรมปีเมื่อจะใช้รับประทานก็นำมาปรุงรส ใช้คลุกข้าวหรือใช้เป็นเครื่องปรุงรสอาหาร ประเภทยำ เช่น ยำมะม่วง ยำมะมุด ยำหัวลูกตาล เป็นต้น ที่นิยมกันแพร่หลาย คือ นำมันกุ้งมาปรุงรสด้วยมะนาวหอมซอย พริกสด แล้วใช้คลุกข้าว หรือไม่ก็ใช้เป็นเครื่องจิ้มมะม่วงหรือมะขามสด รับประทานเป็นคำ ๆ กับหัวหอมหั่นเป็นชิ้น ๆ พริกสก และกุ้งแห้ง ปัจจุบันมันกุ้งกลายเป็นสินค้าพื้นเมืองของบางถิ่น เช่นที่จังหวัดสงขลา มีร้านที่ผลิตมันกุ้งวางขายและส่งออกจำหน่ายอย่างแพร่หลายทั่วไป ในตลาด จังหวัดอื่น ๆ ที่มีแหล่งทำการประมงก็หาซื้อได้ง่าย ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี http://variety.mwake.com/story/359/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html (http://variety.mwake.com/story/359/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html) หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 12:51:31 PM มันกุ้งไม่เคยกิน จะลองกินมันปูกลัวคนอื่นเขาหาว่า"ชอบไม้ป่าเดียวกัน" ::005:: ::005:: ::005::
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 12:53:45 PM พูดถึงปลาหมูก็อยากกินอีกจัง เดี๋ยวนี้หายากมากแล้ว ต้มสดๆ ซดน้ำร้อนๆ เฮ้อ.....กินกับชาเขียว :D~ นึกว่าใส่ยาเขียว ::005:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 12:53:55 PM ::006:: ::006:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:00:55 PM ขอวก ข้าหา ปลาหมู อีกนิด ครับ พูดถึงปลาหมู คิดถึงตอนเป็นเด็กทุกที ครั้งอายุ ๗-๘ ขวบ มีอิสระ ในการวิ่งเล่น อย่างที่สุด บ้านผมอยู่ริมคลองภาษีเจริญ ระหว่างวัดรางบัว กับ วัดนิมมานรดี ฝั่งธนบุรี และผมเป็นเด็กนักเรียนวัด นี้ ป.๑-๓ เมื่อถึง ช่วงปลายฝนต้นหนาว ราวเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี จะมีน้ำบ่า สีดินลูกรัง จากเมืองเหนือ จากเจ้าพระยาเข้า คลองบางหลวง เลยเข้า คลองภาษีเจริญ.. พอน้ำลดความขุ่น จะเริ่มเปลี่ยนสีใสขึ้น น้ำจะปริ่ม ฝั่งคลอง ช่วงบ่าย แก่ ๆ จะเห็นลอยมาเป็นแพ กระเพรื่อม .. ก็ก๊วนปลาหมู หลายก๊วน หลายพันธุ์ และลูกปลาตัวเล็ก อีกมาก มันผ่านมาถึงผมได้ แสดงว่า ไม่มีใครสนใจ จับมัน หรือ มากเกินกว่าจะจับได้หมด. ผมก็จับเล่นโดยใช้ขันตัก แต่ไม่ได้ตัว :OO ปลายทางคลองขุดเส้นนี้ไปทะลุ ที่ใด ผมจำไม่ได้แล้ว สำหรับ ปลาที่ผ่านมาปลายปี.. พร้อมกับลมหนาว โชยมา ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป.. แต่ไม่กี่วัน ก็หมด ครับ :D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:18:22 PM ปลาหมู ปลาแรด ปลาเสือ สมัยเด็กๆน้ำหลาก ก็เคยจับเล่นแบบคุณRo@d ครับ แต่ตัวมันเล็กๆไม่ใหญ่
