วินาศกรรม! คาร์บอมบ์โจมตียะลาตาย10หาดใหญ่5เจ็บนับร้อย
ข่าวหน้า 1
31 มีนาคม 2555 - 00:00
กลุ่มก่อความไม่สงบโจมตีภาคใต้ ซุกคาร์บอมบ์ 30 กิโลกลางเมืองยะลา ตาย 10 คน ส่วนหาดใหญ่เกิดระเบิดที่ห้างลีการ์เด้นท์ฯ เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 เจ็บอีก 200 เจ้าหน้าที่ยันสาเหตุไม่ใช่จากท่อแก๊ส แต่เป็นปฏิบัติการคาร์บอมบ์ของกลุ่มโจร หลังพบซากรถยนต์ขาดสองท่อนและหลุมขนาดลึกบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงเผยฝีมือ BRN- RKK ตอบโต้ยุทธการ 606 ด้านนายกฯ ปูเครียด สวยไม่ออก สั่ง “เพรียวพันธ์” ลงพื้นที่
เมื่อเวลา 11.50 น. ของวันที่ 31 มีนาคม ได้เกิดเหตุระเบิดดังขึ้น 2 สองครั้งใจกลางเทศบาลนครยะลา อ.เมืองฯ จ.ยะลา บริเวณสี่แยกจงรักษ์ ถ.รวมมิตร หน้าร้านรุ่งเรือง แรงระเบิดทำให้อาคารพาณิชย์ 2 ชั้นได้รับความเสียหายทรุดตัวลงมา และมีเกิดเพลิงลุกไหม้อาคารกินบริเวณกว้าง ทั้งพบซากรถยนต์หลายคันถูกเพลิงลุกไหม้ รวมทั้งฝั่งตรงข้ามหน้าร้านนำฮั้วจั่น ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ พบซากรถยนต์จำนวนหลายคันก็ถูกเพลิงกำลังลุกไหม้เช่นกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ซุกไว้ในรถยนต์อีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งคนร้ายได้นำมาจอดที่ไว้บริเวณเกิดเหตุ ก่อนจะจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครยะลาระดมเข้าฉีดน้ำระงับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้พยายามช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่ติดอยู่ในอาคารเพื่อนำส่งโรงพยาบาลยะลา ได้เกิดระเบิดลูกที่ 3 ขึ้นบริเวณหน้า 7-11 ถนนรวมมิตร ห่างจากจุดแรกประมาณ 20 เมตร แรงระเบิดทำให้ร้าน 7-11 สาขาถนนรวมมิตร ได้รับความเสียหายยับเยิน รวมทั้งอาคารบ้านเรือนข้างเคียงซึ่งเป็นอาคารไม้พังเสียหาย 5-6 คูหา ซึ่งเสียหายหนักกว่าจุดแรก เนื่องจากเป็นจังหวะที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เข้ามาเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากจุดแรก พร้อมกันนั้นรถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนซึ่งติดแก๊สได้ระเบิดขึ้นด้วย ส่งผลให้เกิดความเสียหายมากขึ้นอีก
บึ้มยะลาตาย 10 เจ็บอีก 69
เจ้าหน้าที่พบว่าระเบิดจุดนี้คนร้ายได้นำระเบิดบรรจุถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ซุกในรถโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาว ไม่ทราบเลขทะเบียน จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ทั้งนี้รายงานจากโรงพยาบาลยะลาแจ้งว่าระเบิดทั้งสองจุดดังกล่าว ทำให้เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย และบาดเจ็บอีก 69 ราย
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อค้นหาคนร้ายที่นำรถบรรจุระเบิดมาจอดแล้ว
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้เหตุการณ์สงบแล้ว สรุปเกิดเหตุระเบิด 3 ลูก ใกล้เคียงบริเวณย่านการค้าบริเวณหน้าเทศบาลเมืองยะลา ซึ่งเกิดเหตุ จยย.บอมบ์ก่อน 2 คัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปช่วยเหลือประชาชน แต่ขณะนั้นก็เกิดเหตุคาร์บอมบ์ลูกที่ 3 เกิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลามีประมาณ 40 คน ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 5 ราย
นายเดชรัฐกล่าวต่อว่า สำหรับจุดเกิดเหตุเป็นย่านของพี่น้องชาวมุสลิม จีน และคนไทย ขณะออกมารับประทานอาหาร และจับจ่ายซื้อของ เป็นเจตนาของกลุ่มผู้ไม่หวังดีทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุต่อไป
คาร์บอมบ์ลามถึงหาดใหญ่
ช่วงเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ร.ต.ท.ภูวดล วิริยะวรางกูล ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่ห้างลีการ์เด้นท์พลาซ่า ตั้งอยู่ถนนเสน่หานุสรณ์ เทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการค้าของหาดใหญ่ จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัย และรถดับเพลิงจากเทศบาลนครหาดใหญ่เข้าไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบซึ่งพบเปลวเพลิงและควันไฟพวยพุ่งออกจากชั้น 1 และชั้น 3 และมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติหลายร้อยคนต่างวิ่งหนีเอาชีวิตออกมาจากภายในห้างอย่างโกลาหล
