อาชีพรับเหมา น่าจะเหมาะกับคำแนะนำของพี่ Ro@d ครับ....
สมัยฟองสบู่กำลังโป่งจนถึงแตกโพละ....ผมเคยอยู่ในเส้นทางนี้
ในไซท์งานคืออาณาจักรของเราครับ....ติดตัวด้วย G19 พร้อมแม็กสำรองอีก 1
กลับมานั่งโต๊ะก็ใส่ไว้ในเก๊ะใกล้มือ....
ในรถ G17 อีก 1....แม็กสำรองเต็มอัตราศึก อีก 3-4 อัน
ก่อนนั้นผมพก ม้า 5 นิ้วตัวเต็ม....แต่สนิมเขรอะเพราะไม่มีเวลาดูแล ยิ่งนานวันยิ่งรู้สึกหนัก
เวลางานเร่งๆ ยุ่งๆ ท่านก็คงรู้ แค่จะนั่งกินข้าวให้เต็มอิ่มอย่างผ่อนคลายสักครึ่งชั่วโมง ยังไม่ได้เลย....
ยิ่งถ้าเปิดงานหลายที่ด้วยแล้ว....วันหนึ่งๆ อยากให้มีซัก 48 ชั่วโมงด้วยซ้ำไป
ลองดูข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้ ที่นครศรีธรรมราช....ผู้รับเหมายิงช่าง 2 ศพ แต่ตัวเองก็ไม่รอดถูกรุมตีตาย
ตามข่าวว่าเขาใช้ปืนลูกโม่....พอกระสุนหมดโม่ ก็เสร็จ
นั่นถ้าเป็นออโต้ลูกดก สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนนะครับ
ต้องขออภัยผู้เสียชีวิตทุกท่าน....ผมไม่ได้มุ่งประเด็นใครถูก ใครผิด หรือใครเริ่มก่อน
แต่ขอให้มองในประเด็นเป็นอุทาหรณ์....ถ้า....เราตกอยู่ในเหตุการณ์แบบนั้นแล้ว
และถ้า เรามีปืนแบบนี้ แบบนั้น จะเป็นอย่างไร??....
เอ ใช้ 9 มม. กึ่งออโต ไม่ใช่เหรอครับ แต่เหตุที่เสียท่า ไม่รู้ว่าเพราะใส่กระสุนใว้น้อย หรือ ว่าลูกไม่ดก
http://www.thairath.co.th/content/region/229432ส.ท.ปืนดุ เจรจาค่าแรงกับหัวหน้าคนงาน 8 หมื่นบาท ไม่ลงตัวเกิดตะลุมบอน สุดท้ายชักปืนที่เอวกระหน่ำยิงหมดแม็ก จนฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 2 ราย แต่หลังกระสุนหมดถูกคนงานก่อสร้างในแคมป์รุมตีจมกองเลือดเสียชีวิตเป็นศพที่ 3...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ม.ค. ร.ต.อ.เจริญ ช่วยจันทร์ ร้อยเวร สภ.ย่อยปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกาย และไล่ยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้างหมู่บ้านซิตี้ปาร์ค ริมถนนสายบ่อโพธิ์-อ้อมค่ายวชิราวุธ หมู่ 5 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก. พ.ต.ท.โชควริทธิ์ รักษ์รัตนพงศ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิ์พัฒน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สว.สส. พ.ต.ท.นิรัตน์ เทพเดชา สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และสายตรวจ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันทำการสอบสวนและตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพักแคมป์คนงานก่อสร้างหลังหนึ่ง บนโต๊ะไม้หน้าบ้านพักพบร่องรอยการนั่งดื่มกาแฟคุยกัน และพบรอยเลือดเป็นกอง ๆ บนพื้นดินหลายจุด นอกจากนี้ ยังพบท่อนไม้หน้าสามเปื้อนเลือด 1 ท่อน อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ที่ถูกยิงจนหมดแม็กแล้ว จำนวน 1 กระบอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่บนพื้นดินจำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานต่อไป
สอบถามทราบว่า คนเจ็บสาหัส 3 รายได้ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง รีบนำร่างคนเจ็บทั้งสามคนส่ง รพ.นครินทร์ ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน แต่คนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต ที่ รพ.นครินทร์
