เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 26, 2025, 09:29:00 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไม 0.45 ACP จึงได้ขอป3 ยากครับ  (อ่าน 8658 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
xxx
Full Member
***

คะแนน 33
ออฟไลน์

กระทู้: 455


« ตอบ #15 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 08:22:41 AM »

ถ้าด้วยเหตุผลจริงๆ นั้น .45 เป็นขนาดที่เกินกว่าป้องกันตัวและทรัพย์สินครับ น่าจะเข้าขั้นปราบปรามได้(สำหรับเจ้าหน้าที่) เพราะถ้านำไปใช้ยิงคน โอกาสรอดมีน้อยกว่าอื่น อย่าง9 มม หรือ .38 ครับ   แต่ถ้าเข้าหัวหรือหัวใจ .22 ก็ตายได้เหมือนกัน 

ดังนั้น ถ้าขอด้วยวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินและไม่เคยมีปืนมาก่อน นายทะเบียนท่านจึงพิจารณาให้ยากกว่าปกติเนื่องจากเป็นขนาดที่อนุภาพแรงกว่า อันนี้รวมถึง .357 magnum ด้วยครับ แต่ถ้าด้วยเหตุผลเพื่อการกีฬา และหลักฐานครบ ท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ครับ
หมายความว่า ถ้าผม มี.45อยู่แล้ว5กระบอก นายทะเบียนจะพิจารณาให้ง่ายกว่า หรือครับท่าน

เขามีคำถามแน่ครับ ถ้าซ้ำขนาด ว่าเอาไปทำไมเยอะแยะ แค่มีอยู่แล้วกระบอกเดียวซื้อเพิ่มอีกกระบอก เขาจะให้สาธยายว่าทำไมต้องซื้อเพิ่ม(ถ้าขอเพื่อการกีฬา) กระบอกที่จะซื้อมันดีกว่าอย่างไร ถ้าไม่เคลียร์ เขาอาจไม่ให้ได้เพราะ ซ้ำขนาด
ส่วนคนที่มีมาแล้ว5กระบอกสมัย นายทะเบียนยังเป็นกองทะเบียนตำรวจอยู่ถือว่าท่านโชคดีไป  เพราะสมัยกรมการปกครองวิธีการ เหตุผล หลักฐานดูยุ่งยากกว่า  เยอะครับ

สรุปถ้าซ้ำขนาด ต้องอธิบายเยอะเหตุผลต้องพอ ไม่ง่ายครับ 

ส่วนคนที่ไม่เคยมีเลยแล้วขอขนาด ที่เขาไม่อยากให้ เช่น.45 หรือ .357  ลองคิดกลับกันง่ายๆครับว่าถ้าคุณเป็นนายทะเบียน มีคนไม่เคยมีปืนมาก่อนมาขอขนาด.45 เพื่อป้องกันทรัพย์สินคุณคิดว่าคุณจะให้เขาเหตุผลเพราะะอะไร  จะมีคำถามตามมามากมายว่า 9มม .38 ไม่พอป้องกันทรัพย์สินเหรอ คนขอจะตอบอย่างไร ถ้าตอบเพราะว่าชอบ คุณคิดว่าคุณจะให้ไหม เกินความจำเป็นหรือเปล่า   แม้ขนาดเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีหน้าที่ปราบปรามโดยตรงเอง ยังขอยากเลยครับ ต้องให้ผู้บังคับบัญชา ยศสูงต้องรับรองให้เลย เพราะเหตุคำว่า จำเป็น  ครับ

แต่ถ้าขอเพื่อการกีฬา ไม่ซ้ำขนาด (แต่ถ้าซ้ำขนาดก็ต้องคุยกันยาว ส่วนจะให้หรือไม่ก็แล้วแต่ดุลพินิจเขาครับ) แค่อธิบายท่านไปว่าจะเอาไปแข่งอย่างไร ประเภทไหน หลักฐานครบ คุณสมบัติครบนายทะเบียนท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ ท่านก็ต้องให้ครับ     อันนี้ไม่นับรวมกับจ่ายเงินแล้วให้ร้านขอให้นะครับ

ส่วนคนที่มีปืนอยู่แล้วมานานแล้วขอเพิ่ม ท่านก็จะพิจารณาตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่จะไม่เข้มงวดเท่ากับ คนขอกระบอกแรกครับ 
 ผมคิดเอาเองนะครับ ว่า(ท่านอาจพิจารณาว่าคนที่มีปืนอยู่แล้วมานาน ถ้าจะซื้อปืนเพิ่มเพื่อไปใช้ในทางไม่ดี ผู้ขอก็สามารถใช้กระบอกเก่าได้และอาจทำมานานแล้ว แต่นี่มีมานานแล้วไม่เคยก่อเหตุอะไรเลย ก็น่าจะพิจารณาให้ง่ายหน่อย
เพราะแสดงว่า เขามีวุฒิภาวะพอที่จะไม่นำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เพราะถ้ามีวุฒิภาวะไม่พอ คงทำไปนานแล้ว   ส่วนคนที่ขอใหม่ท่านอาจมองว่ามีความเสี่ยงกว่าคนที่เคยมีปืนมานานแล้วก็ได้ เพราะไม่มีอะไรเป็นประวัติให้ท่านเห็นได้ว่า คนที่ขอนั้นจะนำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือเปล่า ท่านจึงพิจารณาให้ยาก และยิงเป็นขนาดที่รุนแรงด้วยยิ่งยากครับ
   
บันทึกการเข้า
ใหม่ ขมังเวทย์_รักในหลวง
Jr. Member
**

คะแนน 17
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 97


ชาติไทยจะยิ่งใหญ่ เมื่อคนไทยรู้รักสามัคคี


« ตอบ #16 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 08:39:08 AM »

