บอกตามตรง การแก้ ไข พรบ.อาวธปืน สาระนั้น กระทำเพื่อฝ่ายปกครอง ไม่ใช่เพื่อให้เกิดผลดีกับประชาชน
และการแก้ไข ตามที่ คุณโจ บอกนั้น อย่าไปเห็นดีด้วยเลย มันเป็นความงี่เง่า ที่จะัหมกเม็กเม็ดในเรื่อง จำนวนการครอบครองตามมา
จะซื้อกระสุนเท่าไร มันไม่ใช่ ปัญาหา เลย อย่้าไปยุ่งจะดีกว่า นัะครับ
ผมเข้าใจครับ แต่กฏหมายพรบ.อาวุธปืนยังไงก็ต้องแก้เพราะมันมีปัญหาอย่างที่คุณอาผู้การสุพินท์ได้กล่าวไว้
การแก้กฏหมายโดยที่เราไม่สามารถมีส่วนรวม จะยิ่งเลวร้ายกว่าการที่เราบอกข้อเท็จจริง และ กฏหมายที่สามารถบังคับใช้ได้ยจริงเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นย่อมดีกว่าฝ่ายปกครองปิดกั้นแก้กฏหมายหรือออกกฏหมายตามใจฉันจนเกิดปัญหา
ที่ผมบอกว่าฝ่ายความมั่นคงฯน่ากลัวที่สุดเพราะฝ่ายความมั่นคงฯจะแย้งในประเด็นที่เพิ่มขึ้นกว่าของเดิม ตั้งแต่เรื่องซองกระสุนที่เพิ่มขึ้นว่า 10 นัดเป็น 20 นัด ต้องผ่านการชี้แจ้งของฝ่ายแก้กฏหมาย ซึ่งหลายท่านไม่เห็นด้วย แต่ทางคณะทำงานรับฟังเสียงของประชาชน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผม
เรื่องซองกระสุน 20 นัดผมกล้ายืนยัน เพราะผมถูกเชิญเข้าไปชี้แจ้ง ซึ่งที่ประชุมสรุป 15 นัดเรียบร้อยแล้ว ผมอ้างเหตุผลประมาณ 2 ประเด็นคือ
1. การแก้จาก 10 นัดเป็น 15 นัด ยังไม่ครอบคลุมการแก้ปัญหาปืนทั้งหมดที่นำเข้ามาในประเทศ ในขณะปืน SP-01 มีแล้วบรรจุสูงสุดอยู่ที่ 18 นัด และ พาราออดแนนซ์ P 18 ก็บรรจุ 18 นัดเช่นกัน
2. ผมอ้างกลุ่มนักกีฬาไอพีเอสซี ที่มีการแข่งขันกันว่า ปืนเหล่านี้สามารถบรรจุได้สูงกว่านั้น และกลุ่มนักกีฬาเป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
ที่ต้องเป็น 20 นัดและไม่สามารถมากกว่านั้นได้ เนื่องจากแนวคิดที่ซองกระสุนไม่ควรยื่นเกินกว่าตัวปืนมากนัก และ การให้ 20 นัดเป็นการเผื่อให้สูงกว่าตามสเป็คโรงงานในขณะนั้นแล้วคือ 18 นัด (ปัจจุบันมี P226 TAC OPS บรรจุ 20 นัด)
ในประเด็นที่คณะกรรมการถามผม ทำไมซองกระสุนถึงบรรจุกระสุนได้เพิ่มจากในอดีต
ผมตอบ 1. การออกแบบซองกระสุนแบบสองแถว Double Stack และสามแถวเป็นไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ด้ามปืนอ้วนเกินมือคนที่จะสามารถถือได้
2. โลหะศาสตร์ดีขึ้น ทำให้สปริงที่ใช้สั้นลง เห็นได้จากปืนโคลท์เดิมบรรจุได้ 7 นัด และ ปัจจุบันบรรจุได้ 8 นัด ในขณะที่ซองบรรจุกระสุนเท่าเดิม
หากเป็นซองกระสุนแบบ 30 นัด เกรงว่าเมื่อแสดงรูปของซองกระสุนที่เกินกว่าโครงปืนทำให้เหมือนปืนกล ท่านว่าฝ่ายความมั่นคงฯจะยินยอมไหม และถ้าไม่กำหนดจำนวนกระสุนเลยก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
สำหรับตัวผมเอง ผมโชคดีที่มีหลายๆท่านให้คำปรึกษา คุณลุงพนมเทียน รวมทั้งคุณอาผู้การสุพินท์ด้วย ผมโชคดีที่มีหลายท่านรับฟังความเห็นของผมบ้าง (ไม่ใช่ทุกเรื่องนะครับ)
ผมอยากให้หลายๆท่านมองฝ่ายแก้กฏหมาย และฝ่ายปกครองเป็นมิตร และ คุยกันอย่างมิตร อย่ามองพวกเขาเป็นศัตรู เพราะถ้าท่านมองเขาเป็นศัตรู เขามองท่านเป็นศัตรู และย่อมฟาดฟันกับท่านให้ถึงที่สุด ผู้บังคับใช้กฏหมายกับผู้อยู่ภายใต้กฏหมายสามารถเป็นเพื่อนกันได้ครับ บางอย่างเขาไม่ได้อยากทำแต่เพราะคำว่า "นายสั่งให้ทำ"
และเมื่อนั้นเพื่อนย่อมรับฟังเพื่อน
ผมย่อมไม่ทำลายอาชีพของผมเองหรอกครับ
ลองดูในกระทู้เก่าได้ครับ ว่าผมพูดเรื่องจริง
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=43655.360