เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 12, 2025, 03:24:07 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จากมือสิงค์โปรสู่มือมาเลเซีย โบรคเกอร์อันดับ1ของตลาดหุ้นไทย  (อ่าน 2652 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« เมื่อ: มีนาคม 04, 2012, 10:31:23 PM »

2558 จะเปิดเสรีอาเซียน เราอาจจะได้เห็นอะไรอีกเยอะที่ไม่คาดคิด ในขณะที่สังคมไทยแตกแยกมาหลายปีและไม่มีท่าทีจะดีขึ้น แทนที่จะร่วมกันพัฒนาชาติแบบประเทศอื่น ปล่อยให้ต่างชาติรุกคืบ มาเรื่อยๆ ไม่ว่าด้านไหน เฉพาะที่ผมได้ยินมา ด้านท่องเที่ยว โรงแรมในไทย กลุ่มทุนสิงค์โปรครอบครอบอยู่มหาศาลและอีกไม่กี่ปีคงเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อาเมน... ไหว้


บางปรากฏการณ์ในสังคมธุรกิจไทยสะท้อนมุมมองก้าวข้ามระบบเศรษฐกิจเดียว (ประเทศ) และมองข้ามความขัดแย้ง ความสับสนวุ่นวายในบางเรื่องของสังคมที่เรามักหมกมุ่นกันอยู่

เรื่อง ราวของ ธนาคารมาเลเซีย เข้าซื้อกิจการค้าหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย ซึ่งเดิมถือว่าอยู่ในเครือข่ายธุรกิจสิงคโปร์ ถือว่ามีมิติความสัมพันธ์อย่างซับซ้อนพอสมควร ทั้งในแง่ความผันแปรของสังคมธุรกิจไทย และการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงของระบบที่ใหญ่กว่า

"ปี 2554 กลุ่มเมย์แบงก์ (Malayan Banking Berhad หรือ Maybank) ธนาคารอันดับหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ได้เข้าซื้อกิจการจากบริษัทกิมเอ็ง โฮลดิ้ง ประเทศสิงคโปร์ ส่งผลให้บริษัทเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มเมย์แบงก์

ภาย หลังการเข้าถือหุ้นของกลุ่มเมย์แบงก์ ส่งผลให้บริษัทเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Maybank Kim Eng Securities (Thailand) Public Company Limited ชื่อย่อ MBKET และเปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.maybank-ke.co.th ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2554" ข้อมูลทางการของบริษัท (http://www.kimeng.co.th/thai/cop_profile.asp?page=2 )

กรณีนี้ถือ เป็นดีลใหญ่ระดับภูมิภาค เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อต้นปีที่แล้วระหว่าง Maybank ธนาคารอันดับหนึ่งของมาเลเซียกับ Kimeng Holding แห่งสิงคโปร์ โดยสร้างความสั่นสะเทือนทางธุรกิจทั้งภูมิภาคก็ว่าได้

Kimeng Holding แห่งสิงคโปร์ แท้จริงแล้วถือเป็นธุรกิจค้าหุ้นเกิดใหม่ เติบโตจากการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ใช้เวลาเพียง 2 ทศวรรษก็กลายเป็นเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่พอสมควร

หลังจากก่อตั้งได้ เพียงไม่ถึง 10 ปี สบโอกาสจากวิกฤตการณ์ในภูมิภาค สอดคล้องกับช่วงเวลาเดียวกันที่รัฐบาลสิงคโปร์ผลักดันภาคธุรกิจขยายกิจการ สู่ภูมิภาค

จุดเริ่มต้นสำคัญมาจากประเทศไทยในปี 2541 Kimeng ประมูลซื้อหลักทรัพย์นิธิภัทร (ก่อตั้งปี 2533 เป็นสมาชิกตลาดหุ้นหรือโบรกเกอร์ปี 2537) ในช่วงเวลานั้นสถาบันการเงินไทยกำลังเผชิญวิกฤตการณ์อย่างหนักหน่วง จากนั้น Kimeng จึงขยายกิจการสู่อินโดนีเชีย มาเลเซียในปี 2543 และฟิลิปปินส์ในปี 2546

อีกครั้งจากเมืองไทยนั่นแหละ ในปี 2544 Kimeng ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อหลักทรัพย์หยวนต้าในประเทศไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่าง Kimeng Holdings และ Yuanta Financial Holdings แห่งไต้หวัน ตามยุทธศาสตร์ขยายธุรกิจทั่วเอเชีย ด้วยเวลาอันรวดเร็ว

