อพยพ..ชาวมาบตาพุตออกนอกเมือง

[JUNGLE]

ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 12 แล้ว คาดว่าน่าจะพบอีก..



ภาพถ่ายทางอากาศของช่อง 3 ขนาดอยู่บนเฮริคอปเตอร์กลิ่นยังรุนแรงมาก
จนนักข่าวยังอาเจียรเลย

โห... ขนาดบุษกรยังอาเจียน... ไม่ธรรมดา... น้องคนนี้สมัยเรียนสนิทกันครับ... เป็นหญิงลุยคนนึงเลยทีเดียว...

[ko_kloy212]

รายชื่อผู้เสียชีวิต

[ko_kloy212]

มีพรรคพวกอยู่โรงงานนี้ด้วย แต่ปลอดภัย ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียด้วย
ผมมักเกี่ยวข้องให้การบริการกับโรงงานในนิคมแถวนี้บ่อย และมีเพื่อนอยู่ทั่วไปหลายๆโรงงาน

มีบางอย่างที่พวกเขาคิดอึดอัดและวิตกมานานในเรื่องของการซ่อมบำรุงโดยการใช้ out source ก่อนหน้านั้นไม่นาน
ไม่มีโรงงานไหนแถวนี้หรือที่ไหนใช้คอนเซ็ปในการใช้พนักงาน out source ในการทำงานซ่อมบำรุง
ทุกโรงงานจะมีพนักงานประจำในฝ่ายซ่อมบำรุงกันเอง พวกเขาทำงานกันเอง มีความรู้ความชำนาญประสบการณ์ที่สั่งสมกันมานาน
  แต่หลังจากที่บริษัทเจ้าพ่อพลังงานได้เข้าซื้อกิจการ มีหุ้นไปทั่วก็ได้ทำการบีบบังคับโดยอ้างค่าใช้จ่ายต่อหัวหากจ้างพนักงานประจำเอง
ไม่ให้มีพนักงานประจำในฝ่ายซ่อมบำรุงมาก ให้ทำแค่ วางแผนซ่อมบำรุง หาผู้รับเหมา out source มารับงานไปทำ
ผลลัพธ์ก็คือ เหมือนยืมจมูกคนอื่นหายใจ ได้ผลงานที่ไม่ดีกลับมา คนทำงานรับเหมาก็สักแต่ทำงานของตนไป ไม่รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของเป็นพนักงาน
บริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งเป็นอย่างนี้หมด เวลาชัทดาวน์ทีก็ต้องแย่งผู้รับเหมากัน ไม่ละเอียดถีถ้วน ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยทำให้มันเสร็จๆไปแล้วรับตังค์

 จะเป็นคอนเซ็ปท์ที่ถูกหรือผิดก็ไม่ทราบ แต่มันได้ทำลายวงจรทำงานส่วนหนึ่งลงไป สร้างวงจรทำงานใหม่ที่ไร้คุณภาพขึ้นมา