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เดิินทางไปชันสูตรพลิกศพ และสอบสวนทราบว่า ผู้ตายชื่อ นายชิษณุพงศ์ หรือแมน ไทรทองคำ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 1 ต.ป่าระกำ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. เข้าบริเวณลำตัวหน้าอก และแผ่นหลังรวม 4 รู กระสุนฝังใน ส่วนอีกศพชื่อ นายประสิทธิ์ หรือ สิด บัวบุญ อายุ 47 ปี อยู่ ต.ขนาบนาค อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าบริเวณหน้าอก, ศีรษะ และลำตัว รวม 3 รู ทั้งสองเป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างหมู่บ้านดังกล่าว
ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ถูกนำส่งต่อ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้เสียชีวิตที่ตึกอุบัติเหตุ ในเวลาต่อมาเช่นกัน เป็นศพที่ 3 เจ้าหน้าที่จึงตามไปทำการชันสูตรพลิกศพ สอบสวนทราบว่าผู้ตายเป็นผู้รับเหมา และเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงหัวหน้าคนงานตาย 2 ศพสอบสวนทราบชื่อ นายวีระศักดิ์ จุลรัตน์ หรือ ส.ท.อู๊ด อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/1 หมู่ 2 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช และยังเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ตำแหน่ง สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.)ตำบลทอนหงศ์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช มีบาดแผลถูกตีด้วยท่อนไม้ และขวดเบียร์ที่บริเวณศีรษะ ใบหน้า และลำตัวจนเละ และยังมีร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคมทั่วร่างด้วย ทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้น ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ นายวีระศักดิ์ หรือ ส.ท.อู๊ด ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการหมู่บ้านซิตี้ปาร์ค ริมถนนสายบ่อโพธิ์-อ้อมค่ายวชิราวุธ หมู่ 5 ต.ปากพูน ได้ขับรถยนต์เชฟโรเล็ต สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กท 2844 นครศรีธรรมราช จากบ้านพัก อ.พรหมคีรี มาจอดบริเวณริมถนนหน้าแคมป์คนงานก่อสร้าง จากนั้นนายวีระศักดิ์ ได้เดินเข้าไปหานายประสิทธิ์ และนายชิษณุพงศ์ ซึ่งเป็น 2 หัวหน้าคนงานก่อสร้าง ที่นั่งรอที่โต๊ะไม้หน้าบ้านพักคนงานเพื่อพูดคุยตกลงกัน เรื่องค้างเงินค่าแรงคนงานจำนวน 8 หมื่นบาท แต่ปรากฏว่าทั้งสามพูดคุยตกลงกันไม่ได้ ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนเกิดการชกต่อยกันขึ้น จากนั้น นายวีระศักดิ์ หรือ ส.ท.อู๊ด ได้ชักอาวุธปืนที่เหน็บที่เอวออกมาขู่ แต่นายประสิทธิ์ และนายชิษณุพงศ์ ไม่กลัวได้ใช้ท่อนไม้หน้าสาม และขวดเบียร์รุมไล่ทุบตี ส.ท.อู๊ด แบบไม่ยั้ง จึงถูก ส.ท.อู๊ด กระหน่ำยิงใส่ร่างทั้งสองแบบไม่ยั้งจนหมดแม็ก 15 นัด จนหัวหน้าคนงานทั้งสองฟุบแน่นิ่งไป ส่วนนายวีระศักดิ์ หรือ ส.ท.อู๊ด ได้ถูกเพื่อนคนงานกลุ่มหนึ่งรุมใช้ท่อนไม้ทุบตีแบบไม่ยั้งจนฟุบสลบเหมือดจมกองเลือดคาแคมป์คนงาน จากนั้นกลุ่มคนที่ทำร้ายนายวีระศักดิ์ได้พากันวิ่งหลบหนีหายไป
หลังจากเกิดเหตุมีพลเมืองดีรีบนำร่างผู้รับเหมา และหัวหน้าคนงานทั้งสามคนส่ง รพ.แต่ทั้งสามทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้สิ้นใจตายที่ รพ.เวลาต่อมาดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจและแพทย์เวร ได้ร่วมทำการชันสูตรพลิกศพก่อนมอบศพให้กับญาติทั้งสามนำศพไปจัดการตามประเพณี ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จะสืบสวนหาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
เป็นเหตุผลนึงที่ผมไม่ตั้งให้ใครเป็นหัวหน้าคนงานเลย เพราะก่อม็อบกันเยอะครับ... ขอบคุณทั้ง 2 ท่านมากครับ... 