เขามีคำถามแน่ครับ ถ้าซ้ำขนาด ว่าเอาไปทำไมเยอะแยะ แค่มีอยู่แล้วกระบอกเดียวซื้อเพิ่มอีกกระบอก เขาจะให้สาธยายว่าทำไมต้องซื้อเพิ่ม(ถ้าขอเพื่อการกีฬา) กระบอกที่จะซื้อมันดีกว่าอย่างไร ถ้าไม่เคลียร์ เขาอาจไม่ให้ได้เพราะ ซ้ำขนาด
ส่วนคนที่มีมาแล้ว5กระบอกสมัย นายทะเบียนยังเป็นกองทะเบียนตำรวจอยู่ถือว่าท่านโชคดีไป  เพราะสมัยกรมการปกครองวิธีการ เหตุผล หลักฐานดูยุ่งยากกว่า  เยอะครับ

สรุปถ้าซ้ำขนาด ต้องอธิบายเยอะเหตุผลต้องพอ ไม่ง่ายครับ 

ส่วนคนที่ไม่เคยมีเลยแล้วขอขนาด ที่เขาไม่อยากให้ เช่น.45 หรือ .357  ลองคิดกลับกันง่ายๆครับว่าถ้าคุณเป็นนายทะเบียน มีคนไม่เคยมีปืนมาก่อนมาขอขนาด.45 เพื่อป้องกันทรัพย์สินคุณคิดว่าคุณจะให้เขาเหตุผลเพราะะอะไร  จะมีคำถามตามมามากมายว่า 9มม .38 ไม่พอป้องกันทรัพย์สินเหรอ คนขอจะตอบอย่างไร ถ้าตอบเพราะว่าชอบ คุณคิดว่าคุณจะให้ไหม เกินความจำเป็นหรือเปล่า   แม้ขนาดเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีหน้าที่ปราบปรามโดยตรงเอง ยังขอยากเลยครับ ต้องให้ผู้บังคับบัญชา ยศสูงต้องรับรองให้เลย เพราะเหตุคำว่า จำเป็น  ครับ

แต่ถ้าขอเพื่อการกีฬา ไม่ซ้ำขนาด (แต่ถ้าซ้ำขนาดก็ต้องคุยกันยาว ส่วนจะให้หรือไม่ก็แล้วแต่ดุลพินิจเขาครับ) แค่อธิบายท่านไปว่าจะเอาไปแข่งอย่างไร ประเภทไหน หลักฐานครบ คุณสมบัติครบนายทะเบียนท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ ท่านก็ต้องให้ครับ     อันนี้ไม่นับรวมกับจ่ายเงินแล้วให้ร้านขอให้นะครับ

ส่วนคนที่มีปืนอยู่แล้วมานานแล้วขอเพิ่ม ท่านก็จะพิจารณาตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่จะไม่เข้มงวดเท่ากับ คนขอกระบอกแรกครับ 
 ผมคิดเอาเองนะครับ ว่า(ท่านอาจพิจารณาว่าคนที่มีปืนอยู่แล้วมานาน ถ้าจะซื้อปืนเพิ่มเพื่อไปใช้ในทางไม่ดี ผู้ขอก็สามารถใช้กระบอกเก่าได้และอาจทำมานานแล้ว แต่นี่มีมานานแล้วไม่เคยก่อเหตุอะไรเลย ก็น่าจะพิจารณาให้ง่ายหน่อย
เพราะแสดงว่า เขามีวุฒิภาวะพอที่จะไม่นำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เพราะถ้ามีวุฒิภาวะไม่พอ คงทำไปนานแล้ว   ส่วนคนที่ขอใหม่ท่านอาจมองว่ามีความเสี่ยงกว่าคนที่เคยมีปืนมานานแล้วก็ได้ เพราะไม่มีอะไรเป็นประวัติให้ท่านเห็นได้ว่า คนที่ขอนั้นจะนำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือเปล่า ท่านจึงพิจารณาให้ยาก และยิงเป็นขนาดที่รุนแรงด้วยยิ่งยากครับ
   
[/quote]

เป็นความคิดเห็นที่มองโลกในแง่ดีมากครับ...
บันทึกการเข้า

"วิธีการที่ท่านใช้ในอดีตและทำให้ท่านประสบความสำเร็จในวันนี้
อาจไม่ใช่วิธีการที่ท่านจะนำไปใช้เพื่อสร้างความสำเร็จในอนาคต"
นายฉาบฉวย
หนูจะเอา Baer
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 72
ออฟไลน์

กระทู้: 1148



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 10:25:56 AM »

ถ้าด้วยเหตุผลจริงๆ นั้น .45 เป็นขนาดที่เกินกว่าป้องกันตัวและทรัพย์สินครับ น่าจะเข้าขั้นปราบปรามได้(สำหรับเจ้าหน้าที่) เพราะถ้านำไปใช้ยิงคน โอกาสรอดมีน้อยกว่าอื่น อย่าง9 มม หรือ .38 ครับ   แต่ถ้าเข้าหัวหรือหัวใจ .22 ก็ตายได้เหมือนกัน 

ดังนั้น ถ้าขอด้วยวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินและไม่เคยมีปืนมาก่อน นายทะเบียนท่านจึงพิจารณาให้ยากกว่าปกติเนื่องจากเป็นขนาดที่อนุภาพแรงกว่า อันนี้รวมถึง .357 magnum ด้วยครับ แต่ถ้าด้วยเหตุผลเพื่อการกีฬา และหลักฐานครบ ท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ครับ
หมายความว่า ถ้าผม มี.45อยู่แล้ว5กระบอก นายทะเบียนจะพิจารณาให้ง่ายกว่า หรือครับท่าน

