|
หัวข้อ: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 16, 2010, 04:42:04 PM (http://www.aisleberley.com/Novel%20Overheat%20warning/Picture/Pic%20e2/cooling-system-parts.jpg) (http://www.aisleberley.com/Novel%20Overheat%20warning/Picture/Pic%20e2/coolingdesign.gif)
หน้าที่การทำงาน ทำให้น้ำหมุนเวียนจากเครื่องไปยังหม้อน้ำแล้วไหลกลับเข้า เครื่องการทำงานของ ปั๊มน้ำจะอาศัยสายพานจาก เครื่องยนต์มาหมุนและจะมีลูกปืน มารองรับในการหมุน ปัญหา สาเหตุที่ทำให้ปั๊มน้ำไม่ทำงาน สาเหตุแรกก็คือสายพานขาด เมื่อสายพานขาดปั๊มน้ำก็ไม่สามารถหมุน เมื่อปั๊มน้ำไม่หมุนก็ไม่มีการไหลเวียนของน้ำ เพื่อเอาความร้อนออกจากเครื่องยนต์ สาเหตุอีกประการหนึ่ง คือการสึกหรอ หรือแตกของลูกปืนจะทำให้ปั๊มน้ำปิดตายไม่ยอมหมุน หรือหมุนแบบแกว่งตัว ทำให้ส่วยอื่นของเครื่องยนต์เสียหายตามไปด้วย ส่วนปัญหาที่เจอกันบ่อยของปั๊มน้ำก็คือปั๊มน้ำรั่ว การตรวจสอบทำโดยการติดเครื่องและเร่งเครื่องยนต์จะทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าจะมีน้ำไหลออกมา แต่ถ้าจอดรถไว้เฉย ๆ โดยไม่มีการติดเครื่องยนต์ หรือติดเครื่องในรอบเดินเบาน้ำจะไม่รั่วซึมให้เห็นการรั่วของปั๊มน้ำส่วนมากมักจะเกิดในบริเวณซิลแกนหมุน น้ำจะไหลออกมาทางด้านหน้าและออกจากรูระบายอากาศ วิธีดูแลรักษา 1. ต้องคอยตรวจสอบสายพานให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ อย่าให้ขาด สายพานควรจะเปลี่ยนใหม่เมื่อมีการใช้งานรถเป็นระยะทาง 40,000 ก.ม 2. เมื่อลูกปืนปั๊มน้ำมีเสียงดังแสดงว่าลูกปืนสึกหรอควรรีบเปลี่ยนทันที 3. การตรวจสอบแบริ่งของปั้มน้ำ ทำโดยจับใบพัดทั้งส่วนบนและล่างและโยกไปมาข้างหน้าและข้างหลัง ถ้าใบพัดขยับได้แสดงว่าแบริ่งปั้มน้ำสึกหล่อ ต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ถ้าปั๊มน้ำไม่มีใบพัด ให้จับบนพูลเลย์ ในบางครั้งซีลปั๊มน้ำรั่วจะมีน้ำไหลออกมา หรือแบริ่งมีเสียงก็ควรเปลี่ยนปั๊มน้ำใหม่ (http://www.weekendhobby.com/offroad/mitsubishi/picture2010/134255319354.gif) ขอขอบคุณ http://www.aisleberley.com/Novel%20Overheat%20warning/coolingsystem.htm (http://www.aisleberley.com/Novel%20Overheat%20warning/coolingsystem.htm) หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 16, 2010, 04:45:23 PM เตรียมรถรับหน้าร้อนกันดีกว่า