เบื้องต้นพบว่ามีผู้บาดเจ็บจากการถูกไฟคลอกและกระจก กว่า 200 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บส่ง รพ.หาดใหญ่, รพ.กรุงเทพ, รพ.ราษฎร์ยินดี, รพ.มอ. และ รพ.อื่นๆ เพื่อช่วยชีวิต ส่วนผู้เสียชีวิตเบื้องต้นนั้นมีรายงานว่าพบแล้ว 5 ราย
นายสุรินทร์ วีรสุข นายช่างเครื่องกลชำนาญการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 ในฐานะหัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นท์ฯ หาดใหญ่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบริเวณชั้นใต้ดินของโรงแรม พบหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นคาร์บอมบ์ โดยคาดว่าคนร้ายนำระเบิดซุกซ่อนในรถยนต์เก๋ง ยังไม่ทราบทะเบียน ไปจอดไว้ชั้นใต้ดินบริเวณชั้น บี 2 ซึ่งเป็นที่จอดรถของโรงแรม โดยแรงระเบิดทำให้รถยนต์แหลกละเอียด และที่สำคัญแรงระเบิดซึ่งมีแรงกดอัดที่รุนแรงทำให้ทะลุไปถึงบริเวณขึ้นไปชั้น 1 นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุชั้นบี 4 ยังพบว่ามีรถยนต์ที่จอดอยู่ประมาณ 10 คัน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุระเบิดและไฟลุกไหม้ขึ้นภายในห้างลีการ์เด้นท์พลาซ่าหาดใหญ่ตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 กระทั่ง เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไฟที่ลุกไหม้และเคลียร์ผู้ที่ติดอยู่ตามชั้นต่างๆ ทั้งในส่วนของโรงห้างสรรพสินค้าและโรงแรมออกมาได้หมดแล้วโดยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง
ชาวมาเลย์สังเวย 1 ศพ
ทั้งนี้ พบว่าผู้เสียชีวิตที่สามารถยืนยันได้แล้วขณะนี้เพิ่มเป็น 5 ราย โดยที่ยืนยันได้แล้วเป็นชาย 1 ราย โดยติดอยู่ในซอกบันไดเลื่อนชั้นบี 1 ซึ่งร่างกายถูกไฟไหม้จนเกรียม ส่วนอีก 3 รายพบที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ยุติการค้นหาโดยระดมหน่วยกู้ภัยและนักผจญเพลิงเข้าไปค้นหาตามชั้นต่างๆ โดยเฉพาะตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 4 ซึ่งไฟไหม้อย่างหนักและยังพบผู้บาดเจ็บเป็นระยะ
เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตหนึ่งรายคือ นายโร เทียน ฮก อายุ 46 ปี เสียชีวิตเพราะสำลักควันตาย เป็นชาวมาเลเซีย
มีรายงานว่า ระหว่างที่เกิดไฟไหม้ได้เกิดเหตุระทึกขึ้น เนื่องจากมีหญิงท้องและนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซียติดอยู่ภายในลิฟต์ชั้น 10 นานกว่า 2 ชั่วโมง แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บล่าสุดอยู่ที่ 231 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ จำนวน 47 คน, รพ.มอ. จำนวน 142 คน, โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี จำนวน 30 คน และ รพ.มิตรภาพสามัคคี อีกจำนวน 3 คน ส่วนใหญ่จะสำลักควันไฟและบาดเจ็บจากแก้วบาด ในจำนวนนี้อาการสาหัสอย่างน้อย 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียถูกไฟลวกและสลบอยู่บริเวณชั้นบี 1 และเจ้าหน้าที่สามารถช่วยออกมาได้ทัน
ก่อนหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายครอง รวมทั้งนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ระบุว่าสาเหตุของระเบิดมาจากแก๊สเบิดบริเวณชั้นบี ซึ่งเป็นชั้นใต้ดิน
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋งยังไม่ทราบสีและยี่ห้อถูกแรงระเบิดจนขาดเป็น 2 ท่อนบริเวณที่จอดรถชั้นใต้ดิน และยังพบมีหลุมลึก 40 เซนติเมตร ซึ่งเชื่อว่าเป็นคาร์บอมบ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบอย่างแน่นอน
วันเดียวกัน ที่จังหวัดปัตตานี เวลา 13.00 น. ได้เกิดระเบิดขึ้นเช่นกันบริเวณหน้าร้านขายข้าวแกง เลขที่ 136/16 ม.4 ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน ซึ่งเป็นห้องแถวเปิดเป็นร้านขายของกว่า 10 ห้อง บริเวณปากทางเข้าที่ว่าการอำเภอแม่ลาน ห้องสมุด และ สภ.แม่ลาน
ดักบึ้ม! หวังสังหาร ผกก.แม่ลาน
ต่อมา ร.ต.อ ศักดินันท์ ด้วงโยธา ร้อยเวร สภ.แม่ลาน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและประสานผู้บังคับบัญชา พร้อมทั้งได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด และกำลังทหาร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน กพม 420 สงขลา สภาพแหลกละเอียดทั้งคัน รถยนต์อีซูซุ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ตค.7861 พัทลุง ของรอง ผกก.จิตรการณ์ และรถยนต์ของประชาชนที่จอดบริเวณใกล้เคียงถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายรวม 4 คัน