เหมือนที่เขากินกัน หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:25:56 PM บ้านผมอยู่ ซ.มีสุวรรณ 3 พระโขนง ข้าง ๆคลองแสนแสบเยื้อง ๆ วัดมหาบุศย์ ตอน 6 - 7 ขวบ ผมยังจำได้ว่ามีกุ้งและปลาเยอะมาก เวลาพวกน้า ๆ ใส่ผ้าถุงตีโป่งอาบน้ำมักจะมีกุ้งตัว โต ๆ แถมมาด้วย น้ำก็ไสแจ๋ว ไม่สุดแสนจะแสบดังทุกวันนี้... :P
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 01:31:23 PM บ้านผมอยู่ ซ.มีสุวรรณ 3 พระโขนง ข้าง ๆคลองแสนแสบเยื้อง ๆ วัดมหาบุศย์ ตอน 6 - 7 ขวบ ผมยังจำได้ว่ามีกุ้งและปลาเยอะมาก เวลาพวกน้า ๆ ใส่ผ้าถุงตีโป่งอาบน้ำมักจะมีกุ้งตัว โต ๆ แถมมาด้วย น้ำก็ไสแจ๋ว ไม่สุดแสนจะแสบดังทุกวันนี้... :P ปลาชุมเยอะ ๆ ในแม่น้ำธรรมชาติเนี่ยคิดถึงน้ำตกพริ้วครับ ปลาตอดจุบ ๆ จิบ ๆ ;D น้ำเย็นด้วยเมา ๆ นี่สร่างเลย ::005:: ต้องขอบคุณข้อมูลจากลุง PU45 ด้วยครับ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 02:44:24 PM อืมมมมมมมมมม อร่อย ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 02:54:00 PM กุ้งๆ ชื่อนี้มีความหลัง :D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:02:31 PM กุ้งๆ ชื่อนี้มีความหลัง :D ครั้งหน้าไปเที่ยว อบต. ช่วยเล่าให้ฟังด้วยนะ ให้ดียืนเล่าหน้าบ้านได้บรรยากาศ ::007:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:04:30 PM กุ้งๆ ชื่อนี้มีความหลัง :D ครั้งหน้าไปเที่ยว อบต. ช่วยเล่าให้ฟังด้วยนะ ให้ดียืนเล่าหน้าบ้านได้บรรยากาศ ::007:: จุ๊ๆ เขารู้จักกัน เอ่ยชื่อไม่ได้เชียว :~) :~) หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:06:19 PM ..แปลกทำไมผมแพ้.มันกุ้ง... :~)
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:12:21 PM ..แปลกทำไมผมแพ้.มันกุ้ง... :~) เพื่อนผมก็แพ้ครับ กินเนื้อได้แต่กินมันไม่ได้ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:13:36 PM ช่วงนี้กุ้งแม่น้ำหาลำบาก เลยต้องแก้ขัดด้วยอาหารที่ง่ายที่สุดครับ ::005::
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:14:37 PM เตรียมเครื่องเสร็จแล้วก็ตามด้วยตัวนี้ครับ ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:18:13 PM ..แปลกทำไมผมแพ้.มันกุ้ง... :~) เพื่อนผมก็แพ้ครับ กินเนื้อได้แต่กินมันไม่ได้ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:27:01 PM ..แปลกทำไมผมแพ้.มันกุ้ง... :~) เพื่อนผมก็แพ้ครับ กินเนื้อได้แต่กินมันไม่ได้ ;D ;D ;D .. ::005::...แล้วถ้าเป็น.น้องกุ้ง.คงไม่แพ้นะครับ.ลุงจอย..ลุงคาร์... ::005:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:34:30 PM ..แปลกทำไมผมแพ้.มันกุ้ง... :~) เพื่อนผมก็แพ้ครับ กินเนื้อได้แต่กินมันไม่ได้ ;D ;D ;D .. ::005::...แล้วถ้าเป็น.น้องกุ้ง.คงไม่แพ้นะครับ.ลุงจอย..ลุงคาร์... ::005:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:39:25 PM .. ;D..พึ่งจะรู้.ลุงจอยไม่.สู้.คน... ::005::.... ::007::