Yuanta Financial Holdings กิจการหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีเครือข่ายสำคัญในตลาดลูกค้าพูดภาษาจีน ทั้งในไต้หวัน ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ ถือเป็นความร่วมมือและแบ่งเขตอิทธิพลระหว่างกันของ Kimeng และ Yuanta สำหรับตลาดหุ้นไทยแล้ว เมื่อกิมเอ็งซื้อกิจการหยวนต้าในทันทีก็ก้าวขึ้นเป็นโปรกเกอร์อันดับหนึ่ง ตั้งแต่นั้นมา

ข้อมูลที่น่าสนใจ Maybank เข้าถือหุ้น Kimeng Holdings 44.6% ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,800 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (หรือประมาณ 43,500 ล้านบาท) โดยผู้บริหารคนสำคัญของ Kimeng ได้เงินจากการขายหุ้นในฐานะส่วนตัวกว่า 600 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (หรือประมาณ 14,500 ล้านบาท)

อีกมุมหนึ่ง Maybank "ธนาคารใหญ่ที่สุดของมาเลเซียมีบุคลิกความเป็นธนาคารระดับภูมิภาค เช่นเดียวกับธนาคารใหญ่ในอาเซียนอย่างน้อย 5 แห่ง ธนาคารเหล่านี้ล้วนมีขนาดธุรกิจ (สินทรัพย์) ใหญ่กว่าธนาคารใหญ่ของไทย (ไมว่าธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ โดยเฉพาะรวมทั้งธนาคารของสิงคโปร์และมาเลเซีย 4 แห่งที่มีเครือข่ายอย่างมั่นคงในประเทศไทยด้วย

DBS Bank ธนาคารใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ เข้าซื้อกิจการธนาคารไทยทนุก่อนราย อื่น ๆ หลังวิกฤตการณ์ในปี 2541 เพียงเล็กน้อย จากนั้นในปีถัดมาธนาคารอันดับ 2 ของสิงคโปร์ก็ตามติดเข้าซื้อกิจการธนาคารรัตนสิน (จากธนาคารแหลมทองอีกทอดหนึ่ง) "United Overseas Bank (UOB)

DBS Bank ถือหุ้นใหญ่โดย Temasek Holding ในช่วงแรกดำเนินธุรกิจเชิงรุกอย่างมาก นับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารต่างชาติเข้าถือหุ้นข้างมากในธนาคารพาณิชย์ไทย แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงในปี 2547 ธนาคารดีบีเอสไทยทนุ และไอเอฟซีทีต้องรวมกับธนาคารทหารไทย ภายใต้ชื่อ ธนาคารทหารไทย

DBS Bank แห่งสิงคโปร์ถือหุ้นลดลงจากประมาณ 57% เหลือเพียง 18% และจากนั้นในปี 2550 ธนาคารทีเอ็มบี (มีการ rebrand เปลี่ยนชื่อจากธนาคารทหารไทยในช่วงที่กองทัพไทยถือหุ้นลดลงเหลือเพียงประมาณ 1.5%) ก็ขายหุ้นจำนวน 30% ให้ INGBANK แห่งเนเธอฟอร์แลนด์ DBS Bank จึงเหลือหุ้นเพียง 6.8%

ในขณะที่ UOB ก้าวไปอีกขั้นใหญ่ เข้าซื้อธนาคารเอเชียจาก ABN AMRO (รวมทั้งธุรกิจรายย่อยและหลักทรัพย์ด้วย) ดูเหมือนธนาคารพาณิชย์ไทยซึ่งถือหุ้นใหญ่และบริหารโดยเครือข่ายธนาคาร สิงคโปร์เหลือเพียงแห่งเดียว แต่เมื่อพิจารณาระดับโครงสร้างพบว่าเครือข่ายธนาคารสิงคโปร์ยังคงบทบาท มากกว่าธนาคารต่างชาติ อื่น ๆ ในประเทศไทยเช่นเดิม

ที่สำคัญมี บทบาทในธุรกิจทางการเงินในความหมายกว้างขึ้นกว่าธนาคารพาณิชย์ไทย ทั้ง DBS และ UOB เป็นผู้นำธุรกิจเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นไทย

DBS เริ่มต้นธุรกิจค้าหลักทรัพย์ในเมืองไทยอย่างจริงจังในฐานะซับโบรกเกอร์ ด้วยการประมูลสินทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ศรีธนาของตระกูลศรีวิกรม์ในช่วง หลังปี 2541

