เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 25, 2025, 02:58:18 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: @@@@ Gatling Gun Kit สำหรับ Ruger 10/22 @@@@  (อ่าน 13064 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 08:44:12 AM »

ขออนุญาตเสริมท่านอาจารย์นิดเดียวครับ...

แกตลิ่งประดิษฐ์ปืนกลลำกล้องหมุนเพื่อลดอัตราการตายของทหารในสงครามครับ...

มีเหตุผลหลักๆอยู่สองข้อคือ...

๑.แกตลิ่งเป็นแพทย์เพราะสมัยนั้นเกิดการระบาดของฝีดาษ แกจึงสนใจในด้านระบาดวิทยาเป็นอย่างมาก...

๒.ในสงครามกลางเมืองนั้นสาเหตุการเสียชีวิตหลักๆของทหารเกิดจากโรคระบาดมากกว่าจากอาวุธครับ...

ดังนั้นการผลิตอาวุธอัตโนมัติที่กระบอกเดียวทำงานแทนทหารจำนวนมาก จะทำให้สามารถลดปริมาณทหารในกองทัพลง เป็นการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคระบาดครับ...

ปล.แกตลิ่งเป็นแพทย์ที่ไม่ได้ทำงานแพทย์จริงๆ น่าจะเรียกว่าเป็น"ยอดนักประดิษฐ์ที่มีคุณวุฒิทางการแพทย์ประกอบ"มากกว่าครับ...ฮา... คิก คิก

ขอบคุณครับ....
ผมขอแปลดังนี้จาก Wikipidia

It occurred to me that if I could invent a machine – a gun – which could by its rapidity of fire, enable one man to do as much battle duty as a hundred, that it would, to a large extent supersede the necessity of large armies, and consequently, exposure to battle and disease [would] be greatly diminished.[8]

DR. Gatling กล่าวว่า “ผมเห็นว่าถ้าผมสามารถประดิษฐ์เครื่องกล-ปืน- ซึ่งสามารถยิงได้อย่างรวดเร็ว  โดยใช้คนเพียงคนเดียวทำหน้าที่ในสงครามได้เท่ากับคนร้อยคน ผลตามมาก็คือ ไม่จำเป็นต้องใช้กองทหารจำนวนมาก ผลท้ายสุดผลเสียจากการเผชิญหน้ากับการสู้รบและโรคร้ายจะลดลงได้อย่างมหาศาล”

He graduated from the Ohio Medical College in 1850 with an MD. Although he had his MD, he never practiced; he was more interested in a career as an inventor.[1][

เขาเรียนจบแพทย์จาก Ohio Medical College ในปีค.ศ. 1850 และถึงแม้จะมีปริญญาแพทย์ แต่ก็ไม่เคยเป็นหมอ เขากลับสนใจในอาชีพของนักประดิษฐ์มากกว่า

นี่ก็อีกตัวอย่างหนึ่ง ที่นายสมชายเองตอนนี้ชักรู้สึกว่าตัวเองคาดหวังอะไรที่คนเขาไม่อยากจะ"ให้"หรือเปล่านะครับ...

Post นี่คุยกันระหว่างสองด็อกเตอร์ ด็อกเตอร์ท่านหนึ่งเป็นด็อกเตอร์ออฟเมดดิซินหรือ"หมอยา", ส่วนด็อกเตอร์อีกท่านหนึ่งเป็นด้านคอมพิวเตอร์ที่มีพื้นฐานปริญญาโทด้านการออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ด้วยการจำแนกแยกแยะรายละเอียดส่วนประกอบแล้วสรุปรวบยอดออกแบบให้คอมพิวเตอร์กับมนุษย์ทำงานร่วมกัน(System Analyst)...

ที่จริงอาจารย์ก็ทราบว่าสิ่งที่ประเสริฐสุดของสมองมนุษย์คือการ"ตกผลึก"ทางความคิด... นั่นคือใสกระจ่าง เอาความรู้แขนงหนึงมองทะลุก้อนผลึกต่อยอดเข้ากับอีกแขนงหนึ่งสอดเกี่ยวประสานเป็นเหมือนผ้าผืนเดียวกัน ต่อเป็นเรื่องราวใหม่ครับ, ตรงนี้เครื่องจักรทำไม่ได้ และปัญหาคือทำยังไงให้ความรู้ในหลายด้านมันมาอยู่ในสมองก้อนเดียวกันให้ได้...