อันนี้ตรงครับ
วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวกันบ้างครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดที่บริเวณโรงเก็บสารตัวทำละลายของโรงงาน ซึ่งขณะเกิดเหตุตามที่แถลงการณ์อยู่ในระหว่างช่วงซ่อมบำรุงประจำปีของโรงงาน โดยทั่วไปโรงงานปิโตรเคมีใหญ่เมื่อเดินเครื่องการผลิตไปได้ระยะเวลาตามกำหนดจะต้องมีการปิดซ่อมบำรุงเพื่อทำการตรวจซ่อมบำรุงเครื่องจักร และเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยาบางตัวที่ถึงรอบการหมดอายุ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ ในช่วงที่เรียกว่า Shut down ใหญ่แบบนี้ จะมีผู้รับเหมาช่วงเข้ามาในโรงงานค่อนข้างมาก โดยปกติแล้วโรงงานเองจะไม่มีบุคลากรทำการซ่อมบำรุงใหญ่แบบนี้ครับ แต่หากเป็นการซ่อมบำรุงปกติธรรมดาในระหว่างที่มีการเดินเครื่องการผลิต อันนี้จะมีหน่วยซ่อมบำรุงดูแล แต่หากเป็นซ่อมบำรุงใหญ่ต้องทำการตรวจเช็คทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องมีการว่าจ้างผู้รับเหมาช่วงตามความถนัดของแต่ละผู้รับเหมาในการเข้ามาทำการซ่อมบำรุง เมื่อมีคนงานซึ่งไม่ใช่คนงานประจำของโรงงานเข้ามา ต้องเข้าใจครับว่าแต่ละบริษัทรับเหมามีมาตรฐานของเรื่องความปลอดภัยที่ไม่เท่ากัน ยิ่งคนงานเข้ามาเยอะมากๆ ในคราวเดียวกัน และฝ่ายความปลอดภัยของโรงงานเจ้าของหากมีกำลังน้อย หรือไม่เข้มงวดเท่าที่ควรแล้วละก็ ตรงนี้ครับเป็นจุดที่ผมเองก็เคยได้คุยกับเพื่อนภาคอุตสาหกรรมหลายๆท่านเหมือนกันว่าเป็นจุดอ่อนของความปลอดภัยมากๆ แล้วผมก็พอคาดเดาถึงเหตุการณ์นี้ได้ว่าคนงานของบริษัทรับเหมาช่วงน่าจะไม่มีความรู้พื้นฐานเพียงพอกับบริเวณพื้นที่ที่ตัวเองกำลังทำงานว่าเป็นพื้นที่ของสารเคมีที่มีไอระเหยและติดไฟได้ง่าย ยิ่งหากทำงานด้วยความประมาทแล้วด้วยละก็ จะยิ่งเป็นการสร้างความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวได้ง่ายขึ้นอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยทีเดียว ตรงนี้ผมคงวิเคราะห์ได้เพียงเท่านี้ครับเพราะการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงยังไม่เกิดขึ้น แต่ให้คาดเดาตามความคิดผมก็น่าจะออกมาทำนองนั้น

ผศ.ดร.กิติกร จามรดุสิต

[สหายเล็กน้อย]

... ขอแสดงความเสียใจ ด้วยครับ ... 

[ทิดเป้า]

มีพรรคพวกอยู่โรงงานนี้ด้วย แต่ปลอดภัย ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียด้วย
ผมมักเกี่ยวข้องให้การบริการกับโรงงานในนิคมแถวนี้บ่อย และมีเพื่อนอยู่ทั่วไปหลายๆโรงงาน

มีบางอย่างที่พวกเขาคิดอึดอัดและวิตกมานานในเรื่องของการซ่อมบำรุงโดยการใช้ out source ก่อนหน้านั้นไม่นาน
ไม่มีโรงงานไหนแถวนี้หรือที่ไหนใช้คอนเซ็ปในการใช้พนักงาน out source ในการทำงานซ่อมบำรุง
ทุกโรงงานจะมีพนักงานประจำในฝ่ายซ่อมบำรุงกันเอง พวกเขาทำงานกันเอง มีความรู้ความชำนาญประสบการณ์ที่สั่งสมกันมานาน
  แต่หลังจากที่บริษัทเจ้าพ่อพลังงานได้เข้าซื้อกิจการ มีหุ้นไปทั่วก็ได้ทำการบีบบังคับโดยอ้างค่าใช้จ่ายต่อหัวหากจ้างพนักงานประจำเอง
ไม่ให้มีพนักงานประจำในฝ่ายซ่อมบำรุงมาก ให้ทำแค่ วางแผนซ่อมบำรุง หาผู้รับเหมา out source มารับงานไปทำ
ผลลัพธ์ก็คือ เหมือนยืมจมูกคนอื่นหายใจ ได้ผลงานที่ไม่ดีกลับมา คนทำงานรับเหมาก็สักแต่ทำงานของตนไป ไม่รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของเป็นพนักงาน
บริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งเป็นอย่างนี้หมด เวลาชัทดาวน์ทีก็ต้องแย่งผู้รับเหมากัน ไม่ละเอียดถีถ้วน ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยทำให้มันเสร็จๆไปแล้วรับตังค์

