เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 10:06:09 PM



หัวข้อ: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 10:06:09 PM
เสียงเห่าจากสุนัขที่ซื่อสัตย์  


           คืนวันหนึ่ง เจ้าหัวขโมยแอบย่องเข้ามาในบ้าน ทันใดนั้น สุนัขเฝ้าบ้านก็เห่าเสียงดังขึ้น เจ้าขโมยตกใจมาก รีบโยนขนมปังชิ้นหนึ่งให้สุนัข หวังจะปิดปากของมันด้วยสินบนชิ้นนี้แต่สุนัขกลับพูดขึ้นว่า “แก ให้ขนมปังฉันทำไม หวังจะฉวยโอกาสที่ช่วงที่ฉันกินขนมปัง ฆ่าเจ้านายของฉัน แล้วขนของหนีใช่ไหม ฉันไม่หลงกลแกง่าย ๆดอก ต่อให้แกเอาของกินที่อร่อยกว่านี้มาหลอกล่อฉัน ฉันก็ไม่มีทางทิ้งหน้าที่ของฉันเพื่อไปกินสินบนของแก” ซึ่งก็ทำให้เจ้าของบ้านตื่นขึ้นมา หัวขโมยเห็นดังนั้นจึงได้หนีไป

          คติ

    1.มี แต่คนถ่อยเท่านั่นที่ยอมรับสินบนเล็กๆ น้อย ๆ โดยไม่คำนึงถึงอนาคตอันยาวไกล และในที่สุดตัวเองก็ต้องเสียชื่อเสียงกลายเป็นคนเลวไร้คุณธรรม เพราะสินบนที่รับมา
    2.เกิดเป็นคน ถ้าหากไม่คิดให้ไกล อนาคตก็จะสั้น โบราณท่านสองว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ถ้าอยากมีอนาคตที่ยาวไกลเราก็จะ
ต้องซื่อตรงต่อหน้าที่ ดุจดังสุนัขที่ซื่อสัตย์ในนิทานเรื่องนี้




                                  
                                                                            
                                                                                                   ก๊อปปี้มาจากเวปอื่น       :D         สวัสดีครับ...pasta ::014:: :VOV: :VOV: :VOV:



หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 10:09:23 PM

                               ที่บ้านเลี้ยงอยู่ 3 ตัว (ในบ้าน)   และ   อีกนับสิบ  (ในวัดข้างบ้าน)   .......  หุ หุ หุ  เรื่องของคนหลังบ้านแต่เบิกเอ๊าเบิกเอา

                               บางวันยัง งงๆ อยู่เลยว่า  หมากินข้าวเรา  หรือ เราแย่งข้าวหมากิน  ..........   ::004::   หมาที่เลี้ยงในบ้านก็จรจัดทั้งเพ    ::005::



หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 11:51:51 PM
    คิดถึง  "ปากดำ "
          เรื่องมีอยู่ว่า ที่บ้านผม มีหมาตัวหนึ่ง ผมตั้งชื่อ ให้มันว่าไอ้ปากดำ ตัวมันสีน้ำตาลแตก จมูกกับปากมันสีดำ มันเป็นหมาจรจัด
ตัวเมียขี้เรื้อนสุดๆ  แต่ใจมันสุดยอดครับแรกๆก็เห็นมันหน้าบ้าน ผมนั่งกินข้าวอยู่ก็เลยโยนกระดูกให้กิน ทุกวัน
 แต่ผมกลับไม่ได้สังเกตว่า ผมนั่งกินข้าวอยู่หน้าบ้าน ประมาณ11.00น. ทุกวัน มันก็จะมาเวลานั้นทุกวัน ::005::
แต่ ปากดำจะมาอีกครั้งนึงก็เวลา ประมาณ 5 โมงเย็นโดยประมาณ ผมปิดบ้าน(ร้านข้าวสาร) ประมาณ3 ทุ่ม 
เรื่องที่แปลกก็คือ ไอ้ปากดำจะมานอนเฝ้าหน้าร้าน  เมื่อลูกค้าเดิน เข้าร้าน มันจะ เห่า เข้าไปในบ้าน ประมาณว่า เรียกผมให้มาขายของ
 หรือถ้าพูดได้ คงบอกว่า " เฮ้ย ลูกค้ามาซื้อข้าวโว้ย" หลังจากที่ ผมหรือพ่อ ออกมา มันก็จะกลับไปนอนที่เดิม ::007:: ::007::
  แต่หลังจาก 3 ทุ่มไปแล้ว  ใครก็แล้วแต่ ที่เฉียดมาหน้าบ้านเช่น คนเดินมาหยุดหน้าบ้านหรือ ด้อมๆมองๆ ไอ้ปากดำมันเห่าไม่หยุด
ที่สำคัญ เสียงของมันประมาณว่า "เฮ้ยโจทย์มาแล้วโว้ย" เพื่อนๆมันที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเช่น ในตลาดเกษร1 จะแห่กันมาประมาณ 7-8 ตัว มารุมเห่า  แน่นอนครับผู้มาเยือน ยามค่ำคืนก็จะหายไป     แถว ตลาดเกษตร1 ตอนนั้น เ็ด็กดมกาวเยอะมาก ครับ  :)
           
      เรื่องไอ้ปากดำ ทำให้ลือไปทั้งซอย แถวนั้น จึง เอาขนมที่เหลือมาให้ไอ้ปากดำกินทุกวัน เพื่อนๆมันก็ได้รับอนิสงฆ์ไปด้วย
ผมมองๆไปแล้วเหมือ ธุระกิจ มาเฟีย(คุมซอย) อะไรซักอย่าง  ::005:: ::005:: หมา 7-8 ตัวไม่อยู่ที่เดียวกัน แต่ บางตัวอยู่ในตลาด บางตัวอยู่อีกซอย
พอเกิดเรื่องกัน จะเห่ารับกันและจะไปรวมพล กันตามเสียงกันไป จะไม่ ทำงามข้ามถิ่น กันแต่พอมี ส่วย(ของกิน)มันจะมารวมกัน
      แต่ข้างบ้านผมก็เลี้ยงหมาเหมือนกันเป็นหมา พุดเดิล 2 ตัว  อาเซลเชี่ยนอีก 1ตัว ไอ้หมา 3 ตัวนี้มันมักจะ มาเยี่ยวที่ประตูบ้านผมทุกวัน
ผมเคยบอกเจ้าของหมาแล้วก็ไม่ฟัง  "ไม่ใช่หมาเจ๊ หรอก สงสัยพวกหมาจรจัด"    คิดดู ครับ แม้แต่แมลงสาบมันก็เห่า มันเห่าทั้งวันทั้งคืน
ผมเนี้ยไม่ได้นอนเลย  :~) :~)    หลังจากนั้นไม่นาน บรรดาหมา สุดเลิฟของเค้า ก็มีเห็บหมา   เจ๊ข้างบ้านบอกว่า  หมาบ้านเจ๊มันติดมาจากหมาจรจัด   พวกนี้   วิธีจัดการ เห็บหมาของเจ้ ข้างบ้านก็คือ เบื่อหมา จรจัดทั้งหมดในซอย  กำจัด ต้นเหตุ 
         หลังจากนั้น ก็ไม่มีใคร คุยกับเจ้บ้านนี้อีกเลย   :)
 
   


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 12:05:36 AM


                                   ผมไม่คิดเล็กคิดน้อยกับหมาจรจัด  .......  มีที่แตกต่างคือ  พวกมันพอเห็นเรา  อู้ฮู  มันกระดิกหาง เหมือนหางจะหลุดเลยทีเดียว


                                    หมา เห็นแล้วก็น่าสงสารนะ  เคยถูกเลี้ยงดูอย่างดีหลายสายชาติพันธุ์   วันหนึงโดนเจ้าของใจดำพาไปปล่อยทิ้งให้อดๆอยากๆ ..........