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:48:16 PM .. ;D..พึ่งจะรู้.ลุงจอยไม่.สู้.คน... ::005::.... ::007:: ยิ่งคนที่บ้านน่ะยิ่งไม่กล้าสู้ใหญ่เลยครับ แต่ผมก็อดแปลกใจไม่ได้ขนาดไม่สู้ๆ ไงมีลูกตั้งสาม ::008::หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 03:59:53 PM เท่าที่ทราบมาคุณจอยมีลูก5คนนะครับ คนเล็กอายุ4ขวบ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 04:01:21 PM เอาแล้วพี่จอย เคลียร์เลยๆ ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 04:08:31 PM เท่าที่ทราบมาคุณจอยมีลูก5คนนะครับ คนเล็กอายุ4ขวบ เอาแล้วพี่จอย เคลียร์เลยๆ ;D เคลียร์เคออะไรกวาง วันก่อนไปกันสองคนพี่บุญ งานนี้รู้กันสองคนกะพี่บุญ ::005:: ::008::หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 04:44:15 PM ..แปลกทำไมผมแพ้.มันกุ้ง... :~) มิใช่หัวใส อ่านกินแต่ต่อนรึ...ท่าน :DDหัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 04:49:49 PM ผมจะยอม เสียสละ กิน มัน แทน ทุก ๆคนเอง ครับ.............
อั้ม ( พัชราภา ) ... อา หร่อย............ ::005:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 05:17:35 PM เท่าที่ทราบมาคุณจอยมีลูก5คนนะครับ คนเล็กอายุ4ขวบ เอาแล้วพี่จอย เคลียร์เลยๆ ;D เคลียร์เคออะไรกวาง วันก่อนไปกันสองคนพี่บุญ งานนี้รู้กันสองคนกะพี่บุญ ::005:: ::008::หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 06:09:27 PM เริ่มจากมันกุ้ง ตอนนี้เริ่มจะไปถึงกุ้งตัวเล็ก กุ้งตัวใหญ่ ปลีกออกเป็นกุ้งฝอยไปซะแล้ว ::005:: ขอให้มีความสุขในวันหยุด
ครับพี่ ๆ ทุกท่าน วันจันทร์เจอกันใหม่ สวัสดีครับ ::014:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 06:22:31 PM ผมชื้อเป็นขวดตามห้างฯครับ นานๆกินทีคงไม่เป็นไร หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 06:34:57 PM ธรรมชาติ...โหยหากันจัง
ธรรมชาติ...ไม่รู้ใครสร้าง ไม่ปรากฏหลักฐาน แต่ผู้ทำลายคือ มนุษย์แน่ๆ ด้วยความเคารพ คิดถึงอดีต เมื่อสัก30ปีที่ผ่านมา มันยังพอมีอุดมสมบูรณ์ เช่นที่หลายท่านกล่าว ไปเที่ยวทุ่ง (เลี้ยงวัว)พวกเราเด็กๆ พกเฉพาะข้าวสาร กับข้าวไปหาเอาในทุ่ง มันสนุกมาก เหลียวกลับไปมอง ไม่เห็นแล้ว หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 06:38:24 PM ธรรมชาติ...โหยหากันจัง ธรรมชาติ...