 จะเป็นคอนเซ็ปท์ที่ถูกหรือผิดก็ไม่ทราบ แต่มันได้ทำลายวงจรทำงานส่วนหนึ่งลงไป สร้างวงจรทำงานใหม่ที่ไร้คุณภาพขึ้นมา

อันนี้ตรงครับ
วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวกันบ้างครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดที่บริเวณโรงเก็บสารตัวทำละลายของโรงงาน ซึ่งขณะเกิดเหตุตามที่แถลงการณ์อยู่ในระหว่างช่วงซ่อมบำรุงประจำปีของโรงงาน โดยทั่วไปโรงงานปิโตรเคมีใหญ่เมื่อเดินเครื่องการผลิตไปได้ระยะเวลาตามกำหนดจะต้องมีการปิดซ่อมบำรุงเพื่อทำการตรวจซ่อมบำรุงเครื่องจักร และเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยาบางตัวที่ถึงรอบการหมดอายุ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ ในช่วงที่เรียกว่า Shut down ใหญ่แบบนี้ จะมีผู้รับเหมาช่วงเข้ามาในโรงงานค่อนข้างมาก โดยปกติแล้วโรงงานเองจะไม่มีบุคลากรทำการซ่อมบำรุงใหญ่แบบนี้ครับ แต่หากเป็นการซ่อมบำรุงปกติธรรมดาในระหว่างที่มีการเดินเครื่องการผลิต อันนี้จะมีหน่วยซ่อมบำรุงดูแล แต่หากเป็นซ่อมบำรุงใหญ่ต้องทำการตรวจเช็คทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องมีการว่าจ้างผู้รับเหมาช่วงตามความถนัดของแต่ละผู้รับเหมาในการเข้ามาทำการซ่อมบำรุง เมื่อมีคนงานซึ่งไม่ใช่คนงานประจำของโรงงานเข้ามา ต้องเข้าใจครับว่าแต่ละบริษัทรับเหมามีมาตรฐานของเรื่องความปลอดภัยที่ไม่เท่ากัน ยิ่งคนงานเข้ามาเยอะมากๆ ในคราวเดียวกัน และฝ่ายความปลอดภัยของโรงงานเจ้าของหากมีกำลังน้อย หรือไม่เข้มงวดเท่าที่ควรแล้วละก็ ตรงนี้ครับเป็นจุดที่ผมเองก็เคยได้คุยกับเพื่อนภาคอุตสาหกรรมหลายๆท่านเหมือนกันว่าเป็นจุดอ่อนของความปลอดภัยมากๆ แล้วผมก็พอคาดเดาถึงเหตุการณ์นี้ได้ว่าคนงานของบริษัทรับเหมาช่วงน่าจะไม่มีความรู้พื้นฐานเพียงพอกับบริเวณพื้นที่ที่ตัวเองกำลังทำงานว่าเป็นพื้นที่ของสารเคมีที่มีไอระเหยและติดไฟได้ง่าย ยิ่งหากทำงานด้วยความประมาทแล้วด้วยละก็ จะยิ่งเป็นการสร้างความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวได้ง่ายขึ้นอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยทีเดียว ตรงนี้ผมคงวิเคราะห์ได้เพียงเท่านี้ครับเพราะการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงยังไม่เกิดขึ้น แต่ให้คาดเดาตามความคิดผมก็น่าจะออกมาทำนองนั้น

ผศ.ดร.กิติกร จามรดุสิต

 ครับท่าน Ko ความจริงก็เป็นเช่นนั้น...
 ช่วง shut down จะต้องใช้แรงงานผู้รับเหมาเข้าเป็นลูกมือ โดยมีพนง.ซ่อมบำรุงเป็นหัวหน้าทีม คอยกำกับดูแล