                                    แถมพวกหน้าตาบอกว่าใจบุญหิ้วปิ่นโตเข้าวัดไปหาอาจารย์ (เจ้าอาวาทเท่านั้น  รูปอื่นๆอย่าได้แหยม) เจอหมาอดอยากเดินตามก็ตวาด

                                    สั่งให้คนรับใช้ไล่ทุบตีเอาก้อนหินก้อนอิฐขว้างปาได้รับบาดเจ็บน่าเวทนา มันก็มีชีวิตจิตใจ  ช่วยกันดูแลเถิดอย่างน้อยไมชอบก็อย่าไปทำร้ายมันเลย



หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 01:28:02 AM
ตอนนี้เลี้ยงแมวแล้วครับ เพราะหมาเค้าห้ามเลี้ยง ไปเจอ ตอนขับรถไปบ้านพ่อตา ครับ  มันถูกทิ้งอยู่ข้างถนน
พี่น้องมัน 4 ตัวตายหมดครับถูกรถชน  ::004::  
  ไอ้ตัวนี้ มันชาดรู้สา ครับ กับข้าวคนไม่ยุ่งเลยครับ สนใจแต่อาหารในจานของมันอย่างเดียว  ชื่อ ไอ้สิงโต ครับ  
เวลานอนก็นอนกับผม เวลาซ่อมเครื่องก็มานอนข้างๆ   ขี้อ้อนสุดๆ ครับ  ไม่ขี้ในบ้าน เวลาจะขี้ ร้องจะออกข้างนอกอย่างเดียว ครับ
 น่ารักมาก   :VOV:

(http://www.picciety.com/files/2010/11/28/25/1897482098.jpg) (http://www.picciety.com/?page=view&pid=MTg5NzQ4MjA5OA==)


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: Ultraman Taro #รักในหลวง# ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 05:33:59 AM

(http://www.picciety.com/files/2010/11/28/25/1897482098.jpg) (http://www.picciety.com/?page=view&pid=MTg5NzQ4MjA5OA==)


แมวของบังน่ารัก ผมอยากเลี้ยงสีนี้มาก แต่ไม่เคยได้มาเลย ส่วนใหญ่จะได้สีมูสังมา


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 08:07:41 AM
ตอนนี้เลี้ยงแมวแล้วครับ เพราะหมาเค้าห้ามเลี้ยง ไปเจอ ตอนขับรถไปบ้านพ่อตา ครับ  มันถูกทิ้งอยู่ข้างถนน
พี่น้องมัน 4 ตัวตายหมดครับถูกรถชน  ::004:: 
  ไอ้ตัวนี้ มันชาดรู้สา ครับ กับข้าวคนไม่ยุ่งเลยครับ สนใจแต่อาหารในจานของมันอย่างเดียว  ชื่อ ไอ้สิงโต ครับ 
เวลานอนก็นอนกับผม เวลาซ่อมเครื่องก็มานอนข้างๆ   ขี้อ้อนสุดๆ ครับ  ไม่ขี้ในบ้าน เวลาจะขี้ ร้องจะออกข้างนอกอย่างเดียว ครับ
 น่ารักมาก   :VOV:

(http://www.picciety.com/files/2010/11/28/25/1897482098.jpg) (http://www.picciety.com/?page=view&pid=MTg5NzQ4MjA5OA==)

::007:: ::007:: ::007::เมียไม่ให้นอนด้วย :DD :DD :DD


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 10:20:08 AM
คบหมาเป็นเพื่อนดีกว่าคบคนหมาๆครับ  ;D ;D ;D ;D

จะหมาจะแมวจะนกจะปลาผมชอบหมดนะครับ  คือ หลายๆครั้งผมสบายใจเวลาที่อยู่กับพวกนี้มากกว่าอยู่กับคนเยอะไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อนมากมายไม่ต้องปวดหัว  จะพูดอะไรกับมันคือคิดไงก็พูดไม่ต้องซับซ้อน ไม่เหมือนกับคน  คนส่วนใหญ่สมัยนี้ใจเหมือนเถาวัล 


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 10:24:06 AM
พวกที่ใกล้ชิดฉีดยากัน วัคซีนให้เรียบร้อยนะครับ ;D ;D ;D ถ้าพลาดอันตรายมาก


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 10:25:21 AM
พวกที่ใกล้ชิดฉีดยากัน วัคซีนให้เรียบร้อยนะครับ ;D ;D ;D ถ้าพลาดอันตรายมาก
ของผมหมานะฉีดแล้วครับพี่เหลือแต่คน  ;D ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 10:33:19 AM
พวกที่ใกล้ชิดฉีดยากัน วัคซีนให้เรียบร้อยนะครับ ;D ;D ;D ถ้าพลาดอันตรายมาก
ของผมหมานะฉีดแล้วครับพี่เหลือแต่คน  ;D ;D ;D ;D ;D

ความเสี่ยงตกไปอยู่ที่หมาแทน ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 10:41:37 AM
ไม่เป็นไรครับ  ถ้าผมเผลอกัดหมา เรื่องทำแผลให้หมาง่ายกว่าคนครับ   ;D ;D ;D ;D  แผลไหนทะลุจับกดแน่นๆแล้วเอาน้ำเกลืออัดแล้วบีบออก แผลไหนฉีกก็เย็บสดๆ ::005:: ::005::ไม่เห็นมันบ่นกันซักตัวนึงเลย


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 10:51:17 AM
ผมมีสามสาวทำหมันแล้ว แถวบ้านเลี้ยงหมากันเยอะ จะเลี้ยงหมาก็ขี้เกียจห้ามทัพ แต่สามสาวนี้ไล่ตบหมาเป็นว่าเล่น :OO
(http://img94.imageshack.us/img94/1145/p9130002small.jpg)


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 10:55:01 AM
เค้าบอกคนเลี้ยงแมวมักเอาแต่ใจครับ อิอิอิ


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:09:42 AM
 ::001:: ::001:: ::001::
เค้ามาเองครับ  กินอิ่มแล้วก็ไม่ไป  ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:14:56 AM
 ;D ;D เอาไว้เป้นข้ออ้างเวลาไปนอกบ้านตามหา(น้อง)แมว  ::005:: ::005:: ::005::


แต่แมวทำแผลรักษายากกว่าหมาเยอะครับ  ตั้งแต่เกิดมารักษาทั้งนกหมา ปลา  มีแต่แมวนี้ละไม่กล้า บางตัวดุอย่างกับเสือครับ


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:20:29 AM
สัญชาตญาณป่ายังเหลือเยอะครับ แผลก็หายยากเพราะเลียได้ทั้งตัว เคยป้อนยาถ่ายครั้งหนึ่งได้แผลเข็ดเลย เสียตังค์จ้างหมอแมวดีกว่า :~)


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:31:49 AM
ถ้าน้องๆหมาใช้เบนด้า500ครับ  1เม็ดจะเท่ากับน้ำหนักคน50กิโลโดยเฉลี่ยครับ แต่ใช้กับแมวไม่ได้มันแรงไป    
กับแมวนี้ใครจะใจถึงก็เอาเหอะผมขอบายคนนึงละ  ถ้าเอายายัดใส่ตับย่างแล้วไม่ทานก็ต้องหมอสถานเดียวละ กับหมานี้ผมยังยัดใต้โคนลิ้นได้   ถ้าดื้อหน่อยก็เอาสลิ้งฉีดเอา  โดนเล็บโดนเขี้ยวแมวทีนึงแผลปวดแผลกันไปหลายวันเลยทีเดียวเชียว :~) :~) :~)



