ถามผู้รู้เรื่องการทำงานระบบลูกเลื่อนเปิดและลูกเลื่อนปิดของปืนกล

[gogoh-รักในหลวง-]

ขอบคุณพี่ๆ สมช. มากๆครับที่ให้ความรู้

[oneholeshot - รักในหลวง]

คลิปที่เอามาแสดงให้ดู ...................เป็นการยิงปืนกลแบบเกินขีดจำกัดของปืนครับ ปืนกระบอกนี้ผมคิดว่าก่อนยิงคงเปลี่ยนแหวนจัดแก๊สใหม่มาก่อน เพราะถ้าใช้แหวนจัดแก๊สเก่าๆ คงยิงยาวๆแบบนี้ติดขัดแน่นอน.........................การยิงปืนแบบนี้มองดูเป็นการยิงล้างผลาญแบบไม่เข้าท่า...................แต่ก็เป็นการพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าปืนโมเดลนี้ ทำการยิงบ้าๆบอๆแบบนี้ได้........................

ส่วนปืนที่ลั่นนัดสุดท้ายผมคิดว่าไม่ใช่อาการ Cooking off คิดว่าเป็นการลั่นไกของคนยิง ซึ่งอาจจะเหลือกระสุนอยู่อีกนัดหนึ่ง ................ เพราะปืนกล M60 เมื่อหยุดยิงหน้าลูกเลื่อนจะเปิด กระสุนจะรออยู่ที่สายกระสุน ไม่ได้รออยู่ในรังเพลิง..................

อาการ Cooking off เกิดขึ้นต่อเมื่อมีกระสุนค้างอยู่ในรังเพลิงเท่านั้น .....................ดังนั้นปืนที่ใช้ระบบหน้าลูกเลื่อนปิด จะมีโอกาสเกิดได้ง่ายกว่า เพราะเมื่อปืนร้อนจัด พลยิงหยุดยิงก็จะมีกระสุนนัดล่าสุดอยู่ในรังเพลิง...........................

ส่วนปืนระบบหน้าลูกเลื่อนเปิด โอกาสเกิด Cooking off จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก............... ส่วนใหญ่ที่คิดว่าเป็นอาการCooking off นั้น น่าจะมาจากสาเหตุการทำงานของปืนผิดปกติมากกว่า......................เช่นหยุดยิงแล้วลูกเลื่อนไม่หยุดเพราะไม่เกาะกับเซีย ทำให้ปืนยิงต่อไปไม่หยุดหรือยังลั่นต่อทั้งๆที่ไม่ได้เหนี่ยวไก....................

ขอบคุณมากครับท่านผู้การมะขิ่น

[รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ]

ขอขอบพระคุณอาโหน่งสำหรับความเห็นข้างต้นครับ 

อ่า...กระผมขออนุญาตเรียนถามอาโหน่งเพิ่มเติมนะครับ สมมุติว่าในสถานการณ์รบติดพันกันอยู่ หากเราพบว่าปืนกล M60 ของเรามีปัญหาลำกล้องร้อนจัดจนทำการยิงต่อไปไม่ได้แล้ว เราสามารถทำการเปลี่ยนลำกล้องปืนกล M60 เองด้วยตัวคนเดียวได้ไหมครับ แล้วระหว่างปืนกล 38 (FN MAG-58) กับปืนกล M60 ปืนกลรุ่นไหนทำการเปลี่ยนลำกล้องได้สะดวกกว่ากันครับ

เนื่องจากผมสังเกตจากการตามคุณพ่อไปดูทหารทำการซ้อมรบ เมื่อถึงเวลาทำการเปลี่ยนลำกล้องปืนกล M60 ทีไร ต้องใช้พลประจำปืน 2 นายมาช่วยกันจับปืนให้ได้ระดับ แล้วจึงจะถอดลำกล้องอันเดิมออกแล้วเปลี่ยนลำกล้องใหม่ใส่เข้าไป บางทีก็มีปัญหาใส่ไม่เข้าอีกด้วยครับ

[มะขิ่น]

เปลี่ยนคนเดียว ทำได้ครับแต่จะทุลักทุเลมาก .................... ปกติปืนกลหนึ่งกระบอกจะมีพลประจำ 4 คน คือ พลยิง พลยิงผู้ช่วยและพลกระสุนอีก 2

สำหรับ FN ผมไม่เคยฝึกกับปืนรุ่นนี้ แต่ถ้าเป็น M60 การเปลี่ยนลำกล้องจะทำได้ง่ายและรวดเร็วมาก..................หากปืนอยู่บนขาหยั่งสามขา แต่ถ้าอยู่บนขาทรายจะลำบากกว่า เพราะเมื่อพลยิงโยกสลักล็อคลำกล้องแล้ว ต้องยกปืนขึ้นให้พลยิงผู้ช่วยดึงลำกล้อง(มีขาทรายติดอยู่ด้วย)ออกทางด้านหน้า.........................และใส่ลำกล้องใหม่เข้าไป จากนั้นพลยิงจะเป็นผู้โยกสลักล็อคลำกล้องลงให้ล็อคลำกล้องปืนไว้....................

