เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: pasta ที่ ธันวาคม 20, 2010, 07:12:03 PM



หัวข้อ: ลูกผมไม่ผิด
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ ธันวาคม 20, 2010, 07:12:03 PM
"  เสี้ยวนาทีแห่งชีวิต " (ก่อนฟองสบู่แตก)

         พอเริ่มจำความได้   ชีวิตในวัยเด็กซึ่งกำลังซุกซนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น.. มันรู้สึกสดชื่นเบิกบานแจ่ม
ใส  สวยงามและสุดแสนบริสุทธิ์  นึกถึงมันทีไรก็อดที่จะยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้สักครา  เวลาแห่งความสุขอันหอมหวานมัน
ช่างผ่านพ้นจากเราไปเร็วซะเหลือเกินเสมอ  ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับเราเพิ่งผ่านพ้นมันมาเมื่อวันวานนี้เอง

                    เดี๋ยวนี้เราโตแล้ว   มีครอบครัวแล้ว     เป็นคุณพ่อของลูกสาวตัวน้อยแล้วด้วย  ความรู้สึกของการได้เป็น   "คุณพ่อ"
นี่ดีเหลือเกิน..มันเต็มตื้นขึ้นมาถึงลูกกระเดือก มันปลาบปลื้มและตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษจริงๆ     คนเป็น
คุณพ่อทุกคนคงเข้าใจความรู้สึกตอนนี้ของผมดี..แต่ผมคงไม่โชคดีเช่นคุณพ่ออย่างพวกคุณทุกคนหรอกครับ เพราะวันที่ลูกผมอายุ
(ในครรภ์) 3 เดือน.. คือวันที่ผมถูกจองจำสิ้นอิสรภาพอยู่ในมุ้งสายบัว(ห้องขัง)แล้วละครับ

                   เรื่องมีอยู่ว่า   พอผมจบปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในบ้านเราด้วยเวลาเกือบ 9  ปี (ลงเป็นนักศึกษาใหม่ถึง 3
 ครั้ง)     แล้วก็เข้าทำงานในบริษัทฯเล็กๆอยู่เกือบปี    หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เข้าทำงานอยู่ในสถาบันการเงินมีชื่อเสียงโด่งดังใน
ประเทศไทยแห่งหนึ่ง    การทำงานและการดำเนินชีวิตของผมก็ดูจะราบรื่นดี          ผมตั้งใจทำงานและหารายได้เสริมเมื่อเวลาเอื้อ
อำนวยให้   ก็คงเหมือนคนหนุ่มที่กำลังเริ่มก่อร่างสร้างตัวทุกคน

                  ในการทำงานกับสถาบันการเงินแห่งนั้นถึง 3 ปีกว่าๆ   ทำให้ผมได้เห็นได้เรียนรู้เรื่องการเงินและธุรกิจ   ไปพร้อมกับ
ได้เห็นความขมขื่นของชีวิตคนที่เป็นลูกจ้างหรือพนักงาน    แต่ละเดือนเมื่อได้รับเงินเดือนทุกครั้ง  หลังจากจับจ่ายใช้สอยและปลด
เปลื้องหนี้จากการผ่อนบ้านผ่อนรถผ่อนบัตรเครดิตผ่อนเงินกู้เพื่อการศึกษาบุตรหรือเงินประกันชีวิตแล้ว    เงินเดือนที่ได้มาแทบไม่
เหลือติดกระเป๋าเลย  ผมคิดอยู่เสมอว่าชีวิตของคนที่จบปริญญามาทำได้เพียงแค่นี้เองเหรอ?

