รวบเด็กหนีศูนย์บำบัดเสี้ยนยาฆ่าชิงทรัพย์
รวบแล้วเด็กศูนย์บำบัดยาเสพติด ก่อเหตุฆ่าโหดสองแม่ลูกดับในบ้าน สารภาพเสี้ยนยาหนัก ต้องการเงินไปซื้อยาเสพ แต่เจ้าของบ้านเห็นร้องโวยวาย จึงใช้ท่อนเหล็กทุบตีจนตายระหว่างรื้อค้นทรัพย์สิน ส่วนเด็กตื่นมาร้องไห้ ด้วยความรำคาญจึงจับตัวทุ่มกับพื้น ก่อนรวบสองขาจับเหวี่ยงฟาดกับเสาบ้านดับ
24 ส.ค.54 ความคืบหน้าคดีอุกฉกรรจ์ คนร้ายทราบชื่อคือ นายศรุตยา มากสง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/3 หมู่ 2 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติด ของศูนย์เบิกอรุณในประเทศไทย สาขาขอนแก่น ซึ่งอยู่ที่ ต.ป่ามะนาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น หลบหนีออกจากศูนย์บำบัดเข้าไปก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 224 บ้านแก่นเท่า ต.ป่ามะนาว อ.บ้านฝาง ใกล้กับศูนย์บำบัด
โดยใช้ท่อนเหล็กทุบศีรษะนางราตรี พิมพ์ดีด อายุ 36 ปี เสียชีวิตบนชั้นสองของบ้าน ใกล้กับพบศพลูกสาววัย 2 ขวบ คือ ด.ญ.พิมพ์ลภัส พิมพ์ดีด สภาพถูกจับฟาดกับเสาบ้านจนหน้าใบหน้าบวมปูดแตกเละ ตามตัวกระดูกหักหลายแห่งก่อนขโมยเงินสด จำนวน 4,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าของนางราตรีที่จอดอยุ่ใต้ถันบ้านหลบหนีไป เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด ตำรวจโดยการนำของ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.สส.ภ.4 สืบทราบว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ที่ขโมยไปมุ่งหน้าไปทาง อ.เกษตรสมบูรณ์ และ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ จึงได้ประสานสถานีตำรวจใกล้เคียงช่วยตรวจสอบสกัดจับ กระทั่งช่วงเช้ามืดตำรวจพบนายศรุตยา ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณหน้าร้านลี่คาราโอเกะ บ้านราษฎรดำเนิน ต.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ จึงได้เรียกจอดเพื่อจับกุมตัว แต่นายศรุตยาทิ้งรถและวิ่งหลบหนีเข้าไปด้านหลังร้านทันที ตำรวจจึงวางกำลังปิดล้อมกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด คุมตัวมาสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4
สอบสวนเบื้องต้น นายศรุตยาให้การว่า ผู้ปกครองพามาบำบัดอยู่ที่ศูนย์ได้ประมาณ 1 เดือน แต่ยังปรับตัวไม่ได้ เกิดความเครียดหวาดระแวงตลอดเวลา ในช่วงหลบหนีเพราะเกิดอาการอยากเสพยาอย่างหนัก จึงตั้งใจมาหาขโมยของเพื่อเอาเงินไปซื้อยาเสพติดและจะเดินทางกลับบ้านที่ อ.หาดใหญ่ ขณะมาถึงบ้านเลขที่ 224 เห็นว่าเป็นบ้านที่อยู่นอกหมู่บ้านออกไป เป็นบ้านหลังเดียวโดดเดี่ยว จึงได้ย่องขึ้นไปบนบ้านเพื่อรื้อค้นหาทรัพย์สิน
ระหว่างนั้นนางราตรีเจ้าของบ้านเห็น และได้ร้องโวยวาย ด้วยความโมโหจึงใช้ท่อนเหล็กที่เก็บได้ข้างทางกระหน่ำฟาดเข้าที่ใบหน้าจนเสียชีวิต ในขณะเดียวกัน ด.ญ.พิมพ์ลภัส ก็ร้องให้ไม่หยุดอยู่ข้างศพแม่ จึงเกิดความรำคาญ อุ้มขึ้นมาแล้วทุ่มลงพื้นก่อนที่จะจับขาเหวี่ยงฟาดกับเสาบ้านเสียชีวิต แล้วค้นเอาทรัพย์สินหลบหนีไป
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและชิงทรัพย์"ก่อนที่จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งตำรวจได้วางกำลังเอาไว้กว่า 100 นาย เพื่อกันไม่ให้ญาติของผู้ตายรุมประชาทัณฑ์
คนอ่าน 133 คน
ผมอยากให้โทษเป็นแบบนี้มากกว่า ครับ
ตามข้อสีแดงประหารชีวิต เก้าอี้ไฟฟ้า เปลืองค่าไฟ ภาษีกรู
ฉีดยา เปลืองค่ายา ตายสบายไป ภาษีกรู
ยิงเป้า เปลืองค่ากระสุน ค่าน้ำมันล้างปืน ภาษีกรู