ตาม Post นี่ด็อกเตอร์ท่านที่เป็นหมอยา ท่านเอาเรื่องปืน+สงคราม+โรคระบาดมาผูกต่อกันครับ... เลยมองเห็นว่ามันมีประเด็นนี้อยู่ข้างหลังปืนกลแก็ตลิ่ง...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 09:24:14 AM »

เรียนอาจารย์...

นายสมชายไปอ่านกระทู้ปืนลมแล้วครับ... พบว่าน่าอ่านน่าติดตามสมกับเป็นอาจารย์ด้านการจัดการความรู้ครับ... เย้...
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 10:17:03 AM »

  นี่ก็อีกตัวอย่างหนึ่ง ที่นายสมชายเองตอนนี้ชักรู้สึกว่าตัวเองคาดหวังอะไรที่คนเขาไม่อยากจะ"ให้"หรือเปล่านะครับ...

Post นี่คุยกันระหว่างสองด็อกเตอร์ ด็อกเตอร์ท่านหนึ่งเป็นด็อกเตอร์ออฟเมดดิซินหรือ"หมอยา", ส่วนด็อกเตอร์อีกท่านหนึ่งเป็นด้านคอมพิวเตอร์ที่มีพื้นฐานปริญญาโทด้านการออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ด้วยการจำแนกแยกแยะรายละเอียดส่วนประกอบแล้วสรุปรวบยอดออกแบบให้คอมพิวเตอร์กับมนุษย์ทำงานร่วมกัน(System Analyst)...

ที่จริงอาจารย์ก็ทราบว่าสิ่งที่ประเสริฐสุดของสมองมนุษย์คือการ"ตกผลึก"ทางความคิด... นั่นคือใสกระจ่าง เอาความรู้แขนงหนึงมองทะลุก้อนผลึกต่อยอดเข้ากับอีกแขนงหนึ่งสอดเกี่ยวประสานเป็นเหมือนผ้าผืนเดียวกัน ต่อเป็นเรื่องราวใหม่ครับ, ตรงนี้เครื่องจักรทำไม่ได้ และปัญหาคือทำยังไงให้ความรู้ในหลายด้านมันมาอยู่ในสมองก้อนเดียวกันให้ได้...

ตาม Post นี่ด็อกเตอร์ท่านที่เป็นหมอยา ท่านเอาเรื่องปืน+สงคราม+โรคระบาดมาผูกต่อกันครับ... เลยมองเห็นว่ามันมีประเด็นนี้อยู่ข้างหลังปืนกลแก็ตลิ่ง...

ขอบคุณครับพี่สมชาย...  ไหว้

ขออนุญาตเรียนว่าผมไม่ได้เป็นดอกเตอร์ครับ...

เป็นแพทย์น่ะใช่ วุฒิเทียบเท่าปริญญาเอกก็ใช่ครับ...

แต่ไม่ได้เป็นดอกเตอร์ในความหมายที่จบปริญญาเอกจริงๆครับ... ไหว้
บันทึกการเข้า
ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 10:21:39 AM »

สรุปแล้วมันดีไหมครับ อาจารย์มีความเห็นยังไงมั่งครับ อยากคุยเรื่องอะไรของมันครับ... เอาแบบไม่ตัดแปะน่ะครับ... แฮ่ๆ...

อยากเอามาให้ดูว่าเขาช่างคิด อีกอย่างลูกกระสุน .22 long rifle ราคาค่อนข้างถูก จะยิ่งทิ้งยิงเล่นก็พอไหว
และอยากนำเสนอความคิดของ Dr. Gatling ที่อาจดูจะขัดแย้งกันในตัว คือคิดอาวุธ เพื่อลดจำนวนคนที่จะตายในสงคราม
ส่วนจะดีหรือไม่ ผมว่าก็แล้วแต่คนที่จะซื้อไปใช้  บางคนแค่เอามาตั้งโชว์ก็แฮปปี้แล้ว
ปล. รูปนั้นผมตัดแปะให้ แต่ถ้าจะไม่เอาตัดปะ ก็เป็นว่าผมต้องถ่ายภาพเอง เขียนเรื่องเอง ทั้งหมด งั้นตามไปดูเรื่องปืนลมที่ผมลงไว้หลายกระบอก
หรือไม่ก็เกี่ยวกับไฟฉายที่ผมลงไว้ที่เว็ปไทยเท็คกิ้ง (ไม่ลงลิ้งให้นะครับ เพราะมันต้อง"ตัดปะ" หาดูเองละกัน)

คงจะเกิน 1 พันกระทู้นิด ๆ
อ้อ..แล้วก็มีกระทู้นาฬิกาที่ผมลงไว้พอสมควรที่ สยามนาฬิกา (ไม่ลงลิ้ง "ตัดปะ" เช่นกัน)

นายสมชายว่า อาจารย์เข้าใจผิดเรื่องนี้ไปแยะครับ...