ไม่รู้ใครสร้าง ไม่ปรากฏหลักฐาน แต่ผู้ทำลายคือ มนุษย์แน่ๆ ด้วยความเคารพ คิดถึงอดีต เมื่อสัก30ปีที่ผ่านมา มันยังพอมีอุดมสมบูรณ์ เช่นที่หลายท่านกล่าว ไปเที่ยวทุ่ง (เลี้ยงวัว)พวกเราเด็กๆ พกเฉพาะข้าวสาร กับข้าวไปหาเอาในทุ่ง มันสนุกมาก เหลียวกลับไปมอง ไม่เห็นแล้ว 30 ปีมาแล้ว อา..... ช่างนานเสียนี่กระไร ผ้มเพิ่งจะเกิดเองครับ แสดงว่าน้าเข้มแก่กว่าผมหลายปีนะเนี่ย ::005:: ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 06:53:18 PM กั้ง ก็น่ากินนะครับ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 10, 2009, 06:56:01 PM ผมจะมีติดบ้านไว้ตลอด ต่อไปต้องลดการกินลงบ้างครับ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 13, 2009, 10:48:41 AM ธรรมชาติ...โหยหากันจัง ธรรมชาติ...ไม่รู้ใครสร้าง ไม่ปรากฏหลักฐาน แต่ผู้ทำลายคือ มนุษย์แน่ๆ ด้วยความเคารพ คิดถึงอดีต เมื่อสัก30ปีที่ผ่านมา มันยังพอมีอุดมสมบูรณ์ เช่นที่หลายท่านกล่าว ไปเที่ยวทุ่ง (เลี้ยงวัว)พวกเราเด็กๆ พกเฉพาะข้าวสาร กับข้าวไปหาเอาในทุ่ง มันสนุกมาก เหลียวกลับไปมอง ไม่เห็นแล้ว 30 ปีมาแล้ว อา..... ช่างนานเสียนี่กระไร ผ้มเพิ่งจะเกิดเองครับ แสดงว่าน้าเข้มแก่กว่าผมหลายปีนะเนี่ย ::005:: ::005:: ::005:: คิดถึงอ้อยลิงจังเลย ::005:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 13, 2009, 10:59:21 AM กั้ง ก็น่ากินนะครับ :D :D :D ผม ชอบกินกั้ง มากกว่ากิน กุ้ง.. แต่ก็กินกุ้ง ได้มากกว่ากิน กั้ง. คราวไปปลีกวิเวกที่ตราด กั้งเนื้ออร่อยมาก.. ๖ ตัว ๑ กก ๘๐๐.- ส่วนกุ้งขาว ตัวอย่างใหญ่.. ๑๕๐ /กก. ::008:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: dig5712 ที่ กรกฎาคม 13, 2009, 11:58:29 AM โอย... ฟังพี่ๆพูดแล้วหิวข้าวครับ :D~ ;D
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 13, 2009, 12:06:57 PM ;D :D~
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กรกฎาคม 13, 2009, 12:26:23 PM กั้งกระดาน หนักเปลือกครับ แบะผ่าครึ่ง ก็ แซบแล้ว.........
เนื้อนิดเดียว แต่ โห้ย... อา หร่อย มากมาย..... น้ำลายสอ...... กั้งตั๊กแตน ทอดกระเทียม ก็ทานได้หลายโถ...แล้วล่ะครับ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: dig5712 ที่ กรกฎาคม 13, 2009, 12:28:23 PM ชอบกั้งดองครับพี่ ... แช่เย็น ราดน้ำรสจัดจ้าน.. :D~
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 13, 2009, 12:51:48 PM ลองทาน กั้ง นึ่ง ดูครับ เนื้อยังเต็ม .. กั้งตายแล้ว เนื้อจะหาย เหลวเป็นน้ำ