ต่อมา DBS ได้ขยายบทบาทมากขึ้นด้วยการซื้อธุรกิจนายหน้าค้าหุ้นรายใหญ่ใน สิงคโปร์-Vickers Ballas (VB) ซึ่งมีใบอนุญาตค้าหลักทรัพย์ในเมืองไทยด้วย (จาก VB เข้าซื้อกิจการหลักทรัพย์ของนวธนกิจมาในช่วงปี 2541-2542) ในชื่อ--นววิคเคอร์บัลลาส

ส่วน UOB ได้เข้าซื้อธุรกิจหลักทรัพย์จากบริษัทหลักทรัพย์มหาสมุทรในปี 2543 ต่อมามีการควบรวมกิจการระหว่าง UOB Securities และ Kay Hian Holdings Ltd., ในสิงคโปร์โดยอัตโนมัติ จึงเข้าถือหุ้นเกือบ 100% ในกิจการในไทย"หลักทรัพย์

ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) และในปีเดียวกันนั้น ยังได้ซื้อธุรกิจรายย่อยจากบริษัทหลักทรัพย์บีเอ็นพี พาริบาส์ พีรีกรีน (ประเทศไทย) ด้วย

โดยรวมธุรกิจหลักทรัพย์หรือนายหน้าค้าหุ้นทั้ง DBS และ UOB ถือว่ามีเครือข่ายครอบคลุมระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง

แม้ ว่าเครือข่ายธนาคารมาเลเซียจะเข้ามาเมืองไทยช้ากว่าสิงคโปร์ แต่ก็มีบทบาทเชิงรุกอย่างน่าสนใจ เริ่มต้นจากกลุ่มซีไอเอ็มบี (CIMB Bank Berhad)"ธนาคารผู้ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของมาเลเซีย โดยมีเครือข่ายสำคัญทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย และอีก 9 ประเทศทั่วภูมิภาค

ปลายปี 2551 ซีไอเอ็มบีได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไทยธนาคาร (ธนาคารแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2541 โดยเข้าสวมธนาคารสหธนาคาร"ก่อตั้งปี 2492 และถูกทางการสั่งปิดในปี 2541 โดยโอนไปรวมกับกิจการเงินทุนหลายแห่งก่อนจะมาเป็นธนาคารไทยธนาคาร) ในการซื้อกิจการธนาคารไทยครั้งนั้นมีธุรกิจหลักทรัพย์พ่วงเป็นของแถมด้วย ถือเป็นยุทธศาสตร์ต่อเนื่องจากก่อนหน้านั้นซีไอเอ็มบีเข้ามาในตลาดหุ้นไทยใน ฐานะผู้ค้าหลักทรัพย์ (บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี-จีเค)

เป็นไปได้ ว่าตามยุทธศาสตร์ใหญ่ของ Maybank นี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ในการก้าวสู่เป้าหมายในการสร้างเครือข่ายการเงินครบวงจรในประเทศ

จากภาพใหญ่ข้างต้นสะท้อนตรงไปตรงมาว่า ธนาคารใหญ่ของไทยล้าหลังไปอย่างน้อย 2 ก้าว

หนึ่ง-ความพยายามสร้างเครือข่ายภูมิภาคดำเนินไปเชื่องช้า ไม่มีภาพยุทธศาสตร์ชัดเจน

สอง-การ ปรับโครงสร้างธนาคารไทย หรือที่เรียกว่า ปฏิรูปสถาบันการเงิน แม้เริ่มมาระยะหนึ่งแล้ว เครือข่ายการเงิน อื่น ๆ ของธนาคารไทย โดยเฉพาะธุรกิจการค้าหลักทรัพย์เพิ่งจัดกระบวนเพียงแค่ในประเทศเท่านั้น

หาก มองว่าธนาคารมีฐานะบทบาทนำของสังคมธุรกิจ ถือว่าสังคมธุรกิจไทยอยู่ในภาวะล้าหลังและกำลังมีความเสี่ยงในการสูญเสีย โอกาสในช่วงเวลาสำคัญยิ่ง ในจังหวะเวลาเริ่มต้นของระบบเศรษฐกิจที่กำลังก้าวข้ามพรมแดนตนเองสู่ระดับ ภูมิภาค


โดย วิรัตน์ แสงทองคำ


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1330870536&grpid=03&catid=00
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 04, 2012, 10:36:19 PM »

3. ผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าต่อตลาดแรงงานไทย

                    ประเทศสมาชิกอาเซียนได้รวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่มีเป้าหมายส่งเสริมอาเซียนให้เป็นตลาดเดียวและฐานการผลิตร่วมกัน ให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุนอย่างเสรี ภายใน  ปี พ.ศ.2558 (ค.ศ.2015)

การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีเฉพาะแรงงานฝีมือเท่านั้น เริ่มต้นที่ 7 อาชีพ

ตามปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมือในอาเซียน ฉบับที่ 2 (Bali Concord II) ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2547 ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ได้กำหนดให้จัดทำข้อตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs) ด้านคุณสมบัติในสาขาวิชาชีพหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายนักวิชาชีพ หรือแรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษของอาเซียนได้อย่างเสรี การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีดังกล่าว เป็นการเคลื่อนย้ายเฉพาะแรงงานฝีมือและต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในข้อตกลงยอมรับร่วมกัน (MRAs) ของอาเซียน การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีจะเริ่มในปี ค.ศ.2015 ปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียนได้จัดทำข้อตกลงยอมรับร่วมกัน (MRAs) ใน 7 สาขาด้วยกันคือ วิศวกรรม พยาบาล สถาปัตยกรรม การสำรวจ แพทย์ ทันตแพทย์ และนักบัญชี ส่วนสาขาอื่น ๆ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานไทยคือ จำกัดอยู่ในกลุ่มแรงงานฝีมือ ฉะนั้น ตลาดแรงงานไทยจึงได้รับผลกระทบไม่มากนัก โดยด้านบวกคือ ตลาดแรงงานใหญ่ขึ้น ทำให้แรงงานไทยมีโอกาสได้งานทำมากขึ้น ส่วนด้านลบคือ มีการแข่งขันโดยแรงงานจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนมากขึ้น ทั้งนี้ ผลกระทบดังกล่าวจะเป็นด้านบวก หรือด้านลบมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับความพร้อมของแรงงานในแต่ละประเทศ และยังมีเวลาที่จะเตรียมความพร้อมของแรงงานไทยในการพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานในภูมิภาคอาเซียน

 

5. ผลการวิจัยชี้นักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นเยาวชนของไทย ยังไม่ทราบเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรี



....http://www.cmemployment.org/newtopic/pohots.asp?Po_noticeidpk=44
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 04, 2012, 10:41:36 PM »

นิติภูมิ เนาวรัตน์

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2554 ที่ห้องน้ำพราว โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี ชมรมสหกรณ์ระดับจังหวัดปัตตานีและองค์การบริหารตำบลสายบุรี จังหวัดปัตตานี จัดการบรรยายพิเศษ เรื่อง คุยกับนิติภูมิ “เบิกฟ้า ก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC 2015)” โดยร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ เนาวรัตน์ คอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ บรรยายว่า อาเซียนที่กำลังจะกลายเป็นประชาคมในปี 2558 จะส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศสมาชิกเปลี่ยนไปมาก การค้าขาย การบริการ การลงทุน การเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือจะเป็นไปอย่างเสรี รวมถึงการลดภาษี ซึ่งอาชีพที่จะสามารถเคลื่อนย้ายแรงงานที่มีฝีมือได้เลยคือ อาชีพวิศวกร นักสำรวจ สถาปนิก แพทย์ ทันตแพทย์ นักบัญชี และอีกอาชีพที่น่าสนใจมากที่สุดคือ นางพยาบาล ที่ตนส่งเสริมให้เด็กไทยเรียนมากที่สุด

ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ กล่าวอีกว่า แม้การเปิดเสรีอาเซียนจะเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะสามารถค้าขายในทุกที่ของประเทศอาเซียนได้ แต่นั่นก็หมายถึงสมาชิกอื่นของอาเซียนก็มีโอกาสเช่นกัน ฉะนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมคือศักยภาพด้านฝีมือและภาษาที่จะใช้ในการสื่อสารระหว่างคนส่วนใหญ่ในอาเซียน นั่นคือภาษามลายูและภาษาอังกฤษ ซึ่งคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเป็นกลุ่มที่ได้เปรียบที่สุดของประเทศไทย เป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพมากที่สุดในการช่วงชิงโอกาสในเวทีอาเซียนโดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจ

“ผมเจอนักเรียนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 คน ไปเรียนต่อด้านศาสนาอิสลามที่ประเทศอินโดนีเซีย แล้วพัฒนาทักษะด้านภาษาอินโดนีเซีย ผนวกกับสามารถสื่อสารภาษาถิ่นของอินโดนีเซียได้ ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นล่ามในเรือลำเลียงสินค้า มีรายได้ประมาณ 2 – 3 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งคนไทย 2 กลุ่มเท่านั้นที่จะสามารถทำงานประเภทนี้ได้ คือคนไทยที่สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ และคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สามารถสื่อสารด้วยภาษามลายูได้” ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ กล่าว

ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ กล่าวต่ออีกว่า ผู้ปกครองท่านใดที่กำลังจะส่งลูกหลานเรียนยังประเทศในแถบตะวันตก อยากให้ลองคิดใหม่ เพราะความได้เปรียบของเด็กที่เรียนในแถบอาเซียนจะมีงานรองรับมากกว่า ยิ่งการเปิดการค้าเสรีที่จะมีทำให้ความต้องการทั้งด้านแรงงานสูงมาก โดยเฉพาะแรงงานของประเทศไทยที่มีคุณภาพสูง อาจจะเป็นโอกาสที่ดีกว่า ทั้งนี้ต้องประเมินอนาคตด้วยว่า ความรู้ที่ได้จากการเรียนจากต่างประเทศมีงานรองรับหรือไม่ ซึ่งนักเรียนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เรียนจบจากประเทศอินโดนีเซียจะได้เปรียบมากกว่าเรียนจบจากที่อื่น

ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ กล่าวด้วยว่า แม้จะมีการเปิดเสรีการค้า ที่ทำให้เพดานภาษีสินค้าลดลงเท่ากับศูนย์ แต่ประเทศสมาชิกอาเซียนยังสามารถปกป้องสินค้าหลักของตัวเองได้ โดยการตั้งเพดานภาษีที่สูงเพื่อปกป้องการนำเข้าในสินค้าบางรายการ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ แบบ High sensitive list หรือสินค้าอ่อนไหวสูง เช่น ประเทศอินโดนีเซียยังคงตั้งเพดานภาษีข้าวนำเข้าที่สูงอยู่ เพราะต้องการป้องกันการแข่งขันกับข้าวในประเทศ

ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมามีการเจรจาต่อรองเพื่อให้แต่ละประเทศตกลงในข้อจำกัดนี้ ซึ่งสินค้าในหมวดความอ่อนไหวของประเทศไทย ที่ตัวแทนไปเจรจาต่อรองนั้น คือมันฝรั่ง ไม้ตัดดอก กาแฟและเนื้อมะพร้าว ซึ่งตนมองว่า ยังไม่สามารถเชื่อได้ว่า ประเทศไทยจะได้เปรียบจากการกำหนดเพดานภาษีสินค้าดังกล่าว ซึ่งยังไม่ใช่สินค้าที่ควรจะต่อรอง ทั้งนี้เกิดจากตัวแทนประเทศไทยยังไม่ใช่บุคคลที่เหมาะสมในการต่อรอง ไม่เข้าใจในสภาพปัญหาของสินค้าเกษตรแต่ละประเภท ทำให้เรียงลำดับความสำคัญไม่ถูกต้อง

 
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 04, 2012, 10:43:22 PM »

ขุดคลองคอดกระครับ ขุดปี 55... ปี 58 ดับหมดทั้งมาเลย์ทั้งสิงคโปร์.... คิก คิก
บันทึกการเข้า

เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 04, 2012, 10:57:22 PM »

ขุดคลองคอดกระครับ ขุดปี 55... ปี 58 ดับหมดทั้งมาเลย์ทั้งสิงคโปร์.... คิก คิก

ไม่ทันแล้วล่ะครับ ตอนนี้ไปบูมด้านบนแทน อินเดีย,พม่า,จีน,ลาว,เวียด 

ที่น่าสงสัยคือสิงคโปรกะมาเลฯจับมือกันมากขึ้น

แค่ยังไม่เปิดเสรี เดี๋ยวนี้พวกพม่าหัดรับเหมาเองแล้ว แบ่งงานให้เพื่อนๆกินส่วนต่าง ผมเพิ่งจ้างต่อเติมร้านค้า พม่ารับงานไป90% แค่ค่าแรงตกต่อคนต่อวันหลักพันเลย ดูพม่าแบ่งงานให้เพื่อนๆทำ แรงงานไทยเที่ยวไปขายแรงงานไต้หวัน,ตะวันออกกลางเดือนนึงรวมโอทีได้่แค่1-3หมื่น แถมเสียค่าใช้จ่ายสูง ไปมีแต่หนี้สิน แรงงานพม่าที่อยู่นานหน่อย กลับรับงานฟันค่าแรงหลักพันสองพันต่อวันแล้ว  แบร่

