เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 06:41:38 PM » |
|
เขาจะออกมาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการปล่อยผู้ต้องขังภายหลังมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2554 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ว่า
กรมราชทัณฑ์ได้ประชุมคณะกรรมการเตรียมความพร้อมการปล่อยตัวผู้ต้องขังทั่วประเทศ และในกรุงเทพฯจะจัดงานวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ลานสนามหญ้าหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม เบื้องต้นมีผู้ต้องขังที่พร้อมปล่อยตัวจากเรือนจำเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 4,500 คน
พร้อมกันนี้ จากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2554 ส่งผลให้นักโทษเด็ดขาดในคดีสำคัญหลายคดีได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยโทษโดยการลดวันต้องโทษครั้งนี้ อาทิ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง ต้องโทษคดีสังหารนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร และ นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต้องโทษคดีฆาตกรรม พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ แพทย์โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร เหลือโทษจำคุก 21 ปี
ทั้งนี้ ทั้ง 2 คน ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษ เมื่อปี 2550 ได้ลดโทษจากโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต , ปี 2553 ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องอีกครั้ง จากจำคุกตลอดชีวิต เหลือจำคุก 50 ปี และปีนี้ ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษเช่นเดียวกัน จากจำคุก 50 ปี ตามพระราชกฤษฎีกาจะได้ลดวันต้องโทษ ตามลำดับชั้นนักโทษเด็ดขาดตามกฎหมายว่าด้วยราชทัณฑ์ คนละ 13 ปี
ส่วน พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องโทษคดีอุ้มฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขันธ์ เพิ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งแรก ปี 2553 จากโทษประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิต และปีนี้ได้อภัยโทษให้ลดโทษจากจำคุกตลอดชีวิตเหลือ 50 ปี
นอกจากนี้ด้านนายเสริม สาครราษฎร์ ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าหั่นศพแฟนสาว ได้รับการลดโทษ 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2547 และล่าสุดปี 2554 ได้รับพระราชทานอภัยโทษอีก 1 ใน 3 เหลือโทษ 8 ปี แต่จำคุกมาจะครบ 8 ปี วันที่ 18 ธันวาคมนี้http://news.mthai.com/headline-news/144357.html
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 06:53:15 PM » |
|
Subject: หมอเสริม
> ชะตากรรมของชีวิตนั้น ใครเลยจะรู้ล่วงหน้าได้ บางครั้ง ชีวิตของบางคนพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเพีย > งชั่ววูบ พลิกผันอย่างที่ไม่มีวันย้อนกลับมาเหมือนเดิมได้อีก ตัวอย่างก็มีให้เห็นๆ อยู่มากมาย แม้แต่ชีวิตที่ > กำลังจะมีอนาคตอันเรืองรองรอคอยอยู่ข้างหน้าของ"หมอเสริม" หรือนายเสริม สาครราษฎร์ ผู้ต้องโทษ > เพราะลงมือฆ่า นางสาวเจนจิรา พลอยองุ่นศรี แฟนสาวของตัวเอง ความตายของเจนจิรา ตอนแรกก็ > เป็นเพียงข่าวคนหายฆ่ากันตายธรรมดา แต่เมื่อตำรวจเริ่มสืบสาวลึกลงไปก็เริ่มระแคะระคายว่า การ > ตายของนางสาวเจนจิราไม่ใช่ธรรมดาเสียแล้ว และเชื่อว่าต้องเป็นคนใกล้ชิดที่ลงมือแต่ปมปริศนาทั้งหมด > ก็มาขมวดความยุ่งยากอยู่ที่หาศพของนางสาวเจนจิราไม่พบ จนตำรวจแทบจะทำอะไรไม่ได้ เพราะฝีมือ > อันเหนือชั้นของอดีตนักเรียนแพทย์ที่ก่อคดีฆาตกรรมอำพรางด้วยการฆ่าหั่นศพ! > > > หลังจากจำนนต่อหลักฐานที่ตำรวจต้องระดมความสามารถเข้าคลี่คลายคดี จึงรู้ว่าหมอเสริมลงมือ > สังหารแฟนสาวจากเหตุแห่งความหึงหวง ด้วยการใช้ปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่ศีรษะ แล้วใช้ความรู้ความ > ชำนาญจากวิชาการแพทย์ที่ร่ำเรียนมา ปิดห้องอย่างมิดชิด หั่นศพของเจนจิราทีละชิ้น ทิ้งลงในโถส้วมเพื่อ > อำพรางคดี หนีความผิด > > > ในตอนแรก เสริม ให้การปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้ฆ่าเจนจิราแต่ต่อมาก็ยอมรับสารภาพกล > างศาล เมื่อมีการพบงูเหลือมที่เลื้อยเข้าไปนอนขดอยู่ในบริเวณบ้านเช่า ที่ เสริม สาครราษฎร์ นำพยาน > หลักฐานในการฆาตกรรมเจนจิราไปซุกซ่อนไว้ ศาลจึงตัดสินลงโทษประหารชีวิต แต่เมื่อจำเลยยอมรับ > สารภาพจึงลดเหลือจำคุกตลอดชีวิต > > > ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ "หมอเสริม" จึงต้องนอนในเรือนจำกลางคลองเปรมมาจนถึงวันนี้ > > > จาก"หมอคน" สู่ "หมอแมว" > > > ชีวิตเบื้องหลังข้าวแดงกำแพงคุกนั้น เป็นแดนสนธยาที่ยากที่คนภายนอกจะร่วมรับรู้ได้โดยลึกซึ้ง และเป็น > แดนต้องห้ามที่คงไม่มีใครปรารถนาที่จะเข้าไปอยู่ นอกจากต้องถูกบีบบังคับ ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม > > > > หมอเสริม สาครราษฎร์ ก็เช่นเดียวกัน ชีวิตในเรือนจำของเขาเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ว่า เขาต้องปรับ > ตัวปรับใจ ปรับความคิดอย่างไร และใช้ชีวิตประจำวันที่สูญสิ้นอิสรภาพอย่างไร เท่าที่ได้รับการถ่ายทอด > จาก "ป้อม เวียงโต" อดีตนักโทษคนหนึ่งซึ่งเคยตกเป็นนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ในข้อหาลงมือสังหารและกรร > โชกทรัพย์พ่อค้าย่านไนท์พลาซ่า จังหวัดเชียงใหม่ จนต้องเข้าไปถูกจองจำอยู่ในคุกคลองเปรมนานกว่า 2 > ปี 6 เดือนจนกลายเป็นผู้กว้างขวางในเรือนจำแห่งนี้ไปอีกคนหนึ่ง > > > เขาเล่าว่า "หมอเสริม" ถูกจองจำอยู่ในแดน 2 ห้องขังเดียวกับ นช.คณิศร วิวัฒนะชาติ ซึ่งถ้าเอ่ยชื่อนี้ > คงไม่มีใครรู้จักเขาแน่นอน > > > แต่ถ้าบอกว่า แรมโบ้เอ็ม ลูกชายนายพลที่ขนอาวุธสงครามไปยิงถล่มโรงพักพญาไท เพื่อชิงตัวลูกน้องที่ถูก > จับข้อหามีอาวุธไว้ในความครอบครองก็คงร้องอ๋อ! แรมโบ้เอ็ม" ถูกจับและถูกดำเนินคดีจนต้องติดคุกก็เพ > ราะลากปืนเอ็ม 16 ไปยิงถล่มโรงพักเพื่อบุกเข้าชิงตัวลูกน้อง มีการยึดตัวร้อยเวรเป็นตัวประกัน กว่า > เรื่องจะจบลงได้ก็ทำเอาอลเวงกันไปทั้งกรมตำรวจสมัยนั้น จนทำให้แรมโบ้เอ็มถูกดำเนินคดีหลายข้อหา > ทั้งมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง ทำลายสถานที่ราชการ จนขณะนี้เขาได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของ > หมอเสริมไปโดยปริยาย เพราะอยู่ในคุกเดียวกัน > > > แรมโบ้เอ็ม มีนิสัยชอบสนุก รอบรู้ทุกอย่าง ชอบความเคลื่อนไหว ชอบสังคมภายนอก ห้องสมุด คือ สิ่งที่ > ชอบไปไขว่คว้าหาความรู้ หนอนหนังสือที่แท้จริง ตัวจริง หมอเสริมกับ แรมโบ้เอ็ม มีทัศนคติตรงกันก็คือ > ไม่ยอมปล่อยเวลาว่างโดยเปล่าประโยชน์ อ่านแล้วก็อ่านอีกไม่ว่าหนังสือที่มีอยู่ในห้องสมุดจะมีกี่เล่ม > > > โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับธรรมะ คติธรรม แต่ที่ตรงกันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ หนังสือเกี่ยวกับความลึกลับซับซ้ > อนของอาชญากรรมทุกชนิด ที่ซ่อนเงื่อนซ่อนปม อ่านแล้วก็จะเอามาตีแตกตัวปริศนาท้ายเล่มกันอย่างเอาเ > ป็นเอาตายว่าเรื่องที่ซ่อนปมไว้จะลงเอยอย่างไร เพราะหนังสือเกี่ยวกับอาชญากรรมซ่อนเงื่อนทุกเล่มจะ > ทิ้งปมไว้ให้ตีความเอาเองในตอนท้าย บางทีต่างคนต่างตีประเด็นแตกไปคนละทางสองทาง จนทั้งสองคน > ไม่ยอมคุยกันถึง 2-3 วันก็เคยมี > > > อุปนิสัยของ หมอเสริมนั้น เรียบๆ ง่ายๆ สบายๆ ไม่มีปัญหากับใคร แม้บางครั้งจะถูกเยาะเย้ยถากถางจ > ากเพื่อนร่วมคุกบ้าง หมอเสริมก็จะเดินหนีไปเฉยๆ โดยไม่โต้ตอบ ยิ้มสู้ทุกคน ถ้ามองอย่างผิวเผินใคร > เลยจะรู้ว่า > > > นี่แหละ นักฆ่าชำแหละศพของจริง ขนานแท้! > ชีวิตในคุก ค่ำลงทุกคืน เมื่อถึงเวลา 20.00 น. ก็จะเป็นเวลาสวดมนต์ ไหว้พระ ใครนับถือศาสนาไหน > ก็ให้ระลึกถึงบทสวดของศาสนานั้น แต่ศาสนาพุทธถือว่าเป็นศาสนาประจำชาติไทย บทสวดจะต้องมีผู้นำ > สวด เริ่มอรหัง สัมมา ฯลฯ และจบลงด้วยการแผ่เมตตา ต่อด้วยลุกขึ้นยื่นร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี > เป็นอันเสร็จพิธีทุกคืน > > > วันไหนถ้า หมอเสริมไปขึ้นศาลตามนัดกลับเข้าพักในห้องฝากลอยที่แดน 1 หมอเสริมจะขอตัวนอนโดยไม่มี > ใครยุ่งด้วย เคยมีนักโทษหลายคนถามว่า หมอ ทำไมไม่ไหว้พระล่ะ เขาจะบอกทันทีว่า "วันนี้ขอเชื่อ > คริสต์หรืออิสลามดีกว่า" ความหมายก็คือขออย่ารบกวนได้ไหม ไม่มีสมาธิ เครียดจากการซักพยานที่ศาล > มานั่นเอง > > > "หมอเสริม" เป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่สุงสิงกับใคร นอกจากจะรู้จริงๆ ว่าบุคคลที่คบ > หาจะต้องมีความรู้ความสามารถจริงในชีวิตที่ผ่านมาแล้วเท่านั้น เพราะเขาคิดว่าเขาคือหนึ่งในอัจฉริยะ > เรียนระดับ หมอรักษาคนไข้ช่วยชีวิตคนมาแล้วนั่นเอง > > > "หมอเสริม" เป็นคนสมถะอย่างยากจะหาคนอื่นเสมอเหมือนได้ การกินอยู่หลับนอนไม่ได้พิถีพิถันเหมือนนัก > โทษคนอื่นๆ ที่จะต้องหาสิ่งมาบำเรอความสุขของตัวเองให้มากที่สุด ทั้งการกินอยู่หลับนอน เพื่อรอวันศาล > ตัดสินว่า จะออกหัวหรือก้อย > > > เสื่อผืนหมอนใบ ใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมหน้าลงมาถึงอก เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับชีวิตในแดนสนธยาของ "หมอ > เสริม" ทั้งๆ ที่เพื่อนร่วมห้องมีที่นอน หมอน ผ้าห่ม แม้กระทั่งบางคนยังมีแม้กระทั่งหมอนข้างมานอนกอดด้ > วยตลอดคืน แต่หมอเสริม ก็นอนได้อย่างมีความสุข ไม่มีอาการอิจฉาอนาทรใดๆ > > > การกินอยู่ของ หมอเสริม จะมีบรรดาญาติ เพื่อนฝูง ไปเยี่ยมเยียนอยู่ตลอดเวลา จากจันทร์-ศุกร์ ข้าว > ปลาอาหารจึงไม่เป็นอุปสรรคใดๆสำหรับเขาในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งทางการถือว่าเป็น "คุกเปิด" > แห่งแรกของประเทศไทย จะมีก็แต่วันเสาร์-อาทิตย์ที่จะต้องเก็บพวกของแห้งที่ไม่บูดเน่า สำรองไว้ > เพราะไม่มีใครสามารถไปเยี่ยมได้ก็เท่านั้น จึงเป็นวันที่เงียบเหงาที่สุด > > > ด้วยวิชาชีพที่เห็นศพหรือร่างกายของมนุษย์จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับ หมอเสริม จิตใจใต้สำนึก > ของเขาจึงแฝงไว้ด้วยความเย็นชาจนกลายมาเป็นความโหดเหี้ยมอำมหิตที่ซ่อนลึกอยู่ใน ใจของเขาตลอดเ > วลา นักโทษคนหนึ่งได้เปรยคำถามเขาว่า "ถ้ามีคนลักหัวใจเขาๆ จะทำอย่างไร" เขามีความเห็นแย้ง > อย่างชัดเจนว่า คนลักหัวใจคนที่มอบให้ด้วยความรัก ทำไมจะต้องให้มีชีวิตต่อไปอีก ฆ่าแล้วทำลาย ตัดไฟ > ตั้งแต่ต้นลม เพื่อคนที่ "ลัก" หัวใจจะไม่ต้องไปทำลายหัวใจคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ ได้บุญกว่าเยอะ แผ่นดิน > สูงขึ้นอีกด้วยซ้ำไป > > > ในขณะที่เพื่อนนักโทษรักสนุกคนนั้น