ช่วง 2 -3 อาทิตย์ ที่ผ่านมา มีความจำเป็นต้องขับรถออกทำงานหลังเที่ยงคืน ใน กทม เจอด่านไป 3 ครั้ง แต่ไม่โดนตรวจค้น ถึงค้นก็ไม่เจออะไร เพราะไม่เคยพกหรือพา ท่านที่มีความเสี่ยงสูงก็ต้องระวังศึกษาเส้นทางดีๆ และอย่าให้ความกลัวมาทำให้เป็นข้ออ้างในการนำพา อวป เพราะจากที่จะมีวิถีชีวิตเหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้า กลับต้องมาเป็นผู้ต้องหาไปเสียเงินเสียทอง เสียประวัติ ต้องขึ้นศาล
มีสติและเหตุผลดีครับ กด like ตรงไหนได้ครับเนี่ย
เห็นด้วยกับกระทู้นี้ครับ ผมว่าแล้วแต่มุมมองของแต่ละท่านนะครับ สำหรับเรื่องนี้ จขกท. ก็บอกแล้วว่าเป็นเพียงเรื่องเล่า คำว่า "บางที บางครั้ง อาจจะ เค้าว่า" เหล่านี้ สามารถกลายเป็นประเด็นมาหลายครั้งหลายครา
ส่วนตัวผม คิดว่าสำหรับในพื้นที่พิเศษอย่างสามจังหวัดชายแดนใต้ ก็คงไม่ว่ากันครับ เพราะเคยปฏิบัติหน้าที่ที่นั่น ก็พบเห็นอะไรมาพอสมควร แต่สำหรับพื้นทีปกติ คิดว่าน่าจะปฏิบัติตามกฎหมายน่าจะดีกว่า เพราะในประเทศนี้คนดียอมมีเยอะกว่าโจรอยุ่แล้วครับ ถ้าทุกคนเลือกข้อ 2 กันทั้งหมด ก็คงไม่มีใครเกรงใครล่ะครับ จากหลายเหตุการณ์เกิดกรณีที่คนมีปืนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ถ้าหากเรามาลองย้อนคิดดู คนที่ไม่สามารถมี และใช้อาวุธปืนได้ล่ะครับ เพราะเค้าไม่มีปืนเค้าก็ต้องตกอยู่ในสภาวะเสีี่่ยงมากกว่าคนมีปืนครับ เพราะฉะนั้น คิดว่า เจ้าหน้าที่ที่ประจำด่านตรวจเค้าก็ลำบากใจนะ บางครั้งก็ไม่อยากปรับหรือจับ แต่หน้าที่บังคับให้เค้าต้องทำ ซึ่งในสิ่งที่บางครั้งเราคิดว่าถูกใจเราแต่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ที่สำคัญก่อนเราขออนุญาต เราใช้คำว่า ขอมีและใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันทรัพย์สิน และภยันตรายที่ใกล้ถึงตัว ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงถึงการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายด้วย ซึ่งการพกพาอาวุธปืนนั้น กฎหมายได้ให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ ซึ่งก็ถูกต้อง อย่างทหารก็ไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาเช่นกัน ยกเว้นอยุ่ในห้วงที่ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งจะต้องแต่งเครื่องแบบให้ถูกต้องด้วย การมีสติและไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวเป็นใหญ่น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ควรคำนึงถึงครับ