ผมเดานะ อีกหน่อยจะมีบริษัทรับเหมาสัญชาติพม่านะ ใช้ไรมันก็ทำ ไม่เกี่ยงงาน ขอแค่จ่ายเงิน  Cheesy
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 04, 2012, 11:01:00 PM »

ขุดไปก็ไม่ทันแล้วจริง ๆ   การเมืองไม่นิ่งไม่มีใครมาลงทุนหรอกครับ   Undecided
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 12:17:47 AM »

ขุดคลองคอดกระครับ ขุดปี 55... ปี 58 ดับหมดทั้งมาเลย์ทั้งสิงคโปร์.... คิก คิก

ไม่ทันแล้วล่ะครับ ตอนนี้ไปบูมด้านบนแทน อินเดีย,พม่า,จีน,ลาว,เวียด 

ที่น่าสงสัยคือสิงคโปรกะมาเลฯจับมือกันมากขึ้น

แค่ยังไม่เปิดเสรี เดี๋ยวนี้พวกพม่าหัดรับเหมาเองแล้ว แบ่งงานให้เพื่อนๆกินส่วนต่าง ผมเพิ่งจ้างต่อเติมร้านค้า พม่ารับงานไป90% แค่ค่าแรงตกต่อคนต่อวันหลักพันเลย ดูพม่าแบ่งงานให้เพื่อนๆทำ แรงงานไทยเที่ยวไปขายแรงงานไต้หวัน,ตะวันออกกลางเดือนนึงรวมโอทีได้่แค่1-3หมื่น แถมเสียค่าใช้จ่ายสูง ไปมีแต่หนี้สิน แรงงานพม่าที่อยู่นานหน่อย กลับรับงานฟันค่าแรงหลักพันสองพันต่อวันแล้ว  แบร่

ผมเดานะ อีกหน่อยจะมีบริษัทรับเหมาสัญชาติพม่านะ ใช้ไรมันก็ทำ ไม่เกี่ยงงาน ขอแค่จ่ายเงิน  Cheesy


ประเทศที่กล่าวมา มันมีเชื้อประทุที่ต่างกับไทยครับ ไม่แปลกใจหรอกที่เค้าร่วมมือกัน เอเชียอาคเนย์ เค้าเกลียดไทยทุกประเทศ... มีแต่เรานี่แหล่ะ ที่มัวเมาหลงชาติกำเนิด...

แต่ประเทศไทย พร้อมที่จะแสดงศักยภาพผงาดได้เหมือนกันครับ จากหลายๆองค์ประกอบ...
บันทึกการเข้า

ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15855
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 12:49:17 AM »



ประเทศที่กล่าวมา มันมีเชื้อประทุที่ต่างกับไทยครับ ไม่แปลกใจหรอกที่เค้าร่วมมือกัน
เอเชียอาคเนย์ เค้าเกลียดไทยทุกประเทศ... มีแต่เรานี่แหล่ะ ที่มัวเมาหลงชาติกำเนิด...

แต่ประเทศไทย พร้อมที่จะแสดงศักยภาพผงาดได้เหมือนกันครับ จากหลายๆองค์ประกอบ...


Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่"  พี่ dignitua   อ่ะ ฮา

555 ยายก็  "รอ"  ไอ้แม้ว  เหมือนกัน อ่ะ ฮา
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 12:54:14 AM »



ประเทศที่กล่าวมา มันมีเชื้อประทุที่ต่างกับไทยครับ ไม่แปลกใจหรอกที่เค้าร่วมมือกัน
เอเชียอาคเนย์ เค้าเกลียดไทยทุกประเทศ... มีแต่เรานี่แหล่ะ ที่มัวเมาหลงชาติกำเนิด...

แต่ประเทศไทย พร้อมที่จะแสดงศักยภาพผงาดได้เหมือนกันครับ จากหลายๆองค์ประกอบ...


Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่"  พี่ dignitua   อ่ะ ฮา

555 ยายก็  "รอ"  ไอ้แม้ว  เหมือนกัน อ่ะ ฮา

คนนั้นของยายน่ะ พร้อมจับมือกับเพื่อนบ้านเพื่อมาถล่มไทยเลยครับ...
บันทึกการเข้า

ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15855
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 07:58:22 AM »



ประเทศที่กล่าวมา มันมีเชื้อประทุที่ต่างกับไทยครับ ไม่แปลกใจหรอกที่เค้าร่วมมือกัน
เอเชียอาคเนย์ เค้าเกลียดไทยทุกประเทศ... มีแต่เรานี่แหล่ะ ที่มัวเมาหลงชาติกำเนิด...

แต่ประเทศไทย พร้อมที่จะแสดงศักยภาพผงาดได้เหมือนกันครับ จากหลายๆองค์ประกอบ...


Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่"  พี่ dignitua   อ่ะ ฮา

555 ยายก็  "รอ"  ไอ้แม้ว  เหมือนกัน อ่ะ ฮา

คนนั้นของยายน่ะ พร้อมจับมือกับเพื่อนบ้านเพื่อมาถล่มไทยเลยครับ...

Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ พี่ dignitua ฮา

ไม่บอก  ไม่รู้  นะเนี่ย  ฮา

55555555555  ยายนึกว่า "แม้วเล่อร์"  เสียอีก  ฮา
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 08:00:16 AM »

เพื่อนบ้านเค้าเตรียมตัวกันใหญ่ เพื่อแข่งขันภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะฝึกเรียนภาษาที่สอง หรือฝึกทักษะ ฯลฯ
แต่ประเทศไทยเรายัง ไม่ไปไหน คนส่วนใหญ่หาเรื่องตีกันเอง อ้างแต่ประชาธิปไตย หวังแต่แบมือขอเงินเยียวยา
เพื่อหวังเอาไปบริโภค ซื้อสิ่งของฟุ่มเฟื่อย หรือเสพยาไปวันๆ  สุดท้ายประเทศเราจะขาดทรัพยกรมนุษย์เก่งๆ
ที่จะขับเคลื่อนประเทศแล้ว ไม่พอเราต้องความเป็นเจ้าของ แถมประชาชนส่วนใหญ่ต้องไปขายแรงงานถูกๆอีก
ไม่แน่นะครับ เราอาจจะมีนายจ้างเป็นคน พม่า หรือ ลาว ในอีก 5 ปีข้างหน้า
 หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 11:24:38 AM »

เพื่อนบ้านเค้าเตรียมตัวกันใหญ่ เพื่อแข่งขันภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะฝึกเรียนภาษาที่สอง หรือฝึกทักษะ ฯลฯ
แต่ประเทศไทยเรายัง ไม่ไปไหน คนส่วนใหญ่หาเรื่องตีกันเอง อ้างแต่ประชาธิปไตย หวังแต่แบมือขอเงินเยียวยา
เพื่อหวังเอาไปบริโภค ซื้อสิ่งของฟุ่มเฟื่อย หรือเสพยาไปวันๆ  สุดท้ายประเทศเราจะขาดทรัพยกรมนุษย์เก่งๆ
ที่จะขับเคลื่อนประเทศแล้ว ไม่พอเราต้องความเป็นเจ้าของ แถมประชาชนส่วนใหญ่ต้องไปขายแรงงานถูกๆอีก
ไม่แน่นะครับ เราอาจจะมีนายจ้างเป็นคน พม่า หรือ ลาว ในอีก 5 ปีข้างหน้า
 หัวเราะร่าน้ำตาริน

ตอนนี้ก็นายต่างชาติเยอะนะครับ แต่คนไม่รู้ว่าเป็นของต่างชาติ สิงคโปรมีแต่ทุนกะสมอง เข้ามาตักตวงทรัพยากรของเค้าทั่วไปหมด

โรงแรม5-6ดาว รายใหญ่(มาก) ก็เป็นของทุนสิงคโปร ผมทราบยังอึ้ง เพราะกินเนื้อที่นับร้อยๆไร่ ปิดชายหาดสาธารณะกันเลย

เงินมันง้างได้หมด ประเทศไทย ต่างชาติมันรู้ ขอแค่จ่าย จะเอาอะไรก็ได้ ในประเทศนี้

ผมว่าที่บ้านเราขาดคือ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแบบหลายๆประเทศครับ  Undecided

 

บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 02:34:24 PM »