อากาศเริ่มเย็นแล้วใครมีลูกๆที่มีอายุหาเสื้อเก่าๆมาใส่ให้เค้าตอนกลางคืนด้วยก็ดีนะครับ ::014:: ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:42:52 AM
10 อันดับโรคที่สุนัข & แมวเป็นได้แต่คนไม่รู้ (โรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวาน)

          1. โรคมะเร็ง ได้แก่ เต้านม, ผิวหนัง, เม็ดเลือดขาว, กระดูก, กระเพาะปัสสาวะ, ช่องปาก(ผมเจอมากับตัวแล้วตอนรักษามะเร็งเต้านมหมานี้กลิ่นอย่าให้บรรยายครับแนะนำให้ทานข้าวแล้วนั่งพักให้หายอิ่มก่อนไปทำแผลให้น้องหมา)

          2. โรคไตวายทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง
(โรคนี้ที่บ้านเคยมีแล้วอยู่ๆๆก็ร่วงรักษาไม่เคยทันซักตัว)         
                    • แบบเฉียบพลัน อาการ เจ็บหลัง เดินขาแข็ง แห้งน้ำ ไม่มีปัสสาวะหรือมีน้อยลง
                    • แบบเรื้อรัง กินน้ำบ่อย ปัสสาวะมาก น้ำหนักลด และปากมีกลิ่นเหม็น

          3. โรคนิ่ว เกิดทุกส่วนของระบบทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ ที่ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ทำให้เยื่อบุทางเดินปัสสาวะเกิดการระคายเคือง มีอาการเจ็บปวด ปัสสาวะขัด หรือบางรายปัสสาวะไม่ออก

          4. โรคหัวใจ ได้แก่ พยาธิหนอนหัวใจ ลิ้นหัวใจรั่ว หัวใจวายเฉียบพลัน หัวใจวายเรื้อรัง อาการที่พบ หอบ เหนื่อยง่าย ไอแห้ง กินอาหารลดลง(ที่บ้านผมเท่าที่เจอมักเป็นกับหมาเล็กครับ  ถ้าไม่นับพยาธิหนอนหัวใจ   ลิ้นเขียวกันเลยทีเดียว)

          5. โรค เบาหวาน ในสุนัขเกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายทำลายเซลล์ตับอ่อนจึงผลิตอินซูลินไม่ได้, ในแมวเกิดจากความอ้วน ตับอ่อนอักเสบ หรือภูมิคุ้มกันเหนี่ยวนำให้ทำลายเซลล์ของตับอ่อนตัวเอง สัตว์จะมีอาการกินน้ำและปัสสาวะมาก กินมากแต่น้ำหนักลด เกิดภาวะขาดน้ำ ในสุนัขเกิดต้อกระจกตามมา(อันนี้ผมเจอในหมานะยอร์คเชียร อ้วนมาก)

          6. โรคภูมิแพ้ ได้แก่ แพ้อาหาร, ฝุ่น หรือ อากาศ สุนัขที่เป็นจะแสดงออก โดยการเกา เลียเท้า เอาหน้าถูพื้น อาจมีท้องเสีย หรืออาเจียนได้

          7. โรคต้อกระจก เกิดได้ทุกพันธุ์ ทุกอายุ มีหลายสาเหตุ โดยอาจเป็นแต่กำเนิดหรือสาเหตุอื่นโน้มนำ เช่น เบาหวาน ติดเชื้อ ได้รับสารพิษ และความชรา ลักษณะที่พบ แก้วตามีสีขาวขุ่น มองเห็นลดลง เดินชนสิ่งของ

          8. โรคข้อสะโพกเสื่อม สุนัข เกิดได้ทุกช่วงอายุ ทำให้มีท่าเดินหรือวิ่งที่ผิดไป ในรายที่เป็นมาก อาจไม่ยอมเดิน

          9. โรคเอดส์แมว มักมีอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้ออื่น เพราะระบบภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่องสัตว์จะเสียชีวิตได้ การติดต่อเกิดจากน้ำลาย จากการกัดกัน โดยเฉพาะแมวตัวผู้

          10. ลมชัก ยังไม่สาเหตุที่แน่นอน มักพบในสุนัขอายุ 1-5 ปี อาการชักมีตั้งแต่กระตุกที่ใบหน้าจนถึงนอนชัก ปัสสาวะและอุจจาระไม่รู้ตัว โดยถ้าสัตว์ชักนานเกิน 5 นาที ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:48:29 AM
ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ครับ ความอดทนของสัตว์จะสูงมาก เป็นอะไรทีกว่าคนจะรู้ก็หนักมากแล้ว +ครับ


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: wiched ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 09:15:21 AM
+1 ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ของพี่


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: manabu ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:48:14 PM
10 อันดับโรคที่สุนัข & แมวเป็นได้แต่คนไม่รู้ (โรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวาน)

          1. โรคมะเร็ง ได้แก่ เต้านม, ผิวหนัง, เม็ดเลือดขาว, กระดูก, กระเพาะปัสสาวะ, ช่องปาก(ผมเจอมากับตัวแล้วตอนรักษามะเร็งเต้านมหมานี้กลิ่นอย่าให้บรรยายครับแนะนำให้ทานข้าวแล้วนั่งพักให้หายอิ่มก่อนไปทำแผลให้น้องหมา)

          2. โรคไตวายทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง
(โรคนี้ที่บ้านเคยมีแล้วอยู่ๆๆก็ร่วงรักษาไม่เคยทันซักตัว)         
                    • แบบเฉียบพลัน อาการ เจ็บหลัง เดินขาแข็ง แห้งน้ำ ไม่มีปัสสาวะหรือมีน้อยลง
                    • แบบเรื้อรัง กินน้ำบ่อย ปัสสาวะมาก น้ำหนักลด และปากมีกลิ่นเหม็น

          3. โรคนิ่ว เกิดทุกส่วนของระบบทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ ที่ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ทำให้เยื่อบุทางเดินปัสสาวะเกิดการระคายเคือง มีอาการเจ็บปวด ปัสสาวะขัด หรือบางรายปัสสาวะไม่ออก

          4. โรคหัวใจ ได้แก่ พยาธิหนอนหัวใจ ลิ้นหัวใจรั่ว หัวใจวายเฉียบพลัน หัวใจวายเรื้อรัง อาการที่พบ หอบ เหนื่อยง่าย ไอแห้ง กินอาหารลดลง(ที่บ้านผมเท่าที่เจอมักเป็นกับหมาเล็กครับ  ถ้าไม่นับพยาธิหนอนหัวใจ   ลิ้นเขียวกันเลยทีเดียว)

          5. โรค เบาหวาน ในสุนัขเกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายทำลายเซลล์ตับอ่อนจึงผลิตอินซูลินไม่ได้, ในแมวเกิดจากความอ้วน ตับอ่อนอักเสบ หรือภูมิคุ้มกันเหนี่ยวนำให้ทำลายเซลล์ของตับอ่อนตัวเอง สัตว์จะมีอาการกินน้ำและปัสสาวะมาก กินมากแต่น้ำหนักลด เกิดภาวะขาดน้ำ ในสุนัขเกิดต้อกระจกตามมา(อันนี้ผมเจอในหมานะยอร์คเชียร อ้วนมาก)

          6. โรคภูมิแพ้ ได้แก่ แพ้อาหาร, ฝุ่น หรือ อากาศ สุนัขที่เป็นจะแสดงออก โดยการเกา เลียเท้า เอาหน้าถูพื้น อาจมีท้องเสีย หรืออาเจียนได้