เขามีคำถามแน่ครับ ถ้าซ้ำขนาด ว่าเอาไปทำไมเยอะแยะ แค่มีอยู่แล้วกระบอกเดียวซื้อเพิ่มอีกกระบอก เขาจะให้สาธยายว่าทำไมต้องซื้อเพิ่ม(ถ้าขอเพื่อการกีฬา) กระบอกที่จะซื้อมันดีกว่าอย่างไร ถ้าไม่เคลียร์ เขาอาจไม่ให้ได้เพราะ ซ้ำขนาด
ส่วนคนที่มีมาแล้ว5กระบอกสมัย นายทะเบียนยังเป็นกองทะเบียนตำรวจอยู่ถือว่าท่านโชคดีไป  เพราะสมัยกรมการปกครองวิธีการ เหตุผล หลักฐานดูยุ่งยากกว่า  เยอะครับ

สรุปถ้าซ้ำขนาด ต้องอธิบายเยอะเหตุผลต้องพอ ไม่ง่ายครับ 

ส่วนคนที่ไม่เคยมีเลยแล้วขอขนาด ที่เขาไม่อยากให้ เช่น.45 หรือ .357  ลองคิดกลับกันง่ายๆครับว่าถ้าคุณเป็นนายทะเบียน มีคนไม่เคยมีปืนมาก่อนมาขอขนาด.45 เพื่อป้องกันทรัพย์สินคุณคิดว่าคุณจะให้เขาเหตุผลเพราะะอะไร  จะมีคำถามตามมามากมายว่า 9มม .38 ไม่พอป้องกันทรัพย์สินเหรอ คนขอจะตอบอย่างไร ถ้าตอบเพราะว่าชอบ คุณคิดว่าคุณจะให้ไหม เกินความจำเป็นหรือเปล่า   แม้ขนาดเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีหน้าที่ปราบปรามโดยตรงเอง ยังขอยากเลยครับ ต้องให้ผู้บังคับบัญชา ยศสูงต้องรับรองให้เลย เพราะเหตุคำว่า จำเป็น  ครับ

แต่ถ้าขอเพื่อการกีฬา ไม่ซ้ำขนาด (แต่ถ้าซ้ำขนาดก็ต้องคุยกันยาว ส่วนจะให้หรือไม่ก็แล้วแต่ดุลพินิจเขาครับ) แค่อธิบายท่านไปว่าจะเอาไปแข่งอย่างไร ประเภทไหน หลักฐานครบ คุณสมบัติครบนายทะเบียนท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ ท่านก็ต้องให้ครับ     อันนี้ไม่นับรวมกับจ่ายเงินแล้วให้ร้านขอให้นะครับ

ส่วนคนที่มีปืนอยู่แล้วมานานแล้วขอเพิ่ม ท่านก็จะพิจารณาตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่จะไม่เข้มงวดเท่ากับ คนขอกระบอกแรกครับ 
 ผมคิดเอาเองนะครับ ว่า(ท่านอาจพิจารณาว่าคนที่มีปืนอยู่แล้วมานาน ถ้าจะซื้อปืนเพิ่มเพื่อไปใช้ในทางไม่ดี ผู้ขอก็สามารถใช้กระบอกเก่าได้และอาจทำมานานแล้ว แต่นี่มีมานานแล้วไม่เคยก่อเหตุอะไรเลย ก็น่าจะพิจารณาให้ง่ายหน่อย
เพราะแสดงว่า เขามีวุฒิภาวะพอที่จะไม่นำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เพราะถ้ามีวุฒิภาวะไม่พอ คงทำไปนานแล้ว   ส่วนคนที่ขอใหม่ท่านอาจมองว่ามีความเสี่ยงกว่าคนที่เคยมีปืนมานานแล้วก็ได้ เพราะไม่มีอะไรเป็นประวัติให้ท่านเห็นได้ว่า คนที่ขอนั้นจะนำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือเปล่า ท่านจึงพิจารณาให้ยาก และยิงเป็นขนาดที่รุนแรงด้วยยิ่งยากครับ
   

...ทำไมต้องคิดแทนคนอื่นด้วยครับ แค่ทำตามหน้าที่ตัวเองโดยไม่บกพร่องก็พอแล้ว....

...เขาจะเคยมีปืนหรือไม่ เคยอบรมหรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้าคุณสมบัติตามกฏหมายครบก็ต้องให้ครับ...
ถ้าใช้ดุลยพินิจ ต้องบอกเหตผลตามกฏหมายรับรองด้วย....

....จริงๆแล้วถ้าไม่เคยมีปืนมาก่อนแต่ผ่านการอบรมมาก็จับได้เลย เพราะใช้ปืนคนอื่นอบรมโดยไม่มีใบอนุญาตมีและใช้... Grin

บันทึกการเข้า

พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #18 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 10:41:23 AM »

หากินเรื่องเดิม นานมา(พอสมควร)นายทะเบียนอำเภอแห่งหนึ่งทางภาคอีสานจังหวัดเกินร้อย พรรคพวกเล่าให้ฟังว่าเพื่อนของมันรับราชการครูไปขอขนาดนี้ โดยกรอกในเอกสารคำร้อง ป.1ว่ามีความประสงค์อยากมีและใช้อาวุธปืนขนาด11mm เข้าไปพบนายอำเภอแล้วแกไม่ให้ แกบอกว่าเป็นอาวุธร้ายแรงที่พวกมือปืนชอบใช้กัน ให้ไปกรอกมาใหม่เป็นขนาด.45ACPจึงจะอนุญาต ฮ่าฮ่า หุหุ อิอิ5555555555555555 Grin หลงรัก คิก คิก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
TA881
Hero Member
*****