(http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/picture/42255120235.jpg) ขั้นแรกเลยนะครับนิมนต์หม้อน้ำพร้องแผงบังลมออกมาก่อน แล้วตรวจสอบดังนี้ พัดลมยังดีอยู่สุขสบายเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าใบมันกรอบแตกร้าวก็เปลี่ยนไปเลยอันละไม่กี่บาทค่ารื้อถอดใส่แพงกว่า ฟรีปั้มยังหนืดมืออยู่หรือเปล่า ถ้ามันลื่นไม่ตึงมือก็จักการอัดใหม่ซะเลย ซิลิโคนหลอดละร้อยกว่าบาท ใช้ของแท้ดีกว่าของเทียม แผงแอร์ด้านหม้อน้ำเป็นจุดที่เราไม่ได้เห็นบ่อยๆให้ทำความสะอาดโดยใช้น้ำฉีดสวนทางเอา โคลน แมลง และทรายออกไปซะให้สะอาด รถส่วนมากที่บ่นว่าร้อนเพราะส่วนหนึ่งลมมันเข้าผ่านแผงแอร์มาไม่ได้เพราะมีโคลนและแมลงอุดรูอยู่เต็มแผงแอร์ ไหนๆแล้วตรวจความตึงของสายพานและสภาพไปเสียเลยเพราะหม้อน้ำและบังลมมันหายไป พื้นที่โล่งๆทำอะไรก็สบายมือ ขอขอบคุณ http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/Question.asp?ID=606 (http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/Question.asp?ID=606) หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ เมษายน 16, 2010, 04:59:18 PM ขอบคุณครับ พี่ ปู ไอ้ผม ก็นึกว่า อาราย........... ร้อน lat=12.6819766386, lon=101.275454466 http://urbany.multiply.com/ (http://urbany.multiply.com/) (http://img216.imageshack.us/img216/807/25189128yq6.gif) (http://img218.imageshack.us/img218/909/chairfr2.gif) หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ เมษายน 16, 2010, 05:24:29 PM เกือบมาแล้วครับ ::013:: ::013::
ล่าสุดขับรถไปทำงานช่วงบ่าย ขับไปไม่ได้สังเกตุดูเข็มความร้อน เพราะรีบ มารู้อีกที เครื่องดับสนิทกลางสามแยก งง น้ำมันก็เต็ม หันไปมอง เข็มความร้อนยัน พยายามสตาร์ก็ไม่ติด รถทางอื่นก็บีบแตรไล่ ::013:: ต้องทิ้งไว้ประมาณสามนาที ลองสตาร์ใหม่ ติดครับ รีบเอารถออกจากช่องจราจร และฝากไว้บ้านพรรคพวก เพราะต้องไปทำงานก่อน กลับมา เนื่องจากเครื่องเย็นแล้ว เปิดหม้อน้ำปรากฎว่าน้ำในหม้อหายหมด จึงหาน้ำมาเติม ได้ยินเสียงดังจ๊อก ก้มลงไปดู เวรกรรม ตรงปั๊มน้ำมีน้ำรั่วไหลเหมือนเทเลย ไปตรวจดูปรากฎว่าพัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน (ตาย) ทำงานแต่พัดลมแอร์ ทำใ้ห้ระบายความร้อนไม่ทัน ส่งผลให้ความร้อนดันปั๊มน้ำเครื่องยนต์จนรั่ว และปั๊มน้ำใช้งานมานานจนสึกกร่อนแล้ว อันนี้ช่างบอก โชคดีที่เครื่องดับกลางสามแยกก่อน ไม่งั้นคงได้เปลี่ยนเครื่องหรือรถใหม่ละครับ ::011:: ::011:: หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: sada ที่ เมษายน 16, 2010, 08:13:46 PM แล้ว ร้อนใจ ละครับลุง ปู ;D ;D
