ขอเดาๆเอานะครับ น่าจะเป็นการยิงเพื่อตามทรัพย์คืนเพราะภัยยังไม่พ้นจากมือคนร้าย อีกอย่างมันเป็นทองไม่ใช่ขนมจีบซาลาเปา ถ้าเกิดยิงโดน โจรหยุดแล้วซ้ำอย่างนี้คงเกินเหตุแน่ แต่เป้าวิ่ง ผมว่าจะยิงให้ไม่พลาดเลยมันยากนะครับ ใครพอมีวิธีบ้าง
ถูกต้องครับ ภาษากฎหมาย เรียกว่า ภยันตรายยังมีอยู่ตลอดเวลาขณะพาทรัพย์ไป เจ้าของทรัพย์มีสิทธิป้องกัน
ส่วนเรื่องเมื่อ
เป็นการป้องกันแล้วจะพอสมควรแก่เหตุ หรือ เกินสมควรแก่เหตุ นั้น ไม่ต้องซีเรียสครับ เพราะหากศาลลงว่า เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ แล้ว กฎหมายบัญญัติว่าศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือ จะไม่ลงโทษเลยก็ได้ หากเกิดขึ้นเพราะความตื่นเต้น ตกใจ กลัว หากไม่เกินนนนนนนนไปจริงๆก็ไม่ติดคุกหรอกครับ
เรื่องเกินสมควรแก่เหตุหรือไม่บางครั้งบางเหตุการณ์ก็ตัดสินง่าย บางครั้งก็บอกยากนะครับ มีเรื่องดุลพินิจเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่พอสมควร ดูจากตัวอย่างคำพิพากษา บางครั้งศาลต้นลงเกินสมควรแก่เหตุ ศาลอุทธรณ์ลงพอสมควรแก่เหตุ สู้กันถึงฎีกา ก็อาจจะลงสมควรแก่เหตุ หรือ เกินสมควร แก่เหตุ ก็ได้
หากต้องต่อสู้ทางคดีกันจริงๆ ประเด็นสำคัญ หากเราตกเป็นจำเลย ต้องสู้ให้ได้ก่อนว่าเป็นป้องกัน จะเกินสมควร หรือพอสมควร ค่อยว่ากัน เพราะหากไม่ เป็นป้องกันแล้ว อันนี้ติดคุกค่อนข้างแน่นอนครับ
ฎีกาเกี่ยวกับการป้องกันในทรัพย์สินนั้นเท่าที่อ่านเจอนะครับ สิ่งที่ผู้พิพากษากล่าวไว้ในกีกาจะให้ความสำคัญใน ราคาของทรัพย์สิน และ ผลที่เกิดกับผู้กระทำผิด ภาษากฎหมายเรียกว่า กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
ลองดูฎีกานี้ครับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1923/2519
โรงเก็บของของจำเลยอยู่ในบริเวณสวนของจำเลย มีรั้วต้นพู่ระหงปลูกเป็นแนวเขต จำเลยเก็บของอันมีค่าเช่นเครื่องยนต์สูบน้ำและอุปกรณ์อื่นๆไว้ ทรัพย์สินที่จำเลยเก็บไว้ในโรงเก็บของเคยถูกคนร้ายลักไปในตำบลที่เกิดเหตุมีคนร้ายชุกชุม จำเลยเอาเส้นลวดขึงที่โรงเก็บของและปล่อยกระแสไฟฟ้าจากบ้านไว้เพื่อป้องกันคนร้ายผู้ตายกับพวกอีก 3 คนบุกรุกเข้าไปที่โรงเก็บของในเวลาวิกาล โดยเจตนาจะลักทรัพย์ ในมือผู้ตายมีเหล็กไขควง 1 อัน แต่ผู้ตายไปถูกเส้นลวดที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้
ถึงแก่ความตายเสียก่อน มิฉะนั้นผู้ตายกับพวกย่อมลักทรัพย์ของจำเลยไปได้ นับได้ว่าภยันตรายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สินของจำเลยใกล้จะถึงแล้ว ถ้าจำเลยไปพบเห็นเข้า
จำเลยย่อมมีสิทธิทำร้ายผู้ตายกับพวกเพื่อป้องกันทรัพย์สินของจำเลยได้ ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนโดยชอบด้วยกฎหมาย และพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด