เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 26, 2025, 04:30:18 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 18 ธันวา เสริมฆ่าหั่นศพ ออกคุก ผู้พันตึ๋ง-ชลอ ได้ลดโทษ  (อ่าน 10589 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #45 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2011, 02:27:26 PM »

งานนี้เป็นงานของฝ่ายบริหารนี่ครับ ......................ไม่เกี่ยวกับฝ่ายตุลาการสักหน่อย ...............

ไก่วิ่งทั่วกระทู้  คิก คิก
ไม่เกี่ยวได้ยังไง คดีอุกฉกรรจ์ทำผิดจับได้ชัดเจน ไม่ได้สำนึกเอง ไม่มีเหตุให้ควรปราณี กลับไม่ลงโทษประหารชีวิต ผลาญเงินภาษีเลี้ยงไว้รอวันลดโทษจนกลับออกมาสร้างความความหวาดระแวงกับสังคมได้อีกนาน การประหารในแง่มุมที่ชัดเจนที่สุดก็คือการปรามผู้ที่คิดกระทำอย่างหนึ่ง ถ้าตัดสินอ่อนๆจะเกิดความเกรงกลัวการกระทำความผิดหรือเคารพกฏหมายได้อย่างไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 16, 2011, 02:33:49 PM โดย your-ประชาธิปไตย » บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
ทิดเป้า
Hero Member
*****

คะแนน -1181
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11916



« ตอบ #46 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2011, 10:46:20 PM »

เท่าที่ผม(ปวช.เกษตร เอาไก่จ้างจบ)อ่าน ได้ความดังนี้ ...ผู้พันตึ่ง หมอวิสุทธิ์ ป๋าลอ...รับโทษประหาร...ได้อภัย เป็นจำคุก แต่หลายปีหน่อย...ส่วนบักเสริม ได้จำตลอดชีพ แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นจำชั่วคราว...แมนบ่
 เลยสรุปเองว่า ไม่ว่าจะได้โทษประหาร หรือตลอดชีพ ก็มีสิทธิ์ที่จะกลายเป็นชั่วคราวได้....แมนบ่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 16, 2011, 10:51:21 PM โดย ทิดเป้า » บันทึกการเข้า

sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #47 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2011, 11:05:23 PM »

เท่าที่ผม(ปวช.เกษตร เอาไก่จ้างจบ)อ่าน ได้ความดังนี้ ...ผู้พันตึ่ง หมอวิสุทธิ์ ป๋าลอ...รับโทษประหาร...ได้อภัย เป็นจำคุก แต่หลายปีหน่อย...ส่วนบักเสริม ได้จำตลอดชีพ แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นจำชั่วคราว...แมนบ่
 เลยสรุปเองว่า ไม่ว่าจะได้โทษประหาร หรือตลอดชีพ ก็มีสิทธิ์ที่จะกลายเป็นชั่วคราวได้....แมนบ่


แม่นแล้วอ้าย

ไอ้เสริม ไอ้หมอฆ่าเมีย หันเป็นชิ้นๆ โคตรสยองต่อพลเมืองในสังคมนี้
ยังมี ไอ้ศักดิ์ ปากรอ อีกตน โคตรทารุณโหดโฉด ผูกเงือน แขวนศพกับราวบันได 5 ศพ วิธีฆ่ามันเหี้ยมเกินบรรยาย
 ..สุดท้ายไม่ตายตกไปตามกัน กับบาปเวรที่มันทำ..

แถมยังมีพวกโง่ (NGO อ่านว่าโง่) ตะแบงอีกว่าโทษประหารทารุณโหดร้าย ไอ้ควายโง่(NGO)

ดังนั้นศาลเตี้ย (street law) ก็ควรใช้กับคนบางประเภท จริงๆ (คิดดังอีกแล้ว)
บันทึกการเข้า
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #48 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2011, 07:45:31 AM »

งานนี้เป็นงานของฝ่ายบริหารนี่ครับ ......................ไม่เกี่ยวกับฝ่ายตุลาการสักหน่อย ...............

ไก่วิ่งทั่วกระทู้  คิก คิก
ไม่เกี่ยวได้ยังไง คดีอุกฉกรรจ์ทำผิดจับได้ชัดเจน ไม่ได้สำนึกเอง ไม่มีเหตุให้ควรปราณี กลับไม่ลงโทษประหารชีวิต ผลาญเงินภาษีเลี้ยงไว้รอวันลดโทษจนกลับออกมาสร้างความความหวาดระแวงกับสังคมได้อีกนาน การประหารในแง่มุมที่ชัดเจนที่สุดก็คือการปรามผู้ที่คิดกระทำอย่างหนึ่ง ถ้าตัดสินอ่อนๆจะเกิดความเกรงกลัวการกระทำความผิดหรือเคารพกฏหมายได้อย่างไร

หึ หึ

ลองย้อนกลับไปอ่านกระทู้ทั้งกระทู้ รวมทั้งความเห็นของตัวเองด้วย.................ค่อยๆคิด สังเคราะห์ว่า ที่บอกไปเป็นอย่างไร..................แต่เอาเถอะจะบอกให้ประเทืองปัญญามากขึ้น เผิ่อจะทำหน้าที่"ผู้รักษากฎหมาย"ให้ดีขึ้น...................

มีคดีเป็นพันเป็นหมื่นคดี ..............ที่มีผลการตัดสินของศาล จะหนักจะเบา จะมากจะน้อย ก็อยู่ในดุลยพินิจของศาล  การลงโทษก็ได้กระทำไปแล้ว(อ่านตัวอย่างรายที่หลายๆท่านกล่าวถึง ว่าโทษแต่ละรายโดนขนาดไหน)

เมื่อนักโทษไปอยู่ในการควบคุม .................ก็อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหาร ใช่ไหม จะได้พิจารณาเสนอลดโทษหรือขออภัยโทษ ก็อยู่ในการดำเนินการของฝ่ายบริหารใช่ไหม?

กระทู้นี้เขากล่าวกันถึงเรื่องการลดโทษและอภัยโทษ.............และมีการวิจารณ์ตามกระแสสังคมตามปกติ และเป็นหน้าที่ของ"ฝ่ายบริหาร" ไม่ใช่"ฝ่ายตุลาการ"......

ไม่ได้กล่าวถึงการตัดสินของศาล ...........................ศาลจะตัดสินหนักเบาก็เป็นที่ดุลยพินิจที่ไม่ควรก้าวล่วง

ที่จริงทำงานมาพอสมควรน่าจะแยกเรื่องการดำเนินการ 3 ฝ่ายของการบริหาราชการแผ่นดินได้มากกว่านี้นะ ...................... หรือที่ทำงานๆมาพอสมควร ไม่ได้เกิดมรรคผลในการประเทืองปัญญาอะไรขึ้นมาเลยหรือไง................. แล้วมาปล่อยไก่ในกระทู้สาธารณะแบบนี้

ใช้ความรู้ที่มีมาตอบกระทู้เถอะ ................ ใช้อารมณ์พื้นฐานในสมองมาตอบ จะเสียรังวัดเอาง่ายๆ
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
Victor&Sugus
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 85
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1062


รักสนุกทุกถนัด เฉพาะเรื่องปืน.....


« ตอบ #49 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2011, 11:14:03 AM »

ติดคุกแค่ 8 ปี ทำไมน้้อยจัง......
บันทึกการเข้า

☀ <º))))><.·´¯`·. h £ ® ß € ¯|¯ •·.·´¯`·.·• .·´¯`·.><((((º> —(•·÷[ ]÷·•)—·‡±±‡±÷· Oº°‘¨ ¨‘°ºO •°o.O O.o°• ¨°o.O O.o°¨ —¤÷(`[¤* *¤]´)÷¤— •·.·´¯`·.·• •·.·´¯`·.·• «·´`·.(`·.¸ ¸.·´).·´`·» ׺°”˜`”°º× ׺°”˜`”°º× »-(¯`v´¯)✿*Maxx™❀●• ♬✿❀●• ♬
boon(เสือไบ)
ความประพฤติบกพร่อง จะทำให้บิดามารดาอับอาย
Hero Member
*****

คะแนน 532
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6011



« ตอบ #50 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2011, 11:22:57 AM »

ติดคุกแค่ 8 ปี ทำไมน้้อยจัง......
เพราะมีคนเสนอชื่อขึ้นไปให้ได้ลดโทษครับ ผมมองว่าเขาเส้นใหญ่ไม่เบา เพราะติดคุก8ปี ได้รับการลดโทษถึง5ครั้ง
ลูกตาสี ตาสา ทำดีอย่างไรก็คงไม่ได้อย่างนี้
ส่วน พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องโทษคดีอุ้มฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขันธ์ เพิ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งแรก ปี 2553 จากโทษประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิต และปีนี้ได้อภัยโทษให้ลดโทษจากจำคุกตลอดชีวิตเหลือ 50 ปี

นอกจากนี้ด้านนายเสริม สาครราษฎร์ ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าหั่นศพแฟนสาว ได้รับการลดโทษ 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2547 และล่าสุดปี 2554 ได้รับพระราชทานอภัยโทษอีก 1 ใน 3 เหลือโทษ 8 ปี แต่จำคุกมาจะครบ 8 ปี วันที่ 18 ธันวาคมนี้

บันทึกการเข้า

If a man says he is not afraid of dying, he is either lying or is a Gurkha
INFANTRY2008-รักในหลวง-
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 25
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 171


นามะปราง


« ตอบ #51 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2011, 08:23:34 PM »

 ไหว้ ไหว้ ไหว้

 ชัดเจนทั้งทางทฤษฏีที่ทางท่านผู้การมะขิ่นบอกไว้

แต่บางกรณี บางเคส ก็น่าจะปฎิบัติโดยไม่อิงทฤษฏี

เหมือนกับพี่ๆ หลายท่านได้แสดง คห. ไว้ บางที อาจ

ง่ายกว่าทำตามทฤษฏีด้วยนะ ผมว่า  ไหว้
บันทึกการเข้า
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #52 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2011, 09:34:43 PM »

ประชาธิปไตย ที่ไม่สามารถก้าวล่วง ... Thailand only  หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #53 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2011, 09:43:35 PM »

วันนี้ดูข่าว ผู้การฯนครบาล ออกมาให้สัมภาษณ์ออกข่าวว่า "ตัดประเด็นการเมืองทิ้ง" ... กรณีการตายของคนสนิทอี้

ทำให้นึกสงสัยว่า  ต้นน้ำกระบวนการยุติธรรม เป็นผู้กำหนดแนวทางการให้ความยุติธรรมได้ด้วยหรือ

โอ้ ........................................ Thailand only  ตกใจ
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
หลวงริน - รักในหลวง
ถ้าวันนี้ทำดี...เรื่องพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องกังวล
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 688
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8829


อยู่คนเดียวให้ระวังความคิดอยู่กับมิตรให้ระวังวาจา


« ตอบ #54 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2011, 06:20:39 AM »

วันนี้........วันที่ 18 ธันวา ตกใจ ตกใจ ตกใจ
บันทึกการเข้า
INTERCEPTER - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 155
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 871


ไปช้าๆ.... มองโลกได้เยอะขึ้น


« ตอบ #55 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2011, 10:42:07 AM »

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. ขณะที่ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ประจำจังหวัดสุพรรณบุรีกำลังตระเวนหาข่าวอยู่นั้น บังเอิญสายได้เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่ง แต่งกายเสื้อผ้าเนื้อตัวมอมแมม กำลังเดินเก็บขยะอยู่บริเวณริมถนนสาย 340 หน้าห้างโลตัส สาขาสุพรรณบุรี โดยมีจักรยานคู่ใจเป็นพาหนะในการบรรทุกเศษขยะ ซึ่งผู้สื่อข่าวจำได้ว่าชายคนดังกล่าวคล้ายกับนายบุรี ขำศรี อดีตคนขับรถคนสนิทของนายประเสริฐ เปลี่ยนรังษี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรึ ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่ถนนสาย 340 สะพานทรงกระเทียม ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ขณะเดินทางไปราชการที่ ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2541 โดยขณะนั้นมีนายบุรีเป็นคนขับรถให้ ผู้สื่อข่าวจึงเข้าสอบถามชายคนดังกล่าวและยอมรับคือนายบุรี ขำศรี อายุ54ปี แต่สภาพในอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

โดยนายบุรีได้เล่าเรื่องชีวิตที่ตกอับให้ฟังว่า ตนทำงานในตำแหน่งลูกจ้างประจำเป็นพนักงานขับรถให้กับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี มาหลายคน ตั้งแต่นายสมนึก เกิดเกษ นายสมพงศ์  ศรียะพันธุ์ นายอำนวย ยอดเพชร นายณัฐ ศรีวิหค นายศรีรัตน์ หริรักษ์ จนถึงนายประเสริฐ เปลี่ยนรังษี คนสุดท้ายที่ตนขับรถพาไปตรวจงานที่ ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากตอนนั้นชาวบ้านร้องเรียนมาว่าไม่มีน้ำในการทำนา จึงเดินทางดู แต่ต้องประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตชนท้ายรถบรรทุกน้ำของกรมทางเมื่อวันที่ 21 ม.ค.2541 ที่ผ่านมา ตอนนั้นตนได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากศรีษะกระทบกระเทือน ใบหน้าถูกกระจกบาด ต้องนอนในไอซียู กว่า 6 เดือน ทุกวันนี้ตนยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดี และเสียใจที่ต้องพานายไปเสียชีวิต

นายบุรีเล่าต่อว่าหลังจากรักษาตัวจนอาการดีขึ้น ได้ให้กลับเข้าไปทำงานอยู่หน้าห้องนายศักดา จาละ นายก อบจ.สุพรรณบุรี ในสมัยนั้น จนกระทั่งปี 2546 จึงทราบว่าถูกฟ้องดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมมีหมายเรียกให้ไปขึ้นศาลศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 2 ปี 8 เดือน และได้ประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นอุทรณ์ศาล ชั้นอุทรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ตนเลยต้องต้อก้มหน้าเข้าไปอยู่ในเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี แต่ได้รับอภัยโทษถูกจำคุกจริง ๆ แค่ 1 ปี 4 เดือน และได้ออกจากเรือนจำเมื่อวันที่ 28 มค.2548 เมื่อออกจากเรือนจำได้รับแจ้งจากสำนักงานจังหวัดสุพรรณบุรี หน่วยงานต้นสังกัดให้ไปเซ็นต์หนังสือลาออก ตอนนั้นได้เงินช่วยเหลือมาประมาณ 150,000 บาท แต่ถูกหักที่กู้ยืมจากสหกรณ์เหลือเงินไม่กี่หมื่นบาท ปัจจุบันชีวิตของตนลำบากเมื่อออกจากเรือนจำต้องอยู่ตัวคนเดียว เพราะภรรยาได้ขออย่าร้างวตั้งแต่มีเรื่องราวที่ขับพานายประเสริฐไปเสียชีวิต

อดีตคนรถพ่อเมืองฯเล่าอีกว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านของพี่สาวภรรยาที่บ้าน 29/7 ต.ท่าพี่เลึ้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี โดยให้อาศัยอยู่ฟรีแต่เสียค่าน้ำไฟเอาเอง ตั้งแต่ออกจากเรือนจำยึดอาชีพเก็บขยะขายไปวันๆรายได้วันละ 20-30 บาท เพราะตนมีเพียงจักรยานคู่ชีพคันเดียวไม่สามารถขนขยะได้มากนัก แต่ก็ยังโชคดีบางครั้งเจอผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยคุ้นเคยรู้จักสมัยยังทำงานให้บ้างแต่ก็พยายามใช้อย่างประหยัด และนายวิทยา บุณยพัชรินทร์ เลขานุการ ผวจ.สุพรรณบุรี ปัจุจบันช่วยราชการ อบจ.สุพรรณบุรี ควักส่วนตัวให้ตนเดือนละ 1,000 บาท ต้องขอขอบคุณไว้ต้องนี้ด้วย ทุกวันนี้ไม่ต้องการอะไรแค่อย่างได้จักรยานถีบแบบพ่วงข้างไว้เก็บขยะขายประทังชีวิตก็พอ เพราะชีวิตไม่เหลืออะไรแล้ว นายบุรี กล่าว