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: ko_kloy212 ที่ เมษายน 16, 2010, 11:09:12 PM เกือบมาแล้วครับ ::013:: ::013:: ล่าสุดขับรถไปทำงานช่วงบ่าย ขับไปไม่ได้สังเกตุดูเข็มความร้อน เพราะรีบ มารู้อีกที เครื่องดับสนิทกลางสามแยก งง น้ำมันก็เต็ม หันไปมอง เข็มความร้อนยัน พยายามสตาร์ก็ไม่ติด รถทางอื่นก็บีบแตรไล่ ::013:: ต้องทิ้งไว้ประมาณสามนาที ลองสตาร์ใหม่ ติดครับ รีบเอารถออกจากช่องจราจร และฝากไว้บ้านพรรคพวก เพราะต้องไปทำงานก่อน กลับมา เนื่องจากเครื่องเย็นแล้ว เปิดหม้อน้ำปรากฎว่าน้ำในหม้อหายหมด จึงหาน้ำมาเติม ได้ยินเสียงดังจ๊อก ก้มลงไปดู เวรกรรม ตรงปั๊มน้ำมีน้ำรั่วไหลเหมือนเทเลย ไปตรวจดูปรากฎว่าพัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน (ตาย) ทำงานแต่พัดลมแอร์ ทำใ้ห้ระบายความร้อนไม่ทัน ส่งผลให้ความร้อนดันปั๊มน้ำเครื่องยนต์จนรั่ว และปั๊มน้ำใช้งานมานานจนสึกกร่อนแล้ว อันนี้ช่างบอก โชคดีที่เครื่องดับกลางสามแยกก่อน ไม่งั้นคงได้เปลี่ยนเครื่องหรือรถใหม่ละครับ ::011:: ::011:: ผมเคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่โดยที่รู้เท่าไม่ถึงการ กลัวเครื่องมันจะฮีท เลยเอาน้ำไปราด ปรากฎว่า ฝาสูบโก่งครับ เนื่องจากโลหะเมื่อร้อนมากๆ มันจะขยายตัว พอโดนน้ำเข้าไปมันจึงหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ฝาสูบโก่ง ต้องเสียเงินซ่อมไปอีกหลายตัง ทางที่ดีทำอย่างท่านสิงห์กลิ้ง ถูกต้องแล้วครับ ควรรอให้มันค่อยๆเย็นเองดีกว่า หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: sorrachat - รักในหลวง ที่ เมษายน 16, 2010, 11:41:28 PM ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: annyjone ที่ เมษายน 17, 2010, 12:35:37 AM อ่อ ร้อนอย่างนี้นี่เอง ;D
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ เมษายน 17, 2010, 12:38:17 AM หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2010, 07:23:03 AM ::014::..ขอบคุณครับ.ลุงปู..แล้วลุงไม่.ร้อน.มั่งเหรอครับ.. ::005::
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ เมษายน 17, 2010, 09:30:15 AM ::014::..ขอบคุณครับ.ลุงปู..แล้วลุงไม่.ร้อน.มั่งเหรอครับ.. ::005:: (http://www.pixnice.com/upload/files/tu0mdyofwznmjh0yurhm.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) แอบไปเย็นยะเยือกที่นี่มาครับน้าพงษ์ ::002:: ::002:: หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2010, 11:04:52 AM ขอบคุณครับ ลุงปู
นึกว่าจะแนะนำให้ลงอ่างเสียอีก ครับ หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2010, 12:18:43 PM หม้อ..........น้ำ....ร้อน..ร้อน อิอิ
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ เมษายน 17, 2010, 12:53:27 PM ขอบคุณครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ เมษายน 17, 2010, 05:01:25 PM ของผมรับรอง ไม่มีร้อนครับ