คือเสิร์ชดูชื่อ+นามสกุล ของอาจารย์แล้วเห็นว่าทำงานเกี่ยวกับการจัดการ"องค์ความรู้"น่ะครับ, เรื่องจำนวนกระทู้มากน้อยในเว็บสยามนาฬิกา นี่ไม่ได้มีมันไม่เกี่ยวอะไรกับปืนตามท้องเรื่องตามกระทู้นี้เลยนี่ครับ...

ประเด็นของเรื่องคืออยากอ่านการสรุปรวบยอดในประเด็นที่ต้องการสื่อฯ เหมือนนั่งคุยกันมากกว่าครับ... ตัวอาจารย์เองก็รู้ดีว่าเอามา"ตัดแปะ"โดยไม่วิจารณ์ มันก็เหมือนกับเอามาให้อ่าน หากไม่สรุป+เพิ่มความเห็นอะไรในประเด็นต่างๆ มันก็ไม่แตกต่างกับใครก็ไม่รู้มากางหนังสือหนึ่งหน้า แล้วบอกว่าอ่านเอาเองเน้อ, อย่างนี้ใครๆก็ทำได้นี่ครับ แต่เห็นอาจารย์ลงท้าย Post ว่าเป็นคนจบปริญญาเอก แถมยังสามารถเสริชชื่อ+นามสกุลได้ตามลิ้งก์นี้ http://rmcs.buu.ac.th/Tanasit.html มันก็ต้องหวังจะอ่านอะไรมั่งซิครับ... แฮ่ๆ...

อ้างถึง.....ตัวอาจารย์เองก็รู้ดีว่าเอามา"ตัดแปะ"โดยไม่วิจารณ์ มันก็เหมือนกับเอามาให้อ่าน หากไม่สรุป+เพิ่มความเห็นอะไรในประเด็นต่างๆ มันก็ไม่แตกต่างกับใครก็ไม่รู้มากางหนังสือหนึ่งหน้า แล้วบอกว่าอ่านเอาเองเน้อ, อย่างนี้ใครๆก็ทำได้นี่ครับ

ถ้าคุณสมชายคุ้นเคยกับกระทู้ผม ก็จะรู้ว่าผมไม่จบง่าย ๆ ส่วนใหญ่ผมจะโปรยหัวเรื่องเอาไว้ ให้สมาชิกได้อ่าน ได้คิด ได้ถาม และโต้ตอบเป็นการต่อยอด  ในบางกรณีผมก็แกล้งลงอะไรที่มี "ข้อผิด" ดูทีว่าจะมีใครตาไวจับได้บ้าง ฯลฯ  
ส่วนเรื่องนี้ ผมเห็นใน catalog และรู้สึกว่าน่าสนใจดี จึงคิดจะนำมาให้ดูกัน ผมไม่ได้จับต้องและทดสอบด้วยมือตัวเอง จึงไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากกว่านี้
แต่การที่บอกว่า  กางหนังสือหนึ่งหน้า ใครๆ ก็ทำได้นั้น ก็คงต้องขึ้นกับว่า หนังสืออะไร หามาได้อย่างไรมากกว่า ผมกลับคิดว่า บางทีการหาหนังสือดี ๆ เลือกหน้าเจ๋ง ๆ มาให้คนดู จะยากกว่าให้เขียนเรื่องเองเสียด้วยซ้ำไป  ผมจึงขอไม่เห็นด้วยนะครับว่า "อย่างนี้ใครๆก็ทำได้"
ที่จริงผมก็น่าจะเขียนให้มากกว่านี้ แต่อย่างที่บอกว่า ไม่ได้สัมผัสเอง และงานผมก็มีมากโข
ผมเคยอ่านหลายกระทู้ ที่เจ้าของกระทู้นำเพียง hyper link มาลง แต่พอได้เปิด ติดตามอ่านต่อไป ได้อะไร ๆ มากมาย ก็อดไม่ได้ที่จะขอบคุณเขาคนนั้น...
ท้ายสุด จำนวนกระทู้ที่ผมแจ้งไว้ เพียงให้รับทราบว่า ผมไม่ได้เพิ่งมาเขียนกระทู้  ทำมานานพอสมควรจึงรู้รูปแบบอันหลากหลาย
กระทู้นี้ไม่ใช่รีวิว หรือทดสอบนะครับ มันก็เลยดูห้วน ๆ ไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2011, 10:24:27 AM โดย ดร.ธนาสิทธิ์ » บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 11:35:34 AM »