คะแนน 156
ออฟไลน์

กระทู้: 1480



« ตอบ #19 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 12:32:30 PM »

สงสัยอีกข้อหนึ่งครับ  แล้ว 0.45 Acp เหมาะสำหรับการแข่งแบบไหน ไหว้
บันทึกการเข้า
kundum
Full Member
***

คะแนน 59
ออฟไลน์

กระทู้: 328


« ตอบ #20 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 01:44:08 PM »

สงสัยอีกข้อหนึ่งครับ  แล้ว 0.45 Acp เหมาะสำหรับการแข่งแบบไหน ไหว้
พาดแท่น 50 เมตรครับ
บันทึกการเข้า
xxx
Full Member
***

คะแนน 33
ออฟไลน์

กระทู้: 455


« ตอบ #21 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 06:27:49 PM »

สงสัยอีกข้อหนึ่งครับ  แล้ว 0.45 Acp เหมาะสำหรับการแข่งแบบไหน ไหว้

แข่งประเภทแม่นยำทุกชนิดครับ เนื่องจากหน้าตัดที่ใหญ่กว่าขนาดอื่น ทำให้รูใหญ่กว่าจึงมีโอกาสโดนเส้นที่มีคะแนนสูงกว่าครับ ยกตัวอย่างเช่น คุณใช้.38 ยิงโดนโซนคะแนน9 เกือบโดนเส้นโซน 10 คะแนน แต่ไม่ถึงเส้น กรรมการจะให้นัดนั้นคุณได้แค่ 9คะแนน แต่ถ้าคุณใช้ .45 ซึ่งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่า เมื่อโดนจุดเดียวกัน แต่ด้วยเส้นรอบวงของรูที่ใหญ่ทำให้ไปตัดเส้นโซน10คะแนน  กรรมการจะให้คุณ10คะแนนในนัดนั้นทันที   เห็นได้ว่ามีผลได้เปรียบขึ้นมาในทันทีครับ

ส่วนแข่งประเภทยิงเร็วนั้นดูจะเสียเปรียบกระสุนที่เบาและแรงน้อยกว่าครับ เนื่องจากรีคอยและสะบัดที่มากกว่าหากคุมปืนไม่เก่งจะ ทำให้ยิงซ้ำได้ช้ากว่า   แต่โอกาสโดนเป้ายังคงมีมากกว่าหน้าตัดเล็กอยู่ดี
บันทึกการเข้า
xxx
Full Member
***

คะแนน 33
ออฟไลน์

กระทู้: 455


« ตอบ #22 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 06:38:23 PM »

ถ้าด้วยเหตุผลจริงๆ นั้น .45 เป็นขนาดที่เกินกว่าป้องกันตัวและทรัพย์สินครับ น่าจะเข้าขั้นปราบปรามได้(สำหรับเจ้าหน้าที่) เพราะถ้านำไปใช้ยิงคน โอกาสรอดมีน้อยกว่าอื่น อย่าง9 มม หรือ .38 ครับ   แต่ถ้าเข้าหัวหรือหัวใจ .22 ก็ตายได้เหมือนกัน  

ดังนั้น ถ้าขอด้วยวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินและไม่เคยมีปืนมาก่อน นายทะเบียนท่านจึงพิจารณาให้ยากกว่าปกติเนื่องจากเป็นขนาดที่อนุภาพแรงกว่า อันนี้รวมถึง .357 magnum ด้วยครับ แต่ถ้าด้วยเหตุผลเพื่อการกีฬา และหลักฐานครบ ท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ครับ
หมายความว่า ถ้าผม มี.45อยู่แล้ว5กระบอก นายทะเบียนจะพิจารณาให้ง่ายกว่า หรือครับท่าน

เขามีคำถามแน่ครับ ถ้าซ้ำขนาด ว่าเอาไปทำไมเยอะแยะ แค่มีอยู่แล้วกระบอกเดียวซื้อเพิ่มอีกกระบอก เขาจะให้สาธยายว่าทำไมต้องซื้อเพิ่ม(ถ้าขอเพื่อการกีฬา) กระบอกที่จะซื้อมันดีกว่าอย่างไร ถ้าไม่เคลียร์ เขาอาจไม่ให้ได้เพราะ ซ้ำขนาด
ส่วนคนที่มีมาแล้ว5กระบอกสมัย นายทะเบียนยังเป็นกองทะเบียนตำรวจอยู่ถือว่าท่านโชคดีไป  เพราะสมัยกรมการปกครองวิธีการ เหตุผล หลักฐานดูยุ่งยากกว่า  เยอะครับ

สรุปถ้าซ้ำขนาด ต้องอธิบายเยอะเหตุผลต้องพอ ไม่ง่ายครับ  

ส่วนคนที่ไม่เคยมีเลยแล้วขอขนาด ที่เขาไม่อยากให้ เช่น.45 หรือ .357  ลองคิดกลับกันง่ายๆครับว่าถ้าคุณเป็นนายทะเบียน มีคนไม่เคยมีปืนมาก่อนมาขอขนาด.45 เพื่อป้องกันทรัพย์สินคุณคิดว่าคุณจะให้เขาเหตุผลเพราะะอะไร  จะมีคำถามตามมามากมายว่า 9มม .38 ไม่พอป้องกันทรัพย์สินเหรอ คนขอจะตอบอย่างไร ถ้าตอบเพราะว่าชอบ คุณคิดว่าคุณจะให้ไหม เกินความจำเป็นหรือเปล่า   แม้ขนาดเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีหน้าที่ปราบปรามโดยตรงเอง ยังขอยากเลยครับ ต้องให้ผู้บังคับบัญชา ยศสูงต้องรับรองให้เลย เพราะเหตุคำว่า จำเป็น  ครับ