จอดมันทิ้งไว้เฉย ๆ สตาท ยังไม่ได้ สตาทเลย เย็นสนิท หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ เมษายน 17, 2010, 05:08:27 PM ไปทำได้แถวไหนครับอาปู
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 09, 2010, 12:30:09 PM เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 53 ได้เรื่องเลยครับอาปู :~)
ผมขับรถเข้ากรุงเทพ ถึงวงแหวน พระราม 2 เครื่องดับเฉยเลย เปิดกระโปรงดู ท่อยางหม้อน้ำ แตก น้ำในหม้อพักน้ำ กลายเป็น โคลน เหนี่ยว ๆ ได้คุณณัฐดนัย ขับรถไปรับ กว่าจะเสร็จเรื่องซัดไปตี 4 กว่า ๆ เมื่อวาน ก็เข้าไปดูรถที่อู่ ข่าวดี ก็บังเกิด ลูกซูบ 4 ลูกไหม้หมด :OO กว่าจะซ่อมเสร็จ คง สัปดาห์หน้า นี่ว่าจะเอาหม้อน้ำไปให้ ช่างเสริม ทำบ้าง อาปูมีเบอร์ติดไหมครับ หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Bird ที่ พฤษภาคม 09, 2010, 02:36:12 PM พูดถึงเรื่องหม้อน้ำแล้ว อย่าลืมข้อควรรู้สำหรับน้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำด้วยครับ
น้ำยาหล่อเย็น/กันสนิมหม้อน้ำทุกชนิด มีอายุการใช้งานของมันเอง .. จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำและถ่ายน้ำยาทิ้งเมื่อถึงกำหนด น้ำยาหล่อเย็น/กันสนิม ชนิดทั่วไปราคาปานกลางหลายยี่ห้อ เมื่อหมดอายุจะจับตัวกันเป็นก้อนหรือเป็นโคลนเหนียวตกตะกอนและเคลือบท่อทางน้ำ ในหม้อน้ำ, ถังพักน้ำ ทำให้ประสิทธิภาพการหมุนเวียนน้ำและการถ่ายเทความร้อนลดลง บางครั้งทำให้เครื่องฮีทได้ .. ถ้าใช้น้ำยาของนอกราคาสูง ปัญหานี้ก็จะเบาบางลง ถ้ารถมีปัญหาเช่นนั้นไปแล้ว ผมใช้วิธีถ่ายน้ำออกทั้งหมด เติมน้ำใหม่เข้าไปโดยยังไม่ใส่น้ำยาใหม่ลงไป แล้วใช้ไปซัก 3-4 วันก็ถ่ายทิ้ง ทำอย่างนี้ไป 2-3 รอบ ดูสภาพน้ำที่ถ่ายทื้งออกมาว่ามีสี/เม็ดตะกอน/ตมปนออกมาอีกหรือไม่ เมื่อเห็นว่าใช้ได้แล้วค่อยใส่น้ำยาหล่อเย็น/กันสนิมใหม่ ถ้าขี้เกียจทำหลายรอบแบบที่ว่า ก็ใช้น้ำยาทำความสะอาดหม้อน้ำลงไปติดเครื่องทิ้งไว้สัก 15-20 นาทีแล้วถ่ายทิ้ง ค่อยใส่น้ำใหม่พร้อมน้ำยาหล่อเย็นกันสนิมก็ได้ครับ แต่ผมไม่ค่อยชอบวิธีนี้เพราะน้ำยาทำความสะอาดหม้อน้ำมีฤทธิ์กัดทำลายท่อทางน้ำที่เป็นยาง และทำให้จุดที่เริ่มจะผุกร่อนลุกลามเร็วขึ้น รถที่เดินทางไกลเป็นประจำ แนะนำให้สำรองสายยางหม้อน้ำทั้งตัวบนตัวล่างไว้ในรถ จำเป็นก็มีเปลี่ยนได้ทันที ไม่ต้องกินข้าวลิงครับ หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 10, 2010, 03:11:22 AM พูดถึงเรื่องหม้อน้ำแล้ว อย่าลืมข้อควรรู้สำหรับน้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำด้วยครับ น้ำยาหล่อเย็น/กันสนิมหม้อน้ำทุกชนิด