ถ้าข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามนั้นจริง ( ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานในคดีและร่องรอยในที่เกิดเหตุว่า
สอดคล้องกันให้รับฟังได้ตามนั้นจริงหรือไม่ ) ตามแนวคำพิพากษาฎีกาการขับรถย้อนศรจนเกิดอุบัติ
เหตุนั้นถือว่าฝ่ายที่ขับรถย้อนศรมาเป็นฝ่ายประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงครับ ถ้าไม่มีข้อเท็จจริงอย่าง
อื่นปรากฏขึ้นมาอีก รูปคดีค่อนข้างชัดว่าฝ่ายคนตายเป็นฝ่ายประมาทครับ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ
พนักงานสอบสวนแล้วล่ะครับว่าจะตั้งข้อหาเพื่อนท่านด้วยหรือไม่ หากเห็นว่าข้อเท็จจริงชัดเจนว่าคน
ตายเป็นฝ่ายประมาทแต่เพียงฝ่ายเดียวอาจไม่ตั้งข้อหากับเพื่อนของท่านก็ได้ แม้หากพนักงานสอบสวน
จะตั้งข้อหากับเพื่อนของท่าน แต่ก็จะมีพนักงานอัยการคอยกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ดีไม่อยากให้มองในมุมของกฎหมายอย่างเดียวครับ หลายเรื่องที่เคยฝ่ายเข้ามาใน
ความรับผิดชอบของผม บางครั้งไม่ได้เป็นฝ่ายผิดแต่ก็ยังพยายามบรรเทาความเสียหายให้แก่ญาติของ
ฝ่ายที่ต้องเสียชีวิตครับ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของมนุษยธรรมครับ แต่ถ้าเห็นว่าไม่ผิดจะไม่จ่ายก็ได้ครับ
เป็นสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้เพื่อนของท่านต้องตัดสินใจเอาเองครับว่าจะทำให้กฎหมายและมนุษย
ธรรมมาบรรจบกันได้อย่างไร
แล้วถ้ากรณีที่ฝ่ายไม่ผิด ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือในรูปของมนุษยธรรมแล้ว
ข้อเท็จจริงจากการช่วยเหลือดังกล่าว มีผลต่อคดีที่กำลังพิจารณาหรือไม่ครับท่าน
ผมขอถามท่าน Pandanus กลับครับว่าถ้าฝ่ายที่ไม่ผิดได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
จนฝ่ายคนตายไม่ติดใจแล้ว ทั้งตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหากอีกฝ่ายไม่ได้
กระทำความผิดท่านก็คงไม่อยากดำเนินคดีกับฝ่ายนั้นอยู่แล้ว ประกอบกับฝ่ายคนตาย
ก็ได้รับการชดใช้ตามสมควรแล้ว เรื่องยุ่งยากที่อาจติดตามตัวท่านมาภายหลังจากการ
ไม่ดำเนินคดีก็ไม่น่าจะมีอีกแล้ว ถ้าเป็นท่านจะเลือกหนทางที่จะดำเนินคดีต่อไปรึเปล่า
ล่ะครับ และถ้าเลือกหนทางที่จะดำเนินคดีต่อไปมีฝ่ายใดได้ประโยชน์บ้างครับ เชื่อว่า
แค่นี้ก็น่าจะได้คำตอบแล้วล่ะครับว่าจะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่
