ขอบคุณอาฮุยครับ คันเจ้าปัญหานี่ไม่ยอมต่อคิว...
นายสมชายเห็นอีกอย่างนึงครับ
ตามตัวแดงข้างล่าง... คือคันเจ้าปัญหานี่มาจากด้านขวา เมื่อปาดหน้าได้แล้วกลับชิดด้านซ้ายเพราะคนขับฯ จะยิงจากหน้าต่างด้านหน้าขวามือ...
ประเด็นคือปาดหน้าได้แล้ว ไปข้างหน้าได้แล้ว แต่ยังไม่ยอมไป ยังอุตส่าห์ขับเทียบด้านซ้ายมือของเราซึ่งมีผู้หญิงนั่งอยู่เสียด้วย... อยากบอกว่าอาฮุยโชคดีที่รอดครับ อาจเป็นเพราะช่วงเช้ารถติดยิงใส่แล้วหนีลำบาก มันเลยไม่ยิง, ส่วนเรื่องที่ว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่นั่นมันกลับคิดไปว่านั่นคือความได้เปรียบของมัน ทำให้อาฮุยไม่กล้ายิงสู้ไงครับ...
เหตุผลของเราสุจริตชนไม่เหมือนกับของพวกมันครับ, ดูตัวอย่างไอ้จิ๊บไอ้โจ๊กไงครับ... แต่ถ้านายสมชายเองจะขับรถรักษาระยะต่อเอาไว้ เพราะเวลาเกิดเรื่องแล้วมันยุ่งครับ เลยหาวิธีไม่ให้เริ่มนับหนึ่ง มันก็ไปไม่ถึง 100 องศา...
อาจจะคล้ายกับหลายเรื่องที่เพื่อนสมาชิกเคยเล่าไว้ ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับผม แต่อยากฝากข้อคิดแก่เพื่อนสมาชิกเพิ่มเติมจึงขอเล่าสู่กันฟังดังนี้
ผมขับรถมาทำงานตอนเช้าตามปกติ ขณะที่รถติดสลับกับการเคลื่อนตัวไปช้าๆ ผมมองกระจกหลังเห็นรถกระบะขาวคันหนึ่งขับปาด ขับแทรกไปมา แล้วกำลังจะปาดมาแทรกเลนที่ผมขับอยู่ ความคิดตอนนั้นคือ ไม่ให้ เพราะผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่น่าเกลียดจึงบีบแตร แล้วเลื่อนรถไปติดคันหน้าไว้และไม่ยอมให้แทรก เมื่อผ่านไป ผมคิดว่าจบไปแล้ว แต่...รถกระบะขาวคันดังกล่าวขับแซงแล้วปาดหน้าผมพร้อมๆ กับเปิดกระจกมาว่า และยกนิ้วกลางใส่ผม ยังไม่พอ
เมื่อขับแซงรถผมไปแล้ว เขาจอดเลนส์ซ้ายมือ พร้อมกับลดกระจก สิ่งที่ผมเห็นคือ ปืนในมือ พร้อมกับหน้าคนขับที่กวนๆ กับทรงผมเกรียนๆ ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่ารถผมมีผู้หญิง (แฟนผม) นั่งคู่คนขับมาด้วย วินาทีนั้นผมคิดจะเอื้อมไปเอาปืนที่หน้ารถมาไว้ที่ตัก แต่นึกถึงเรื่องเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆ กันของเพื่อนสมาชิก ประกอบกับเห็นหน้าแฟนที่นั่งมาด้วย ความคิดเปลี่ยนทันที ผมล้วงโทรศัพท์พร้อมกับเปิดมือถือให้เป็นเบอร์ของเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่เอาไว้ เผื่อมีกรณีฉุกเฉิน แล้วก็ขับแซงรถกระบะคันนั้นไป พร้อมกับพยายามที่จะไม่มองหน้ามัน เมื่อผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมเบาใจ มองหน้าแฟนพร้อมกับคิดว่า...ทำถูกแล้ว ไม่งั้นป่านนี้ คงเป็นข่าวหน้า ๑ ไล่ยิงกันเป็นหนังฮอลลีวู้ดไปแล้ว และผมก็คงไปนั่งบนโรงพักแทนการมานั่งพิมพ์เล่าเรื่องให้เพื่อนสมาชิกทราบ
สิ่งที่ผมต้องการบอกเพื่อนๆ สมาชิกก็คือ เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดกับเราในวันใดวันหนึ่งได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นขอให้นึกถึงคนที่เรารักให้มากๆ และประการสำคัญ
มีปืนต้องใจเย็น อันนี้สำคัญมาก เพราะหากคนที่เค้าเจอไม่ใช่ผม แล้วคนนั้นยิงสวน (ถ้ายังทำแบบนี้ไม่นานก็คงเจอสักวัน) หรือไม่ก็โดนโทรบอกเจ้าหน้าที่ว่ารถคันทะเบียนดังกล่าวมีปืนอยู่ในรถ (ซึ่งก็เป็นความคิดที่ผมจะทำอยู่) หรือไม่ก็อาจโดนสืบหาจากทะเบียนรถ (ผมเชื่อว่าทำได้ไม่ยาก) แล้วโดนอะไรต่อมิอะไรตามมา ซึ่งไม่เป็นผลดีเลยกับ
คนที่มีปืนแล้วไม่มีสติ จึงเขียนเรื่องนี้มาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์และเตือนเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ