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บางครั้งอ่านเจอข่าวพวกนี้แล้วรู้สึกแปลกๆ....  ความผิดพลาดในชีวิตเพียงครั้งเดียว  อาจทำให้ทุกอย่างในชีวิตหายไปหมด เช่น ครอบครัว อาชีพ หน้าที่การงาน  แบบคุณบุรีคนนี้.....แต่บางคนใช้ความรู้ความสามารถที่มีเจตนากระทำความผิด   แต่กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้เร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ ....
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #56 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2011, 10:55:37 AM »

พวกคนรู้น้อยหรือไม่มีความรู้ ก็ก่อเหตุได้ระดับหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพราะความไม่รู้ การขาดโอกาสในชีวิต ขาดครอบครัวที่ดี สถาพแวดล้อมที่ดี  ขาดการส่งเสริมให้ไปเดินในทางที่ดีตั้งแต่วัยเยาว์ จึงเดินทางผิด กระทำความผิด หลายคนอยากกลับตัวเป็นคนดี

แต่กับคนที่มีความรู้มากๆ มีทุนทรัพย์ มีอำนาจ พวกนี้น่ากลัวกว่าเยอะ บางทีทำชั่วได้แนบเนียนกว่ากลุ่มแรกเยอะ   Cool
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #57 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2011, 11:11:31 AM »

วันนี้........วันที่ 18 ธันวา ตกใจ ตกใจ ตกใจ

เห็นว่า "มัน" ออกมาตั้งแต่วันที่ ๑๖ แล้วครับ... บู่

บันทึกการเข้า
cz_dee *รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 236
ออฟไลน์

กระทู้: 893



« ตอบ #58 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2011, 11:25:39 AM »

เย้ๆๆๆๆๆประเทศไทยที่ผมรัก Smiley Smiley Smiley Smiley
 หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตารินไม่รู้จะพูดว่ายังไงเหมือนกันครับ
บันทึกการเข้า
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #59 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2011, 11:30:20 AM »

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. ขณะที่ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ประจำจังหวัดสุพรรณบุรีกำลังตระเวนหาข่าวอยู่นั้น บังเอิญสายได้เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่ง แต่งกายเสื้อผ้าเนื้อตัวมอมแมม กำลังเดินเก็บขยะอยู่บริเวณริมถนนสาย 340 หน้าห้างโลตัส สาขาสุพรรณบุรี โดยมีจักรยานคู่ใจเป็นพาหนะในการบรรทุกเศษขยะ ซึ่งผู้สื่อข่าวจำได้ว่าชายคนดังกล่าวคล้ายกับนายบุรี ขำศรี อดีตคนขับรถคนสนิทของนายประเสริฐ เปลี่ยนรังษี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรึ ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่ถนนสาย 340 สะพานทรงกระเทียม ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ขณะเดินทางไปราชการที่ ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2541 โดยขณะนั้นมีนายบุรีเป็นคนขับรถให้ ผู้สื่อข่าวจึงเข้าสอบถามชายคนดังกล่าวและยอมรับคือนายบุรี ขำศรี อายุ54ปี แต่สภาพในอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

โดยนายบุรีได้เล่าเรื่องชีวิตที่ตกอับให้ฟังว่า ตนทำงานในตำแหน่งลูกจ้างประจำเป็นพนักงานขับรถให้กับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี มาหลายคน ตั้งแต่นายสมนึก เกิดเกษ นายสมพงศ์  ศรียะพันธุ์ นายอำนวย ยอดเพชร นายณัฐ ศรีวิหค นายศรีรัตน์ หริรักษ์ จนถึงนายประเสริฐ เปลี่ยนรังษี คนสุดท้ายที่ตนขับรถพาไปตรวจงานที่ ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากตอนนั้นชาวบ้านร้องเรียนมาว่าไม่มีน้ำในการทำนา จึงเดินทางดู แต่ต้องประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตชนท้ายรถบรรทุกน้ำของกรมทางเมื่อวันที่ 21 ม.ค.2541 ที่ผ่านมา ตอนนั้นตนได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากศรีษะกระทบกระเทือน ใบหน้าถูกกระจกบาด ต้องนอนในไอซียู กว่า 6 เดือน ทุกวันนี้ตนยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดี และเสียใจที่ต้องพานายไปเสียชีวิต

