ถ้าด้วยเหตุผลจริงๆ นั้น .45 เป็นขนาดที่เกินกว่าป้องกันตัวและทรัพย์สินครับ น่าจะเข้าขั้นปราบปรามได้(สำหรับเจ้าหน้าที่) เพราะถ้านำไปใช้ยิงคน โอกาสรอดมีน้อยกว่าอื่น อย่าง9 มม หรือ .38 ครับ แต่ถ้าเข้าหัวหรือหัวใจ .22 ก็ตายได้เหมือนกัน
ดังนั้น ถ้าขอด้วยวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สินและไม่เคยมีปืนมาก่อน นายทะเบียนท่านจึงพิจารณาให้ยากกว่าปกติเนื่องจากเป็นขนาดที่อนุภาพแรงกว่า อันนี้รวมถึง .357 magnum ด้วยครับ แต่ถ้าด้วยเหตุผลเพื่อการกีฬา และหลักฐานครบ ท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ครับ
หมายความว่า ถ้าผม มี.45อยู่แล้ว5กระบอก นายทะเบียนจะพิจารณาให้ง่ายกว่า หรือครับท่าน
เขามีคำถามแน่ครับ ถ้าซ้ำขนาด ว่าเอาไปทำไมเยอะแยะ แค่มีอยู่แล้วกระบอกเดียวซื้อเพิ่มอีกกระบอก เขาจะให้สาธยายว่าทำไมต้องซื้อเพิ่ม(ถ้าขอเพื่อการกีฬา) กระบอกที่จะซื้อมันดีกว่าอย่างไร ถ้าไม่เคลียร์ เขาอาจไม่ให้ได้เพราะ ซ้ำขนาด
ส่วนคนที่มีมาแล้ว5กระบอกสมัย นายทะเบียนยังเป็นกองทะเบียนตำรวจอยู่ถือว่าท่านโชคดีไป เพราะสมัยกรมการปกครองวิธีการ เหตุผล หลักฐานดูยุ่งยากกว่า เยอะครับ
สรุปถ้าซ้ำขนาด ต้องอธิบายเยอะเหตุผลต้องพอ ไม่ง่ายครับ
ส่วนคนที่ไม่เคยมีเลยแล้วขอขนาด ที่เขาไม่อยากให้ เช่น.45 หรือ .357 ลองคิดกลับกันง่ายๆครับว่าถ้าคุณเป็นนายทะเบียน มีคนไม่เคยมีปืนมาก่อนมาขอขนาด.45 เพื่อป้องกันทรัพย์สินคุณคิดว่าคุณจะให้เขาเหตุผลเพราะะอะไร จะมีคำถามตามมามากมายว่า 9มม .38 ไม่พอป้องกันทรัพย์สินเหรอ คนขอจะตอบอย่างไร ถ้าตอบเพราะว่าชอบ คุณคิดว่าคุณจะให้ไหม เกินความจำเป็นหรือเปล่า แม้ขนาดเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีหน้าที่ปราบปรามโดยตรงเอง ยังขอยากเลยครับ ต้องให้ผู้บังคับบัญชา ยศสูงต้องรับรองให้เลย เพราะเหตุคำว่า จำเป็น ครับ
แต่ถ้าขอเพื่อการกีฬา ไม่ซ้ำขนาด (แต่ถ้าซ้ำขนาดก็ต้องคุยกันยาว ส่วนจะให้หรือไม่ก็แล้วแต่ดุลพินิจเขาครับ) แค่อธิบายท่านไปว่าจะเอาไปแข่งอย่างไร ประเภทไหน หลักฐานครบ คุณสมบัติครบนายทะเบียนท่านก็ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ ท่านก็ต้องให้ครับ อันนี้ไม่นับรวมกับจ่ายเงินแล้วให้ร้านขอให้นะครับ
ส่วนคนที่มีปืนอยู่แล้วมานานแล้วขอเพิ่ม ท่านก็จะพิจารณาตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่จะไม่เข้มงวดเท่ากับ คนขอกระบอกแรกครับ
ผมคิดเอาเองนะครับ ว่า(ท่านอาจพิจารณาว่าคนที่มีปืนอยู่แล้วมานาน ถ้าจะซื้อปืนเพิ่มเพื่อไปใช้ในทางไม่ดี ผู้ขอก็สามารถใช้กระบอกเก่าได้และอาจทำมานานแล้ว แต่นี่มีมานานแล้วไม่เคยก่อเหตุอะไรเลย ก็น่าจะพิจารณาให้ง่ายหน่อย
เพราะแสดงว่า เขามีวุฒิภาวะพอที่จะไม่นำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เพราะถ้ามีวุฒิภาวะไม่พอ คงทำไปนานแล้ว ส่วนคนที่ขอใหม่ท่านอาจมองว่ามีความเสี่ยงกว่าคนที่เคยมีปืนมานานแล้วก็ได้ เพราะไม่มีอะไรเป็นประวัติให้ท่านเห็นได้ว่า คนที่ขอนั้นจะนำปืนไปใช้ในลักษณะก่อความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือเปล่า ท่านจึงพิจารณาให้ยาก และยิงเป็นขนาดที่รุนแรงด้วยยิ่งยากครับ