ลองสอบถามคำถามเดียวกันจากเพื่อนนักโทษคนอื่นที่เคยผ่านการฆ่าคน > มาอย่างเหี้ยมโหด คำตอบที่ได้รับก็คือ ต้องตามเอาคืนมา แล้วรักษาแผลอันบอบช้ำให้หาย รักษาเอาไว้ > อย่างดี อย่าให้หายไปหรือให้คนอื่นมาลักไปอีก > > > ถึงแม้ว่า หมอเสริมกับ แรมโบ้เอ็ม จะเป็นเพื่อนรักที่สนิทสนมกัน แต่ต้องมากินแหนงแคลงใจกันก็ด้วยเรื่อ > ง "ความประสงค์ดี" ของ หมอเสริม ที่อาสาใช้วิชาการแพทย์ของตัวเองที่ร่ำเรียนมาเพื่อรักษาพยาบาล > "แมว" อันเป็นสุดที่รักของ แรมโบ้เอ็ม ที่อุตส่าห์ป้อนข้าวป้อนน้ำมันอยู่ทุกวัน แรมโบ้เอ็ม" เลี้ยงมันไว้ > เป็นเพื่อนคลายเหงาถึงสองตัว! > > > > แล้วในที่สุด วันเกิดเหตุก็มาถึง เมื่อตอนสายวันหนึ่ง มันเป็นเช้าเสาร์ที่ทางเรือนจำไม่อนุญาตให้ญาติๆ > ของผู้ต้องขังเข้าเยี่ยม แมวของแรมโบ้เอ็มตัวที่หนึ่ง ต้องเอาชีวิตมาสังเวยคมมีดของ หมอเสริม ที่ได้ > วินิจฉัยโรคในเบื้องต้นว่า > > > แมวตัวนี้มีอาการป่วยภายใน ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันแน่? > > > เมื่อการวินิจฉัยโรคเบื้องต้นผ่านไปแล้ว "หมดเสริม" จึงลงความเห็นอย่างไม่ลังเลว่าต้องผ่าตัดดูเครื่อง > ใน เพื่อพิสูจน์สาเหตุของการเจ็บป่วยตามหลักการแพทย์ที่เขาร่ำเรียนมา แล้ว "หมอเสริม" ก็ลงมือจับ > แมวเคราะห์ร้ายมัดขาทั้งสี่ขาขึงพรืดไว้กับหลักไม้สี่หลักที่ตอกตรึงอยู่กับพื้น ดิน จนแมวโซที่มีอาการเจ็บป่วย > ค่อนข้างหนักอยู่แล้ว ไม่มีแรงที่จะดิ้นรนต่อสู้เพื่อรักษาชีวิต นอนดิ้นกระแด่วๆ อยู่กับหลักตรึงให้ "หมอ > เสริม" ที่ได้เครื่องมือผ่าตัดซึ่งดัดแปลงมาจากมีดโกนหนวด "ลองวิชา" จากหมอคนมาสู่ "หมอแมว" ใน > คุก > > > หมอเสริม ได้บอกกับเพื่อนนักโทษถึงเหตุผลที่เขาต้องผ่าตัดแมวว่า แมวตัวนี้เป็นโรคใกล้ตายแล้ว อยาก > ศึกษาเพื่อหาปัญหาของโรคเพื่อจะได้รักษาตัวอื่นๆ ที่เป็นโรคเดียวกัน คำตอบที่ประสงค์ดีเช่นนี้ ประกอบ > กับนักโทษหลายคนก็เชื่อถือในฝีมือความเป็นหมอ จึงไม่มีใครโต้แย้งแม้แต่คนเดียว มีแต่คนเห็นว่า "หมอ > เสริม" คงจะสันนิษฐานโรคได้ และเผื่อมีแมวตัวอื่นที่เป็นโรคเดียวกัน "หมอเสริม" ก็จะได้รักษาได้ใน > อนาคต > > > แต่แล้วเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นจนบรรยากาศปกคลุมไปทั่วคุก โดยเฉพาะ "แรมโบ้เอ็ม" เจ้าของแมว > เมื่อหมอเสริม ได้ใช้ฝีมือสุดความสามารถ ใช้ใบมีดโกนหนวดกรีดหน้าท้อง ควักเอาตับ ไต ไส้ พุง ของ > แมวเคราะห์ร้ายออกมาวินิจฉัยหาสาเหตุแห่งการ "เจ็บป่วย" หมดทางที่เจ้าแมวเหมียวซึ่งถูกจับตรึงกาง > เขนจะมีลมหายใจอยู่ได้ > > > ข่าวการตายของแมวเคราะห์ร้าย ทำให้เพื่อนนักโทษในคุกต่างตกอยู่ในความเศร้าไปตามๆ กัน เช่น > เดียวกับ แรมโบ้เอ็มที่ต้องกล้ำกลืนกับชะตากรรมของแมวตัวโปรด > > > แต่เคราะห์ร้ายก็ยังไม่สิ้น เพียงอีกสองวันต่อมา แมวตัวที่สองของ แรมโบ้เอ็ม" ก็เกิดล้มป่วยลงอีกแม้ > อาการจะไม่หนักหนาเหมือนตัวแรก แต่ "หมอเสริม" ก็ขอแก้มือกู้หน้าอีกครั้งที่ทำให้การ "ผ่าตัด" ครั้ง > แรกต้องเสียชื่อ ทำให้แมวตัวที่หนึ่งต้องตายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนฝูง > > > หลักตะแลงแกงสี่หลักถูกนำมาใช้ประโยชน์อีกครั้ง ขาทั้งสี่ข้างของแมวตัวที่สองถูกตรึงไว้กับหลักอันแน่นหน > า เพื่อให้ "หมอเสริม" ได้ "ลองวิชา" ในคุกอีกครั้ง > > > ระหว่างที่ "หมอเสริม" นำแมวมาผ่าตัด แรมโบ้เอ็ม กำลังมัวคุยอยู่กับญาติๆ ที่มาเยี่ยมนานพอสมควร > พอญาติกลับไปแล้ว เขาจึงนึกขึ้นได้ถึงเรื่องแมวที่มันเคยเป็นที่รักและที่ห่วงใยของเขาที่คอยป้อนน ้ำป้อนข้า > ว ซึ่งเพิ่งจะเห็นหน้ากันอยู่หลัดๆ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะไป "พบญาติ" เมื่อเขารีบตรงรี่เข้าไปดูอาการว่า > "หมอเสริม" รักษามันอย่างไรบ้าง "แรมโบ้เอ็ม" ก็ต้องตกตะลึงจนตัวเย็น เมื่อเห็นร่างของมันนอนแผ่ > หราอยู่กับหลักหมุดทั้งสี่ สิ้นลมหายใจไปแล้วโดยสิ้นเชิง > > > เขาพูดอะไรไม่ออก ได้แต่อุทานออกมาว่า หมอเสริม "รั่ว" ไปแล้ว > > > รั่ว คำๆ นี้เป็นอันเข้าใจกันในคุกว่า มันเป็นภาษาแสลงของชาวคุกว่า "หมอเสริม" นั้น บ้า ไปแล้ว > จริงๆ > > > ร่างของแมวทั้งสองตัว ถูกชำแหละไม่แตกต่างอะไรกับร่างของนางสาวเจนจิรา อดีตแฟนสาวของเขานั่น > เอง > > > "แรมโบ้เอ็ม" ที่เคยมีกิตติศัพท์ว่าใจร้อน ใจถึงเมื่ออยู่นอกคุก มาเจอสภาพนี้เข้าเขาก็ได้แต่เดินหันหลังอ > ย่างเร่งรีบเข้าไปพบ ขาใหญ่คนหนึ่งอย่างหน้าตาตื่น พร้อมทั้งอ้อนวอนว่า > > > ช่วยผมทีได้ไหม ช่วยย้ายไอ้หมอเสริมออกไปจากห้องผม หรือเอาผมไปนอนที่อื่นหน่อยได้ไหม ไม่อย่างนั้น > มันหั่นผมเป็นศพแน่ > > > ขาใหญ่ จึงสอบถามว่า เรื่องราวมันเป็นอย่างไรหรือ > > > จนทำให้ แรมโบ้เอมต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดจนกลายเป็นเรื่องขำไม่ออกไปตามๆ กัน > > > หลังจากนั้นไม่นานนัก ขาใหญ่ ประจำคุกจึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจาก หมอเสริม ซึ่งได้ให้เหตุผล > ในการผ่าตัดโดยไม่ต้องมีการฉีดยาชา-วางยาสลบว่า "เมื่อเรียนมาเป็นหมอ แต่ไม่สามารถช่วยคนได้ > จึงขอช่วยชีวิตแมวก็แล้วกัน" > > > ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้ต้องขังทั้งสองคนก็สามารถเคลียร์ปัญหาความหวาดกลัวซึ่งกันและกันได้ ไม่มีเหตุการณ์ > "แมวทดลอง" ตัวที่สามให้ซ้ำรอย เจนจิราขึ้นมาอีก > งูเหลือมอาถรรพ์ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ > > > เมื่อย้อนมาดูการดำเนินคดีของ หมอเสริม ก็ให้การปฏิเสธมาตลอด อ้างว่า พนักงานสอบสวนกลั่นแกล้ง > ยัดข้อหา นางสาวเจนจิราเป็นคนรักคนแรกในชีวิตของเขา เขาจะฆ่าเธอได้อย่างไร > > > ถ้ามีคนที่รักมากเหมือนเขา คุณจะฆ่าคนรักของคุณได้ลงเชียวหรือ" "หมอเสริม" มักจะย้อนถามผู้ถามให้ > กลับไปคิดว่าเขา "บริสุทธิ์" เช่นนี้อยู่เสมอ ก็หมายถึง ตำรวจจับเขาผิดตัวนั่นเอง > > > ในที่คุมขังอันจำกัดเสรีภาพนั้น โทรทัศน์ คือ สื่อสารเพียงสิ่งเดียวที่ "สื่อ" ให้รับรู้ถึงสังคมภายนอก ถือ > ว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ทุกคนในแดนสนธยาได้รับรู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ใครทำอะไรที่ไหน ใคร > สร้างคดีอะไร หนักหนาสาหัสยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ได้รู้กันหมด > > > แม้กระทั่งว่า ตำรวจจะส่งตัวเข้าไปเมื่อไร อาชญากรตัวใหญ่ๆ ที่จบเกมวันไหนจะได้สัมผัส "พวกข้างใน > "รู้กันดี เก็งกันได้อย่างแม่นอย่าบอกใครเชียว แม้นักขุดคุ้ยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่าง พ.ญ.พรทิพย์ > โรจนสุนันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชจะได้พิสูจน์ดีเอ็นเอ จากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุตรงกับโครงข่ > ายที่สอดคล้องกัน แต่ หมอเสริม ก็ยังไม่ยอมรับ > > > คดีของ "คนหัวหมอ" อย่าง "หมอเสริม" ที่รอบรู้ทางหนีที่ไล่และตระเตรียมไว้หมด คงจะไม่จบลงอย่าง > นี้ > > > หากไม่บังเอิญอยู่มาวันหนึ่ง ทางนายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตวแพทย์มาช่วยราชกา > รที่สำนักพระราชวัง ได้รับแจ้งว่า พบงูเหลือมไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านเช่าย่านบางพลัด เมื่อทีมงานหมองูไป > จับงูตัวนี้ ก็ปรากฏหลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับคดีของ หมอเสริมอย่างไม่คาดฝัน จนทำให้ข่าวนี้แพร่ > กระจายไปทั่ว แม้กระทั่งในเรือนจำแห่งนี้ด้วย! > > > เมื่อ หมอเสริมได้รับข่าวสารนี้ก็ทำให้คืนนั้นเขานอนไม่หลับทั้งคืน เพราะวันรุ่งขึ้นจะต้องไปขึ้นศาลพิจารณ > าคดี > > > ทันทีที่ไปถึงศาล หมอเสริมก็มีอาการครุ่นคิดอย่างหนัก เมื่อทนายความพิจารณาแล้วไม่นาน ก็ปรากฏว่า > หมอเสริม ยอมให้การรับสารภาพอย่างไม่มีใครคาดคิด ทั้งๆ ที่เคยยืนกระต่ายขาเดียว ปฏิเสธมาตลอด > ทำให้ศาลตัดสินประหารชีวิต แต่เมื่อรับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต > > > เรียกว่า หมอเสริม กลัวงูมากกว่ากลัวกฎหมายและตำรวจเลยทีเดียว > > > หมอเสริมมุมานะเรียนหวังรับปริญญาในคุก เมื่อเข้ามาอยู่ในคุก หมอเสริม ก็ไม่เคยละทิ้งนิสัยที่ชอบใฝ่รู้ใ > ฝ่เรียน เขามุ่งมั่นทางการศึกษาอย่างเดียว ไม่เคยเสเพลออกนอกลู่นอกทาง นับตั้งแต่เริ่มต้นเรียนที่จังห > วัดชลบุรี จนกระทั่งจบแพทย์ที่มหิดล และไม่ยอมออกไปประกอบอาชีพเพียงสาขาเดียวที่เรียนจบ เขาหวัง > จะเป็นหมอโดยสมบูรณ์ด้วยการเข้าศึกษาต่อที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวิชาความรู้ที่ต่างสาขาจากที่เรี > ยนมา เพื่อจะได้ออกไปเป็นหมอที่สมบูรณ์แบบ และรอบรู้อย่างแท้จริง แต่ที่นี่เองที่เขาต้องมาประสบกับชะ > ตากรรมของชีวิต ที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ พร้อมกับต้องยอมรับชะตากรรมมาจนถึงทุกวันนี้ > > > ส่วน น.ส.เจนจิรา พลอยองุ่นศรี ผู้หญิงคนแรกที่ผ่านเข้ามาในเส้นทางรักของ หมอเสริม ในขณะที่เขา > เรียนสองสาขาในเวลาเดียวกันที่ จุฬาฯ คือ วิชาแพทย์ และวิชารัก ซึ่งเขาคิดว่า เวลาจบแล้วเขาจะ > ต้องได้ถึง 3 ปริญญา > > > รวมถึงปริญญารักด้วย > > > มันน่าจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ก่อนจะออกไปประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์เพื่อช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ ซึ่ง > เขาตั้งใจมุ่งหมายเอาไว้ว่า จะต้องเรียนจบให้ได้ภายในวัยเพียง 20 ปี > > > ในระยะเวลาประมาณ 1 ปีเศษ ทุกวิชาที่ หมอเสริม ร่ำเรียนมา เขาสามารถสอบผ่านด้วยเกรดเฉลี่ยดี > ๆ ทั้งสิ้น > > > กับความรักที่เขาร่ำเรียนวิชารักกับ เจนจิรา วิชารักที่เริ่มต้นเรียนด้วยการทุ่มเทของเขาอย่างหนัก หวัง > ผ่านทุกหน่วยกิต เขาสอบตกสนิทเกือบทุกวิชาที่เรียน ทั้งๆที่ทุ่มเทเวลาที่เหลือจากวิชาแพทย์เพื่อเธอโดยไ > ม่ตกหล่น หมอเสริม สุดความสามารถที่จะผ่านสาขาความรักไปได้ เขาพ่ายแพ้อย่างราบคาบ กลายเป็นผู้ > ต้องหา "ฆ่าคนรักของตัวเอง" โดยใช้วิชาแพทย์ที่เรียนมาจนเป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่ว > > > ในชีวิตของเสริม ไม่เคยคบค้ากับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย นอกจากเพื่อนร่วมเรียน เสริม จะตั้งหน้าตั้ง > ตาเพื่อบทเรียนในตำราเท่านั้น เจนจิรา คือ ผู้หญิงคนแรกในชีวิตวัย 22 ปีที่ เสริมทุ่มเทความรักให้ > เจนจิราคือคนแรกและคนสุดท้ายของหมอเสริม > > > ถึงแม้ว่าเขาต้องรับชะตากรรมในคุก แต่เขาก็ยังสู้อุตส่าห์เรียนด้วยตัวเอง เพื่อหวังจะรับปริญญาอีกใบ > จากในคุก เขาได้ลงเรียนในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเขาได้ใช้ความพยายามหลา > ยๆ อย่างเพื่อให้เรียนจบโดยเร็วที่สุด "หมอเสริม" พยายามไขว่คว้าหาความรู้จากหลายแห่งด้วยกัน > > > ต่อมาได้มีวิทยุจัดรายการติวเข้ม โดยลักษณะรายการมีเนื้อหาคล้ายกับนิตยสาร เนชั่นเอ็นซ์ สายศิลป์ ซึ่ง > มีอาจารย์หลายคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาจัดรายการ ในขณะที่ "หมอเสริม" ติดตามฟังรายการตลอด > มา แต่ "หมอเสริม" กลับประทับใจอาจารย์สาธิตา รัตนะโพคากุล หรืออาจารย์มินท์ เพียงคนเดียว > พร้อมกับส่งไปรษณียบัตรออกจากเรือนจำมาให้พร้อมระบุว่า > > > "ผมติดตามฟังอยู่ ชอบวิชาภาษาอังกฤของ อ.