          7. โรคต้อกระจก เกิดได้ทุกพันธุ์ ทุกอายุ มีหลายสาเหตุ โดยอาจเป็นแต่กำเนิดหรือสาเหตุอื่นโน้มนำ เช่น เบาหวาน ติดเชื้อ ได้รับสารพิษ และความชรา ลักษณะที่พบ แก้วตามีสีขาวขุ่น มองเห็นลดลง เดินชนสิ่งของ

          8. โรคข้อสะโพกเสื่อม สุนัข เกิดได้ทุกช่วงอายุ ทำให้มีท่าเดินหรือวิ่งที่ผิดไป ในรายที่เป็นมาก อาจไม่ยอมเดิน

          9. โรคเอดส์แมว มักมีอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้ออื่น เพราะระบบภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่องสัตว์จะเสียชีวิตได้ การติดต่อเกิดจากน้ำลาย จากการกัดกัน โดยเฉพาะแมวตัวผู้

          10. ลมชัก ยังไม่สาเหตุที่แน่นอน มักพบในสุนัขอายุ 1-5 ปี อาการชักมีตั้งแต่กระตุกที่ใบหน้าจนถึงนอนชัก ปัสสาวะและอุจจาระไม่รู้ตัว โดยถ้าสัตว์ชักนานเกิน 5 นาที ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล




พี่ขุนช้างรู้เยอะจริงๆ เยอะกว่าสัตวแพทย์อย่างผมอีก
ถ้าบ้านใกล้ๆกัน ผมคงอาสาไปป้อนยาแมวให้แล้วละครับ


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:52:00 PM
อู๊ยไม่เลยครับผมมิบังอาจครับ แค่ทำแผลกับดูเท่านั้นละครับอาศัยว่าที่บ้านเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยงเยอะ เวลาไปหาหมอก็ถามๆดูๆตอนเค้าทำครับ อาศัยอ่านตามเวปบ้าง บางทีก็หมาข้างถนนนี้ละครับเวลาป่วยทีมันก้มานอนหน้าร้านให้รักษาทีนึง  แต่สู้คุณหมอไม่ได้หรอกครับ ผมทำเพราะสงสารมันมากกว่า


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: manabu ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:00:16 PM
อู๊ยไม่เลยครับผมมิบังอาจครับ แค่ทำแผลกับดูเท่านั้นละครับอาศัยว่าที่บ้านเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยงเยอะ เวลาไปหาหมอก็ถามๆดูๆตอนเค้าทำครับ อาศัยอ่านตามเวปบ้าง บางทีก็หมาข้างถนนนี้ละครับเวลาป่วยทีมันก้มานอนหน้าร้านให้รักษาทีนึง  แต่สู้คุณหมอไม่ได้หรอกครับ ผมทำเพราะสงสารมันมากกว่า


  ผมเชื่อว่าหมาจะอยู่กับคนไปอีกนาน  เพราะเขาเป็นสัตว์ที่รักและซื่อสัตย์ต่อคนมากที่สุด
หมาจรจัดส่วนใหญ่พร้อมจะยอมรับเราเป็นเจ้านาย แต่เราส่วนใหญ่ไม่พร้อมที่จะยอมรับ
ว่าเป็นเจ้าของ  ::007:: ::007:: ::007:: ::007::
   ผมเป็นหมอที่ไม่เหมือนหมอ เพราะขี่ม้า ยิงปืน ขับบิ๊กไบค์ เปิดปิดคลินิกตามใจและชอบ
เดินทาง  ถ้ามีอะไรให้รับใช้ ยินดีช่วยในด้านคำปรึกษาครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:16:11 PM
อู๊ยไม่เลยครับผมมิบังอาจครับ แค่ทำแผลกับดูเท่านั้นละครับอาศัยว่าที่บ้านเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยงเยอะ เวลาไปหาหมอก็ถามๆดูๆตอนเค้าทำครับ อาศัยอ่านตามเวปบ้าง บางทีก็หมาข้างถนนนี้ละครับเวลาป่วยทีมันก้มานอนหน้าร้านให้รักษาทีนึง  แต่สู้คุณหมอไม่ได้หรอกครับ ผมทำเพราะสงสารมันมากกว่า
แล้ว คนปากหมา รักษายังไง ครับท่าน  ;D


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:25:44 PM
 ::014:: ::014:: ::014:: ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ผมเชื่อว่าคนต่อให้ใจแข็งใจหินยังไงสุดท้ายทุกคนก็ต้องการความรักครับ สุนัขเป็นสัตว์ชนิดนึงที่สามารถสื่อถึงความรักได้ดี เค้าต่างกับเราแค่พูดไม่ได้ละครัยสมองเค้าก็พอๆกับเด็ก๔    ๕  ขวบ ถ้าออกกฎหมายยิงคนตายไม่ติดคุกผมคงยิงไปหลายรอบละครับ ;D ;D ;D   บางคนเอามีดไล่ฟันหมางี้ น้ำมันร้อนๆลวกงี้  เวลาผมต้องรักษาทีกลับดูเป็นเรื่องตลกของคนแถวบ้าน  ดูเป็นเรื่องขำไป  ผมก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรครับแค่โชคดีที่ เกิดมาในครอบครัวที่ใจดี อะไรที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงมากทำได้ก็ทำไป  ยังมีคนใจดีกว่าผมอีกเยอะครับ  ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:26:18 PM
อู๊ยไม่เลยครับผมมิบังอาจครับ แค่ทำแผลกับดูเท่านั้นละครับอาศัยว่าที่บ้านเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยงเยอะ เวลาไปหาหมอก็ถามๆดูๆตอนเค้าทำครับ อาศัยอ่านตามเวปบ้าง บางทีก็หมาข้างถนนนี้ละครับเวลาป่วยทีมันก้มานอนหน้าร้านให้รักษาทีนึง  แต่สู้คุณหมอไม่ได้หรอกครับ ผมทำเพราะสงสารมันมากกว่า
แล้ว คนปากหมา รักษายังไง ครับท่าน  ;D
ยืนดูแล้วยิ้มเฉยๆครับ  ;D ;D ;Dไม่ต้องทำไร ปล่อยให้มันตายไปเอง


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:28:38 PM
 :<<เยี่ยมครับท่าน  ;D


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 04:06:17 PM
อู๊ยไม่เลยครับผมมิบังอาจครับ แค่ทำแผลกับดูเท่านั้นละครับอาศัยว่าที่บ้านเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยงเยอะ เวลาไปหาหมอก็ถามๆดูๆตอนเค้าทำครับ อาศัยอ่านตามเวปบ้าง บางทีก็หมาข้างถนนนี้ละครับเวลาป่วยทีมันก้มานอนหน้าร้านให้รักษาทีนึง  แต่สู้คุณหมอไม่ได้หรอกครับ ผมทำเพราะสงสารมันมากกว่า
แล้ว คนปากหมา รักษายังไง ครับท่าน  ;D
ยืนดูแล้วยิ้มเฉยๆครับ  ;D ;D ;Dไม่ต้องทำไร ปล่อยให้มันตายไปเอง
แม่นครับพี่...ปากหมามากๆเดี๋ยวตายเองไม่ต้องทำไร


