โจ
Hero Member
   
คะแนน 51
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1368
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2005, 07:00:16 PM » |
|
ปัญหาการระเบิดซึ่งเกิดจากการดีดปลอกออกก่อนที่หัวกระสุนจะพ้นจากปากลำกล้อง แบบยิงเร็วเกิน เกิดจากการปลดการขัดกลอนของปืนเร็วกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นจาก
1. การLock up ในบริเวณลำกล้องกับสไลด์น้อยเกินไป ปืนจากโรงงานไม่น่าจะมีปัญหาเพราะการLock up เกิน 35/1000 นิ้วแน่นอน ถ้าปืนแต่งลำกล้องเองคงตอบไม่ได้ต้องวัดอย่างเดียว
2. การใช้รีคอลสปริงเบาเกินไป รีคอลสปริงทำหน้าที่ดันสไลด์ไปด้านหน้า (จริงๆแล้วโรงงานจะใช้สปริงนกช่วยด้วย แต่ถ้าเป็นปืนแต่งไม่เกี่ยวเป็นน้ำหนักไกเบามาก)
จริงๆแล้วถ้าเป็นการใส่รีคอลสปริงเบาเกินไปอย่างเดียว ปัญหาที่พบบ่อยคือ ขาลำกล้องหรือโตงเตงมักฉีกไม่ใช่หรือครับ และการที่ปลอกกระสุนดีดตัวออกก่อนที่หัวกระสุนหลุดพ้นจากปากลำกล้อง ปลอกกระสุนต้องแตกบริเวณbodyของปลอก เพราะแรงดันของแก๊สร้อนยังไม่ได้ลดลงด้วย
ประเภทใช้ดินขับ(powder)ผิดประเภทแบบfast burning rate ลำกล้องก็ระเบิดคล้ายๆกันแต่หนักกว่านี้
ในความเห็นส่วนตัวคนยิงยังไงก็เร็วกว่าปืนนกตามไม่ได้ ปืนที่มีปัญหานกตามยังไม่มีปัญหาการระเบิดของลำกล้องเลย ดังนั้นยิงเร็วแค่ไหนก็คงไม่เร็วกว่าความเร็วของหัวกระสุนที่เริ่มเคลื่อนที่จนพ้นจากลำกล้อง ข้อนี้ยืนยันได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SSP228
ชาว อวป.
Full Member
  
คะแนน 0
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 113
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2005, 07:46:51 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Phoenix
Hero Member
   
คะแนน 81
ออฟไลน์
กระทู้: 3617
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2005, 08:38:04 PM » |
|
ปัญหาการระเบิดซึ่งเกิดจากการดีดปลอกออกก่อนที่หัวกระสุนจะพ้นจากปากลำกล้อง แบบยิงเร็วเกิน เกิดจากการปลดการขัดกลอนของปืนเร็วกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นจาก
1. การLock up ในบริเวณลำกล้องกับสไลด์น้อยเกินไป ปืนจากโรงงานไม่น่าจะมีปัญหาเพราะการLock up เกิน 35/1000 นิ้วแน่นอน ถ้าปืนแต่งลำกล้องเองคงตอบไม่ได้ต้องวัดอย่างเดียว
2. การใช้รีคอลสปริงเบาเกินไป รีคอลสปริงทำหน้าที่ดันสไลด์ไปด้านหน้า (จริงๆแล้วโรงงานจะใช้สปริงนกช่วยด้วย แต่ถ้าเป็นปืนแต่งไม่เกี่ยวเป็นน้ำหนักไกเบามาก)
จริงๆแล้วถ้าเป็นการใส่รีคอลสปริงเบาเกินไปอย่างเดียว ปัญหาที่พบบ่อยคือ ขาลำกล้องหรือโตงเตงมักฉีกไม่ใช่หรือครับ และการที่ปลอกกระสุนดีดตัวออกก่อนที่หัวกระสุนหลุดพ้นจากปากลำกล้อง ปลอกกระสุนต้องแตกบริเวณbodyของปลอก เพราะแรงดันของแก๊สร้อนยังไม่ได้ลดลงด้วย
ประเภทใช้ดินขับ(powder)ผิดประเภทแบบfast burning rate ลำกล้องก็ระเบิดคล้ายๆกันแต่หนักกว่านี้
ในความเห็นส่วนตัวคนยิงยังไงก็เร็วกว่าปืนนกตามไม่ได้ ปืนที่มีปัญหานกตามยังไม่มีปัญหาการระเบิดของลำกล้องเลย ดังนั้นยิงเร็วแค่ไหนก็คงไม่เร็วกว่าความเร็วของหัวกระสุนที่เริ่มเคลื่อนที่จนพ้นจากลำกล้อง ข้อนี้ยืนยันได้