มินท์ และฝรั่งเศสก็ชอบสอนภาษาอังกฤษจากเพลง ฟัง > ประมาณ 2-3 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ช่วง 9-10 หรือ 10-12 ไม่แน่นอนครับ ก็อยากได้ใบสมัครหนังสือ > Nation Entrance สายศิลป์ รบกวนช่วยส่งมาให้ผมที่นี่ด้วยครับ แล้วจะได้ส่งธนาณัติไปให้สมัครทางไห > นช่วยบอกรายละเอียดด้วยครับ" > > > ไม่นานนัก "หมอเสริม"ได้สมัครเป็นสมาชิกนิตยสาร เนชั่นเอ็นซ์ สายศิลป์ หมายเลข EN-B-0100037 > เพื่อจะได้นำมาประกอบการเรียนได้มากยิ่งขึ้น > > > อาจารย์สาธิตา กล่าวถึงความรู้สึกที่ "หมอเสริม" มาชอบการจัดรายการว่า ตนมีความรู้สึกกลัวเหมือน > กัน เพราะคนอย่างนี้เราไม่รู้ใจเขา โดยเฉพาะพ่อของตนบางครั้งต้องการให้ออกจากการจัดรายการเล > ยทีเดียว แต่ต้องยอมรับในการมีการศึกษาสูง เราก็หวังว่า เขาคงจะกลับใจเป็นคนดี > > > เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ "หมอเสริม" อยู่ในคุกยังฆ่าหั่นศพแมวไปอีก 2 ตัว อาจารย์มินท์ตอบว่า ไม่ > ทราบ เมื่อเป็นอย่างนี้จริงๆ เขายิ่งเป็นคนที่น่ากลัวมากขึ้น > > > อย่างไรก็ตาม เรื่องน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับ "หมอเสริม"ยังมีให้ติดตามอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเขายังต้องถูกจองจำใน > ระหว่างการอุทธรณ์สู้คดีให้ถูกลงโทษน้อยกว่านี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 657
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 9377
คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 06:59:12 PM » |
|
ปูน ไฟแช๊ค ได้ทำงาน อีกล่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 07:09:09 PM » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 07, 2011, 07:10:48 PM โดย เบิ้ม »
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
rambo1th
Hero Member
   
คะแนน 143
ออฟไลน์
กระทู้: 1349
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 08:38:35 PM » |
|
สรุปว่าฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ติดคุก 8 ปี หรือยังไงครับ ช่วยอธิบายขยายความหน่อยสิครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 08:41:34 PM » |
|
สรุปว่าฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ติดคุก 8 ปี หรือยังไงครับ ช่วยอธิบายขยายความหน่อยสิครับ
นี่ถึงขั้นวางแผน ทำลายซ่อนเร้นศพ ทำลายหลักฐาน วางแผนฆ่ามาอย่างดี 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 48212
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 08:59:09 PM » |
|
อ่านหมอเสริมจนจบ ผมก็ยังสงสัยไม่หายว่า ทำไม งูเหลือม ทำให้หมอเสริมต้องสารภาพ
หรือว่ามีการเอางูเหลือมไปผ่าท้องแล้วพบหลักฐานอะไรที่งูมันมากินเข้าไปหรือครับ
แล้วสงสัยต่อ งูจะกินเข้าไปยังไง ในเมื่อหมอเสริมหั่นศพเป็นชิ้นๆ กดลงโถส้วมไป
หรือว่ามีบางชิ้นตกค้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
Pandanus
Hero Member
   
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40176
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 09:04:21 PM » |
|
.....................