แต่ถ้าขอเพื่อการกีฬา ไม่ซ้ำขนาด (แต่ถ้าซ้ำขนาดก็ต้องคุยกันยาว ส่วนจะให้หรือไม่ก็แล้วแต่ดุลพินิจเขาครับ) แค่อธิบายท่านไปว่าจะเอาไปแข่งอย่างไร ประเภทไหน หลักฐานครบ คุณสมบัติครบนายทะเบียนท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ ท่านก็ต้องให้ครับ     อันนี้ไม่นับรวมกับจ่ายเงินแล้วให้ร้านขอให้นะครับ

ส่วนคนที่มีปืนอยู่แล้วมานานแล้วขอเพิ่ม ท่านก็จะพิจารณาตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่จะไม่เข้มงวดเท่ากับ คนขอกระบอกแรกครับ  
 ผมคิดเอาเองนะครับ ว่า(ท่านอาจพิจารณาว่าคนที่มีปืนอยู่แล้วมานาน ถ้าจะซื้อปืนเพิ่มเพื่อไปใช้ในทางไม่ดี ผู้ขอก็สามารถใช้กระบอกเก่าได้และอาจทำมานานแล้ว แต่นี่มีมานานแล้วไม่เคยก่อเหตุอะไรเลย ก็น่าจะพิจารณาให้ง่ายหน่อย
เพราะแสดงว่า เขามีวุฒิภาวะพอที่จะไม่นำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เพราะถ้ามีวุฒิภาวะไม่พอ คงทำไปนานแล้ว   ส่วนคนที่ขอใหม่ท่านอาจมองว่ามีความเสี่ยงกว่าคนที่เคยมีปืนมานานแล้วก็ได้ เพราะไม่มีอะไรเป็นประวัติให้ท่านเห็นได้ว่า คนที่ขอนั้นจะนำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือเปล่า ท่านจึงพิจารณาให้ยาก และยิงเป็นขนาดที่รุนแรงด้วยยิ่งยากครับ
  

...ทำไมต้องคิดแทนคนอื่นด้วยครับ แค่ทำตามหน้าที่ตัวเองโดยไม่บกพร่องก็พอแล้ว....

...เขาจะเคยมีปืนหรือไม่ เคยอบรมหรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้าคุณสมบัติตามกฏหมายครบก็ต้องให้ครับ...
ถ้าใช้ดุลยพินิจ ต้องบอกเหตผลตามกฏหมายรับรองด้วย....

....จริงๆแล้วถ้าไม่เคยมีปืนมาก่อนแต่ผ่านการอบรมมาก็จับได้เลย เพราะใช้ปืนคนอื่นอบรมโดยไม่มีใบอนุญาตมีและใช้... Grin



ทุกอย่างมีเหตุและผล และก็ต้องมีที่มาครับ  

ไม่งั้นถ้าเขาร่างกฎหมายการเสีภาษีเท่ากัน  โดยสรรพกรเขาบอกว่าเก็บภาษีเงินได้ ไม่ว่าคนรวยหรือจน รายได้น้อยหรือมากที่ 30% เท่ากัน  โดยอ้างว่าทำตามหน้าที่ คุณจะว่าอย่างไร กฎหมายที่เขียนออกมาก็คงต้องพิจารณาโดยเหตุและผลและสรุปมาแล้ว จึงนำมาปฏิบัติใช้

หรือคุณเอาปืนไปซ้อมที่สนาม แล้วมีตำรวจไปดักรอหน้าสนามซ้อม และจับคุณข้อหาพาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วบอกว่าเขาทำตามกฏหมาย ยึดปื่นคุณทำเรื่องส่งอัยการเพื่อฟ้องศาล โดยอ้างว่าทำตามหน้าที่และกฏหมาย โดยไม่ใช้ดุลพินิจเลย  คุณจะว่าอย่างไร  ถึงแม้ว่ามาตรา 8 วรรค2 จะเปิดช่องให้คุณชี้แจงเหตุจำเป็นได้ แต่ในชั้นจับกุมและสอบสวนอ้างทำตามกฏหมาย จับไว้ก่อน   แล้วให้อัยการใช้ดุลพินิจในการส่งฟ้องหรือไม่ แค่นี้คุณก็แย่แล้วครับ
ผมแค่มองในแง่ที่เป็นกลางเท่านั้นนะครับ ทุกอย่างมี ที่มาและเหตุผล ซึ่งบางคลอาจใช้ดุลพินิจและเหตุผลไปในทางไม่ถูกก็มี ก็แค่อธิบายในอีกมุมมองแค่นั้นครับ

แต่กฏหมายบางอย่างผมมองเป็นกลางหรือใช้เหตุผลยังไงก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี คือ การที่คนร้ายงัดประตูบ้านเราเข้ามายามวิกาล หากเรามีปืนและไม่แน่ใจว่าคนร้ายมีอาวุธหรือเปล่าเพราะมืด เกิดเราบอกว่า ยิงไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ขืนรอจนมองเห็นว่ามีอาวุธแล้วให้มันยิงเราก่อนหากแม่น คงไม่มีโอกาส ปรากฏว่า ตำรวจตั้งข้อหาเจ้าของบ้านฆ่าคนตายโดยเจตนา และต้องเสียค่าทนายไปต่อสู้กันในชั้นศาล ซึ่งภายหลังปรากฏว่า คนร้ายไม่มีอาวุธ เจ้าของบ้านติดคุกข้อหากระทำเกินกว่าเหตุ