ตอนนี้เริ่มงงครับ..ชักจะไม่ get ครับ คือมันเป็นเรื่อง 2 เรื่องนะครับ เรื่องแรกคือที่คุณโจเขียนว่ามันเป็นความสะเพร่าของคนยิงถ้าเสียงไม่ปรกติและปลอกค้าง ถ้าไม่ดูก็เกิดจากนักกีฬา แต่ผมอธิบายต่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้ซึ่งเกิดบ่อยในสนามแข่งคือปลอกดีดออกแต่กระสุนยังคาในลำ ถ้านักกีฬาใหม่หยุดนิ้วไม่ทันลั่นไกไป ลำก็จะระเบิดแต่ไม่ใช่ความเลินเล่อแต่เป็นอุบัติเหตุครับ ส่วนเรื่องที่ 2 คือเหตุการณ์ที่เกิดกับผมเองเรื่องยิงกระสุน Major แต่ใช้Recoil Spring อ่อนเกินไป ทำให้ Slide ร้าวครับ ทีนี้ว่ายิงเร็วเรื่องกระสุน ผมว่าคุณโจอ่านไม่เคลียร์หรือ..เอ..ผมเขียนไม่รู้เรื่องไม่ทราบ คือไม่ใช่ยิงเร็วจนกระสุนชนหรืออะไรทั้งนั้นครับ...เอ..ตอนนี้ผมชักจะงงเหมือนกัน..คงต้องหยุดไว้ก่อน มีโอกาสค่อยมาอธิบายกันก็แล้วกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โจ
Hero Member
   
คะแนน 51
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1368
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2005, 11:04:27 PM » |
|
โอเคครับ ผมอาจจะอ่านแล้วงง สิ่งที่คุณฟินิกซ์ต้องการบอกก็คืออุบัติเหตุของลำกล้องระเบิดเกิดจากหัวกระสุนสามารถค้างในลำกล้องได้โดยที่ปลอกกระสุนสามารถคัดปลอกออกได้ด้วยแรงรีคอล และกระสุนลูกใหม่ก็สามารถบรรจุเข้ารังเพลิงได้ด้วยแรงรีคอลสปริง ใช่หรือไม่ครับ
ถ้าใช่ ผมอาจจะความรู้น้อยและประสบการณ์น้อยเกินไป เลยไม่เคยเห็นประเภทที่คุณฟินิกซ์บอกมาก็เป็นได้ ไงก็ขออภัยด้วยล่ะกันครับ ที่ไม่ค่อยเข้าใจเพราะปัญหาที่คุณฟินิกซ์กล่าวมานั้นสิ่งที่เกิดคือแรงดันของแก๊สร้อนจะต้องมีมากกว่าแรงที่ใช้ปลดLock up ของปืนรวมทั้งแรงดังกล่าวต้องสามารถผลักให้สไลด์ถอยหลังได้ แต่ แรงดังกล่าวมีไม่มากพอที่จะทำให้หัวกระสุนพ้นจากลำกล้องปืนได้
ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยที่เดาแบบผิดๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 143
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 16292
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2005, 11:26:19 AM » |
|
โอเคครับ ผมอาจจะอ่านแล้วงง สิ่งที่คุณฟินิกซ์ต้องการบอกก็คืออุบัติเหตุของลำกล้องระเบิดเกิดจากหัวกระสุนสามารถค้างในลำกล้องได้โดยที่ปลอกกระสุนสามารถคัดปลอกออกได้ด้วยแรงรีคอล และกระสุนลูกใหม่ก็สามารถบรรจุเข้ารังเพลิงได้ด้วยแรงรีคอลสปริง ใช่หรือไม่ครับ
ถ้าใช่ ผมอาจจะความรู้น้อยและประสบการณ์น้อยเกินไป เลยไม่เคยเห็นประเภทที่คุณฟินิกซ์บอกมาก็เป็นได้ ไงก็ขออภัยด้วยล่ะกันครับ ที่ไม่ค่อยเข้าใจเพราะปัญหาที่คุณฟินิกซ์กล่าวมานั้นสิ่งที่เกิดคือแรงดันของแก๊สร้อนจะต้องมีมากกว่าแรงที่ใช้ปลดLock up ของปืนรวมทั้งแรงดังกล่าวต้องสามารถผลักให้สไลด์ถอยหลังได้ แต่ แรงดังกล่าวมีไม่มากพอที่จะทำให้หัวกระสุนพ้นจากลำกล้องปืนได้