          แต่...แรงงานที่เข้ามาไม่ค่อยมีสำนึกเรื่องความปลอดภัย ชอบลัดขั้นตอน,เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ,ทำมาหลายหลายบริษัทแล้วไม่เห็นเป็นไร,ไม่เคยเห็นบริษัทไนงี่เง่าเหมือนบริษัทนี้เลย,แอบทำในสิ่งที่ห้าม,ใช้เครื่องมือ-PPEผิดประเภท-ชำรุด-ไม่ด้มาตรฐาน ฯลฯ

      สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมพบเห็นและได้ยินเป็นประจำ บางรายก่อนทำงานมีกระกายไฟ หรืองานในที่อับอากาศ...ผมตรวจอุปกรณ์เสร็จ หันไปตรวจปริมาณก๊าชไวไฟ ...หน่อยเดียว ยังไม่เซ็น Permit เลย มันทำงานเสร็จ ...ผมด่าแมร่งเลย...พวกเมิงจะรีบไปตายห่ที่ไหน

      ผู้รับเหมาบางรายรับงานแบบเหมาเป็นจ๊อบ รีบทำรีบเสร็จ...ไม่อยากรอการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย...ชอบลักไก่เพราะช้า งานยืดเยื้อ กำไรน้อย

 เรื่องจริงจากคนหน้างานครับ...ที่ทำงานผม ซึ่งเป็นโรงงานที่มีลักษณะงานคล้ายกัน อยู่ห่างที่เกิดเหตุไม่กี่ร้อยเมตร...ตอนเกิดเหตุ ผมก็อยู่โรงงานต้องพาลูกทีมเข้าไปอยู่ในห้องโถง ปิดแอร์ ซีล-อุดรอยต่อของประตูหน้าต่างป้องกันอากาศภายนอกเข้า ขังตัวเองในห้อง กว่าได้กลับบ้านก็เกือบทุ่ม

 ถึงจะใช้บริการของบริษัทเจ้าพ่อพลังงาน...ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ต้องอยู่ในความดูแลและการตัดสินใจของเจ้าบ้านอยู่ครับ

[ko_kloy212]

ภาพท้องทะเลหน้าอ่าวมาบตาพุด (ภาพจากสกายรีพอร์ท)

[ทิดเป้า]

 สีดำๆที่เห็น ปนเปลื้อนหรือเปล่าครับ

[ko_kloy212]

[ko_kloy212]

ความวัวไม่ทันหาย...ความควายเข้ามาแทรก.

http://www.thairath.co.th/content/region/258353

[ทิดเป้า]

 กรรม...งานแรก เพิ่งรู้เมื่อบ่ายนี้เองว่าเสียน้องร่วมวงไปคน...

 มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

[เบิ้ม]

คนงานเหยื่อระเบิดในมาบตาพุดจะได้รับชดเชย36เดือน



ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นกับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ได้รับคำยืนยันจาก ทางบริษัทกรุงเทพ ซินธิติกส์ ในฐานะนายจ้างว่า จะชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต 2 ส่วน กล่าวคือ เงินเดือนรวม 36 เดือน และเงินช่วยเหลือจากทางบริษัทเอง 1 ล้านบาท ส่วนพนักงานบริษัทรับเหมา ครอบครัวจะได้รับเงินสมทบรายละ 5 แสนบาท นอกจากนี้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จะมอบเงินช่วยเหลือรายละ 20,000 บาท กรณี ผู้บาดเจ็บและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทางบริษัทจะช่วยเหลือเป็นค่ารักษาพยาบาลและอื่นๆตามความเหมาะสม

[dignitua-รักในหลวง]

ถ้ามีสงครามเกิดขึ้น เตรียมย้ายออกจากระยองเลยครับ... ราบเป็นหน้ากลองแน่ๆ...