มีอายุการใช้งานของมันเอง .. จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำและถ่ายน้ำยาทิ้งเมื่อถึงกำหนด น้ำยาหล่อเย็น/กันสนิม ชนิดทั่วไปราคาปานกลางหลายยี่ห้อ เมื่อหมดอายุจะจับตัวกันเป็นก้อนหรือเป็นโคลนเหนียวตกตะกอนและเคลือบท่อทางน้ำ ในหม้อน้ำ, ถังพักน้ำ ทำให้ประสิทธิภาพการหมุนเวียนน้ำและการถ่ายเทความร้อนลดลง บางครั้งทำให้เครื่องฮีทได้ .. ถ้าใช้น้ำยาของนอกราคาสูง ปัญหานี้ก็จะเบาบางลง ถ้ารถมีปัญหาเช่นนั้นไปแล้ว ผมใช้วิธีถ่ายน้ำออกทั้งหมด เติมน้ำใหม่เข้าไปโดยยังไม่ใส่น้ำยาใหม่ลงไป แล้วใช้ไปซัก 3-4 วันก็ถ่ายทิ้ง ทำอย่างนี้ไป 2-3 รอบ ดูสภาพน้ำที่ถ่ายทื้งออกมาว่ามีสี/เม็ดตะกอน/ตมปนออกมาอีกหรือไม่ เมื่อเห็นว่าใช้ได้แล้วค่อยใส่น้ำยาหล่อเย็น/กันสนิมใหม่ ถ้าขี้เกียจทำหลายรอบแบบที่ว่า ก็ใช้น้ำยาทำความสะอาดหม้อน้ำลงไปติดเครื่องทิ้งไว้สัก 15-20 นาทีแล้วถ่ายทิ้ง ค่อยใส่น้ำใหม่พร้อมน้ำยาหล่อเย็นกันสนิมก็ได้ครับ แต่ผมไม่ค่อยชอบวิธีนี้เพราะน้ำยาทำความสะอาดหม้อน้ำมีฤทธิ์กัดทำลายท่อทางน้ำที่เป็นยาง และทำให้จุดที่เริ่มจะผุกร่อนลุกลามเร็วขึ้น รถที่เดินทางไกลเป็นประจำ แนะนำให้สำรองสายยางหม้อน้ำทั้งตัวบนตัวล่างไว้ในรถ จำเป็นก็มีเปลี่ยนได้ทันที ไม่ต้องกินข้าวลิงครับ ขอบพระคุณครับ หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 10, 2010, 08:04:03 AM เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 53 ได้เรื่องเลยครับอาปู :~) ผมขับรถเข้ากรุงเทพ ถึงวงแหวน พระราม 2 เครื่องดับเฉยเลย เปิดกระโปรงดู ท่อยางหม้อน้ำ แตก น้ำในหม้อพักน้ำ กลายเป็น โคลน เหนี่ยว ๆ ได้คุณณัฐดนัย ขับรถไปรับ กว่าจะเสร็จเรื่องซัดไปตี 4 กว่า ๆ เมื่อวาน ก็เข้าไปดูรถที่อู่ ข่าวดี ก็บังเกิด ลูกซูบ 4 ลูกไหม้หมด :OO กว่าจะซ่อมเสร็จ คง สัปดาห์หน้า นี่ว่าจะเอาหม้อน้ำไปให้ ช่างเสริม ทำบ้าง อาปูมีเบอร์ติดไหมครับ โอ้โห ..... ถึงขั้นแป๊กเลย ..... งานเข้าแล้วสิครับ คงต้อง Overhaul ตับใตใส้พุงทั้งหมด เกจ์วัดความร้อนไม่โชว์เลยหรือครับน้าเหล็ก หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 10, 2010, 05:41:23 PM เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 53 ได้เรื่องเลยครับอาปู :~) ผมขับรถเข้ากรุงเทพ ถึงวงแหวน พระราม 2 เครื่องดับเฉยเลย เปิดกระโปรงดู ท่อยางหม้อน้ำ แตก น้ำในหม้อพักน้ำ กลายเป็น โคลน เหนี่ยว ๆ ได้คุณณัฐดนัย ขับรถไปรับ กว่าจะเสร็จเรื่องซัดไปตี 4 กว่า ๆ เมื่อวาน ก็เข้าไปดูรถที่อู่ ข่าวดี ก็บังเกิด ลูกซูบ 4 ลูกไหม้หมด :OO กว่าจะซ่อมเสร็จ คง สัปดาห์หน้า นี่ว่าจะเอาหม้อน้ำไปให้ ช่างเสริม ทำบ้าง