อ้างถึง.....ตัวอาจารย์เองก็รู้ดีว่าเอามา"ตัดแปะ"โดยไม่วิจารณ์ มันก็เหมือนกับเอามาให้อ่าน หากไม่สรุป+เพิ่มความเห็นอะไรในประเด็นต่างๆ มันก็ไม่แตกต่างกับใครก็ไม่รู้มากางหนังสือหนึ่งหน้า แล้วบอกว่าอ่านเอาเองเน้อ, อย่างนี้ใครๆก็ทำได้นี่ครับ

ถ้าคุณสมชายคุ้นเคยกับกระทู้ผม ก็จะรู้ว่าผมไม่จบง่าย ๆ ส่วนใหญ่ผมจะโปรยหัวเรื่องเอาไว้ ให้สมาชิกได้อ่าน ได้คิด ได้ถาม และโต้ตอบเป็นการต่อยอด  ในบางกรณีผมก็แกล้งลงอะไรที่มี "ข้อผิด" ดูทีว่าจะมีใครตาไวจับได้บ้าง ฯลฯ 
ส่วนเรื่องนี้ ผมเห็นใน catalog และรู้สึกว่าน่าสนใจดี จึงคิดจะนำมาให้ดูกัน ผมไม่ได้จับต้องและทดสอบด้วยมือตัวเอง จึงไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากกว่านี้
แต่การที่บอกว่า  กางหนังสือหนึ่งหน้า ใครๆ ก็ทำได้นั้น ก็คงต้องขึ้นกับว่า หนังสืออะไร หามาได้อย่างไรมากกว่า ผมกลับคิดว่า บางทีการหาหนังสือดี ๆ เลือกหน้าเจ๋ง ๆ มาให้คนดู จะยากกว่าให้เขียนเรื่องเองเสียด้วยซ้ำไป  ผมจึงขอไม่เห็นด้วยนะครับว่า "อย่างนี้ใครๆก็ทำได้"
ที่จริงผมก็น่าจะเขียนให้มากกว่านี้ แต่อย่างที่บอกว่า ไม่ได้สัมผัสเอง และงานผมก็มีมากโข
ผมเคยอ่านหลายกระทู้ ที่เจ้าของกระทู้นำเพียง hyper link มาลง แต่พอได้เปิด ติดตามอ่านต่อไป ได้อะไร ๆ มากมาย ก็อดไม่ได้ที่จะขอบคุณเขาคนนั้น...
ท้ายสุด จำนวนกระทู้ที่ผมแจ้งไว้ เพียงให้รับทราบว่า ผมไม่ได้เพิ่งมาเขียนกระทู้  ทำมานานพอสมควรจึงรู้รูปแบบอันหลากหลาย
กระทู้นี้ไม่ใช่รีวิว หรือทดสอบนะครับ มันก็เลยดูห้วน ๆ ไป

เข้าใจผิดอีกแล้วน่ะครับ ท่านอาจารย์... หากเห็น Post ครั้งหลังสุด จะเห็นว่านายสมชายไปอ่านกระทู้ปืนลมแล้วน่ะครับ...  Cheesy

เอาเฉพาะตามตัวแดงนะครับ, กางหนังสือหนึ่งหน้าฯ แล้วไม่ได้บอกประเด็นอะไรเลย แต่คอยซุ่มดูว่าผู้อื่นจะวิจารณ์อย่างไร แล้วมาเฉลยทีหลังนั้น, วิธีนี้เขาเอาไว้"เล่น"กับลูกศิษย์นะครับ... ที่จริงหากอาจารย์จะทำเช่นนั้นก็ไม่แปลก เพราะเว็บบอร์ดเป็นสื่อสาธารณะ หากท่านใดจะ"กั๊ก"ข้อมูลไว้เฉลยทีหลังก็ย่อมสามารถทำได้นี่ครับ, หากท่านใดคอยติดตามอ่าน อาจารย์ก็จะเฉลยทีละหน้า หงายไพ่ทีละใบ ก็ย่อมได้อยู่แล้วครับ...

