ซือแยร์ นับมุสลิมว่าเป็น พี่น้อง
แต่พี่น้องมุสลิม ไม่เคยนับว่าเรา ซือแยร์ เป็นพี่น้อง
เวลาพี่น้องมุสลิมมีงาน ไม่ว่า จะเป็นงาน วาลีมะฮ์ งานศพ งานดุหรีฯลฯ เราซือแยร์ไปตลอด
แต่งานเรา มุสลิมไม่เคยย่างกลายมาแต่มีมุสลิมบางคน มานั่งคุยกับผมแล้วเล่าเรื่องราวบางอย่างให้ฟังผมถึงกับอึ้ง

งานบางอย่าง ที่มี ศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น มีพระสวด หรือพิธีกรรทางศาสนา ถือเป็นข้อห้าม อาจจะทำให้ ตกศาสนาได้ เค้าเลย หลีกเลี่ยง ที่จะ ไม่ช่วยเหลือเรา
แต่บางคน ส่วนมาก เฉพาะ 3จังหวัด มุสลิม ส่วนใหญ่ เห็นแก่ตัว มาก นั้นก็อาจจะเป็นข้ออ้างได้
สรุป ได้ 2 ประเด็นครับ
1. คนที่มีอีหม่าม จะไม่ช่วยเหลือเรื่องของ งานที่นอกศานา เพราะกลัวที่จะตกศาสนา
2. คนที่ไม่มีอีหม่ามหรือมีอีหม่ามน้อย ใช้ ประเด็นนี้ในการหลีกเลี่ยง ในการช่วยเหลือ
การตกศาสนาคือ การที่อัลเลาะห์ ไม่รับรอง พวกเขา หมายถึง นรก สถานเดียว
ส่วน การที่น้าจักรไปช่วยงาน คนอิสลาม ผมมองแบบนี้ครับ
คนที่นับถือ ศาสนาพุทธ นั้น ไม่มีข้อบังคับที่ตายตัว ซึ่งต่างจากศาสนาอิสลาม
ศาสนาพุทธ พระพุทธองค์ ไม่ได้บรรญัติเรื่อง การตกศาสนาหรือคนนอกศาสนาใน พระไตรปิฎก หรือ พระธรรมวินัย
ยกตัวอย่าง ง่ายๆ เช่น วันวาเลนไทน์ คนนับถือพุทธ ยังแจกดอกไม้กันอยู่เลย ทั้งๆที่ เป็นของศาสนาคริสต์
ป.ล จริงๆ ไม่อยากโพสเรื่อง ศาสนาเลยครับ เพราะผมคือ ชายสองโบสถ์ น่ะ