การใส่ลำกล้อง ปก.M60 ไม่ยากครับ ....................ถ้าฝึกมาดี

[สุพินท์ - รักในหลวง]

ปืนที่ยิงในจังหวะลูกเลื่อนเปิดมี 3 ประเภท
Simple blowback วิ่งชนเข้ารังเพลิงแล้วลั่นออกไปเลย เช่นปืนกลมือราคาถูก
Blowback ที่มีการถ่วงเวลา เช่นธอมสัน M1928 พวกนี้จะมีแท่งทองเหลืองรูปตัว H วิ่งขึ้นลงในร่อง ส่วนสกอเปี้ยนที่มีเครื่องถ่วงเวลาลูกเลื่อนในจังหวะถอยสุด อันนี้ไม่ใช่ เพราะเป็นการลดอัตราการยิง
Blowback ที่ลูกเลื่อนมีการขัดกลอน เช่นปืนกลกระสุนแรงสูง

[Tanate(รักในหลวง)]

ลองดูคลิปอันนี้ครับ M27 IAR [Infantry Automatic Rifle]

http://www.youtube.com/watch?v=OukIvPxdakw

เป็นการเอาข้อดีของระบบลูกเลื่อนเปิดและปิดมาใช้

เวลายิงแบบ Semi-Automatic จะเป็นระบบลูกเลื่อนปิดเพื่อป้องกันฝุ่นและทรายเข้าในลูกเลื่อนและรังเพลิง

เวลายิงแบบ Full-Automatic จะเป็นระบบลูกเลื่อนเปิดข้อดีคือความลูกเลื่อนไม่ร้อนและไม่มีกระสุน
คาในรังเพลิงแบบลูกเลื่อนปิด ผมเคยอ่านเจอว่าเวลาลูกเลื่อนและรังเพลิงร้อนมากๆจากการยิงต่อเนื่อง
จะทำให้เกิดการระเบิดของกระสุนที่เรียกว่า Cooking off

ถ้าจำไม่ผิด ระบบนี้ใช้ครั้งแรกในปืน FG42 ของนาซีเยอรมัน และอเมริกาจึงลอกแบบไปผลิต m60 ครับ  

[รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ]

ถ้าจำไม่ผิด ระบบนี้ใช้ครั้งแรกในปืน FG42 ของนาซีเยอรมัน และอเมริกาจึงลอกแบบไปผลิต m60 ครับ  

ผมมีความเห็นว่าระบบการยิงแบบลูกเลื่อนเปิดในโหมดอัตโนมัติและลูกเลื่อนปิดในโหมดกึ่งอัตโนมัตินี้ มิน่าใช้กับปืนเล็กยาวจู่โจม FG42 เป็นครั้งแรกนะครับ เนื่องจากในขณะนั้นปืนกล M1941 Johnson ของกองทัพสหรัฐฯก็ทำแบบนี้ได้ด้วยเช่นกันครับ

ส่วนปืนกล M60 นั้นออกแบบโดยนำข้อดีของทั้งปืนกล MG42 และปืนเล็กยาวจู่โจม FG42 มาใช้ทั้ง 2 อย่างกัน โดยปืนกล MG42 เป็นระบบ Recoil-operated แบบใช้ลูกกลิ้งขัดกลอน (Roller-locked) ป้อนกระสุนด้วยสายกระสุน และใช้ Muzzle Booster ช่วยสร้างแรงสะท้อนถอยหลัง (ปัจจุบันมีทายาทคือปืนกล Rheinmetall MG3) ส่วนปืน FG42 เป็นระบบ Gas-operated แบบลูกเลื่อนบิดตัวขัดกลอน (Rotating bolt) ใช้ซองกระสุนความจุ 20 นัดในการป้อนกระสุน ซึ่งปืนทั้งสองรุ่นออกแบบให้ใช้กับกระสุนขนาด 7.92x57 มม. หรือ 8 มม. เมาเซอร์ครับ

ใน ค.ศ. 1944 กองทัพสหรัฐฯได้มีโครงการวิจัยปืนกลระดับหมู่รุ่นใหม่เพื่อเอามาใช้แทนปืนเล็กกล Browning Automatic Rifle (BAR) และปืนกล M1919A6 โดยสร้างต้นแบบจากการนำปืนกล MG42 มาดัดแปลงใช้กับกระสุน .30-06 Springfield ของตัวเองในชื่อโครงการ T24 ซึ่งพบปัญหาหลายประการจนในที่สุดจึงได้ยุบโครงการนี้ไป

ลิงค์ดาวน์โหลดเอกสารการทดสอบปืนกล T24
http://www.forgottenweapons.com/wp-content/uploads/2010/12/t24%20report.pdf

ปืนกล T24 ตัวต้นแบบ








ตัว Muzzle Booster ของปืนกล T24  


ในขณะที่โครงการ T24 ดำเนินอยู่ ก็มีโครงการวิจัยปืนกลระดับหมู่รุ่นใหม่อีกโครงการหนึ่ง คือ โครงการ T44 ซึ่งเป็นการนำข้อดีของระบบการทำงานแบบ Gas-operated ของปืนกล FG42 และระบบป้อนกระสุนของ MG42 มาออกแบบร่วมกันและใช้งานกับกระสุน 7.92x57 มม. ซึ่งภายหลังก็ได้มีการพัฒนาให้ใช้งานกับกระสุน 7.62x51 มม. นาโต้ จนเป็นปืนกล M60 ในปัจจุบันนี่เองครับ  

ปืนกล T44  

[ppk/s7.65]

มาตามเอาความรู้ครับ สมัยก่อนเห็นลูกเลื่อนปืนกลเปิดออก นึกว่ากระสุนสูหมดแล้ว

 ชิบหายตายล่ะว้า นึกว่าเหมือนปืนพก..... เกือบบรรลัยล่ะสิ.....