คือบังเอิญนายสมชายติดนิสัยคาดหวังจากเฉพาะบางคนบางท่าน คือเวลาเราจะอ่านกระทู้(หรือสนทนา)กับใคร เราก็จะประเมินก่อนว่าคนนั้นจะมี"อะไร"ให้อ่าน ให้สนทนาคุ้มค่ากับการเสียเวลาหรือไม่ หากเป็นนายกอไก่ หรือนางสาวขอไข่ ธรรมดาๆ, นายสมชายก็เฉยๆครับ หากเขาเยิ่นเย้อเกิน เราก็บอกกับตัวเองได้ว่า คนไม่เหมือนกันทุกคน... ซึ่งสิ่งที่แตกต่างกันคือการมองภาพรวม+ความคิดรวบยอดครับ...

ตัวอย่างที่ว่า ก็ตามกระทู้นี้... http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=105293.0

ดังนั้น หากนายสมชายเจอกระทู้ที่"ตัดแปะ"ไม่วิจารณ์ ก็รู้สึกเหมือนกับเจอข้อความว่า"ถนนนี้ยาว 2 กม."ก็สงสัยว่าเขาจะบอกอะไรหรือ... เช่นอยากบอกว่า 2 กม.เดินไกลจัง หรืออยากบอกว่าแค่ 2 กม.ขี่จักรยานแค่แป๊บเดียว, ตรงนี้ความหมายไม่เหมือนกันนะครับ...

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เว็บบอร์ดเป็นสื่อสาธารณะ การที่จะเขียนอะไร หรือไม่เขียนอะไร หรือจะกั๊กอะไรนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะที่เขียนข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องให้เปล่า เป็นความเอื้อเฟื้อไม่ได้ค่าตอบแทนอะไรครับ... เย้...
บันทึกการเข้า
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 02:50:37 PM »

ขอแย้งหน่อยครับ ปืนกลแม็กซิม เจ้าของผลงานคือ เซอร์ ฮีแรม แม็กซิม นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษครับ



บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 02:59:17 PM »

ขอแย้งหน่อยครับ ปืนกลแม็กซิม เจ้าของผลงานคือ เซอร์ ฮีแรม แม็กซิม นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษครับ




  Wink
บันทึกการเข้า
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 03:07:52 PM »

ปืนจะจัดว่าเป็นกล หรือไม่กล อยู่ที่ว่า  เหนียวไกแล้วกระสุนลั่นกี่นัด
พวกระบบไขโดยใช้ cam ลูกเบี้ยวไปดันไก  ก็เหมือนกับเหนี่ยวไกทีละนัดอยู่ดี   ก็จัดให้เป็นระบบ กึ่งออโต้
แต่ก็มีคนหัวใส  เอามอเตอร์ไฟฟ้าไปใส่  พอใส่ปุ๊บทาง ATF ก็งาบปั๊บ   นอนคุกสบายไป

พี่เจษ ผมเองเห็นกลไกก็ยังนึกเลยครับพี่ ว่าหมุนๆแบบนี้ จับใส่มอเตอร์รอบจัด ใส่แบตเตอรี่ที่โวลต์สูงๆ สัก 12V ท่าทางจะยิงกระจายครับ

แต่ก็ต้องระงับไว้แค่ความคิด เพราะยังไม่อยากย้ายที่นอนไปนอนคุก
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 03:12:08 PM »

ปืนจะจัดว่าเป็นกล หรือไม่กล อยู่ที่ว่า  เหนียวไกแล้วกระสุนลั่นกี่นัด
พวกระบบไขโดยใช้ cam ลูกเบี้ยวไปดันไก  ก็เหมือนกับเหนี่ยวไกทีละนัดอยู่ดี   ก็จัดให้เป็นระบบ กึ่งออโต้
แต่ก็มีคนหัวใส  เอามอเตอร์ไฟฟ้าไปใส่  พอใส่ปุ๊บทาง ATF ก็งาบปั๊บ   นอนคุกสบายไป