[-Joke-]

มีพรรคพวกอยู่โรงงานนี้ด้วย แต่ปลอดภัย ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียด้วย
ผมมักเกี่ยวข้องให้การบริการกับโรงงานในนิคมแถวนี้บ่อย และมีเพื่อนอยู่ทั่วไปหลายๆโรงงาน

มีบางอย่างที่พวกเขาคิดอึดอัดและวิตกมานานในเรื่องของการซ่อมบำรุงโดยการใช้ out source ก่อนหน้านั้นไม่นาน
ไม่มีโรงงานไหนแถวนี้หรือที่ไหนใช้คอนเซ็ปในการใช้พนักงาน out source ในการทำงานซ่อมบำรุง
ทุกโรงงานจะมีพนักงานประจำในฝ่ายซ่อมบำรุงกันเอง พวกเขาทำงานกันเอง มีความรู้ความชำนาญประสบการณ์ที่สั่งสมกันมานาน
  แต่หลังจากที่บริษัทเจ้าพ่อพลังงานได้เข้าซื้อกิจการ มีหุ้นไปทั่วก็ได้ทำการบีบบังคับโดยอ้างค่าใช้จ่ายต่อหัวหากจ้างพนักงานประจำเอง
ไม่ให้มีพนักงานประจำในฝ่ายซ่อมบำรุงมาก ให้ทำแค่ วางแผนซ่อมบำรุง หาผู้รับเหมา out source มารับงานไปทำ
ผลลัพธ์ก็คือ เหมือนยืมจมูกคนอื่นหายใจ ได้ผลงานที่ไม่ดีกลับมา คนทำงานรับเหมาก็สักแต่ทำงานของตนไป ไม่รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของเป็นพนักงาน
บริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งเป็นอย่างนี้หมด เวลาชัทดาวน์ทีก็ต้องแย่งผู้รับเหมากัน ไม่ละเอียดถีถ้วน ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยทำให้มันเสร็จๆไปแล้วรับตังค์

 จะเป็นคอนเซ็ปท์ที่ถูกหรือผิดก็ไม่ทราบ แต่มันได้ทำลายวงจรทำงานส่วนหนึ่งลงไป สร้างวงจรทำงานใหม่ที่ไร้คุณภาพขึ้นมา

อันนี้ตรงครับ
วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวกันบ้างครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดที่บริเวณโรงเก็บสารตัวทำละลายของโรงงาน ซึ่งขณะเกิดเหตุตามที่แถลงการณ์อยู่ในระหว่างช่วงซ่อมบำรุงประจำปีของโรงงาน โดยทั่วไปโรงงานปิโตรเคมีใหญ่เมื่อเดินเครื่องการผลิตไปได้ระยะเวลาตามกำหนดจะต้องมีการปิดซ่อมบำรุงเพื่อทำการตรวจซ่อมบำรุงเครื่องจักร และเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยาบางตัวที่ถึงรอบการหมดอายุ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ ในช่วงที่เรียกว่า Shut down ใหญ่แบบนี้ จะมีผู้รับเหมาช่วงเข้ามาในโรงงานค่อนข้างมาก โดยปกติแล้วโรงงานเองจะไม่มีบุคลากรทำการซ่อมบำรุงใหญ่แบบนี้ครับ แต่หากเป็นการซ่อมบำรุงปกติธรรมดาในระหว่างที่มีการเดินเครื่องการผลิต อันนี้จะมีหน่วยซ่อมบำรุงดูแล แต่หากเป็นซ่อมบำรุงใหญ่ต้องทำการตรวจเช็คทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องมีการว่าจ้างผู้รับเหมาช่วงตามความถนัดของแต่ละผู้รับเหมาในการเข้ามาทำการซ่อมบำรุง เมื่อมีคนงานซึ่งไม่ใช่คนงานประจำของโรงงานเข้ามา ต้องเข้าใจครับว่าแต่ละบริษัทรับเหมามีมาตรฐานของเรื่องความปลอดภัยที่ไม่เท่ากัน ยิ่งคนงานเข้ามาเยอะมากๆ ในคราวเดียวกัน และฝ่ายความปลอดภัยของโรงงานเจ้าของหากมีกำลังน้อย หรือไม่เข้มงวดเท่าที่ควรแล้วละก็ ตรงนี้ครับเป็นจุดที่ผมเองก็เคยได้คุยกับเพื่อนภาคอุตสาหกรรมหลายๆท่านเหมือนกันว่าเป็นจุดอ่อนของความปลอดภัยมากๆ แล้วผมก็พอคาดเดาถึงเหตุการณ์นี้ได้ว่าคนงานของบริษัทรับเหมาช่วงน่าจะไม่มีความรู้พื้นฐานเพียงพอกับบริเวณพื้นที่ที่ตัวเองกำลังทำงานว่าเป็นพื้นที่ของสารเคมีที่มีไอระเหยและติดไฟได้ง่าย ยิ่งหากทำงานด้วยความประมาทแล้วด้วยละก็ จะยิ่งเป็นการสร้างความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวได้ง่ายขึ้นอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยทีเดียว ตรงนี้ผมคงวิเคราะห์ได้เพียงเท่านี้ครับเพราะการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงยังไม่เกิดขึ้น แต่ให้คาดเดาตามความคิดผมก็น่าจะออกมาทำนองนั้น