กฏหมายแบบนี้ผมมองยังไงก็หาเหตุผลไม่เจอว่าเขียนไว้ทำไม  ปกป้องโจรหรือไง  ยังสงสัยมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 18, 2011, 07:06:36 PM โดย xxx » บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #23 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 07:37:25 PM »

ทำไมถึงได้ขอยากครับ อยากได้ใจจะขาดสำหรับ 0.45 ACP คงจะหาไว้สักกระบอก
1.ประชาชนคนธรรมดาอย่างผมจะขอได้ไหม
2.หากมีสั้น 9มม. อยู่แล้วจะใช้เหตุผลว่าอะไรดีถึงจะได้ชัวร์ๆครับ

ตามกฎหมาย ปืนกึ่งอัตโนมัติขนาด.45 เป็นปืนที่นายทะเบียนฯออกใบอนุญาตได้
แต่ที่มันยุ่งยากเพราะมีหนังสือสั่งการ(ซึ่งมิได้เป็นกฎ)ตั้งเงื่อนไขกำกับนายทะเบียนฯไว้ แบบดิ้นได้หรือหยุ่นตัวตามสไตล์มท.
นายทะเบียนฯ800กว่าท่าน ก็เลยปฏิบัติไม่เหมือนกัน....
1/บางท่านกลัว...ไม่กล้าอนุญาตเลย
2/บางท่านรู้เรื่องปืนเชี่ยวชาญกฎหมาย...กล้าคิดกล้าสั่ง
3/บางท่านสบช่อง....ได้ประโยชน์

ดังนั้น ตอบข้อ1 ท่านจขกท.ย่อมขอได้ แต่จะได้รับอนุญาตหรือไม่ขึ้นกับท่านจะได้พบใครใน800กว่านั้น
ตอบข้อ2 ว่าช่องทางเลี่ยงบาลีของนายทะเบียนฯคืออนุญาตเพื่อการกีฬา แม้ว่าที่สุดท่านจะซื้อ.45Compactลำกล้อง3"ก็ไม่ว่ากัน
ส่วนถ้าท่านจขกท.จะขอด้วยเหตุผลป้องกันฯก็ได้ เช่น ถ้านายทะเบียนฯรู้จักท่านดี หรือผู้รับรองท่านเป็นผู้ที่นายทะเบียนฯเกรงใจ  Wink

คนเราควรเท่าเทียมกัน .... แต่มีปรัชญาข้อหนึ่งว่า ......นิ้วคนเราก็ยังยาวไม่เท่ากัน  Smiley
บันทึกการเข้า
kaminii2009
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 217



« ตอบ #24 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 09:58:57 PM »

ลองให้พี่ ธำรง เซ็นรับรองให้สิครับ นายทะเบียนท่านคงเกรงใจ ครับ
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #25 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 10:59:05 PM »

ลองให้พี่ ธำรง เซ็นรับรองให้สิครับ นายทะเบียนท่านคงเกรงใจ ครับ

ผมเป็นประชาชนชั้นสามไม่มีเครดิตแม้แต่น้อยกับนายทะเบียนฯครับ ปกติของตัวเองเดิมก็ให้สน.ท้องที่สอบประวัติรับรองให้  Cheesy
ตอนหลังค่อยมีผู้รับรอง.....ท่านรับรองแล้วยังกรุณาเขียนความเกี่ยวข้องให้ว่า..."เป็นผู้ที่นับถือ"  ไหว้
บันทึกการเข้า
นายฉาบฉวย
หนูจะเอา Baer
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 72
ออฟไลน์

กระทู้: 1148



เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 09:23:07 AM »

ถ้าด้วยเหตุผลจริงๆ นั้น .45 เป็นขนาดที่เกินกว่าป้องกันตัวและทรัพย์สินครับ น่าจะเข้าขั้นปราบปรามได้(สำหรับเจ้าหน้าที่) เพราะถ้านำไปใช้ยิงคน โอกาสรอดมีน้อยกว่าอื่น อย่าง9 มม หรือ .38 ครับ   แต่ถ้าเข้าหัวหรือหัวใจ .22 ก็ตายได้เหมือนกัน 

ดังนั้น ถ้าขอด้วยวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินและไม่เคยมีปืนมาก่อน นายทะเบียนท่านจึงพิจารณาให้ยากกว่าปกติเนื่องจากเป็นขนาดที่อนุภาพแรงกว่า อันนี้รวมถึง .357 magnum ด้วยครับ แต่ถ้าด้วยเหตุผลเพื่อการกีฬา และหลักฐานครบ ท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ครับ
หมายความว่า ถ้าผม มี.45อยู่แล้ว5กระบอก นายทะเบียนจะพิจารณาให้ง่ายกว่า หรือครับท่าน

เขามีคำถามแน่ครับ ถ้าซ้ำขนาด ว่าเอาไปทำไมเยอะแยะ แค่มีอยู่แล้วกระบอกเดียวซื้อเพิ่มอีกกระบอก เขาจะให้สาธยายว่าทำไมต้องซื้อเพิ่ม(ถ้าขอเพื่อการกีฬา) กระบอกที่จะซื้อมันดีกว่าอย่างไร ถ้าไม่เคลียร์ เขาอาจไม่ให้ได้เพราะ ซ้ำขนาด
ส่วนคนที่มีมาแล้ว5กระบอกสมัย นายทะเบียนยังเป็นกองทะเบียนตำรวจอยู่ถือว่าท่านโชคดีไป  เพราะสมัยกรมการปกครองวิธีการ เหตุผล หลักฐานดูยุ่งยากกว่า  เยอะครับ