กั้ง ถ้าในธรรมชาติ เป็นนักล่าหมัดหนัก เพราะความเร็วของแรงดีด ของกล้าม ราว ๑๒๐ กม/ชม กระดองปู เป็นแตกกระจาย ตัวขนาดเดียวกัน เสร็จเค้า.. หมดแหละ. ::002:: ถ้าผมไปสุราษฯ พรรคพวกผม จะต้องไปจองตัวกั้งไว้ล่วงหน้า ร้านอยู่แถวโรงน้ำแข็ง ริมน้ำตาปี ครับ. ;D แต่ถ้าไปกาญจนดิษฐ์ แถวขนำ ต้องเป็น.. ปูนิ่มผัดกระเทียม.. ::002:: หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ กรกฎาคม 14, 2009, 07:10:28 PM กั้งกระดาน หนักเปลือกครับ แบะผ่าครึ่ง ก็ แซบแล้ว......... ผมเคยไปกินกั้งทอดกระเทียมกับอเมริกันที่ไม่เคยกินอาหารไทยเลยที่ร้านอาหารเล็ก ๆที่ชายทะเลที่ไม่ใช่ชายหาดแถว ๆ อ.แกรง จ. ระยอง ตั้งแต่นั้นมาผมต้องพาเขาไปกินที่ร้านนี้ตลอดหากหากเขามาเมืองไทย เขาทำกั้งอร่อยมากครับ.. ::002::เนื้อนิดเดียว แต่ โห้ย... อา หร่อย มากมาย..... น้ำลายสอ...... กั้งตั๊กแตน ทอดกระเทียม ก็ทานได้หลายโถ...แล้วล่ะครับ หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กรกฎาคม 14, 2009, 07:24:41 PM ธรรมชาติ...โหยหากันจัง ธรรมชาติ...ไม่รู้ใครสร้าง ไม่ปรากฏหลักฐาน แต่ผู้ทำลายคือ มนุษย์แน่ๆ ด้วยความเคารพ คิดถึงอดีต เมื่อสัก30ปีที่ผ่านมา มันยังพอมีอุดมสมบูรณ์ เช่นที่หลายท่านกล่าว ไปเที่ยวทุ่ง (เลี้ยงวัว)พวกเราเด็กๆ พกเฉพาะข้าวสาร กับข้าวไปหาเอาในทุ่ง มันสนุกมาก เหลียวกลับไปมอง ไม่เห็นแล้ว เดี๋ยวนี้ก็ยังพอหาได้พี่เข้มเรื่องกับ พกแต่ข้าวสารไปแถวๆ 3 จว. มีเยอะ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ กรกฎาคม 14, 2009, 10:46:29 PM กั้งนี่ เมื่อสักสามสิบปีก่อน เวลาไปกินข้าวต้ม
ทุกร้านจะต้องมีกั้งแช่น้ำปลาขาย เป็นอาหารราคาถูกด้วย ปูม้า กับ ปลาทู ก็เหมือนกัน เป็นอาหารที่ราคาไม่แพง แต่เดี๋ยวนี้ .................... หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 15, 2009, 07:20:23 AM ;D..ยังคุยกันไม่จบเลย..น้องกุ้ง..น้องกั้ง..เนี่ย.... ::005::
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ กรกฎาคม 15, 2009, 12:54:33 PM กั้งนี่ เมื่อสักสามสิบปีก่อน เวลาไปกินข้าวต้ม ทุกร้านจะต้องมีกั้งแช่น้ำปลาขาย เป็นอาหารราคาถูกด้วย ปูม้า กับ ปลาทู ก็เหมือนกัน เป็นอาหารที่ราคาไม่แพง แต่เดี๋ยวนี้ .................... ผมเกิดทันปูม้ากิโลกรัมละ 10 บาท ปลาหมึกกิโลกรมละ 1 บาท ( ปลาหมึกตัวเล็ก ) ปลาสำลีตัวละ 5 บาท ปลาทูตัวใหญ่ๆมันๆ ( ไม่ใช่ปลารังนะครับ ) 3 เข่ง 10 บาท ( เข่งละ 3 ตัว ) ที่ผมจำได้เพราะบ้านผมจนครับพี่ ต้องซื้อของพวกนี้มาทำกับข้าวกิน ( ตอนเด็กๆผมอยู่สมุทรปราการครับ ) หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: hare ที่ กรกฎาคม 15, 2009, 01:13:54 PM เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ปลาทูทอดตัวละ 2 บาท ทุกวันนี้ปลาทูตัวละ 30 บาท ยังดีที่ขนาดยังเท่ากับเมื่อ 30 ปีที่แล้ว :~)