อาปูมีเบอร์ติดไหมครับ โอ้โห ..... ถึงขั้นแป๊กเลย ..... งานเข้าแล้วสิครับ คงต้อง Overhaul ตับใตใส้พุงทั้งหมด เกจ์วัดความร้อนไม่โชว์เลยหรือครับน้าเหล็ก โชว์ปรกติครับ ดับเลนขวาสุดเลยครับ ผมได้แต่ประคองเข้าข้างทางคู่ขนาน วันนี้ก็เข้าไปดู ช่างพึ่งเอาเครื่องกับฝาสูบไปเจียร ใหม่ น่าจะเสร็จในสัปดาห์นี้ครับ อาปูครับ ผมเปิดหม้อพักน้ำออกดู ยังกับป่าชายเลนเลยครับ หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ พฤษภาคม 10, 2010, 08:44:30 PM ถ้าความร้อนขึ้นสูง (เครื่องอาจดับ) อย่ารีบเติมน้ำในหม้อน้ำนะครับ รอซัก ๔๐ นาที
ค่อย ๆ เติมน้ำลงไปไม่อย่างงั้น เครื่องพังแน่ครับ ฝาสูบ แหวน ฯลฯ หักหมดครับ ;) หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: wharf 20d ที่ พฤษภาคม 10, 2010, 09:05:09 PM ถ้าความร้อนขึ้นสูง (เครื่องอาจดับ) อย่ารีบเติมน้ำในหม้อน้ำนะครับ รอซัก ๔๐ นาที ค่อย ๆ เติมน้ำลงไปไม่อย่างงั้น เครื่องพังแน่ครับ ฝาสูบ แหวน ฯลฯ หักหมดครับ ;) ขออนุญาตเพิ่มเติมในกรณีนี้นะครับ ถ้าความร้อนขึ้นสูงอย่าดับเครื่อง เปิดฝา"หม้อพักน้ำ"เติมน้ำให้เต็ม(มีเพื่อนคอยเติมให้ล้นตลอดก็ดี) แล้วใช้น้ำราดหม้อน้ำ มีสายยางฉีดยิ่งดีฉีดจากหน้ากระจังเข้าไป พอเครื่องยนต์เย็นตัวลงมันจะดูดน้ำจากหม้อพักเข้าไปในระบบหล่อเย็นจนเต็มทันที ใช้วิธีนี้จะไม่ต้องเสี่ยงเปิดฝาหม้อน้ำเลย...ลองนำไปใช้ดูนะครับ... หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: oil ที่ พฤษภาคม 10, 2010, 09:19:11 PM เดี๋ยวนี้มีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิในระบบหล่อเย็น แบบพร๊อกซิมิตตี้ นอกจากวัดระดับอุณหภูมิแล้ว ยังสามารถส่งสัญญาณเตือนกรณีน้ำในหม้อน้ำลดระดับลงได้
น่าสังเกตุนะครับว่าหลายครั้งเครื่องยนต์ร้อนจนดับกลางอากาศทั้งๆที่เข็มวัดtemp ชี้ไม่ถึงครึ่ง เพราะเซ็นเซอร์ติดมากับรถจะติดตั้งไว้ด้านบนเครื่อง บริเวณวาล์วน้ำ ดังนั้นถึงน้ำลดระดับลงความร้อนพุ่งสูงขึ้น แต่เซ็นเซอร์ที่ติดรถจะจับสัญญาณไม่ได้ ส่วนเซนเซอร์แบบพร๊อกซิมิตตี้ จะจับสัญญาณน้ำลดระดับได้ เพราะความต้านทานในระบบจะเปลี่ยนไปเมื่อไม่มีน้ำเป็นตัวนำไฟฟ้า มันจึงส่งสัญญาณเอ้าท์พุทออกมาเป็นเสียงเตือนได้ ลองหาดูในเว็บ วีคเอ็นฮอบบี้ www.weekendhobby.com (http://www.weekendhobby.com) ราคาพันต้นๆ ค่าติดตั้งอีกสามร้อยบาท รับรองรู้ก่อนพังแน่นอน ส่วนแบบที่เอามาแปะไว้ตามน๊อตวาล์วน้ำนั้น อย่าได้เสียเงินไปซื้อมาใส่เชียว หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 11, 2010, 05:28:07 PM เดี๋ยวนี้มีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิในระบบหล่อเย็น