นายบุรีเล่าต่อว่าหลังจากรักษาตัวจนอาการดีขึ้น ได้ให้กลับเข้าไปทำงานอยู่หน้าห้องนายศักดา จาละ นายก อบจ.สุพรรณบุรี ในสมัยนั้น จนกระทั่งปี 2546 จึงทราบว่าถูกฟ้องดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมมีหมายเรียกให้ไปขึ้นศาลศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 2 ปี 8 เดือน และได้ประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นอุทรณ์ศาล ชั้นอุทรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ตนเลยต้องต้อก้มหน้าเข้าไปอยู่ในเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี แต่ได้รับอภัยโทษถูกจำคุกจริง ๆ แค่ 1 ปี 4 เดือน และได้ออกจากเรือนจำเมื่อวันที่ 28 มค.2548 เมื่อออกจากเรือนจำได้รับแจ้งจากสำนักงานจังหวัดสุพรรณบุรี หน่วยงานต้นสังกัดให้ไปเซ็นต์หนังสือลาออก ตอนนั้นได้เงินช่วยเหลือมาประมาณ 150,000 บาท แต่ถูกหักที่กู้ยืมจากสหกรณ์เหลือเงินไม่กี่หมื่นบาท ปัจจุบันชีวิตของตนลำบากเมื่อออกจากเรือนจำต้องอยู่ตัวคนเดียว เพราะภรรยาได้ขออย่าร้างวตั้งแต่มีเรื่องราวที่ขับพานายประเสริฐไปเสียชีวิต

อดีตคนรถพ่อเมืองฯเล่าอีกว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านของพี่สาวภรรยาที่บ้าน 29/7 ต.ท่าพี่เลึ้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี โดยให้อาศัยอยู่ฟรีแต่เสียค่าน้ำไฟเอาเอง ตั้งแต่ออกจากเรือนจำยึดอาชีพเก็บขยะขายไปวันๆรายได้วันละ 20-30 บาท เพราะตนมีเพียงจักรยานคู่ชีพคันเดียวไม่สามารถขนขยะได้มากนัก แต่ก็ยังโชคดีบางครั้งเจอผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยคุ้นเคยรู้จักสมัยยังทำงานให้บ้างแต่ก็พยายามใช้อย่างประหยัด และนายวิทยา บุณยพัชรินทร์ เลขานุการ ผวจ.สุพรรณบุรี ปัจุจบันช่วยราชการ อบจ.สุพรรณบุรี ควักส่วนตัวให้ตนเดือนละ 1,000 บาท ต้องขอขอบคุณไว้ต้องนี้ด้วย ทุกวันนี้ไม่ต้องการอะไรแค่อย่างได้จักรยานถีบแบบพ่วงข้างไว้เก็บขยะขายประทังชีวิตก็พอ เพราะชีวิตไม่เหลืออะไรแล้ว นายบุรี กล่าว

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บางครั้งอ่านเจอข่าวพวกนี้แล้วรู้สึกแปลกๆ....  ความผิดพลาดในชีวิตเพียงครั้งเดียว  อาจทำให้ทุกอย่างในชีวิตหายไปหมด เช่น ครอบครัว อาชีพ หน้าที่การงาน  แบบคุณบุรีคนนี้.....แต่บางคนใช้ความรู้ความสามารถที่มีเจตนากระทำความผิด   แต่กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้เร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ ....

ครับ ไอ้เสริม ออกจากคุก เมื่ออายุ แค่ 35 ปี เอง วันเวลา อนาคต ยังอีกไกล ถ้ามันไม่เลวต่อ
ก็รอดูกันต่อไป กฎหมาได้ลงโทษแล้ว แต่ นรก ก็รอมันไปรับโทษต่อ เมื่อมันตายจากโลกนี้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.083 วินาที กับ 20 คำสั่ง