ใช่ครับ ปลอกออกไปแล้ว แต่หัวยังคาอยู่ มักเกิดกับปืน Open ที่สไลด์เบา, รีคอยสปริงเบา แต่หัวยังไม่พ้นลำกล้อง แรงถึงแม้จะน้อย แต่ผลักมาที่ breechface ทั้งหมด ไม่ออกไปหน้าลำกล้อง คราวนี้แรงมาจากไหน (เช่นปลอกแตก, ไพรเมอร์ฉีก-รั่ว , chamber หลวม) ก็สุดแล้วแต่กรณีไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 143
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 16292
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2005, 11:36:39 AM » |
|
จริงๆแล้วถ้าเป็นการใส่รีคอลสปริงเบาเกินไปอย่างเดียว ปัญหาที่พบบ่อยคือ ขาลำกล้องหรือโตงเตงมักฉีกไม่ใช่หรือครับ ขาโตงเตงมักฉีก ต้องมีสาเหตุสองอย่างพร้อม ๆ กัน คือฟิตติ้งไม่ดีอยู่ก่อนแล้วมาเจอสไลด์ถอยกระแทกแรง(อาจจะกระสุนแรงไป หรือใส่รีคอยล์สปริงเบาไปก็ได้) เลยฉีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 62457
|
 |
« ตอบ #36 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2005, 03:15:38 PM » |
|
ขอบคุณพี่อ๋องที่ชี้ทางสว่างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Phoenix
Hero Member
   
คะแนน 81
ออฟไลน์
กระทู้: 3617
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2005, 04:18:41 PM » |
|
ถ้าใช่ ผมอาจจะความรู้น้อยและประสบการณ์น้อยเกินไป เลยไม่เคยเห็นประเภทที่คุณฟินิกซ์บอกมาก็เป็นได้ ไงก็ขออภัยด้วยล่ะกันครับ ที่ไม่ค่อยเข้าใจเพราะปัญหาที่คุณฟินิกซ์กล่าวมานั้นสิ่งที่เกิดคือแรงดันของแก๊สร้อนจะต้องมีมากกว่าแรงที่ใช้ปลดLock up ของปืนรวมทั้งแรงดังกล่าวต้องสามารถผลักให้สไลด์ถอยหลังได้ แต่ แรงดังกล่าวมีไม่มากพอที่จะทำให้หัวกระสุนพ้นจากลำกล้องปืนได้
ประสบการณ์กับความรู้อาจจะขัดแย้งได้ครับ บางครั้งเราเรียนมาอย่างหนึ่งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเป็นอีกอย่าง ดูเหมือนขัดแย้งแต่ความจริงไม่ใช่ครับเพราะมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาร่วมด้วยครับ เช่น 1+1 เป็น 2 นี่ทางคณิตครับ ถ้าเอามาทางชีวะจะเป็น3ครับคือ1ผู้+1เมีย จะกำเนิดบุตร=3 ครับ ถ้าเคมี 1กรด+1ด่างเท่ากับค่ากลางเป็น0 ครับ ดังนั้นเวลามองหลายมุมอาจจะขัดแย้งก็สุดแต่มอง ผมไม่ได้มาโต้แย้งคุณโจครับ เพียงแต่มาให้มองอีกมุมหนึ่งเท่านั้น แตกต่างแต่ไม่แตกแยกแน่นอนครับ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นครับ ผมเชื่อว่าคุณโจน่าจะเห็นด้วย เพราะนักกีฬา IPSC นี่เป็นนักทำลายปืนจริงๆครับ เราเลยได้เห็นหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในสนามทั้งของผู้อื่นและของตนเองครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 1428
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 6023
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2005, 05:38:36 PM » |
|
ปืนพกระบบรีคอยล์ เมื่อนกสับ แก๊ประเบิดดินปืนไหม้เกิดก๊าซในปลอก ขั้นแรกนี้ยังไม่มีอะไรขยับนะครับ
แรงดันก๊าซที่เกิดขึ้น กระทำต่อผิวด้านในปลอกกระสุนทุกทิศทาง ผนังปลอกมีรังเพลิงช่วย จานท้ายมีหน้าลำเลื่อนช่วย (ยังขัดกลอนอยู่) เหลือแต่ด้านหน้าคือหัวกระสุน ไม่มีอะไรช่วย หัวกระสุนจึงหลุดจากปลายปลอกที่คาบไว้ วิ่งไปตามลำกล้อง
ถ้าหัวกระสุนออกวิ่งไปด้านหน้าไม่ได้ จะด้วยเหตุใดก็ตาม ปืนจะไม่ปลดกลอน เพราะลำกล้องพร้อมทั้งลำเลื่อนที่ขัดกลอนไว้ด้วยกันนั้นจะถอยหลังก็ต่อเมื่อหัวกระสุนวิ่งไปด้านหน้าเท่านั้น
เมื่อปืนไม่ปลดกลอน หรือปลดกลอนช้าเนื่องจากหัวกระสุนขยับตัวช้า แรงดันในรังเพลิงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากดินปืนที่เผาไหม้ จะสูงขึ้นจนผ่านจุดที่ ปลอก+รังเพลิง รับได้ ปืนก็จะแตกอย่างที่เห็นครับ ลำเลื่อนที่ร้าวแนวยาวเพราะลำกล้องมันจะฉีกแต่ลำเลื่อนหุ้มไว้
เวลาพบปืนแตกลักษณะนี้ ลองสังเกตว่าลำเลื่อนถอยมามากน้อยแค่ไหน อย่างกล็อก 26 กระบอกที่เกิดเหตุในไทยลำเลื่อนหน้าโบ๋ไปนั้น หัวกระสุนไม่ขยับจากปลอกเลย ลำเลื่อนกับลำกล้องไม่ถอยหลัง ยังขัดกลอนเต็มร้อยครับ
บ้านเราไม่ได้อัดกระสุนเอง (คนอัดอาจจะมีแต่บ้านย่อมไม่อัด) มีที่พบแล้วน่าเป็นห่วงคือกระสุน 9 พาราฯ หัวตะกั่ว ที่ปืนบางกระบอกก็ป้อนเข้ารังเพลิงได้สุด บางกระบอกก็เข้าไม่สุด เพราะผิวโค้งของหัวกระสุนกระเดียดไปทาง .38 ซูเปอร์ (ทู่กว่า 9 พาราฯ นิดหน่อย) ซึ่งถ้าเข้าไม่สุดแล้วข่มขืนให้มันเข้าสุดก็แสดงว่าหัวกระสุนกัดเกลียวท้ายลำกล้องประเดิมไว้แล้วครับ มันจะขยับตัวจากปลายปลอกช้ากว่าที่ควร ผลก็คือแรงดันในรังเพลิงสูงกว่าพวกที่หัวกระสุนหลุดเร็วตามธรรมชาติ แบบนี้ก็มีสิทธิ์ทำให้ปืนกาบู้มได้เหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผมเป็นลูกหลานจีนอพยพ ทวดแซ่อิ๊ว ตาแซ่เล้า ปู่แซ่อึ๊ง เมืองไทยให้โอกาสทุกอย่าง ไม่มีข้ออ้างเรื่องชนชั้น ผมได้กราบแทบพระบาทในหลวงเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต
|
|
|
sutin999
ส วั ส ดี ทุ ก ค น ค รั บ
Hero Member
   
คะแนน 6
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1486
พร้อมทุกที่ มีดีทุกครั้ง
|
 |
« ตอบ #39 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2005, 07:01:15 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 ศัตรูของศัตรูข้า คือมิตรข้า 
|
|
|
โจ
Hero Member
   
คะแนน 51
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1368
|
 |
« ตอบ #40 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2005, 11:34:02 PM » |
|
ครับเห็นกับคุณฟินิกซ์ด้วยอย่างยิ่งครับ ขออภัยด้วยถ้าผมแสดงความเห็นรุนแรงไปบ้าง
ขอขอบคุณไม่ว่าจะเป็นคุณCholtit คุณPhoenix และดร.ผนิศวร ที่ร่วมให้ความรู้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
USP40
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #41 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2005, 11:54:26 PM » |
|
ถกเถียงกันด้วยวิชาการได้ประโยชน์มากครับ ขอบคุณมากครับ STI หรือ SVI ไม่ใช่ปืนเทวดาครับ ความแพงไม่ได้ทำให้ปืนหนังเหนียวเพิ่มขึ้น อิอิ ถะ ถะ ถูกต้องนะคร้าบ อิอิ ยี่ห้ออื่นก็เป็นได้นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โจ
Hero Member
   
คะแนน 51
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1368
|
 |
