เบื่อการขอใบอนุญาตการมีปืนเหลือเกิน ทำไมเหรอครับประชาชนคนธรรมดาทั่วไป การขอที่จะมีปืนซักกระบอกเพื่อจะป้องกันชีวิตตัวเองและครอบครัวมันถึงยากมากมายขนาดนี้ สิ่งแรกที่ผมเจอ หลังจากย้ายมาอยู่ สุราษธานี (เมืองคนดี) ได้ขอใบอนุญาตการมีปืน .45 กว่าจะได้เลือดตาแทบกระเด็น แล้วต้องเสียค่าน้ำหมึกอีก วันนี้ 9/3/12 จะขอ ปืน 9 มม และ .22 ก็ได้เตรียมเอกสาร ดังนี้ ขอสองกระบอกเลย ที่เดียวแต่ถ้าไมได้สอง ก็ขอ .22 แล้วกัน
สำหรับ 9 มม
1.เอกสารทั่วไป ในการขอ และ ให้ ผู้ใหญ่บ้านเซ็นรับรอง
ส่วน .22 นี้ทาง อำเภอนี้ (หมู่ 2 ) ขอใบอนุญาตยากเพราะกลัวจะเอาไปยิงสัตว์เล็ก แต่ผมบอกได้เลยว่า .22 นั้นที่เอาไว้ยิงสัตว์นะ เข้าทำเองกันได้ครับ ไม่มีใครมาขอใบอนุญาตปืนขนาดนี้ไว้ยิงสัตว์หรอกครับ เอกสารมีดังนี้
1. เอกสารทั่วไปในการขอ และ ให้ผู้ใหญ่บ้านเซ็นรับรอง
2. เอกสารรับรองขอให้มีอนุญาตซื้อ ปืน .22 ไว้ใช้ในการกีฬา และ ซ้อม ของสนามกีฬาที่ผมเป็นสมาชิกอยู่
3. รูปที่ถ่ายรับรางวัลกับ ผู้ว่าราชการ จังหวัด สุราษธานี ในการแข่งขันยินปืน ภูธร 8 (ผมใช้ .45)
ผมได้เตรียมเอกสารทุกอย่าง ที่มีลายเซ็นผู้ใหญ่บ้านไปให้ กำนัน เซ็นในวันที่มีการประชุม ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ประจำเดือน ผมได้นำเอกสาร ไปให้ กำนัน เซ็นโดย กำนัน อ่านเอกสารเรียบร้อยแล้วบอกว่า ผมให้ไม่ได้ ผมเลยถามเหตุผมว่าทำไมให้ไม่ได้ กำนัน บอกว่า ผมมี .45 แล้ว 1 กระบอกก็พอแล้ว จะมีไว้ทำไม 3 กระบอก ผมบอกว่าจะนำ 9 มม ไว้ใช้เผื่อปืนเสีย และ .22 จะนำไว้ใช้ในการกีฬา กำนัน บอกว่า ผมไม่เคยให้ใคร .22 ผมเลยตอบว่า ผมมีใบรับรองจากทางสนามค่ายวิภาวดี ให้อนุญาตซื้อได้ แต่กำนัน บอกว่า ใบอนุญาตไม่มีความสำคัญ เพราะยังไงซื้อ .22 ไป ก็เอาไปยิงสัตว์เล็กอยู่ดี ผมโมโห มากแต่เก็บอารมณ์ไว้ ผมคิดในใจ ใบรับรอง จากสนามไม่มีค่าได้อย่างไร เพราะคนที่เซ็นเข้ารับรองผมมาขนาดนี้แล้ว และตำแหน่ง ถึงระดับ พันโท ที่เซ็นใบรับรองก็ไม่ใช้ตำแหน่งเล็ก ๆ กำนันเลยบอกว่า ขอปรึกษานายก่อน ใจผมคิดก็ไม่ให้ก็บอกมาไม่ต้องปรึกษานาย ผมเลยเอาเอกสารกลับ ใจคิดแล้วทำไม่คนอื่น ที่อยู่ ตำบล อื่น เข้าถึงขอได้สบาย แบบนี้ เหรอครับ ที่เข้าบอกว่าการขอปืนนั้นน่าเบื่อเพราะต้องเจอกับ ข้าราชการ ที่ไม่รู้เรื่องปืน และ ใช้อำนาจ ในทางที่ตัวเองคิดว่าถูก ปืน จริง ๆ สั้น 2 กระบอก ยาว 1 กระบอก ไม่ถือว่าเยอะเลย เพราะปืนมีการเสียหาย ปืนยาวถ้าผมเอาไปยิงสัตว์เล็ก ก็จับผมสิครับ คุณอย่ามากล่าวหา หรือ เหมารวมว่าเจตนาผมว่าจะเอาไปยิงสัตว์ คุณให้ร้ายผมก่อนที่จะมีการกระทำอีก แบบนี้คนที่ต้องการจะมีปืนถูกกฎหมายไว้ใช้ป้องกันตัวเอง เข้าจะอยากมีไหม วันนี้ผมไม่อยากหนีปัญหาโดยการย้ายทะเบียนบ้านไป กทม เพราะคิดว่า ที่ สุราษ .45 ผมสามารถ ขอได้ แต่วันนี้เมื่อเจอข้าราชการ ไม่มีบรรทัดฐาน ที่ให้เหตุผลแบบนี้ และ บอกว่าใบรับรองจากสนามยิงปืนที่ผมมีไม่สำคัญ ผมว่าเอกสารราชการที่รับรองตัวตนเรา คงไม่มีอะไรสำคัญแล้วหละครับ ถ้าเจอข้าราชการที่ไม่สนใจ และ ไม่ฟังเสียงชาวบ้านคนอื่นเข้ามีได้ เป็น 5-10 กระบอก แต่ประชาชนกว่าจะได้ปืนซักกระบอกเพื่อป้องกันชีวิตตัวเองและครอบครัวนั้นยากเย็นเหลือเกินยังไม่ต้องพูดถึงค่าน้ำหมึกที่ต้องเสียให้เวลารับ ป3 เลย วันนี้ผมขอไม่เป็น ประชากร ของ สุราษธานี แล้วหละครับ ขอย้ายทะเบียนบ้านกลับ ไป กรุงเทพ ดีกว่า เพราะ ขนาดเอกสารจากทางสนามยิงปืน ที่ผมซ้อมยิงยังรับรองตัวผมว่า ให้มีได้ และ ผู้ที่เซ็นรับรอง ก็ตำแหน่ง พันโท กำนัน ยังบอกว่าไม่สำคัญ แล้วผมประชาชน ธรรมดา จะอยู่ในฐานะอะไร วันนี้ขอปืนต้องมานั้งอธิบายให้คนแบบนี้ ฟังเสียเวลาและอารมณ์ และ เงินทอง ผมขอให้ข้าราชการแบบนี้ หมดไปจากเมืองไทยซักทีครับ แค่ผมอยากได้ปืนมาซ้อมเพื่อเล่นกีฬาและรักษาทรัพย์สิน เท่านั้น ยังทำไม่ได้นี้หละเมืองไทย 2 มาตรฐาน
ขอบคุณที่ทนอ่าน
วันนี้ผมขอกราบขอบคุณ ครูผมที่สอนผมในการยิงปืน
1. ครู ต๋อย (ค่ายวิภาวดี)
2. พี่ เทพ (สนาม ตำรวจภูธร

3. พี่ หนึ่ง ( หัวหน้าครูฝึก ตำรวจภูธร

4. พี่ แดง (เจ้าของร้าน กาจ แอนด์ กันต์ สุราษ)
5. โด่ง เอ็ด และ เพื่อน ๆ ที่ เล่น IPSC และ ท่านอื่น ๆ ที่ผมไม่ได้เอ่ยนาม
วันผมไม่ไหวจริง ๆ ครับ กับข้าราชการแบบนี้ ขอจบเส้นทางการยิงปืน ไว้ ณ. วันนี้ ครับ ซ้อมเหนื่อยไม่เคยกลัว กระสุนแพงไม่เคยบ่น แต่เหนื่อยใจกับคนที่ไม่มีความรู้ นั้นสุดบรรยาย