สรุปถ้าซ้ำขนาด ต้องอธิบายเยอะเหตุผลต้องพอ ไม่ง่ายครับ 

ส่วนคนที่ไม่เคยมีเลยแล้วขอขนาด ที่เขาไม่อยากให้ เช่น.45 หรือ .357  ลองคิดกลับกันง่ายๆครับว่าถ้าคุณเป็นนายทะเบียน มีคนไม่เคยมีปืนมาก่อนมาขอขนาด.45 เพื่อป้องกันทรัพย์สินคุณคิดว่าคุณจะให้เขาเหตุผลเพราะะอะไร  จะมีคำถามตามมามากมายว่า 9มม .38 ไม่พอป้องกันทรัพย์สินเหรอ คนขอจะตอบอย่างไร ถ้าตอบเพราะว่าชอบ คุณคิดว่าคุณจะให้ไหม เกินความจำเป็นหรือเปล่า   แม้ขนาดเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีหน้าที่ปราบปรามโดยตรงเอง ยังขอยากเลยครับ ต้องให้ผู้บังคับบัญชา ยศสูงต้องรับรองให้เลย เพราะเหตุคำว่า จำเป็น  ครับ

แต่ถ้าขอเพื่อการกีฬา ไม่ซ้ำขนาด (แต่ถ้าซ้ำขนาดก็ต้องคุยกันยาว ส่วนจะให้หรือไม่ก็แล้วแต่ดุลพินิจเขาครับ) แค่อธิบายท่านไปว่าจะเอาไปแข่งอย่างไร ประเภทไหน หลักฐานครบ คุณสมบัติครบนายทะเบียนท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ ท่านก็ต้องให้ครับ     อันนี้ไม่นับรวมกับจ่ายเงินแล้วให้ร้านขอให้นะครับ

ส่วนคนที่มีปืนอยู่แล้วมานานแล้วขอเพิ่ม ท่านก็จะพิจารณาตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่จะไม่เข้มงวดเท่ากับ คนขอกระบอกแรกครับ 
 ผมคิดเอาเองนะครับ ว่า(ท่านอาจพิจารณาว่าคนที่มีปืนอยู่แล้วมานาน ถ้าจะซื้อปืนเพิ่มเพื่อไปใช้ในทางไม่ดี ผู้ขอก็สามารถใช้กระบอกเก่าได้และอาจทำมานานแล้ว แต่นี่มีมานานแล้วไม่เคยก่อเหตุอะไรเลย ก็น่าจะพิจารณาให้ง่ายหน่อย
เพราะแสดงว่า เขามีวุฒิภาวะพอที่จะไม่นำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เพราะถ้ามีวุฒิภาวะไม่พอ คงทำไปนานแล้ว   ส่วนคนที่ขอใหม่ท่านอาจมองว่ามีความเสี่ยงกว่าคนที่เคยมีปืนมานานแล้วก็ได้ เพราะไม่มีอะไรเป็นประวัติให้ท่านเห็นได้ว่า คนที่ขอนั้นจะนำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือเปล่า ท่านจึงพิจารณาให้ยาก และยิงเป็นขนาดที่รุนแรงด้วยยิ่งยากครับ
   

...ทำไมต้องคิดแทนคนอื่นด้วยครับ แค่ทำตามหน้าที่ตัวเองโดยไม่บกพร่องก็พอแล้ว....

...เขาจะเคยมีปืนหรือไม่ เคยอบรมหรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้าคุณสมบัติตามกฏหมายครบก็ต้องให้ครับ...
ถ้าใช้ดุลยพินิจ ต้องบอกเหตผลตามกฏหมายรับรองด้วย....

....จริงๆแล้วถ้าไม่เคยมีปืนมาก่อนแต่ผ่านการอบรมมาก็จับได้เลย เพราะใช้ปืนคนอื่นอบรมโดยไม่มีใบอนุญาตมีและใช้... Grin



ทุกอย่างมีเหตุและผล และก็ต้องมีที่มาครับ 

ไม่งั้นถ้าเขาร่างกฎหมายการเสีภาษีเท่ากัน  โดยสรรพกรเขาบอกว่าเก็บภาษีเงินได้ ไม่ว่าคนรวยหรือจน รายได้น้อยหรือมากที่ 30% เท่ากัน  โดยอ้างว่าทำตามหน้าที่ คุณจะว่าอย่างไร กฎหมายที่เขียนออกมาก็คงต้องพิจารณาโดยเหตุและผลและสรุปมาแล้ว จึงนำมาปฏิบัติใช้

หรือคุณเอาปืนไปซ้อมที่สนาม แล้วมีตำรวจไปดักรอหน้าสนามซ้อม และจับคุณข้อหาพาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วบอกว่าเขาทำตามกฏหมาย ยึดปื่นคุณทำเรื่องส่งอัยการเพื่อฟ้องศาล โดยอ้างว่าทำตามหน้าที่และกฏหมาย โดยไม่ใช้ดุลพินิจเลย  คุณจะว่าอย่างไร  ถึงแม้ว่ามาตรา 8 วรรค2 จะเปิดช่องให้คุณชี้แจงเหตุจำเป็นได้ แต่ในชั้นจับกุมและสอบสวนอ้างทำตามกฏหมาย จับไว้ก่อน   แล้วให้อัยการใช้ดุลพินิจในการส่งฟ้องหรือไม่ แค่นี้คุณก็แย่แล้วครับ
ผมแค่มองในแง่ที่เป็นกลางเท่านั้นนะครับ ทุกอย่างมี ที่มาและเหตุผล ซึ่งบางคลอาจใช้ดุลพินิจและเหตุผลไปในทางไม่ถูกก็มี ก็แค่อธิบายในอีกมุมมองแค่นั้นครับ