เอาอะไรกันมามากครับตอนนี้ลาวมี3Gก่อนไทย  อีกไม่นานเราจะเป็นประเทศที่ล้าหลังที่สุดก็ได้
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 02:34:33 PM »

ใจเย็นอย่าตีโพยตีพายไปใย ไทยเรายังมีไม้เด็ดอีกหลายอย่าง

ท่าเรือทวายโครงการใหญ่ระดับ แปดแสนเก้าแสนล้าน แค่นี้ไม่ขุดคอคอดกระลอดช่องกะมาเลย์ก็ถึงคราอับเฉาแล้ว
ไทยได้สิทธิไปลงทุนโดยบริษัทอิตาเลี่ยนไทยแล้วครับ เท่านี้ก็เปิดประตูสู่ตลาดมหาชนผู้บริโภคกว่าสี่พันล้านแล้ว
(อินเดียพันกว่าล้าน/จีนพันกว่าล้าน/เอเชียรวมๆกันหกร้อยกว่าล้าน/ออสเตรเลีย+นิวซีแลนด์อีก)
เมืองไทยไม่สิ้นคนดีแน่นอน แต่อย่าทะเลาะกันให้มันมากนัก อีกไม่กี่ปีประชาคมอาเซียนจะเปิดแล้ว เราอยากจะอยู่ตรงไหนในนั้น
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
Wachira1973
"กระบี่อยู่ที่ใจ...ปืนก็อยู่ที่ใจเช่นกัน"
Sr. Member
****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 724



« ตอบ #14 เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 05:28:25 PM »

เพื่อนบ้านเค้าเตรียมตัวกันใหญ่ เพื่อแข่งขันภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะฝึกเรียนภาษาที่สอง หรือฝึกทักษะ ฯลฯ
แต่ประเทศไทยเรายัง ไม่ไปไหน คนส่วนใหญ่หาเรื่องตีกันเอง อ้างแต่ประชาธิปไตย หวังแต่แบมือขอเงินเยียวยา
เพื่อหวังเอาไปบริโภค ซื้อสิ่งของฟุ่มเฟื่อย หรือเสพยาไปวันๆ  สุดท้ายประเทศเราจะขาดทรัพยกรมนุษย์เก่งๆ
ที่จะขับเคลื่อนประเทศแล้ว ไม่พอเราต้องความเป็นเจ้าของ แถมประชาชนส่วนใหญ่ต้องไปขายแรงงานถูกๆอีก
ไม่แน่นะครับ เราอาจจะมีนายจ้างเป็นคน พม่า หรือ ลาว ในอีก 5 ปีข้างหน้า
 หัวเราะร่าน้ำตาริน

ตอนนี้ก็นายต่างชาติเยอะนะครับ แต่คนไม่รู้ว่าเป็นของต่างชาติ สิงคโปรมีแต่ทุนกะสมอง เข้ามาตักตวงทรัพยากรของเค้าทั่วไปหมด

โรงแรม5-6ดาว รายใหญ่(มาก) ก็เป็นของทุนสิงคโปร ผมทราบยังอึ้ง เพราะกินเนื้อที่นับร้อยๆไร่ ปิดชายหาดสาธารณะกันเลย

เงินมันง้างได้หมด ประเทศไทย ต่างชาติมันรู้ ขอแค่จ่าย จะเอาอะไรก็ได้ ในประเทศนี้

ผมว่าที่บ้านเราขาดคือ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแบบหลายๆประเทศครับ  Undecided

 


โรงแรมที่ขึ้นต้นด้วย"ลา..." ใช่มั้ยครับ?...ช่วงหลังซึนามิผมได้มีโอกาสไปพักที่นั่น ตอนที่จับมือกับการบินไทยจัดโปรฯเพื่อฟื้นฟูดึงคนมาเที่ยว
ไม่งั้นคงไม่มีปัญญามาพักเพราะที่รู้ๆค่าห้องอย่างต่ำๆหลักหมื่นขึ้น ตกใจและห้องพักแบบvilla ที่เค้าเมตตาให้ผมไปพักเห็นว่าปรกติมีแต่พวกเศรษฐีตะวันออกกลางมาพัก...
ตอนนั้นถึงได้รู้ว่าที่เราภูมิใจนักหนา(ว่าเป็นของเรา)นั้นที่แท้เป็นของเถ้าแก่เส็คนั่นเอง... หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

"...แล้วสอนว่าอย่าใว้ใจมนุษย์   มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
 ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน.."
                                                                                            ...สุนทรภู่...
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 21 คำสั่ง