คุณหมอruteครับผมยังคาใจอยู่คือผมเข้าใจว่าปกติการทำลายเนื้อเยื่อโดยกระสุนความเร็วต่ำจากปืนสั้นน่าจะมาจากการที่หัวกระสุนวิ่งตัดผ่านเนื้อเยื่อโดยตรง ต่างจากการทำลายโดยblast effect ทีนี้ผมก็มาคิดเองดื้อๆว่า1.ยิงทะลุย่อมมีระยะทางมากกว่าการทำลายน่าจะมากกว่า 2.การยิงทะลุทำให้มีเลือดออกสองทางยิ่งรั่วมากแทนที่มีโอกาสtamponadeไว้เหมือนรูเดียว ส่วนเรื่องพลังงานน่าจะเป็นการอธิบายเรื่องแรงปะทะคือนัดที่ฝังร่างเป้าหมายน่าจะกระเด็นเนื่องจากถ่ายเทพลังงานไปเต็มๆเนื้อเยื่อรอบๆกระสุนน่าจะเป็นลักษณะช้ำๆมากกว่าจะฉีกขาดจนbleed ส่วนนัดที่ทะลุเป้าหมายน่าจะเลือดไหลพลั่กๆแต่ยังเข้ามาทำร้ายเราได้อยู่(แล้วกลับไปตายที่บ้าน) ทั้งหมดนอกจากเรื่องตาเป็นการเดาเองทั้งสิ้น เอผมอ่านคุณหมอตอบแล้วนึกว่าเป็นรุ่นพี่ซะอีก ผมเข้าแพทย์ปี32 ยินดีที่รู้จักคุณหมอและทุกท่าน

ถ้ารหัส ๓๒ ก็รุ่นน้องผมสองปีคับ...
ส่วนเรื่องอันตรายจากกระสุนปืนนั้น สำหรับกระสุนปืนสั้นเกิดอันตรายได้สองลักษณะคับคือ การบาดเจ็บโดยตรง(direct trauma) และเกิดจากการขยายตัวของโพรงบาดแผลแล้วยุบตัวเข้ามา(temporary wound) ซึ่งทั้งสองลักษณะถ้ามีการฉีกขาดของหลอดเลือดย่อมตามมาซึ่งการเสียเลือดคับ...
ส่วนเรื่องของ temponade effect นั้นก็น่าจะถูกต้องคับ...
ส่วนเรื่องจริงๆนั้นการแค่ทะลุหรือฝังในคงบอกไม่ได้ถึงระดับของการเสียเลือดคับ ผมถึงบอกให้ยิงให้แม่นๆคับ...