ผศ.ดร.กิติกร จามรดุสิต

 ครับท่าน Ko ความจริงก็เป็นเช่นนั้น...
 ช่วง shut down จะต้องใช้แรงงานผู้รับเหมาเข้าเป็นลูกมือ โดยมีพนง.ซ่อมบำรุงเป็นหัวหน้าทีม คอยกำกับดูแล

          แต่...แรงงานที่เข้ามาไม่ค่อยมีสำนึกเรื่องความปลอดภัย ชอบลัดขั้นตอน,เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ,ทำมาหลายหลายบริษัทแล้วไม่เห็นเป็นไร,ไม่เคยเห็นบริษัทไนงี่เง่าเหมือนบริษัทนี้เลย,แอบทำในสิ่งที่ห้าม,ใช้เครื่องมือ-PPEผิดประเภท-ชำรุด-ไม่ด้มาตรฐาน ฯลฯ

      สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมพบเห็นและได้ยินเป็นประจำ บางรายก่อนทำงานมีกระกายไฟ หรืองานในที่อับอากาศ...ผมตรวจอุปกรณ์เสร็จ หันไปตรวจปริมาณก๊าชไวไฟ ...หน่อยเดียว ยังไม่เซ็น Permit เลย มันทำงานเสร็จ ...ผมด่าแมร่งเลย...พวกเมิงจะรีบไปตายห่ที่ไหน

      ผู้รับเหมาบางรายรับงานแบบเหมาเป็นจ๊อบ รีบทำรีบเสร็จ...ไม่อยากรอการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย...ชอบลักไก่เพราะช้า งานยืดเยื้อ กำไรน้อย

 เรื่องจริงจากคนหน้างานครับ...ที่ทำงานผม ซึ่งเป็นโรงงานที่มีลักษณะงานคล้ายกัน อยู่ห่างที่เกิดเหตุไม่กี่ร้อยเมตร...ตอนเกิดเหตุ ผมก็อยู่โรงงานต้องพาลูกทีมเข้าไปอยู่ในห้องโถง ปิดแอร์ ซีล-อุดรอยต่อของประตูหน้าต่างป้องกันอากาศภายนอกเข้า ขังตัวเองในห้อง กว่าได้กลับบ้านก็เกือบทุ่ม

 ถึงจะใช้บริการของบริษัทเจ้าพ่อพลังงาน...ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ต้องอยู่ในความดูแลและการตัดสินใจของเจ้าบ้านอยู่ครับ

แสดงว่าโรงงานผมโชคดีครับน้าเป้า แต่คงต่างกันเพราะทำอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือทุกอย่างเป็น Automation หมด แถมเป็น know-how ของบริษัท ดังนั้น จะมีซ่อมบำรุงเป็นของตัวเองเลย เพราะไม่จ้าง outsource ครับ กลัวความลับรั่วไหล

[Yut64]

นี่ให้สิงห์ดมกาวมาตอนระเบิดคงเพลินกันตาลอย

[telekbook - รักในหลวง]

ทำงานในโรงงานเงินดีแต่เสี่ยงภัยตลอดเลยครับ