แต่กฏหมายบางอย่างผมมองเป็นกลางหรือใช้เหตุผลยังไงก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี คือ การที่คนร้ายงัดประตูบ้านเราเข้ามายามวิกาล หากเรามีปืนและไม่แน่ใจว่าคนร้ายมีอาวุธหรือเปล่าเพราะมืด เกิดเราบอกว่า ยิงไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ขืนรอจนมองเห็นว่ามีอาวุธแล้วให้มันยิงเราก่อนหากแม่น คงไม่มีโอกาส ปรากฏว่า ตำรวจตั้งข้อหาเจ้าของบ้านฆ่าคนตายโดยเจตนา และต้องเสียค่าทนายไปต่อสู้กันในชั้นศาล ซึ่งภายหลังปรากฏว่า คนร้ายไม่มีอาวุธ เจ้าของบ้านติดคุกข้อหากระทำเกินกว่าเหตุ

กฏหมายแบบนี้ผมมองยังไงก็หาเหตุผลไม่เจอว่าเขียนไว้ทำไม  ปกป้องโจรหรือไง  ยังสงสัยมาจนถึงทุกวันนี้ครับ

...ถึงบอกว่าอย่าคิดแทนคนอื่นไงหล่ะครับ... ทุกคนจะซื้อปืนย่อมมีเหตผลของตนเอง ....

ถ้าคุณสมบัติครบตามกฏหมายระบุ(ที่กลั่นกรองมาแล้ว มีเหตผล และมีที่มา) ก็ไม่เห็นต้องหวงใบอณุญาตเลย

อีกอย่างหนึ่งที่เป็นปัญหามากกับขนาด .45 .357 ทำยังกะว่าปืนขนาดอื่นยิงคนไม่ตาย ไม่เห็นมันจะต่างกับ .38 ตรงไหนเลย
บางคนขอ .38 ผ่าน แต่ขอ .357 ไม่ผ่านไม่รู้เขาเอาอะไรตัดสิน
บันทึกการเข้า

xxx
Full Member
***

คะแนน 33
ออฟไลน์

กระทู้: 455


« ตอบ #27 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 09:48:25 AM »

ถ้ามองแค่ว่าปืนอะไรก็ยิงคนตายได้เหมือนกัน ผมก็คงสงสัยเหมือนกันครับว่า ทำไมถึงห้ามมิให้คนทั่วไปมีปืน ประเภ full auto หรือ M79 เพราะก็ยิงคนตายได้เหมือนๆกัน

เลยเลยต้องกลับมาคิดว่าเป็นเรื่องของอนุภาพร้ายแรงและความจำเป็นหรือเปล่า

ส่วนเรื่อง คนนึงขอนุญาต.38ผ่าน แต่ .357 ไม่ผ่าน ก็คงเป็นเรื่องของความจำเป็น อีกหล่ะครับ เพราะขนาดตำรวจางท่านเองยังขอยากเลย แต่หากเป็นตำรวจปราปราม เช่นยาเสพติด ผมว่านายทะเบียนท่านก็คงให้ไม่ยากครับ เนื่องจากมีความเสี่ยงกว่าตำรวจทั่วไป เพราะถ้าปราบปรามใช้ปืนอนุภาพไม่แรงพอหรือหยุดคนร้ายได้ภายใน1นัด นั่นคงหมายถึงชีวิตเขา  ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องกับงานเอกสารอย่างเดียวท่านก็ไม่ได้มีติดตัวเลยครับ

อันนี้ไม่ได้มีเจตนาอะไรนะครับ แค่แสดงความเห็นต่างและพยายามเข้าใจทั้ง2ฝ่ายแค่นั้นครับ  ไหว้

มองในมุมกลับกันถ้าปืนอะไรก็ยิงคนตายได้เหมือนกัน  ทำไมคนขอส่วนใหญ่ไม่ขอ .22  ทำไม ต้อง.45 หรือ .357 magnum ผมว่าคนขอเองก็คงทราบดีครับว่าอะไรเป็นอะไร  ผมว่าเรื่องนี้คงคุยกันจบยากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 19, 2011, 09:50:57 AM โดย xxx » บันทึกการเข้า
Desperado - รักในหลวง
แก่ ขี้บ่น อ้วน นิสัยไม่ดี งี่เง่า ปทุมธานี
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 156
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2434



« ตอบ #28 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 09:54:00 AM »

นายทะเบียนปัญญาอ่อนครับ ................
ชัดเจนที่สุดครับ
ง่ายๆเลย ไม่ต้องไปคิดเรื่องอานุภาพเลย คิดแค่ผมมีได้ ท่านก็ต้องมีได้เหมือนกัน
ที่นี่ประเทศไทย กฎหมายเดียวกัน ต้องเท่าเทียมกัน
บันทึกการเข้า

เหม็นขี้หน้า นักการเมือง และสุนัขรับใช้นักการเมือง
TA881
Hero Member
*****

คะแนน 156
ออฟไลน์

กระทู้: 1480



« ตอบ #29 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 10:03:20 AM »

ได้ความรู้ล้วนๆ 

OK เข้าใจแล้วครับเหมาะสำหรับยิงเป้าแบบปราณีต 

แล้วที่แข่งขันกันกติกาเป็นยังไงครับ  สนใจอยู่จะได้ลองไปแข่งมั่ง  ขอบคุณครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.121 วินาที กับ 20 คำสั่ง