นอกจากนั้นแรงระเบิดยังทำให้ภายในร้านได้รับความเสียหาย และพบสะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งชิ้นส่วนของวิทยุสื่อสาร แบตเตอรี่
สอบสวนทราบว่า คนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ที่ตลาด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นของนายกาว ไม่ทราบนามสกุล และนำระเบิดชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในกล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม นำมาซุกซ่อนไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร โดยคนร้ายหลังจากที่เห็นรอง ผกก.เข้าไปภายในร้าน จึงได้นำรถ จยย.บอมบ์มาจอดทันที เพื่อหวังทำร้ายรอง ผกก. แต่โชคดี ที่แรงระเบิดไม่ได้ทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิต
จากภาพกล้องวงจรปิด คนร้ายที่นำรถจักรยานยนต์เข้ามาจอด นุ่งกางเกง 3 ส่วน สวมเสื้อยืด สวมหมวกแก๊ป และอีกคนที่ขี่จักรยานมารับสวมหมวกกันน็อกสีดำ เจ้าหน้าที่จึงได้นำภาพวงจรปิดเพื่อนำไปขยายหาข้อมูลกลุ่มคนร้ายเพื่อสเกตช์ภาพคนร้ายว่าเป็นกลุ่มกลุ่มไหน
แหล่งข่าวจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เปิดเผยถึงเหตุระเบิดในสามจังหวัดว่า สาเหตุของการก่อเหตุวางระเบิด 3 จุดที่เทศบาลเมืองยะลา มาจาก 2 สาเหตุ คือ 1.ปฏิบัติการตอบโต้ของกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแกนนำบางส่วนที่จะเข้าร่วมกระบวนการเจรจากับทางการไทย ซึ่งรัฐบาลได้ส่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ลงไปทำงานดังกล่าว โดยการยิงเอ็ม 79 เข้าบ้านนายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาส เป็นการแสดงความไม่เห็นด้วย ที่นายนัจมุดดีนจะยอมเป็นตัวเชื่อมกับทางการไทย เพื่อให้เกิดการเจรจาขึ้น 2.กลุ่มอาร์เคเคตอบโต้ทางการที่เปิดยุทธการ 606 ในการไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถยึดปืนและอาวุธได้หลายรายการ
มีรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โทรศัพท์หา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะรอง ผอ.รมน. ขอให้ช่วยดูแลสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และป้องกันไม่ให้มีการก่อเหตุต่อเนื่องในระยะเวลากระชั้นชิด
มทภ.4 คาดไม่ถึง
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ จะมีความชัดเจนว่าเหตุระเบิดที่หาดใหญ่เป็นคาร์บอมบ์ หรือเป็นกลุ่มเดียวที่ก่อเหตุระเบิด 3 จุดที่ยะลาหรือไม่ ตอนนี้รอข้อมูล ที่คงต้องให้ละเอียดก่อนที่สรุป ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีการวางมาตรการและดูแลจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และประชาคมของคนในหาดใหญ่อย่างเข้มแข็ง เพราะเป็นเมืองเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว แม้จะช่วยกันสอดส่องดูแล แต่บางจุดอาจมีช่องว่าง แต่เชื่อว่าชาวหาดใหญ่ไม่โทษเจ้าหน้าที่ เพราะทุกฝ่ายก็พยายามช่วยกันอย่างดีที่สุด สำหรับสาเหตุระเบิดใน จ.ยะลานั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดใน จ.ปัตตานีอยู่ เชื่อว่าเป็นความพยายามของกลุ่มโจรที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีตัวตนอยู่
แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับว่า คาดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะรุนแรงขนาดนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการข่าวมาแจ้งเตือนแล้วก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ได้พยายามป้องกันอย่างเต็มความสามารถแล้วด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทำให้กลุ่มคนพวกนี้สรรหาวิธีการมาสร้างสถานการณ์ และไม่สนว่าจะมีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ประกอบกับต้องการแย่งพื้นที่ข่าว เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงตัวของกลุ่มโจร อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ดูแลสถานการณ์อย่างดีที่สุด ท่านรู้ว่าเราทำเต็มที่ ตรงไหนที่เป็นช่องว่างก็ให้เอากำลังเข้าไปเสริม
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าได้รับรายงานแล้วจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งต้องรอรายงานล่าสุดจาก ผบ.ตร.อีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด และก่อนหน้าที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนั้น นายกฯ ได้หยุดคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกัน.
ที่มา :
http://www.thaipost.net/sunday/310312/54848