ลองถาม อ.ผณิศวร ดูซีครับ เพราะท่านเคยเอาปืนจากมะริกามาหลายกระบอก
ที่ผ่านมา....(ก่อนวันที่ ๑๐ ก.พ. ๒๕๓๕) บุคคลที่นำเข้าอาวุธปืน ดังกล่าว...(ไม่จำกัดเฉพาะ อ. ผณิศวร)
เป็นการนำเข้าโดยการขอใบแบบ ป.๒
(ใบอนุญาตให้สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง หรือสิ่งเทียมอาวุธปืน)
อย่างถูกต้องตามกฎหมาย...ครับ
ซึ่งเป็นไป...ตามมาตรา ๗ แห่ง พรบ. อาวุธปืนฯ
ความว่า....ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ซื้อ มี ใช้สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน
เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่...
แต่หลังจากที่ รมว.มท. (ยุค รสช.)
ได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 57 แห่ง พรบ. ฉบับเดียวกัน
ที่ระบุไว้ว่า...ในคราวมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน
รัฐมนตรีมีอำนาจออกคำสั่งห้ามหรือจำกัดการออกใบอนุญาตทุกประเภท หรือบางประเภท
ในชั่วระยะเวลาที่กำหนดจะออกคำสั่งโดยประกาศหรือแจ้งเป็นหนังสือ
ให้ผู้รับใบอนุญาตส่งมอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดแก่เจ้าพนักงาน
เพื่อเก็บรักษาไว้หรือจะสั่งให้จำหน่ายเสียก็ได้ในกรณีที่สั่งให้จำหน่ายให้นำ มาตรา 67 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
และถ้าไม่อาจปฏิบัติตามที่กล่าวแล้ว จะสั่งให้จำหน่ายแก่ทางราชการในราคาอันสมควรก็ได้...
ลงนามในคำสั่งกระทรวงฯ ที่ ๑๐๘/๒๕๓๕ เมื่อวันที่ ๑๐ ก.พ. ๒๕๓๕ แล้ว....
การขออนุญาตใบแบบ ป.๒ ส่วนบุคคล...เป็นอันต้องผ่านร้านค้า โดยนับจำนวนรวมด้วยกับโควต้า ครับ
เรียนถึง...หนุ่มน้อย...
เพื่อความชัดแจ้งและข้อเท็จจริงในการกล่าวอ้างถึงการกระทำของบุคคลอื่นในที่สาธารณะ ครับจากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น.....
ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ ๑๐๘/๒๕๓๕
เรื่องจำกัดการออกใบอนุญาตให้บุคคลสั่งหรือนำเข้าซึ่งอาวุธปืนบางชนิด
สั่ง ณ วันที่ ๑๐ ก.พ. ๒๕๓๕ ลงนามโดย พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี มท.๑ ในขณะนั้น
ระบุไว้บางตอนว่า...หากบุคคลใดจะสั่งหรือนำเข้าซึ่งอาวุธปืนสั้นแล้ว
ในการขอสั่งอาวุธปืนสั้นและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว
ต้องให้ผู้รับใบอนุญาตทำการค้าอาวุธปืนเป็นผู้สั่งหรือนำเข้าแทนเท่านั้น
และร้านค้าฯ จะต้องถือจำนวนนับรวมเข้ากับจำนวนโควต้าของร้านนั้นด้วย...
สำหรับอาวุธปืนเพื่อใช้ในการกีฬาตามที่ มท. กำหนด
ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้ แต่การขออนุญาตต้องได้รับความเห็นชอบจาก รมว.
เว้นแต่อาวุธปืนชนิดอัดลม...ครับ
จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...