« ตอบ #42 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2005, 12:15:43 AM » |
|
ขอเสริมนิดหนึ่งนะครับ
การปลดกลอนเร็วกว่าปกติ เกิดขึ้นได้ถ้าเป็นการกัดเซาะขาลำกล้องไม่ดี กล่าวคือ การขับกลอนที่ดีสามารถดูได้จาก Barrel link หรือโตงเตง ถ้าbarrel link pin hole อยู่ด้านหน้ารูก้านคันล็อกสไลด์ ถือว่าโอเค แต่ถ้าการกัดเซาะขาลำกล้องสั้นเกินไป barrel link pin holeจะอยู่หลังรูก้านคันล็อกสไลด์ของโตงเตงทำให้การนั่งของขาลำกล้องบนก้านคันล็อกสไลด์ไม่ดี มีโอกาสทำให้ขาลำกล้องหลุดจากก้านคันล็อกสไลด์ได้เร็วขึ้น(การขัดกลอนเกิดขึ้นไม่ดี) ถ้าปืนเกิดอุบัติเหตุในส่วนนี้จะเป็นความรับผิดชอบของช่างแต่งปืน ถ้าปืนมีปัญหาในอเมริกา สามารถตรวจสอบได้เพราะการแต่งปืนในส่วนนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้ยิงด้วย เหมือนเรื่องการเชื่อมพอกแล้วทำheat treat ไม่ดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 143
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 16292
|
 |
« ตอบ #43 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2005, 12:20:10 AM » |
|
ประสบการณ์กับความรู้อาจจะขัดแย้งได้ครับ บางครั้งเราเรียนมาอย่างหนึ่งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเป็นอีกอย่าง ดูเหมือนขัดแย้งแต่ความจริงไม่ใช่ครับเพราะมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาร่วมด้วยครับ เช่น 1+1 เป็น 2 นี่ทางคณิตครับ ถ้าเอามาทางชีวะจะเป็น3ครับคือ1ผู้+1เมีย จะกำเนิดบุตร=3 ครับ ถ้าเคมี 1กรด+1ด่างเท่ากับค่ากลางเป็น0 ครับ ดังนั้นเวลามองหลายมุมอาจจะขัดแย้งก็สุดแต่มอง ผมไม่ได้มาโต้แย้งคุณโจครับ เพียงแต่มาให้มองอีกมุมหนึ่งเท่านั้น แตกต่างแต่ไม่แตกแยกแน่นอนครับ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นครับ ผมเชื่อว่าคุณโจน่าจะเห็นด้วย เพราะนักกีฬา IPSC นี่เป็นนักทำลายปืนจริงๆครับ เราเลยได้เห็นหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในสนามทั้งของผู้อื่นและของตนเองครับ
เปล่าเลยครับพี่นกไฟ บางอย่างที่คุณโจแกรู้นั้นถูกต้องอยู่แล้ว แต่ที่พี่นกไฟเจอกัน มันเป็น case ผิดปรกติ(บ้าง)
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2005, 09:32:48 AM โดย Phoenix »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 143
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 16292
|
 |
« ตอบ #44 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2005, 12:28:44 AM » |
|
ปืนพกระบบรีคอยล์ เมื่อนกสับ แก๊ประเบิดดินปืนไหม้เกิดก๊าซในปลอก ขั้นแรกนี้ยังไม่มีอะไรขยับนะครับ
แรงดันก๊าซที่เกิดขึ้น กระทำต่อผิวด้านในปลอกกระสุนทุกทิศทาง ผนังปลอกมีรังเพลิงช่วย จานท้ายมีหน้าลำเลื่อนช่วย (ยังขัดกลอนอยู่) เหลือแต่ด้านหน้าคือหัวกระสุน ไม่มีอะไรช่วย หัวกระสุนจึงหลุดจากปลายปลอกที่คาบไว้ วิ่งไปตามลำกล้อง
ที่เจอ หัวคาได้ระยะทาง 3/4 ของลำกล้อง ไปจนถึงหล่นกลางทาง ไปไม่ถึงเป้าครับ ไม่เจอแบบคาอยู่ที่ปลอก หรือยังไม่ปลดกลอนอย่างอาจารย์ว่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|