พี่เจษ ผมเองเห็นกลไกก็ยังนึกเลยครับพี่ ว่าหมุนๆแบบนี้ จับใส่มอเตอร์รอบจัด ใส่แบตเตอรี่ที่โวลต์สูงๆ สัก 12V ท่าทางจะยิงกระจายครับ

แต่ก็ต้องระงับไว้แค่ความคิด เพราะยังไม่อยากย้ายที่นอนไปนอนคุก
เคยมีคนหัวใสทำเป็นกล้องเล็กๆไว้ติดที่โกร่งไกปืนขาย  หุหุหุ  ยังไม่ทันได้ขายเยอะก็โดนงาบซะก่อน 555
ทาง ATF เผิ่นบอกว่า พอทำแบบนั้น ตอนกด switch ให้มอเตอร์ทำงาน  ตัว  switch ก็คือไก  ในเมื่อกดไกแล้วออกมากว่าหนึ่งนัด ก็กลายเป็นยิงกล หุหุหุ
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 03:23:11 PM »

ปืนจะจัดว่าเป็นกล หรือไม่กล อยู่ที่ว่า  เหนียวไกแล้วกระสุนลั่นกี่นัด
พวกระบบไขโดยใช้ cam ลูกเบี้ยวไปดันไก  ก็เหมือนกับเหนี่ยวไกทีละนัดอยู่ดี   ก็จัดให้เป็นระบบ กึ่งออโต้
แต่ก็มีคนหัวใส  เอามอเตอร์ไฟฟ้าไปใส่  พอใส่ปุ๊บทาง ATF ก็งาบปั๊บ   นอนคุกสบายไป

พี่เจษ ผมเองเห็นกลไกก็ยังนึกเลยครับพี่ ว่าหมุนๆแบบนี้ จับใส่มอเตอร์รอบจัด ใส่แบตเตอรี่ที่โวลต์สูงๆ สัก 12V ท่าทางจะยิงกระจายครับ

แต่ก็ต้องระงับไว้แค่ความคิด เพราะยังไม่อยากย้ายที่นอนไปนอนคุก
เคยมีคนหัวใสทำเป็นกล้องเล็กๆไว้ติดที่โกร่งไกปืนขาย  หุหุหุ  ยังไม่ทันได้ขายเยอะก็โดนงาบซะก่อน 555
ทาง ATF เผิ่นบอกว่า พอทำแบบนั้น ตอนกด switch ให้มอเตอร์ทำงาน  ตัว  switch ก็คือไก  ในเมื่อกดไกแล้วออกมากว่าหนึ่งนัด ก็กลายเป็นยิงกล หุหุหุ
กำจริงๆ ถ้าเปลี่ยนจากมอเตอร์เป็นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเดียวกับที่เคาะกระดิ่งให้ดังกริ๊งๆๆๆๆๆๆ
มาเคาะไกปืนแทนล่ะครับ......  Grin Grin Grin

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 03:33:28 PM »

นายซ้าบบบบ  แล้วตอนกดกระดิ่งน่ะ กดอะไรล่ะ
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 03:48:54 PM »

นายซ้าบบบบ  แล้วตอนกดกระดิ่งน่ะ กดอะไรล่ะ
หมายถึงอะไำรครับ

ถ้าหมายถึงการสั่งทำงานก็สวิทช์ธรรมดาๆ
พอแม่เหล็กดูดเข้า ก็จะตัดวงจรจากการเคลื่อนไหวของโลหะที่ถูกดูดเข้ามา ห่างหน้าสัมผัส
โลหะที่ว่าจะดีดกลับออกไปสัมผัสทำให้ไฟฟ้าครบวงจร ถูกดูดกลับเข้ามาอีกครั้ง

แม่เหล็กไฟฟ้า จะทำให้ผลักออก หรือดูดเข้าก็ได้ครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 03:53:43 PM »

ก่อนที่ทุกอย่างจะทำงาน ต้องกดสวิทช์  ก่อนใช่ไหม มันก็คือไก ก็ผิดกฏหมายอยู่ดี
บันทึกการเข้า
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 03:58:47 PM »

ก็คือ ปุ่มสวิทซ์ = ไกปืน ไปโดยปริยาย เพราะถ้ากด ปืนก็ลั่น รึเปล่าครับ
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #29 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2011, 04:00:41 PM »

แม่นแล้ว
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.179 วินาที กับ 21 คำสั่ง