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: JOKER48111 **รักเมืองไทย_รักในหลวง** ที่ กรกฎาคม 17, 2009, 04:44:26 PM ขอบคุณครับสำหรับความรู้ครับ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: peco ที่ กรกฎาคม 18, 2009, 11:34:49 AM เมื่ออาทิตย์ที่ผ่ามมา พาครอบครัวไปกินต้มยำกุ้ง เหลือแต่หัว ผมซัดคนเดียวหมดเลย :~) :~)
ต้องลดๆบ้างแล้ว หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 18, 2009, 11:45:55 AM :VOV: :VOV: :VOV: :VOV: ผมแพ้กุ้งตัวนี้ครับ :~) :~) :~) :~)
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 18, 2009, 11:47:49 AM ??? ??? ??? ??? Post ไม่ขึ้นแฮะ ลองอีกซักรอบ :OO :OO :OO
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตึก ที่ กรกฎาคม 18, 2009, 01:06:36 PM รู้ทั้งรู้แต่ก็อดไม่ได้ครับ
หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: RroamD ที่ กรกฎาคม 18, 2009, 03:15:49 PM เวลากินกุ้งเผา ผมไม่กินหัวกุ้งนานแล้ว เพื่อนๆ บอกว่าผมโง่ครับ
อย่างนี้ที่เคยได้ยินว่า ขี้อยู่ที่ห้วกุ้ง ก็เป็นความจริงสิครับพี่ๆ :D หัวข้อ: Re: สาระน่ารู้เกี่ยวกับมันกุ้งครับ เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ กรกฎาคม 19, 2009, 01:23:59 AM ขอวก ข้าหา ปลาหมู อีกนิด ครับ พูดถึงปลาหมู คิดถึงตอนเป็นเด็กทุกที ครั้งอายุ ๗-๘ ขวบ มีอิสระ ในการวิ่งเล่น อย่างที่สุด บ้านผมอยู่ริมคลองภาษีเจริญ ระหว่างวัดรางบัว กับ วัดนิมมานรดี ฝั่งธนบุรี และผมเป็นเด็กนักเรียนวัด นี้ ป.๑-๓ เมื่อถึง ช่วงปลายฝนต้นหนาว ราวเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี จะมีน้ำบ่า สีดินลูกรัง จากเมืองเหนือ จากเจ้าพระยาเข้า คลองบางหลวง เลยเข้า คลองภาษีเจริญ.. พอน้ำลดความขุ่น จะเริ่มเปลี่ยนสีใสขึ้น น้ำจะปริ่ม ฝั่งคลอง ช่วงบ่าย แก่ ๆ จะเห็นลอยมาเป็นแพ กระเพรื่อม .. ก็ก๊วนปลาหมู หลายก๊วน หลายพันธุ์ และลูกปลาตัวเล็ก อีกมาก มันผ่านมาถึงผมได้ แสดงว่า ไม่มีใครสนใจ จับมัน หรือ มากเกินกว่าจะจับได้หมด. ผมก็จับเล่นโดยใช้ขันตัก แต่ไม่ได้ตัว :OO ปลายทางคลองขุดเส้นนี้ไปทะลุ ที่ใด ผมจำไม่ได้แล้ว สำหรับ ปลาที่ผ่านมาปลายปี.. พร้อมกับลมหนาว โชยมา ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป.. แต่ไม่กี่วัน ก็หมด ครับ :D อยากได้พบ บรรยากาศ แบบนี้ บ้างครับ..ไปปักเต้นท์ เอาหนังสือไปอ่าน.. มี. ๙ พารา หรือ .๔๕ เป็นเพื่อน ก่อไฟทำครัว ง่าย ๆ อยู่กับธรรมชาติ สันโดษ ดีครับ.ตอนนี้ห่างป่ามาหลายเดือน เห็นพี่ ro@d เขียนถึงป่าชักคิดถึงขึ้นมา บรรยากาศกลางป่าคนเดียวตอนกลางคืนนี่ทำให้โลกในเมืองที่มันหมุนเร็วจี๋ หมุนช้าลงสงบลงได้ดีจังครับ :D |