                  นี่คือการจุดประกายให้ผมพยายามดิ้นรน  เพื่อหาคำตอบให้กับตัวเอง    วันหนึ่งเมื่อผมได้ฉุกคิดถึงกองทุนของสถาบัน
การเงินที่ผมทำหน้าที่ให้บริการซื้อและขายแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ  ผมก็เริ่มดูราคาและสถิติการซื้อขายของกองทุนทุกๆตัวที่ผ่านมา
เท่าที่ผมมีรายงานอยู่ในมือ    พอเห็นพอเปรียบเทียบราคาตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบันดูก็เกิดเห็นการเคลื่อนไหวของราคากองทุนแต่
ละตัวที่ขึ้นลงแตกต่างกันซึ่งแสดงถึงกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำน่าลงทุนจนแทบอดใจไว้ไม่ไหว    แต่ผมก็อดใจรอดูถึง 5 – 6 เดือน
จึงได้ตัดสินใจแอบเอาเงินซึ่งเป็นเงินก้อนเดียวของครอบครัวไปลงทุนในกองทุนที่ดีและคิดว่าเสี่ยงน้อยที่สุด
               แต่โอ้อนิจจา…เหมือนกับชะตาชีวิตเล่นตลก   สงครามอ่าวเปอร์เซียในครั้งนั้นทำให้เศรษฐกิจล่มสลายทั้งระบบทั่วทั้ง
โลก สถาบันการเงิน  เช่น  เงินทุนหลักทรัพย์ต่างๆพากันถูกปิดกิจการ  แม้แต่ธนาคารบางแห่งยังล้มต้องได้รับการฟื้นฟูใหม่     
ทั้งหุ้นทั้งกองทุนราคาพากันลดฮวบแทบจะล้มทั้งกระดาน  แล้วผมจะเหลืออะไร?   เงินก้อนสุดท้ายของครอบครัว  กำลังจะสูญสิ้น
ไปต่อหน้าต่อตาด้วยราคากองทุนที่ลดลงจนแทบจะไม่มีราคาสักสตางค์แดงเดียวนาทีสุดท้ายเพื่อกอบกู้ทุกอย่าง ผมจึงตัดสินใจเอา
เงินฝากของลูกค้าที่ฝากไว้กับสถาบันการเงิน ที่ผมทำงานอยู่มาใช้หมุนเวียนเพื่อพยายามฟื้นฟูทุกอย่างกลับคืนมา..       จากเงินไม่
กี่แสน ก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นเป็นเงินหลายล้านบาท     แต่ราคากองทุนนั้นก็ไม่เคยกลับฟื้นขึ้นมาอีกเลย    มีแต่จะจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ… 
ผมเหนื่อยผมอ่อนล้าเต็มทีกับเวลาประมาณ 1 ปี 9 เดือนบนเวทีแห่งนี้     ไม่มีสักคืนเดียวที่ได้นอนโดยไม่หวาดผวาไม่มีสักวันเดียว
ที่มีความสุขหลังจากก่อความผิดขึ้น..ทุกข์ทรมานที่สุด                 เมื่อทุกอย่างจบลงด้วยคำพิพากษา 100 ปี        ผมก็พร้อมที่จะชดใช้ให้อย่างเต็มใจที่สุด   แต่ลูกผมไม่ผิด
ภรรยาผมไม่ผิดคุณพ่อผมไม่ผิดคุณแม่ผมไม่ผิดและน้องๆของผมก็ไม่ผิด กลับต้องมารับผลทางสังคมกับความผิดที่ผม
เป็นผู้สร้างขึ้น      ถ้านาทีนั้นผมมีสติ  ไม่โลภ   ไม่อยากได้   ไม่อยากมี  ไม่อยากรวย   ทุกคนที่ผมรักก็คงไม่ต้องมารับ
กับการกระทำของผมในครั้งนี้   ทุกๆ  นาที...ถ้าเราคิดดี  ทำดี       นาทีแห่งวิกฤตของชีวิตก็ไม่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้น....
ทำลายเราและคนที่เรารักอย่างแน่นอน

                      โดย   แสงสว่าง…จากหลังกำแพงคุก
 

 

       
 
 


หัวข้อ: Re: ลูกผมไม่ผิด
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ ธันวาคม 20, 2010, 07:49:50 PM
ขอบคุณครับ น้าอัต  ::014::  +1 ครับ


หัวข้อ: Re: ลูกผมไม่ผิด
เริ่มหัวข้อโดย: ...อภิสิทธิ์ ... ที่ ธันวาคม 20, 2010, 08:02:49 PM
พุทธโธ่...นึกว่าเรื่องจริงของน้องอรรถใจหายเลยนะครับ  เรื่องปืนผาหน้าไม้อาเฮียที่ไม่ค่อยได้เรื่องคนนี้ไม่ค่อยกล้าพูดถึงมากนัก(กลัวสอนผิดครับ)  แต่เรื่องเอาตัวรอดท่ามกลางสิงสาราสัตว์ในตลาดหุ้นละก้อ....เกาะชายเสื้อเดินตามหลังมาให้ติดๆละกัน(ถ้าคิดจะเล่นหุ้นนะครับ)


+1ครับ


หัวข้อ: Re: ลูกผมไม่ผิด
เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ ธันวาคม 20, 2010, 08:12:38 PM
ลูกในท้องไม่ผิดครับ

แต่พ่อ+แม่+เมียและทุกคนที่มีส่วนรับในกรณีที่กำไร"ผิด"

พวกนักการเมืองและข้าราชการที่ขี้ฉ้อ รวมถึงไอ้หน้าขี้โกงทุกคนผิด พ่อ+แม่+เมียและทุกคนรอบๆตัวมันที่มีส่วนร่วมเสวยสุขกับเงินโสโครก ผิดหมด พูดไม่ได้ว่าไม่รู้เรื่อง


หัวข้อ: Re: ลูกผมไม่ผิด
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ ธันวาคม 20, 2010, 08:22:16 PM
ขอบคุณครับ น้าอัต  ::014::  +1 ครับ
ขอบคุณครับ  อาศักดา :VOV:
พุทธโธ่...นึกว่าเรื่องจริงของน้องอรรถใจหายเลยนะครับ  เรื่องปืนผาหน้าไม้อาเฮียที่ไม่ค่อยได้เรื่องคนนี้ไม่ค่อยกล้าพูดถึงมากนัก(กลัวสอนผิดครับ)  แต่เรื่องเอาตัวรอดท่ามกลางสิงสาราสัตว์ในตลาดหุ้นละก้อ....เกาะชายเสื้อเดินตามหลังมาให้ติดๆละกัน(ถ้าคิดจะเล่นหุ้นนะครับ)


+1ครับ

ขอบคุณครับ  พี่ชายที่แสนดี  ::014:: :VOV: :VOV: :VOV:
ลูกในท้องไม่ผิดครับ

แต่พ่อ+แม่+เมียและทุกคนที่มีส่วนรับในกรณีที่กำไร"ผิด"

พวกนักการเมืองและข้าราชการที่ขี้ฉ้อ รวมถึงไอ้หน้าขี้โกงทุกคนผิด พ่อ+แม่+เมียและทุกคนรอบๆตัวมันที่มีส่วนร่วมเสวยสุขกับเงินโสโครก ผิดหมด พูดไม่ได้ว่าไม่รู้เรื่อง

ครับพี่  ตรงไปตรงมาชัดเจน ::014:: ::002::