ฉากเหตุการณ์ต่อสู้ฉากหนึ่ง ใน "ตี๋ใหญ่ โจรระห่ำเมือง" ร้านขายผ้า "วิมลสินเท็กซ์ไทล์" เลขที่ 348 ถนนพาหุรัด เป็นของนายแถม วงศ์เด็ดดวง ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้น นายสุรชาติ พงษ์พิพัฒน์พานิช หนุ่มวัย 27 ปี กับพวกอีก 2 คน กำลังง่วนอยู่กับการขายผ้า เมื่อรถเมล์คันที่ นายสินสมุทร เสถียร ขับมาจอดที่ป้ายหน้าร้าน เขาไม่มีเหตุผลที่จะสนใจรถคันนั้น นอกจากนี้ มีลูกค้าหญิง 2 คนกำลังเข้าไปหยิบผ้าที่กองบนโต๊ะกลางร้าน
จนกระทั้งได้ยินเสียงปืน สุรชาติจึงแหงนหน้ามอง เขาจึงเห็นฉากดวลปืน หลังจากชายคนหนึ่งนอนฟุบอยู่บนขอบฟุตบาท ลูกค้าสาว 2 คนก็ผลุนผลันวิ่งหนีออกจากร้าน
ในขณะที่วายร้ายพรวดเข้ามาในร้าน สุรชาติวิ่งสวนออกไปทันที แต่ก็คงยืนแอบมองอยู่ใกล้ ๆ ด้วยความเป็นห่วงร้านวิมลสินกำลังจะกลายเป็นสมรภูมิระหว่างคนร้าย กับ จ.ส.ต.สมจิตร ซึ่งวิ่งไล่ตามเข้าไปอย่างกระชั้นชิด
สมพรยิึดกองผ้าเป็นที่กำบัง ส่วนจ่าสมจิตรบีบตัวกับตู้เหล็กสี่ช่องซึ่งบนหลังตู้เป็นรูปหลวงพ่อโสธร นั่นทำให้ตำรวจจราจรซึ่งกำลังจะกลายเป็นมือปราบอุ่นใจขึ้นเป็นกอง สมพรเริ่มใจฝ่อ เขาเข้ายึดทำเลที่ไม่ดีเอาเสียเลย เหมือนตกอยู่ง่ามคีมที่เริ่มบีบกระชับเข้ามา ด้านหนึ่งเป็นตำรวจจราจรในเครื่องแบบ อีกด้านเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ นอกจากนี้ หากเขานับไม่พลาด ในแม็กกาซีนเหลือกระสุนอีก 3 นัด แต่ในลูกโม่ปืนรีวอลเวอร์ของจ่าสมจิตร กระสุนยังไม่พร่องสักนัด
ดีแต่ว่าผ้ากองพะเนินนั้นช่วยเป็นฉากกำบังและเปรียบเสมือนกำแพงอ่อน ๆ ป้องกันกระสุนปืนจากตำรวจ
"ปัง" จ.ส.ต.สมจิตรเหนี่ยวไกชิมลางเพื่อกระตุ้นเป้าให้เคลื่อนไหว
"ปัง" นัดที่สองเป็นของสมพร
กองผ้าซีกซ้ายเขยื้อนเล็กน้อย จ่าสมจิตรระเบิดกระสุนไปอีกนัด "ปัง"
หากจ่าฯ มีตาทิพย์ เขาคงยิ้ม นัดนั้นมันเจาะเข้ามือซ้ายของวายร้าย กระดูกข้อมือหักทันที ดุจหมาจนตรอก สมพรลั่นกระสุนนัดสุดท้ายหมายชีวิตจ่าสมจิตรซึ่งโผล่หัวออกมาจากตู้เอกสาร
"ปัง" เม็ดตะกั่วกระทกขอบตู้แฉลบผ่านหน้าจ่าไปเส้นยาแดงผ่าแปด สมจิตรจึงระบิดไป 3 นัดซ้อน
บัดนี้กระสุนวายร้ายหมดแม็กกาซีนแล้ว แม้ จ.ส.ต.สมจิตร ไม่รู้ แต่ ร.ต.ต.สุธีระ รู้ เขาทบทวนนับจำนวนนัดที่สมพรยิง แล้วตะโกนบอกจ่าจราจร
"กระสุนมันหมดแล้ว จ่า"
สมจิตรเริ่มขยับตัวจ้องปืนไปที่จุดเดิม มือขวากำด้ามปืนใช้อุ้งมือซ้ายประคอง
"ยอมให้จับดี ๆ ไม่งั้นตาย หนึ่ง สอง"
"สาม" กำลังจะออกจากปาก เขาจึงเห็นมือสองข้างของวายร้ายค่อย ๆ ยกสูงขึ้นเหนือกองผ้า หลังจากนั้นก็เห็นท่อนแขน
สมจิตรวิ่งเข้าไปประชิดตัวลั่นกุญแจมือฉับ วายร้ายหมดอิสรภาพทันที
ร.ต.ต.สุธีระสังเกตุเห็นเหงื่อเม็ดโป้ง ๆ ผุดบนใบหน้าจ่าสูงอายุสีหน้าขาวเผือดราวกับจะเป็นลม
"เป็นอะไรไป จ่า" เขาถามใจไม่ได้เพราะคิดว่าคงโดนกระสุนปืนคนร้ายเข้าไปที่ไหนสักแห่ง พยายามไล่สายตาตั้งแต่เท้าถึงหัว แต่ไม่เห็นเลือด
"เปล่าครับ ปืน ปืนผม" สมจิตรตอบตะกุกตะกัก แล้วทรุดนั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ "ปืนผมหมดกระสุน"
คุณพระช่วย สุธีระนึกในใจ เดชะบุญที่หมาบ้าตัวนั้นมันไม่รู้ เขาอยากหัวเราะออกมาดัง ๆ เมื่อขอดูปืนจ่าสมจิตร ผลักลูกโม่ออกเทกระสุนออกมา เหลือแต่ปลอก...