นอกจากนี้ด้านนายเสริม สาครราษฎร์ ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าหั่นศพแฟนสาว ได้รับการลดโทษ 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2547 และล่าสุดปี 2554 ได้รับพระราชทานอภัยโทษอีก 1 ใน 3 เหลือโทษ 8 ปี แต่จำคุกมาจะครบ 8 ปี วันที่ 18 ธันวาคมนี้ .............................
ไม่เข้าใจ
นึกว่าเขาอภัยโทษให้กับโทษที่เหลือ ตกลงคิดตั้งแต่นู่นเลยเหรอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pandanus
Hero Member
   
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40176
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 09:07:33 PM » |
|
เรากำลังคิดว่า ทำไม คนเหล่านี้ ถึงไม่มาอยู่บ้านหลังเดียวกัน แบบเอเอฟทั้งหลาย
เสริม สาครราษฎ์ แมน เตาปูน ลูกดวง ลูกวัน และก็ ไอ้แรมโบ้ปล้นโรงพัก ที่อยู่ยุคเดียวกันน่ะ ชื่ออะไรแล้วไม่รู้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
lek
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1594
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 13942
การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 09:32:53 PM » |
|
รู้จักอยู่คนอายุ15-16ปียิงแม่ของเพื่อนตายติดคุกประมาน6-7ปี รายนี้ก็เพราะไปขโมยของในบ้านเจ้าทุกข์แจ้งความจับ ประกันตัวออกมาฆ่าเจ้าทุกข์ ออกจากคุกได้2ปีคนมองหน้ามันก็ยิงเขาตายอีก ลืมถามว่าเที่ยวสองนี่ติดกี่ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
D.A.- รักในหลวง
Sr. Member
  
คะแนน 36
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 568
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 09:44:21 PM » |
|
จำได้เลา ๆ ว่าใต้เพดานห้องเช่า หมอเสริมแกเอาเครื่องประดับประเภทนาฬิกาหรือสร้อยข้อมือของผู้ตายไปเก็บไว้ จู่ ๆ ก็มีงูเหลือมเลื้อยเข้าไปขดตัวอยู่ใกล้ ๆ กับของชิ้นนั้น เมื่อ จนท.มาจับงูก็เจอเข้ากับหลักฐานชิ้นสำคัญเข้าพอดี บางความเชื่อว่ากันว่างูตัวดังกล่าวอาจเป็นวิญญาณของผู้ตายที่เข้ามาเฉลยเงื่อนงำคดีของตน..... 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
รักแฟน...ห่วงชู้...เอ็นดูกิ๊ก
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 48212
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 09:53:32 PM » |
|
จำได้เลา ๆ ว่าใต้เพดานห้องเช่า หมอเสริมแกเอาเครื่องประดับประเภทนาฬิกาหรือสร้อยข้อมือของผู้ตายไปเก็บไว้ จู่ ๆ ก็มีงูเหลือมเลื้อยเข้าไปขดตัวอยู่ใกล้ ๆ กับของชิ้นนั้น เมื่อ จนท.มาจับงูก็เจอเข้ากับหลักฐานชิ้นสำคัญเข้าพอดี บางความเชื่อว่ากันว่างูตัวดังกล่าวอาจเป็นวิญญาณของผู้ตายที่เข้ามาเฉลยเงื่อนงำคดีของตน.....  ขอบคุณครับ +ให้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
แปจีหล่อ
Hero Member
   
คะแนน 6324
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8251
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 10:30:10 PM » |
|
ก่อนจะออกนี่น่าจะตรวจดูก่อนนะว่าหมอนี่โรคจิตหรือเปล่าเดี๋ยวก็มาหั่นอีกทำไงเนี่ย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 50462
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2011, 10:45:09 PM » |
|
ดูข่าว3มิติครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1870
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 10363
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 08, 2011, 07:38:31 AM » |
|
หนึ่งในนักโทษที่ได้รับอภัยโทษในครั้งนี้ มีNathan Omanอยู่ด้วย ใครเป็นญาติรบกวนไปรอรับขวัญหน่อยที่หน้าเรือนจำจังหวัดเลย หุหุ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing.. "สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
|
|
|
|