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 04:10:18 PM
อู๊ยไม่เลยครับผมมิบังอาจครับ แค่ทำแผลกับดูเท่านั้นละครับอาศัยว่าที่บ้านเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยงเยอะ เวลาไปหาหมอก็ถามๆดูๆตอนเค้าทำครับ อาศัยอ่านตามเวปบ้าง บางทีก็หมาข้างถนนนี้ละครับเวลาป่วยทีมันก้มานอนหน้าร้านให้รักษาทีนึง  แต่สู้คุณหมอไม่ได้หรอกครับ ผมทำเพราะสงสารมันมากกว่า
แล้ว คนปากหมา รักษายังไง ครับท่าน  ;D
ยืนดูแล้วยิ้มเฉยๆครับ  ;D ;D ;Dไม่ต้องทำไร ปล่อยให้มันตายไปเอง
แม่นครับพี่...ปากหมามากๆเดี๋ยวตายเองไม่ต้องทำไร

ถูกต้องครับผม    ::002::  + พวกปากพล่อยด้วยครับ   ;D


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 04:25:03 PM
เก่งๆเจ๋งๆเห็นมาเยอะแล้วครับ เจอพวกยกๆยอๆ ชวนกินเหล้า พอเมาแล้วพวกลากไปนอนเลนซ้ายสุดถนนบางนาตราด ตอนตีสอง


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 05:42:32 PM
(http://img574.imageshack.us/img574/5264/hajiko1.jpg) (http://img574.imageshack.us/i/hajiko1.jpg/)

(http://img827.imageshack.us/img827/4401/hajiko3.jpg) (http://img827.imageshack.us/i/hajiko3.jpg/)

รูปหล่อสุนัขอันโด่งดัง ชื่อ ฮาจิโกะหรือฮาจิ ก็จะรู้สึกแปลกสักหน่อย เพราะกลายเป็นสัญลักษณ์ที่นีหรือจุดนัดพบที่สำคัญซะแล้ว ยิ่งได้อ่านประวัติความเป็นมาแล้ว จะซาบซึ้งมาก มารู้จักเจ้าตัวนี้กันสักหน่อยดีกว่า

“สิ่งที่ยังคงอยู่เหลืออยู่ในปัจจุบันนี้คือ ความกตัญญูต่อเจ้าของ ซึ่งเป็นตัวแทนให้ระลึกถึงความซื่อสัตย์ โดยการเฝ้าการกลับมาของเจ้านายอยู่เสมอ” น่าจะเป็นคำพูดที่กล่าวถึงเจ้าฮาจิโกะได้ดี
ฮาจิโกะเป็นสุนัขสายพันธ์อากิตะ ซึ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อ 10 พฤศจิกายน 1923 ในจังหวัดอากิตะ โดยเมื่ออายุได้เพียง 2 เดือนเจ้าฮาจิโกะถูกส่งตัวไปอยู่กรุงโตเกียวกับเจ้านายของมันคือ เอชะบุโระ อุเอะโนะ (Hidesamuroh Ueno) ศาสตราจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล (มหาวิทยาลัยโตเกียวในปัจจุบัน) ซึ่งศาสตราจารย์รู้สึกภาคภูมิใจกับเจ้าฮาจิโกะเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันเป็นสุนัขอากิตะสายพันธุ์แท้ซึ่งหาได้ยากในสมัยนั้น

ในวันที่นายต้องไปสอนหนังสือ ฮาจิโกะจะคอยส่งเจ้านายถึงประตูหน้าบ้าน โดยอุเอะโนะต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีชิบุยะ จากนั้นเมื่อถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกงานแล้ว เจ้าฮาจิโกะจะมากระดิกหางรอพบเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟอยู่เสมอ แต่แล้ววันหนึ่งในวันที่ 21 เดือนพฤษภาคม 1925 ศาสตราจารย์ อุเอะโนะ เกิดอาการเส้นโลหิตในสมองแตก และเสียชีวิตขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม ในวันนั้น ฮาจิโกะยังคงมารอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟ โดยไม่มีทางรู้ได้เลยว่า มันจะไม่ได้พบกับเจ้านายของมันอีกแล้ว เนื่องจากเขาได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ

หลังจากที่ศาสตราจารย์อุเอะโนะเสียชีวิต ภรรยาของเขาได้ย้ายบ้านไปและนำเจ้าฮาจิโกะไปให้กับญาติของศาสตราจารย์ที่อยู่ห่างออกไปจากสถานีรถไฟหลายกิโลเมตร แต่ว่าเจ้าสุนัขพันธุ์อากิตะผู้ซื่อสัตย์กลับไม่ยอมอยู่กับเจ้านายใหม่ของมัน เพราะทันทีที่มันหนีหลุดออกมาได้ มันวิ่งตรงไปที่บ้านเก่าของมันแต่เมื่อไม่เจอใคร มันจึงกลับไปรอที่สถานีรถไฟเหมือนเมื่อครั้งที่เจ้านายของมันยังมีชีวิตอยู่ โดย คิคุซะบุโระ โคบายาชิ อดีตคนสวนของศาสตราจารย์ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเป็นคนคอยดูแลเจ้าฮาจิโกะแทน

ทุกวันเมื่อถึงเวลา 15.00 น. เจ้าฮาจิโกะจะวิ่งไปรอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟไม่เคยขาด ทุกครั้งที่รถไฟเข้า มันก็จะชูคอชะเง้อมองหานายของมัน ทำแบบนั้นตรงเวลา เหมือนเดิมเช่นทุกๆ วัน ปฏิบัติแบบนั้นตลอดระยะเวลา 10 ปี บางคนก็ให้อาหารบ้าง และสงสัยว่า อาจจะเป็นเพราะหิวอาหารจึงมาทุกวัน แต่เมื่อดูพฤติกรรมอย่างถ่องแท้แล้ว มันจะมาเฉพาะช่วงตอนเย็นเท่านั้น โดยเฉพาะการชะเง้อมองรถไฟขบวน เวลา 15.00 น.เมื่อเข้าจอด ซึ่งไม่ใช่มาเพื่อหาอาหารกิน ทำให้เรื่องราวความซื่อสัตย์ของมัน เริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเรื่องราวของมันถูกตีพิมพ์ลงบนหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในปี 1932 ทำให้ผู้คนทั่วสารทิศเดินทางมาดู มาเล่นกับเจ้าฮาจิโกะ นอกจากนั้น ชาวญี่ปุ่นยังได้ยกให้เจ้าฮาจิโกะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเด็กๆอีกด้วย

ชื่อเสียงความภักดีของฮาจิได้รู้ไปถึงพระราชินีญี่ปุ่น พระองค์จึงได้ทรงให้ช่างหล่อรูปทองแดง ฮาจิโกะ สร้าง
ขึ้นในเดือนเมษายน 1934 โดย อันโดะ เทะรุ ศิลปินชื่อดัง เพื่อยกย่อง และนำไปตั้งไว้ที่สถานีรถไฟชิบูยะ อย่างไรก็ตาม วันที่ 8 มีนาคม 1935 ฮาจิโกะก็ได้กลับไปพบกับเจ้านายของมันอีกครั้ง โดยมีคนพบว่าฮาจิโกะนอนตายยังจุดที่มันคอยมารอเจ้านายของมัน ที่ทำมาทุกวันมานานกว่า 10 ปี ซึ่งข่าวการตายของฮาจิโกะนั้นถือว่าเป็นข่าวใหญ่มาก จนถูกตีพิมพ์ลงบนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น สำหรับร่างของฮาจิโกะนั้นถูกนำไปเก็บรักษาเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในกรุงโตเกียว

แม้ว่าฮาจิโกะจะจากไปแล้วแต่เรื่องที่น่าสนใจจากฮาจิโกะยังคงไม่จบ เนื่องจากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้เหล็กและโลหะเป็นอย่างมาก จนถึงกับต้องเอารูปหล่อของเจ้าฮาจิโกะมาหลอมเลยทีเดียว กระนั้นความซื่อสัตย์ของฮาจิโกะยังคงไม่เคยถูกลืมไปจากใจชาวญี่ปุ่น เพราะในเวลาต่อมาได้มีการจัดทำรูปหล่อของฮาจิโกะขึ้นมาอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 1947 และศิลปินผู้รับหน้าที่นี้ก็คือ อันโดะ ทะเคะชิ ลูกชายของ อันโ ดะ เทะรุ ผู้ที่ทำหน้าที่สร้างรูปหล่อฮาจิโกะเมื่อครั้งแรกนั้นเอง ซึ่งปัจจุบันจุดที่รูปหล่อฮาจิโกะตั้งอยู่นั้นได้กลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของย่านชิบูยะ

ทั้งนี้ นอกจากรูปหล่อที่ย่านชิบูยะแล้ว ยังคงมีรูปปั้นที่เตือนให้ระลึกถึงฮาจิโกะอยู่อีกหลายแห่ง เช่น ที่หน้าสถานีรถไฟโอะดะเตะ ในจังหวัดอากิตะ บ้านเกิดของเจ้าฮาจิโกะ เป็นต้น ส่วนเรื่องของเจ้าฮาจิโกะยังคงเป็นที่เล่าขานในญี่ปุ่น ถึงขนาดมีการนำไปสร้างเป็นละคร ภาพยนตร์ การ์ตูน และอื่นๆอีกมากมาย

เรื่องราวความอดทน ความหวัง ความซื่อสัตย์ที่มีอยู่ในตัวสุนัขตัวเล็กๆ ตัวนี้เลยกลายไปเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ และคนญี่ปุ่นทุกคนได้เรียนและรู้เรื่องของฮาจิซึ่งมีอยู่ตามสื่อต่างๆ แม้กระทั่งหนังสือเรียน ขนาดมีการนำไปสร้างเป็นละคร ภาพยนตร์ การ์ตูน และอื่นๆอีกมากมาย
credit : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moddang2&month=23-01-2008&group=9&gblog=5 (http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moddang2&month=23-01-2008&group=9&gblog=5)


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 05:48:33 PM
ขอบคุณครับพี่ซิก ที่นำสาระดีๆมาฝาก
+1ให้แทนคำขอบคุณครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 06:00:29 PM
ขอบคุณครับพี่ซิก ที่นำสาระดีๆมาฝาก
+1ให้แทนคำขอบคุณครับ  ::014::

(http://img222.imageshack.us/img222/7755/smiledisplay.jpg) (http://img222.imageshack.us/i/smiledisplay.jpg/)
ขอบคุณครับ ;D


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 06:19:27 PM
ขอบคุณครับพี่ซิก ที่นำสาระดีๆมาฝาก
+1ให้แทนคำขอบคุณครับ  ::014::

(http://img222.imageshack.us/img222/7755/smiledisplay.jpg) (http://img222.imageshack.us/i/smiledisplay.jpg/)
ขอบคุณครับ ;D
(http://image.ohozaa.com/i0/smiley43.gif) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=9b41e6f9b4697aec1729a873d3ec4615)


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 09:08:05 PM
(http://img683.imageshack.us/img683/4740/yaleh.jpg) (http://img683.imageshack.us/i/yaleh.jpg/)

ย่าเหลเป็นหมาพันทาง ขนยาวปุย สีขาว คางดำ เกิดในเรือนจำจังหวัดนครปฐม
วันหนึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จตรวจเรือนจำ  ได้ทอดพระเนตรเห็นลูกหมาตัวหนึ่ง
ก็ตรัสชมว่าน่ารักน่าเอ็นดู  เจ้าของจึงถวายให้ทรงรับมาเลี้ยงไว้  แล้วพระราชทานนามว่า ย่าเหล

ย่าเหลเป็นสุนัขที่เฉลียวฉลาดแสนรู้ช่างประจบ
ถวายความจงรักภักดี ในหลวงท่านเป็นอย่างยิ่งเสมือนเป็น
ทหารรักษาพระองค์  จึงเป็นที่โปรดปรานมาก  แต่ขณะเดียวกันก็สร้างความอิจฉาริษยา
และชิงชังให้ข้าราชบริพารบางคนในราชสำนัก

เคยมีเจ้านายบางพระองค์ และข้าราชบริพารบางคนถูกย่าเหลกัด
ต่อหน้าพระที่นั่ง  ก่อให้เกิดความเจ็บแค้น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เมื่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เสด็จพระราชดำเนินโดยลำพัง
ไม่ทรงนำย่าเหลไปด้วยจึงเป็นโอกาสให้มหาดเล็กบางกลุ่มรุมทำร้ายเอา

วันต่อมาขณะอยู่หน้าพระที่นั่ง ก็ถึงทีย่าเหลบ้าง  มันกระโดดเข้ากัด และเห่าอย่างเกรี้ยวกราด
กับผู้ที่เคยทำร้ายมัน ทั้งกัดทั้งเห่าแล้ววิ่งไปหาพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6  วิ่งกลับไปกลับมาทำที่เป็นเชิงฟ้อง
เมื่อพระองค์เข้าพระทัยก็กริ้ว และทรงบริภาษอย่างแรง  ทำให้มหาดเล็กผู้นั้นได้รับความอับอาย
และเจ็บแค้นมากยิ่งขึ้นไปอีก

ย่าเหลมีนิสัยชอบหนีออกไปเที่ยว  วันหนึ่งจึงมีผู้ไปพบย่าเหลนอนตายข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง
ด้านวัดโพธิ์ ท่าเตียน ย่าเหลถูกปืนยิงจนตาย  สันนิษฐานกันว่าคนที่ฆ่าย่างเหลต้องไม่ใช่มหาดเล็กธรรมดา
เพราะคนที่มีปืนได้ต้องเป็นคนชั้น พระยาพานทอง หรือเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนี่ง

การตายของย่าเหลนำความโทมนัสมาสู่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 อย่างมาก
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดงานศพอย่างดี มีหีบใส่ศพ
มีมหาดเล็กแต่งตัวเป็นสัตว์นานาชนิดเข้าร่วมขบวนแห่ด้วย  ของชำร่วยที่แจกในงานศพคือผ้าเช็ดหน้าพิมพ์รูปย่าเหล
มีตราวชิระที่มุมด้านขวา  พร้อมกันนี้ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้น หล่อด้วยทองแดง ประดิษฐ์ไว้หน้าพระตำหนัก
ชาลีมงคลอาสน์ในพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม
 
ชื่อ "ย่าเหล" พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงตั้งจากชื่อตัวละครในเรื่อง "My friend Jarlet"
ที่ทรงพระราชนิพนธ์ใหม่เป็นภาษาไทยชื่อเรื่อง "มิตรแท้"
และย่าเหลก็ถูกยิงตายเหมือนกับยาเลต์ในละครเรื่องนี้เหมือนกัน ! ! !

สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปจะจดจำได้เกี่ยวกับพระราชวังแห่งนี้ ก็คืออนุสาวรีย์ย่าเหล “สุนัขทรงเลี้ยง” ของรัชกาลที่ ๖ ที่หน้าพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์  ย่าเหลเป็นสุนัขแสนรู้คู่พระทัย และคงเป็นด้วยเหตุนั้น จึงถูก “มือมืด” ยิงตายไป ทำให้พระเจ้าอยู่หัวทรงสลดพระราชหฤทัยยิ่ง ถึงกับทรงนิพนธ์บทกวีไว้อาลัยอย่างซาบซึ้งจารึกบนแผ่นสำริดติดไว้ข้างฐาน  หลายคนก็คงคุ้นเคยกันดีกับ “อนุสาวรีย์นี้เตือนจิตร์  ให้กูคิดรำพึงถึงสหาย  โอ้อาไลยใจจู่ไม่รู้วาย กูเจ็บคล้ายศรศักดิ์ปักอุรา  ยากที่ใครเขาจะเห็นหัวอกกู  เพราะเขาดูเพื่อนเห็นแต่เป็นหมา  เขาดูแต่เปลือกนอกแห่งกายา...”



หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 30, 2010, 07:10:00 AM
(http://img574.imageshack.us/img574/5264/hajiko1.jpg) (http://img574.imageshack.us/i/hajiko1.jpg/)

(http://img827.imageshack.us/img827/4401/hajiko3.jpg) (http://img827.imageshack.us/i/hajiko3.jpg/)

รูปหล่อสุนัขอันโด่งดัง ชื่อ ฮาจิโกะหรือฮาจิ ก็จะรู้สึกแปลกสักหน่อย เพราะกลายเป็นสัญลักษณ์ที่นีหรือจุดนัดพบที่สำคัญซะแล้ว ยิ่งได้อ่านประวัติความเป็นมาแล้ว จะซาบซึ้งมาก มารู้จักเจ้าตัวนี้กันสักหน่อยดีกว่า

“สิ่งที่ยังคงอยู่เหลืออยู่ในปัจจุบันนี้คือ ความกตัญญูต่อเจ้าของ ซึ่งเป็นตัวแทนให้ระลึกถึงความซื่อสัตย์ โดยการเฝ้าการกลับมาของเจ้านายอยู่เสมอ” น่าจะเป็นคำพูดที่กล่าวถึงเจ้าฮาจิโกะได้ดี
ฮาจิโกะเป็นสุนัขสายพันธ์อากิตะ ซึ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อ 10 พฤศจิกายน 1923 ในจังหวัดอากิตะ โดยเมื่ออายุได้เพียง 2 เดือนเจ้าฮาจิโกะถูกส่งตัวไปอยู่กรุงโตเกียวกับเจ้านายของมันคือ เอชะบุโระ อุเอะโนะ (Hidesamuroh Ueno) ศาสตราจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล (มหาวิทยาลัยโตเกียวในปัจจุบัน) ซึ่งศาสตราจารย์รู้สึกภาคภูมิใจกับเจ้าฮาจิโกะเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันเป็นสุนัขอากิตะสายพันธุ์แท้ซึ่งหาได้ยากในสมัยนั้น

ในวันที่นายต้องไปสอนหนังสือ ฮาจิโกะจะคอยส่งเจ้านายถึงประตูหน้าบ้าน โดยอุเอะโนะต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีชิบุยะ จากนั้นเมื่อถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกงานแล้ว เจ้าฮาจิโกะจะมากระดิกหางรอพบเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟอยู่เสมอ แต่แล้ววันหนึ่งในวันที่ 21 เดือนพฤษภาคม 1925 ศาสตราจารย์ อุเอะโนะ เกิดอาการเส้นโลหิตในสมองแตก และเสียชีวิตขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม ในวันนั้น ฮาจิโกะยังคงมารอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟ โดยไม่มีทางรู้ได้เลยว่า มันจะไม่ได้พบกับเจ้านายของมันอีกแล้ว เนื่องจากเขาได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ

หลังจากที่ศาสตราจารย์อุเอะโนะเสียชีวิต ภรรยาของเขาได้ย้ายบ้านไปและนำเจ้าฮาจิโกะไปให้กับญาติของศาสตราจารย์ที่อยู่ห่างออกไปจากสถานีรถไฟหลายกิโลเมตร แต่ว่าเจ้าสุนัขพันธุ์อากิตะผู้ซื่อสัตย์กลับไม่ยอมอยู่กับเจ้านายใหม่ของมัน เพราะทันทีที่มันหนีหลุดออกมาได้ มันวิ่งตรงไปที่บ้านเก่าของมันแต่เมื่อไม่เจอใคร มันจึงกลับไปรอที่สถานีรถไฟเหมือนเมื่อครั้งที่เจ้านายของมันยังมีชีวิตอยู่ โดย คิคุซะบุโระ โคบายาชิ อดีตคนสวนของศาสตราจารย์ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเป็นคนคอยดูแลเจ้าฮาจิโกะแทน

ทุกวันเมื่อถึงเวลา 15.00 น. เจ้าฮาจิโกะจะวิ่งไปรอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟไม่เคยขาด ทุกครั้งที่รถไฟเข้า มันก็จะชูคอชะเง้อมองหานายของมัน ทำแบบนั้นตรงเวลา เหมือนเดิมเช่นทุกๆ วัน ปฏิบัติแบบนั้นตลอดระยะเวลา 10 ปี บางคนก็ให้อาหารบ้าง และสงสัยว่า อาจจะเป็นเพราะหิวอาหารจึงมาทุกวัน แต่เมื่อดูพฤติกรรมอย่างถ่องแท้แล้ว มันจะมาเฉพาะช่วงตอนเย็นเท่านั้น โดยเฉพาะการชะเง้อมองรถไฟขบวน เวลา 15.00 น.เมื่อเข้าจอด ซึ่งไม่ใช่มาเพื่อหาอาหารกิน ทำให้เรื่องราวความซื่อสัตย์ของมัน เริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเรื่องราวของมันถูกตีพิมพ์ลงบนหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในปี 1932 ทำให้ผู้คนทั่วสารทิศเดินทางมาดู มาเล่นกับเจ้าฮาจิโกะ นอกจากนั้น ชาวญี่ปุ่นยังได้ยกให้เจ้าฮาจิโกะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเด็กๆอีกด้วย

ชื่อเสียงความภักดีของฮาจิได้รู้ไปถึงพระราชินีญี่ปุ่น พระองค์จึงได้ทรงให้ช่างหล่อรูปทองแดง ฮาจิโกะ สร้าง
ขึ้นในเดือนเมษายน 1934 โดย อันโดะ เทะรุ ศิลปินชื่อดัง เพื่อยกย่อง และนำไปตั้งไว้ที่สถานีรถไฟชิบูยะ อย่างไรก็ตาม วันที่ 8 มีนาคม 1935 ฮาจิโกะก็ได้กลับไปพบกับเจ้านายของมันอีกครั้ง โดยมีคนพบว่าฮาจิโกะนอนตายยังจุดที่มันคอยมารอเจ้านายของมัน ที่ทำมาทุกวันมานานกว่า 10 ปี ซึ่งข่าวการตายของฮาจิโกะนั้นถือว่าเป็นข่าวใหญ่มาก จนถูกตีพิมพ์ลงบนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น สำหรับร่างของฮาจิโกะนั้นถูกนำไปเก็บรักษาเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในกรุงโตเกียว

แม้ว่าฮาจิโกะจะจากไปแล้วแต่เรื่องที่น่าสนใจจากฮาจิโกะยังคงไม่จบ เนื่องจากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้เหล็กและโลหะเป็นอย่างมาก จนถึงกับต้องเอารูปหล่อของเจ้าฮาจิโกะมาหลอมเลยทีเดียว กระนั้นความซื่อสัตย์ของฮาจิโกะยังคงไม่เคยถูกลืมไปจากใจชาวญี่ปุ่น เพราะในเวลาต่อมาได้มีการจัดทำรูปหล่อของฮาจิโกะขึ้นมาอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 1947 และศิลปินผู้รับหน้าที่นี้ก็คือ อันโดะ ทะเคะชิ ลูกชายของ อันโ ดะ เทะรุ ผู้ที่ทำหน้าที่สร้างรูปหล่อฮาจิโกะเมื่อครั้งแรกนั้นเอง ซึ่งปัจจุบันจุดที่รูปหล่อฮาจิโกะตั้งอยู่นั้นได้กลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของย่านชิบูยะ