แบบพร๊อกซิมิตตี้ นอกจากวัดระดับอุณหภูมิแล้ว ยังสามารถส่งสัญญาณเตือนกรณีน้ำในหม้อน้ำลดระดับลงได้ น่าสังเกตุนะครับว่าหลายครั้งเครื่องยนต์ร้อนจนดับกลางอากาศทั้งๆที่เข็มวัดtemp ชี้ไม่ถึงครึ่ง เพราะเซ็นเซอร์ติดมากับรถจะติดตั้งไว้ด้านบนเครื่อง บริเวณวาล์วน้ำ ดังนั้นถึงน้ำลดระดับลงความร้อนพุ่งสูงขึ้น แต่เซ็นเซอร์ที่ติดรถจะจับสัญญาณไม่ได้ ส่วนเซนเซอร์แบบพร๊อกซิมิตตี้ จะจับสัญญาณน้ำลดระดับได้ เพราะความต้านทานในระบบจะเปลี่ยนไปเมื่อไม่มีน้ำเป็นตัวนำไฟฟ้า มันจึงส่งสัญญาณเอ้าท์พุทออกมาเป็นเสียงเตือนได้ ลองหาดูในเว็บ วีคเอ็นฮอบบี้ www.weekendhobby.com (http://www.weekendhobby.com) ราคาพันต้นๆ ค่าติดตั้งอีกสามร้อยบาท รับรองรู้ก่อนพังแน่นอน ส่วนแบบที่เอามาแปะไว้ตามน๊อตวาล์วน้ำนั้น อย่าได้เสียเงินไปซื้อมาใส่เชียว จะหามาใช้บ้างครับ หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ พฤษภาคม 11, 2010, 05:37:13 PM ผมจำกลิ่นน้ำยาหล่อเย็นได้ถ้ารั่วนี่รู้เลย ใช้จมูกให้เป็นประโยชน์
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 14, 2010, 08:21:51 PM เห็นบิลแล้ว .......
ลมจับ หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: kon tung kru 91 ที่ พฤษภาคม 14, 2010, 08:25:14 PM ขอบคุณครับ ว่าแต่ ! อะไรร้อนก็ไม่สำคัญเท่าคนร้อนนี่สิครับ ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาที่ทุ่งครุสิครับ
แล้วจะรู้ว่า ร้อนของจริงมันเป็นอย่างไร ::010:: หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 14, 2010, 08:41:25 PM หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 15, 2010, 02:22:19 AM 870 หนึ่งกระบอกครับ หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 15, 2010, 02:22:56 AM :~)
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 15, 2010, 02:25:21 AM :OO
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 15, 2010, 02:25:58 AM :<< :<< :<< :<< ::011:: ::011:: :OO :OO :~) :~) ::004:: ::004::
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤษภาคม 15, 2010, 07:38:01 AM ก็เท่ากับได้เครื่องใหม่ (เสื้อเก่า) ลูกนึง อายุใช้งานยืดไปได้อีกนานครับน้าเหล็ก (ถ้าไม่แป๊กอีก) หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤษภาคม 15, 2010, 09:47:40 AM แม่เจ้า :<< :<<
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 15, 2010, 11:11:29 AM 870 ผมหายไปกระบอกหนึ่ง :~) :~) :~)
หัวข้อ: Re: ร้อนนี้ ....... อย่าให้ร้อนครับ !!!!!!!! เริ่มหัวข้อโดย: Steel90 ที่ พฤษภาคม 15, 2010, 11:11:53 AM |