ทั้งนี้ นอกจากรูปหล่อที่ย่านชิบูยะแล้ว ยังคงมีรูปปั้นที่เตือนให้ระลึกถึงฮาจิโกะอยู่อีกหลายแห่ง เช่น ที่หน้าสถานีรถไฟโอะดะเตะ ในจังหวัดอากิตะ บ้านเกิดของเจ้าฮาจิโกะ เป็นต้น ส่วนเรื่องของเจ้าฮาจิโกะยังคงเป็นที่เล่าขานในญี่ปุ่น ถึงขนาดมีการนำไปสร้างเป็นละคร ภาพยนตร์ การ์ตูน และอื่นๆอีกมากมาย

เรื่องราวความอดทน ความหวัง ความซื่อสัตย์ที่มีอยู่ในตัวสุนัขตัวเล็กๆ ตัวนี้เลยกลายไปเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ และคนญี่ปุ่นทุกคนได้เรียนและรู้เรื่องของฮาจิซึ่งมีอยู่ตามสื่อต่างๆ แม้กระทั่งหนังสือเรียน ขนาดมีการนำไปสร้างเป็นละคร ภาพยนตร์ การ์ตูน และอื่นๆอีกมากมาย
credit : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moddang2&month=23-01-2008&group=9&gblog=5 (http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moddang2&month=23-01-2008&group=9&gblog=5)

(http://img683.imageshack.us/img683/4740/yaleh.jpg) (http://img683.imageshack.us/i/yaleh.jpg/)

ย่าเหลเป็นหมาพันทาง ขนยาวปุย สีขาว คางดำ เกิดในเรือนจำจังหวัดนครปฐม
วันหนึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จตรวจเรือนจำ  ได้ทอดพระเนตรเห็นลูกหมาตัวหนึ่ง
ก็ตรัสชมว่าน่ารักน่าเอ็นดู  เจ้าของจึงถวายให้ทรงรับมาเลี้ยงไว้  แล้วพระราชทานนามว่า ย่าเหล

ย่าเหลเป็นสุนัขที่เฉลียวฉลาดแสนรู้ช่างประจบ
ถวายความจงรักภักดี ในหลวงท่านเป็นอย่างยิ่งเสมือนเป็น
ทหารรักษาพระองค์  จึงเป็นที่โปรดปรานมาก  แต่ขณะเดียวกันก็สร้างความอิจฉาริษยา
และชิงชังให้ข้าราชบริพารบางคนในราชสำนัก

เคยมีเจ้านายบางพระองค์ และข้าราชบริพารบางคนถูกย่าเหลกัด
ต่อหน้าพระที่นั่ง  ก่อให้เกิดความเจ็บแค้น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เมื่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เสด็จพระราชดำเนินโดยลำพัง
ไม่ทรงนำย่าเหลไปด้วยจึงเป็นโอกาสให้มหาดเล็กบางกลุ่มรุมทำร้ายเอา

วันต่อมาขณะอยู่หน้าพระที่นั่ง ก็ถึงทีย่าเหลบ้าง  มันกระโดดเข้ากัด และเห่าอย่างเกรี้ยวกราด
กับผู้ที่เคยทำร้ายมัน ทั้งกัดทั้งเห่าแล้ววิ่งไปหาพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6  วิ่งกลับไปกลับมาทำที่เป็นเชิงฟ้อง
เมื่อพระองค์เข้าพระทัยก็กริ้ว และทรงบริภาษอย่างแรง  ทำให้มหาดเล็กผู้นั้นได้รับความอับอาย
และเจ็บแค้นมากยิ่งขึ้นไปอีก

ย่าเหลมีนิสัยชอบหนีออกไปเที่ยว  วันหนึ่งจึงมีผู้ไปพบย่าเหลนอนตายข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง
ด้านวัดโพธิ์ ท่าเตียน ย่าเหลถูกปืนยิงจนตาย  สันนิษฐานกันว่าคนที่ฆ่าย่างเหลต้องไม่ใช่มหาดเล็กธรรมดา
เพราะคนที่มีปืนได้ต้องเป็นคนชั้น พระยาพานทอง หรือเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนี่ง

การตายของย่าเหลนำความโทมนัสมาสู่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 อย่างมาก
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดงานศพอย่างดี มีหีบใส่ศพ
มีมหาดเล็กแต่งตัวเป็นสัตว์นานาชนิดเข้าร่วมขบวนแห่ด้วย  ของชำร่วยที่แจกในงานศพคือผ้าเช็ดหน้าพิมพ์รูปย่าเหล
มีตราวชิระที่มุมด้านขวา  พร้อมกันนี้ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้น หล่อด้วยทองแดง ประดิษฐ์ไว้หน้าพระตำหนัก
ชาลีมงคลอาสน์ในพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม
 
ชื่อ "ย่าเหล" พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงตั้งจากชื่อตัวละครในเรื่อง "My friend Jarlet"
ที่ทรงพระราชนิพนธ์ใหม่เป็นภาษาไทยชื่อเรื่อง "มิตรแท้"
และย่าเหลก็ถูกยิงตายเหมือนกับยาเลต์ในละครเรื่องนี้เหมือนกัน ! ! !

สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปจะจดจำได้เกี่ยวกับพระราชวังแห่งนี้ ก็คืออนุสาวรีย์ย่าเหล “สุนัขทรงเลี้ยง” ของรัชกาลที่ ๖ ที่หน้าพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์  ย่าเหลเป็นสุนัขแสนรู้คู่พระทัย และคงเป็นด้วยเหตุนั้น จึงถูก “มือมืด” ยิงตายไป ทำให้พระเจ้าอยู่หัวทรงสลดพระราชหฤทัยยิ่ง ถึงกับทรงนิพนธ์บทกวีไว้อาลัยอย่างซาบซึ้งจารึกบนแผ่นสำริดติดไว้ข้างฐาน  หลายคนก็คงคุ้นเคยกันดีกับ “อนุสาวรีย์นี้เตือนจิตร์  ให้กูคิดรำพึงถึงสหาย  โอ้อาไลยใจจู่ไม่รู้วาย กูเจ็บคล้ายศรศักดิ์ปักอุรา  ยากที่ใครเขาจะเห็นหัวอกกู  เพราะเขาดูเพื่อนเห็นแต่เป็นหมา  เขาดูแต่เปลือกนอกแห่งกายา...”



ขอบคุณครับผม + 1   ::014::


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ ธันวาคม 04, 2010, 12:44:09 PM
ขาด ชาติหมาอีกจำพวกครับ ;)


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: ณัฏฐ์ ที่ ธันวาคม 04, 2010, 01:40:32 PM
ขนาดหมายังซื่อสัตย์:) +ให้พี่ซิกครับกับเรื่องที่ดีๆ


หัวข้อ: Re: สุนัขที่ซื่อสัตย์
เริ่มหัวข้อโดย: owen.463 ที่ ธันวาคม 04, 2010, 05:14:27 PM
เคล็ดไม่ลับในการป้อนยาให้น้องแมว(เคยเลี้ยงอยู่)ใช้ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดตัวห่อน้องแมวให้มิดชิดทั้ง 4 ขา แค่นี้น้องแมวก็ไม่ไม่ดิ้นและข่วน
ได้อีกแล้วป้อนยาได้เลยครับ ;D ;D